นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 418 ตามตัวยวี๋น่ากลับไป
ตอนที่ 418 ตามตัวยวี๋น่ากลับไป
“ตั้งครรภ์แต่ไม่สามารถเลี้ยงเด็กให้โตมาได้”
เมื่อแม่ของหลินหนานกลับเข้ามาถึงห้องพักผู้ป่วย เธอค่อยๆนั่งลงข้างร่างของลูกชาย มือหยาบกร้านค่อยๆดึงผ้าห่มขึ้นปกคลุมร่างที่นอนนิ่งอยู่เตียง และส่งสายตาไปมองจอเครื่องวัดชีพจรที่ตั้งอยู่บริเวณหัวเตียง
“คุณหมอว่ายังไงบ้าง?”
ในมือของพ่อหลินหนานถือสมุดบันทึกอาการป่วยของหลินหนานเอาไว้ เขาเปิดสมุดดูและอ่านมันให้หญิงชราฟังด้วย “ถ้าพูดถึงอาการก็ถือว่ายังปกติดี แต่ถ้าเทียบกับวันก่อนๆก็ถือว่าไม่ได้ดีขึ้นมากนัก”
แม่หลินหนานรู้สึกเป็นห่วงลูกจับใจ เธอเอื้อมมือไปคว้ามือของลูกชายมากุมไว้ “หลินหนานหลายวันแล้วนะที่ลูกไม่ได้ตื่นมากินข้าว ลูกเอาแต่กินน้ำเกลือ ดูสิ ผอมใหญ่แล้ว”
เธอสอดส่องสายตามองโต๊ะชาที่อยู่ในห้องผู้ป่วยกลับไม่พบอะไรวางอยู่เลย เธอเดินไปค้นตู้ลิ้นชักก็พบเพียงเสื้อผ้าที่ถูกพับอยู่อย่างเรียบร้อยเพียงสองตัว
“ทำไมไม่มีผลไม้อะไรเลยล่ะ?”
“เป็นไงล่ะไม่ได้กินข้าวเช้ามา ตอนนี้หิวแล้วล่ะสิ” พ่อหลินหนานเอ่ยถามหญิงชราที่มีศักดิ์เป็นภรรยาของตนเอง
“ก็ไม่ใช่เพราะฉันรีบมาดูหนานหนานหรือยังไงล่ะ?” แม่หลินหนานเอ่ยพลางเหลือบสายตาไปมองพ่อของหลินหนานที่พลิกสมุดประวัติผู้ป่วยดูอย่างนิ่งเฉย
“คุณนั่งเฉยๆอยู่ทำไมล่ะ ทำไมไม่รู้จักลงไปซื้อผลไม้ขึ้นมาไว้บ้าง? เดี๋ยวถ้าหนานหนานตื่นขึ้นมาจะต้องหิวแน่นอน เพราะเขาไม่ได้ทานข้าวมาหลายวันแล้ว อย่างน้อยเขาก็สามารถกินผลไม้รองท้องได้ ”
พ่อหลินหนานวางสมุดรายงานอาการผู้ป่วยในมือลง และสวนกลับอย่างนิ่งเรียบ “คุณหมอบอกว่าไม่ควรให้เขากินของพวกนี้ ควรให้กินโจ๊กอ่อนๆจะดีกว่า”
“นี่คุณ…”
ทุกอย่างที่เขาพูดออกมาเป็นเรื่องจริงตามที่แพทย์ได้พูดกับเขา พอเขาบอกกับหญิงชราเธอกลับแสดงสีท่าโกรธเขาซะอย่างนั้น ที่จริงแล้วเธอคงจะมีอาการหิวอยู่มากและยิ่งได้เจอยวี๋น่าและโต้เถียงกัน ความโกรธมันจึงกลบความหิวในตอนนั้นไปจนหมด พอมาถึงตอนนี้เห็นทีหญิงชราจะทั้งหิวทั้งโกรธขึ้นมาอีกแล้วเพราะชายแก่ผู้เป็นสามีพูดยั่วโมโห
“คุณลองคิดดูว่าฉันมันซวยขนาดไหน? ได้คนอย่างคุณมาเป็นสามี และยังคลอดลูกชายที่ดื้อรั้นแบบนี้ออกมา ทั้งหมดมันคือเรื่องซวยๆ”
“ยวี๋น่าก็เป็นตัวซวย คุณดูสิ ลูกเราเป็นแบบนี้เพราะใคร และไหนจะเด็กที่อยู่ในท้องนั่นอีกยวี๋น่ายังไม่สามารถดูแลเด็กนั่นได้เลย”
“วันนี้คุณหมอยังบอกยวี๋น่าว่าพัฒนาของเด็กในครรภ์เป็นไปค่อนข้างช้า ถ้าฝืนเป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่เป็นผลดีกับเด็กในครรภ์”
แม่หลินหนานบ่นกราดออกมาหลายประโยคตามความคับคั่งใจที่สุมอยู่ในอก และเมื่อผู้เป็นสามีของเธอได้ยินเข้าก็เกิดความสงสัยจนอดถามออกมาไม่ได้ “คุณไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน?”
แม่หลินหนานจึงตอบกลับ “เมื่อกี้ฉันตามไปดูอาการของหลิงหลิง และบังเอิญไปเจอกับยวี๋น่าและซูฉิง ฉันเห็นสองคนนั้นกำลังไปตรวจอะไรบางอย่าง”
“สรุปก็คือเด็กในครรภ์ค่อนข้างมีปัญหาเล็กน้อย”
“เล็กน้อย? คุณแน่ใจเหรอว่าเล็กน้อย? ” ชายชราเอ่ยถามต่อ
หญิงชราจึงพยายามนึกย้อนไปถึงคำพูดของแพทย์สาว “ก็คงไม่รุนแรงเท่าไหร่ ฉันก็ไม่ค่อยได้ยินชัดเจนสักเท่าไหร่”
ร่างหนาที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเผลอได้ยินคำพูดของชายหญิงชราที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น
นิ้วมือของหลินหนานกะดิกขึ้นสองครั้งและศีรษะก็สั่นไหวเพียงเล็กน้อย คิ้วคมขมวดขึ้นจนเป็นปม ทันใดนั้นเสียงเตือนชีพจรที่ขึ้นสูงของคนไข้ก็ร้องดังขึ้นอย่างน่าตกใจ
“ตี๊ด! ตี๊ด! ตี๊ด!”
เสียงของเครื่องวัดชีพจนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม่หลินหนานกระวนกระวายใจและลุกขึ้นยืนทันที
“เมื่อกี้ก็ยังดีๆอยู่เลย ตอนนี้เป็นอะไรขึ้นมา? คุณหมอ! คุณหมอรีบมาดูลูกฉันหน่อยค่ะ!”
พ่อหลินหนานที่มีความนิ่งมากกว่าผู้เป็นภรรยา เขารีบกดโทรศัพท์บริเวณหัวเตียงและต่อสายหาพยาบาลประจำแผนกอย่างรวดเร็ว
“คุณหมอครับ ห้อง903 ผู้ป่วยมีอาการหนัก ขอเชิญคุณหมอเข้ามาดูอาการอย่างด่วนที่สุดครับ!”
“ตอนนี้คุณหมอกำลังไปยังห้องพักผู้ป่วยค่ะ ก่อนที่คุณหมอจะไปถึง กรุณาอย่าเพิ่งแตะต้องตัวผู้ป่วยนะคะ!”
อาการของหลินหนานในตอนนี้ถือว่าค่อนข้างร้ายแรงเลยทีเดียว ร่างทั้งร่างของเขากำลังสั่นไหว ริมฝีปากที่แห้งผากและไร้สีเลือดค่อยๆเปิดออกทีละนิด
เมื่อชายชราเห็นสภาพของลูกชาย เขาอยากจะยื่นมือไปสัมผัสร่างของหลินหนานเอาไว้ แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของพยาบาลเขาก็ชักมือกลับทันที ชายชราค่อยๆเอนตัวเข้าใกล้ร่างของลูกชายและเอนหูฟังลูกชายที่กำลังพยายามเปล่งเสียงอันแหบกร้านออกมา
“ยวี๋น่า…ยวี๋น่า…”
“ขอให้ญาติผู้ป่วยออกจากห้องไปก่อนนะครับ”
บรรดาคุณหมอและพยาบาลรีบพากันกรูเข้ามา และเชิญชายหญิงชราออกมารอด้านนอกห้องเพื่อรอการตรวจวินิจฉัย
หญิงชราเฝ้ามองสถานการณ์ของลูกชายผ่านทางช่องกระจกของบานประตูด้วยจิตใจที่วิตกเป็นอย่างมาก
พยาบาลสาวนางหนึ่งเดินตรงเข้ามาบริเวณบานประตูและเลื่อนม่านปิดกั้นกระจก ปิดบังสายตาของหญิงชราให้กังวลใจขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
หญิงชราไม่มีโอกาสได้แอบมองลูกชาย ในตอนนี้เธอทำได้เพียงรอฟังอาการของเขาอยู่ภายนอกห้องเท่านั้น
“เมื่อกี้อาการของหนานหนานยังปกดีอยู่ไม่ใช่หรือไง? ทำไมอยู่ดีๆก็แย่ลงซะเฉยๆ?”
ชายชราจึงเอ่ยพูดถึงสิ่งที่ตนเพิ่งได้ยินจากปากของลูกชาย “อาจจะเพราะเรื่องที่คุณพูดถึงยวี๋น่า ลูกอาจจะได้ยินเข้าแล้ว”
“อะไรนะ?” หญิงชราได้ฟังก็เกิดความไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก “เขานอนไม่ได้สติไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้ยินสิ่งที่เรากำลังพูดอยู่? แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับยวี๋น่านะ คุณพูดจาซี้ซัวะขึ้นมาเองหรือเปล่า?”
“เมื่อกี้ฉันได้ยินหนานหนานพูดชื่อยวี๋น่า”
เมื่อได้ยินแบบนี้หญิงชราก็เกิดอาการตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ เธอมองไปยังห้องพักผู้ป่วยและจึงหันกลับมาสบตาชายชรา “คุณแน่ใจเหรอ?”
“แน่ใจ ฉันมั่นใจว่าฉันไม่ได้ฟังผิด”
ยังงั้นก็…
ชายชราตัดสินใจพูดกับผู้เป็นภรรยาด้วยน้ำเสียงตึงเครียด “ยวี๋น่ามีความสำคัญต่อหนานหนานเป็นอย่างมาก และตอนนี้หนานหนานก็กำลังค่อยๆรู้สึกตัว เพราะฉะนั้นเธออย่าทำให้ยวี๋น่าลำบากใจ คุณควรยอมให้เธอมาดูแลและคอยอยู่ข้างๆหนานหนานจะเป็นการดีที่สุด”
“ถ้าคุณไม่ยินยอมทำแบบนี้ ฉันคงไม่ยอมให้คุณได้เจอหนานหนานตลอดเวลาที่เขาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล” พ่อหลินหนานตัดสินใจยื่นคำขาดต่อผู้เป็นภรรยา
ถึงแม้ว่าปกติเรื่อราวภายในบ้านส่วนใหญ่แม่หลินหนานจะเป็นคนวางแผนจัดการทั้งหมด แต่เรื่องนั้นล้วนจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่และสำคัญเฉกเช่นเรื่องนี้ ดังนั้นคำพูดของพ่อหลินหนานในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการพูดที่เขาคิดจะลงมือทำจริง
“แต่พอฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเหตุให้หนานหนานต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้…ช่างเถอะ ฉันยอมก็ได้เพื่อให้หนานหนานดีขึ้น ถ้าหนานหนานดีขึ้นเมื่อไหร่แล้วเราค่อยคุยกันใหม่”
ในขณะนี้แม่หลินหนานมีทั้งอาการโกรธและร้อนใจ เธอโกรธเคืองที่ลูกชายเธอไปชอบยวี๋น่า และร้อนใจกับอาการของลูกชาย แต่ตอนนี้ที่เธอทำได้ดีที่สุดก็คงจะเป็นการถอยออกไปเสียก่อน
“คุณจะไปไหน?” ชายชราเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นหญิงชราทำท่าจะเดินออกไปที่ไหนสักแห่ง
“ฉันจะไปตามยวี๋น่ากลับมา”
หญิงชราพยายามกลับไปที่ห้องอัลตราซาวด์และสอบถามข้อมูลของยวี๋น่า แต่ก็ไม่ได้ผล
“คุณน้าคะ ที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่มีข้อมูลของคนไข้ค่ะ เพราะคุณหมอจะเป็นคนพาคนไข้เข้ามาตรวจ และในหนึ่งวันก็มีคนไข้เข้ามาตรวจเป็นจำนวนเยอะมาก เราไม่รู้จริงๆว่าคนที่คุณน้ากำลังตามหาอยู่คือใคร”
“แต่ว่าคุณน้าสามารถลองไปถามทางห้องตรวจดูได้นะคะ บางทีอาจจะพบคุณหมอเจ้าของไข้”
หญิงชราจึงรีบพุ่งตัวไปยังห้องตรวจและตามหาตามห้องตรวจถึงสองห้องแต่กลับไม่พบคนที่อยากเจอ
“แทนที่จะไปโรงพยาบาลเอกชนกลับมาโรงพยาบาลรัฐ ให้ฉันเสียเวลามากมายมาหาเธออีก?!”
“ยวี๋น่า เธอทำให้ตระกูลของฉันมันวุ่นวายไปหมดแล้ว!”
“……”
หญิงชราแอบก่นดาหญิงสาวและตามหาร่างบางไปด้วย และบังเอิญเข้าไปพบกับแพทย์สาวที่ตรวจอาการยวี๋น่าบริเวณห้องตรวจสุดท้ายริมทางเดิน
หญิงชราพยายามอธิบายลักษณะของยวี๋น่า เธอหวังว่าอีกฝ่ายจะพอรับรู้ข้อมูลของยวี๋น่าอยู่บ้าง
หลังจากที่หญิงชราเดินเข้าไปในห้อง เธอก็ได้เห็นภาพยวี๋น่ากำลังก้มกินอาหารเช้าที่ซูฉิงเป็นคนซื้อมาให้อยู่
ยวี๋น่าเหลือบไปมองเห็นเงาขาที่หยุดยืนอยู่หน้าประตู เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองร่างดังกล่าว
เมื่อยวี๋น่าเห็นร่างของหญิงชรา เธอก็รีบวางตะเกียบในมือลงทันที “คุณป้า ฉันไม่เป็นอะไรนะคะ ฉันก็แค่มานอนให้น้ำเกลือ”
“เด็กในท้องยังปลอดภัยดีอยู่ไหม?”
ยวี๋น่าพยักหน้าแทนคำตอบ
“งั้นก็ดี เธอไปหาหนานหนานกับฉันหน่อย เขากำลังต้องการเธอ”
ยวี๋น่าเกิดอาการมึนงงอยู่พักนึงเมื่อได้ยินคำพูดของหญิงชราตรงหน้า
ยวี๋น่าหันไปสบตากับซูฉิงเมื่อต่างคนต่างสงสัยกับเหตุการณ์ตรงหน้า! นี่มันเรื่องอะไรกัน!
เมื่อกี้ตอนที่แม่หลินหนานเห็นเธอยังทำท่าทางรำคาญและไล่เธออยู่เลยไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงเรียกให้เธอกลับไป หรือว่านี่จะเป็นแผนการหรือกลอุบายอะไร?
ซูฉิงดึงสติและลุกขึ้นเพื่อต่อกรกับหญิงชรา “สวัสดีค่ะคุณป้า ตอนนี้ยวี๋น่ากำลังให้น้ำเกลืออยู่คงจะไปกับคุณป้าไม่ได้ ไม่ทราบว่าคุณป้ามีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ?”
ตอนที่ 417 ศัตรูที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง