นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 462 มีเซอร์ไพรส์ให้เธอ
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 462 มีเซอร์ไพรส์ให้เธอ
“ดึกขนาดนี้แล้วจะไปที่ไหน “ซูฉิงที่เดินตามฮ่อหยุนเฉิงแล้วมองดูว่าจะไปที่ไหน
ฮ่อหยุนเฉิงจูงมือของซูฉิง ทั้งสองสอดประสานมือกันแน่น
เขาหันไปมองเธอ แล้วก็ยิ้มออกมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงน่าดึงดูด”เป็นที่ที่สวยงามมากที่สุด เธอจะต้องชอบแน่”
“หรอ “ซูฉิงหัวเราะเบาๆ
ผู้ชายคนนี้ทำไมต้องลับๆ ล่อๆ ด้วยนะ
ยิ่งทำให้เธออยากจะรู้มาก
ฮ่อหยุนเฉิงจูงมือเธอมาถึงโรงรถ แล้วก็เปิดประตูรถให้กับซูฉิง “เมียจ๋าขึ้นรถเถอะ”
เมีย……
เรียกอย่างนี้ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ซูฉิงแกล้งทำเป็นโมโห เหล่มองฮ่อหยุนเฉิง”ใครเป็นเมียนายกัน หน้าไม่อาย!”
ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้ว แล้วเข้ามากระซิบเสียงเบาข้างๆ หูของซูฉิง “นอกจากเธอแล้ว จะมีใครอีกละ หืม?”
น้ำเสียงน่าดึงดูดของเขาราวจังหวะเชลโลก็ไม่ปานฟังแล้วเสนาะหู
และบอกกับน้ำเสียงสุดท้ายของเขา ยิ่งรู้สึกชวนขนลุก
ซูฉิงสูดหายใจเข้าปอดลึกแล้วก็พูดเปลี่ยนเรื่อง “พอแล้ว นายจะพาฉันไปที่ไหน ก็รีบขับรถไปเถอะ”
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าแล้วก็ขับรถออกไป
ซูฉิงที่นั่งข้างคนขับมองดูวิวที่อยู่นอกหน้าต่าง เหมือนว่าจะเข้าไปในเมืองเรื่อยๆ และเป็นเส้นทางที่คุ้นเคย ซูฉิงเหมือนจะจำได้ แต่ก็นึกขึ้นมาไม่ออก
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงทะเล แล้วก็นึกขึ้นมาได้ทันที”นายจะพาฉันไปทะเลหรอ”
ทะเลคือที่ที่ฮ่อหยุนเฉิงขอซูฉิงแต่งงานครั้งแรก ทั้งสองได้มาให้คำมั่นสัญญากันที่นี่ว่า จะอยู่เคียงคู่กันตลอดไป
พอนึกถึงตอนแรกที่สมหวัง ซูฉิงก็รู้สึกมีความสุข เธอหันไปมองสบตาผู้ชายที่อยู่ข้างๆ แล้วเม้มปากพูด:”มิน่านายบอกว่าจะเซอร์ไพรส์ฉัน”
“ชอบมั้ย”ฮ่อหยุนเฉิงก้มมองเธอ แววตาที่เต็มไปด้วยรักมองเพียงแต่เธอคนเดียว
“ชอบ”ซูฉิงพยักหน้า มีอารมณ์หวานในหัวใจซึ่งแพร่กระจายอย่างหนาแน่นในทุกเซลล์ในร่างกายของเธอ
หลังจากที่ขอแต่งงานแล้ว พวกเขาทั้งสองคนต่างก็งานยุ่งจนไม่ค่อยได้มาที่ทะเลเลย
หลังจากลงจากรถแล้ว ซูฉิงเงยหน้าพร้อมกับอ้าแขนออกกว้าง เพื่อรับลมในทะเล ลมที่พักแรงพัดมาปะทะเข้าหน้าของซูฉิงทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก
ใบหน้าที่ผ่อนคลายลงของซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงก็รู้ได้ทันทีว่าพาซูฉิงมาถูกแล้ว ที่นี่สามารถลดความกดดันของเธอได้
“เป็นไงบ้าง ความเครียดจากการทำงานหายไปหมดมั้ย “ฮ่อหยุนเฉิงถอดเสื้อคลุมออกแล้วเอามาห่มให้กับซูฉิง”ริมทะเลอากาศเย็นเดี๋ยวจะเป็นหวัดได้”
ซูฉิงยิ้ม แล้วพูดชม”มีเพียงนายนี่และที่รู้ใจฉัน สามารถทำให้ฉันคลายเครียดได้”
ขณะที่ทั้งสองคุยเล่นกันอยู่นั้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องให้ช่วย
“หยุนเฉิง นายได้ยินมั้ย เหมือนจะมีคนร้องขอความช่วยเหลือ”ซูฉิงหลับตาเพื่อตั้งใจฟัง เพื่อหาว่าเสียงมาจากทางไหน”อยู่ทางโน้น พวกเราไปดูกันเถอะ”
ทั้งสองคิ้วขมวด แล้วรีบเดินไปทางริมทะเล ก็เห็นว่ามีคุณยายคนหนึ่งอยู่ในทะเล พยายามร้องขอความช่วยเหลือ ฟังจากที่ที่เริ่มอ่อนลงเหมือนคนแก่จะเริ่มอ่อนแรงแล้ว ซูฉิงก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“คุณยายใกล้จะหมดแรงแล้ว “ซูฉิงมองไปทางโน้นอย่างร้อนใจ และแถวๆ นั้นก็ไม่มีห่วงยางด้วย เธอที่ร้อนใจจนรีบกระโดดลงไปในทะเลเพื่อช่วยคุณยาย
ฮ่อหยุนที่เห็นซูฉิงกระโดดลงไปก็รู้สึกเป็นห่วง เขาถอดเสื้อออก ไม่พูดพร่ำทำเพลงกระโดดตามซูฉิงลงไปแล้วว่ายไปช่วยคุณยาย
เสียงของความช่วยเหลือที่ค่อยๆ อ่อนลง จนไม่ได้ยิน ซูฉิงเป็นห่วงว่าคุณยายจะทนไม่ไหวแล้ว เลยรีบว่ายเข้าไปหา
ตอนที่ซูฉิงช่วยคุณยายไว้ได้แล้วนั้นก็พบว่าตัวของคุณยายนั้นสั่นมาก แล้วก็สลบไปแล้ว แม้เธอจะเรียกยังไงก็ไม่ฟื้น “คุณยายคะ คุณยาย ตื่นสิคะ…….คุณยาย”
“รีบพาไปที่ฝั่งก่อนเถอะ “ฮ่อหยุนเฉิงพุดเสียงขรึม แล้วเข้ามาพยุงตัวคุณยายว่ายไปทางฝั่ง
เพราะอยู่ในน้ำนาน ตัวคุณยายเลยแช่น้ำเย็นนานทำให้ตัวสั่นและริมฝีปากซีด
ซูฉิงที่นั่งให้คุณยายนอนพิง แล้วลองเรียกท่านอีกครั้ง “คุณยายคะ ตื่นคะ คุณยายถูกช่วยแล้ว……”น่าเสียดายที่เสียงเรียกของซูฉิงไม่ได้รับการตอบกลับ
“หยุนเฉิง นายยังทนไหวมั้ย “ว่ายน้ำพามาตั้งไกล ซูฉิงก็เป็นห่วงฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงส่ายหน้า เพื่อสื่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงตน เขาไม่เป็นไร
บนฝั่ง ซูฉิงลองกดตัวของคุณยายดู แต่ลองสามสี่ครั้งแล้วก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร “ฉันทำการCPRให้ท่านดีกว่าจะได้เร็ว”
ช่วงเวลาช่วยชีวิตนั้นทุกวินาทีล้วนเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก ซูฉิงรีบทำCPRให้คุณยายอย่างถูกวิธี เพื่อให้คุณยายสำลักน้ำออกมา
“คุณยายครับ …..คุณยายครับ ” ฮ่อหยุนนเฉิงที่คอยเรียกอยู่ข้างๆ
แต่ทั้งสองทำการช่วยชีวิตไม่สำเร็จ หลังจากที่ทำอยู่หลายครั้ง ซูฉิงร้อนใจดังไฟ ทันใดนั้นเธอก็สะกิดฮ่อหยุนเฉิง”หยุนเฉิง รีบโทร120เร็ว ต้องรีบหาคุณยายส่งโรงพยาบาล”
เมื่อกี้เธอมีแต่สนใจช่วยชีวิตคนจนลืมโทรเรียกรถพยาบาล
ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิงที่ร้อนใจก็ค่อยๆ ยกแขนขึ้นมาลูบหลังของเธอ”ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก จะต้องไม่เป็นไร”
เพราะซูฉิงโตมากับคุณปู่ มีความคุ้นชินกับคนแก่ ดังนั้นพอเห็นคุณยายร่วงลงไปในทะเลถึงได้นั้นถึงคุณปู่ตัวเองขึ้นมา
ก่อนที่รถพยาบาลจะมา ซูฉิงนั่งคอยรออยู่ข้างๆ ตลอด ทุกๆ หนึ่งนาทีเธอก็ทำCPRให้ตลอด
พอได้ยินเสียงรถพยาบาลมาแล้ว ซูฉิงถึงได้ถอนหายใจโล่ง
“คนไข้อยู่ที่ไหน”พวกพยาบาลลงมาจากรถก็รีบร้องถาม “คนไข้อาการเป็นยังไงบ้าง”
ซูฉิงก็ค่อยๆ พูด”ทางนี้ คนไข้เป็นคุณยายคนหนึ่ง เธอผลัดตกลงไปในทะเลและหมดสติไปแล้ว ฉันได้ทำการCPRให้แล้ว แต่ก็ยังไม่ฟื้น “เธอบอกอาการคร่าวๆ ของคนไข้
พยาบาลพยักหน้ารับรู้ แล้วยกคุณยายขึ้นเปลไปที่รถพยาบาล
“พวกเราจะขับรถตามรถของพวกคุณไปนะครับ”ฮ่อหยุนเฉิงขับรถตามาไปท้ายรถพยาบาลเพื่อตามไปดูคุณยาย
ภายในโรงพยาบาล คุณหมอที่ได้รับแจ้งก็ได้มารอที่หน้าประตูแล้ว พอเห็นว่ารถมาถึงแล้วก็รีบเข็นรถเข็นไปรับ”หลบหน่อย มีคนไข้ฉุกเฉิน”
ซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงก็เดินตามไปส่งคุณยายถึงห้องฉุกเฉิน ถึงได้วางใจแล้วกลับไป
จากดินเนอร์ภายใต้แสงเทียนจนมาถึงช่วยชีวิตคน ทั้งสองก็เหนื่อยกันทั้งคืน พอกลับมาถึงบ้านก็เที่ยงคืนแล้ว ซูฉิงยังไม่ง่วง เธอยังตกใจกับเรื่องที่คุณยายพลัดตกทะเลเมื่อกี้อยู่เลย
“หยุนเฉิง ฉันคิดว่าชีวิตคนนั้นสั้นจริงๆ”ซูฉิงนั่นริมหน้าต่าง นั่งนิ่งนึกถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น คุณยายตัวเย็นมากตอนที่อยู่ใกล้เธอ