นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 526 แกล้งทำเป็นหลับ
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 526 แกล้งทำเป็นหลับ
เช้าตรู่
ซูฉิงลืมตาก็เห็นฮ่อหยุนเฉิงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงระเบียง
แสงแดดข้างนอกไม่ได้แรงจนแสบตาเหมือนไม่กี่วันก่อน แสงแดดสาดส่องกระทบกับใบหน้าด้านข้างของฮ่อหยุนเฉิง ขนตายาวแพสั่นไหวราวผีเสื้อที่จะโบยบิน
บางครั้งซูชิงก็คิดว่าฮ่อหยุนเฉิงหน้าตาดีแบบนี้ น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นดารา
เขาหล่อกว่าเฉินจุนเหยียนด้วยซ้ำ
เหมือนจะรู้สึกถึงสายตาของซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงหันมามอง ซูฉิงที่เห็นก็รีบฝังหัวไว้ในผ้าห่มและแกล้งทำเป็นหลับต่อ
ฮ่อหยุนเฉิงวางหนังสือพิมพ์ไว้ข้าง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่เตียง เห็นดวงตาของซูฉิงกำลังเคลื่อนไหว เขาก็เอนตัวลงและพูดเสียงเบา
“ตื่นแล้วเหรอ?”
ซูฉิงไม่สนใจและเล่นเกมแกล้งหลับต่อ
ฮ่อหยุนเฉิงที่เห็นอย่างนั้นจึงเอื้อมมือปัดผมยาวยุ่งของซูฉิงออกไปด้านข้าง และใช้นิ้วบีบจมูกของซูฉิงเบาๆ
ตอนแรกซูฉิงชะงักเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว เธอลืมตาและคว้ามือของฮ่อหยุนเฉิงพร้อมกับแก้มที่แดงเล็กน้อย
“ไม่แกล้งต่อแล้วเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงนั่งข้างเตียงและมองลงไปที่ซูฉิง
“นายนี่เล่นตัวจริง นายควรจะจูบอรุณสวัสดิ์ฉันอย่างอ่อนโยนสิ” ซูฉิงกะพริบตาและพูดอย่างชอบธรรม
ฮ่อหยุนเฉิงมองท่าทางของซูฉิง ก่อนจะกระตุกมุมปากอย่างทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย ขณะกำลังจะโน้มตัวไปกดจูบซูฉิง คนที่อยู่ในผ้าห่มกลับคลุมศีรษะและรีบออกจากผ้าห่มอย่างว่องไว
“ช้าไปแล้ว”
ซูฉิงลุกจากเตียงและโบกมือให้ฮ่อหยุนเฉิง
เฉพาะต่อหน้าฮ่อหยุนเฉิงเท่านั้นที่ซูฉิงจะสามารถแสดงด้านที่ซุกซนและน่ารักราวกับเด็กได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับฮ่อหยุนเฉิง ไม่ว่าซูฉิงจะมีท่าทีแบบไหนก็ทำเขาหวั่นไหวทั้งนั้น
เมื่อเห็นซูฉิงกำลังจะก้าวเท้าจากไป ฮ่อหยุนเฉิงก็เหยียดแขนยาวโอบเอวอีกคนเข้าไปในอ้อมแขน
ซูฉิงอุทานออกมา แต่แขนที่โอบรอบเอวของเธอกลับแน่นขึ้นเล็กน้อย
“นายจะทำอะไรน่ะ?” ซูฉิงถามนิ่งๆ
“ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเธอแล้ว” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงเบาแนบข้างหูซูฉิง
แต่ซูฉิงกลับรู้สึกงงงวยเล็กน้อยและตอบด้วยความสงสัย “อะไรนะ?”
“จูบอรุณสวัสดิ์” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่าชัดเจน และราวกับตั้งตารอท่าทีต่อไปของซูฉิง
เมื่อซูฉิงได้ยินก็อดหัวเราะไม่ได้ เธอหันเข้าหาอ้อมกอดและมองใบหน้าอีกฝ่าย
ซูฉิงโอบคอของฮ่อหยุนเฉิงและจิ้มแก้มของเขาอย่างกล้าหาญ “คุณฮ่อ นายนี่ไร้เดียงสาจังนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้วแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไร กลับกัน เขาชอบท่าทางซูฉิงที่ออดอ้อนเขา
เมื่อมองไปที่นัยน์สวยงามของฮ่อหยุนเฉิง ปลายนิ้วซูฉิงเลื่อนผ่านคิ้วของเขาและสุดท้ายก็ได้จูบที่หน้าผากของเขา
“ฉันหิวแล้ว” ซูฉิงกล่าว
ฮ่อหยุนเฉิงอุ้มซูฉิงขึ้นและพาเธอออกจากห้องนอน อาหารเช้าได้ถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
ขณะทานอาหารเช้า ซูฉิงราวกับคิดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็เงยหน้ามองไปทางฮ่อหยุนเฉิง “หยุนเฉิง วันนี้เราออกไปทะเลกันเถอะ”
ฮ่อหยุนเฉิงชะงักมือก่อนจะหันมองและได้เห็นสายตาที่โหยหาของซูฉิง แต่เขากลับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“หรือเราไปเที่ยวบนเกาะทุกวันดีไหม? ในเมื่อมาที่นี่แล้วก็ต้องออกไปเล่นทะเลหน่อยสิ”
ซูฉิงกุมใบหน้าและมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิง เอนไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วเหยียดนิ้วออกไปจิ้มที่หลังมือของฮ่อหยุนเฉิง
จริงๆ แล้วในใจซูฉิงรู้ดีว่าฮ่อหยุนเฉิงกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเรือสำราญตอนที่พวกเขามา
“ฉันไม่เชื่อว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดที่ว่าทุกครั้งที่ฉันล่องเรือจะเกิดอุบัติเหตุ ครั้งนี้ฉันสัญญาว่าจะอยู่กับนายตลอดเวลาและไม่ไปไหนเองดีไหม?” ซูฉิงเห็นฮ่อหยุนเฉิงไม่ตอบก็เขยิบเข้าหาเขาทีละน้อย
ฮ่อหยุนเฉิงถอนหายใจและหันไปมองซูฉิง แต่กลับเป็นสีหน้าที่ซูฉิงคาดเดาไม่ออก
ในขณะนั้นเองที่ในใจซูฉิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “หรือพวกคนครั้งที่แล้วเก่งมากเลยเหรอ?”
“มีคนอยู่เบื้องหลังน่ะ” ฮ่อหยุนเฉิงไม่อยาให้ซูฉิงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่ที่เขากังวลคือทะเลจะอันตรายไม่ต่างจากพื้นดิน
“ท่านประธานฮ่อรู้สึกกลัวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ซูฉิงที่เห็นอย่างนั้นจึงอดล้อเลียนไม่ได้
แต่ไม่ทันได้คิดว่าทันทีที่พูดออกไป สีหน้าฮ่อหยุนเฉิงก็นิ่งขึ้นก่อนจะหันนัยน์ตาดำไปทางซูฉิง
เมื่อคิดได้ว่าตัวเองพูดผิดไป ซูฉิงจึงก้าวไปข้างหน้าและนั่งในอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิง “ขอโทษนะ หยุนเฉิง ฉันแค่คิดว่าจัดการเรื่องนี้ไปแล้ว แล้วก็ไม่ต้องคอยห่วงอีก”
ซูฉิงเอนกายพิงอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิง ก่อนจะโอบแขนรอบเอวอีกคน “อีกอย่าง ฉันก็ไม่ใช่คนดูแลตัวเองไม่ได้สักหน่อย ฉันเองก็มีความสามารถในการป้องกันตัวเองไม่ใช่เหรอ?”
ริมฝีปากบางๆ ของฮ่อหยุนเฉิงเม้มเบาๆ เขาไม่ได้พูดและเพียงแค่มองไปที่ซูฉิงเงียบๆ
มีรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ซูฉิงจึงคิดว่าเป็นความยินยอมของฮ่อหยุนเฉิงก่อนจะกดจูบริมฝีปากของเขา
ฮ่อหยุนเฉิงขยับคิ้วเล็กน้อย เคลื่อนริมฝีปากเข้าไปใกล้ แต่กลับถูกซูฉิงยกมือกั้น
“คุณฮ่อ ถ้ายังไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวิวสวยๆ ให้ดูแล้วนะ” ซูฉิงกลอกตา
…
บนเรือสำราญ ซูฉิงเอนตัวลงบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้านเพื่ออาบแดด บนดาดฟ้าเรือไม่ได้มีคนมากมายนัก ดังนั้นจึงไม่มีใครส่งเสียงดัง ซูฉิงก็ได้มีความสุข
“หยุนเฉิง ฉันจะไปเอาน้ำผลไม้นะ” ถอดแว่นกันแดดออกแล้วพูดกับฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ด้านข้าง
ใครจะคิดว่าทันทีที่เธอจะยกแก้ว พอหันกลับก็เห็นพนักงานเสิร์ฟและ “บังเอิญ” ชนเข้ากับร่างของฮ่อหยุนเฉิง
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายบนใบหน้าของพนักงานเสิร์ฟ ซูฉิงก็ยกยิ้มมุมปาก อุบายเก่าๆยังมีคนใช้?
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ซูฉิงก็เดินตรงเข้าไป และได้ยินพนักงานเสิร์ฟกำลังพูดเสียงเบากับฮ่อหยุนเฉิงพดี “คุณผู้ชายคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ…ฉัน ฉันจะเช็ดให้นะคะ…”
น้ำเสียงอ่อนโยน คนที่ได้ฟังก็รู้สึกอ่อนยวบไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ พนักงานเสิร์ฟเห็นว่าเขาไม่พูด จึงจะเข้าใกล้อย่างกล้าหาญ แต่เพียงวินาทีถัดมา มือขาวนวลก็เอื้อมมือไปดึงจนเกิดระยะห่างระหว่างทั้งสองคน
“ไม่ต้องเช็ดหรอก ฉันจะส่งใบเสนอราคาให้ เธอแค่จ่ายค่าชดใช้มาก็พอ” ซูชิงมองไปที่พนักงานเสิร์ฟตรงหน้าก่อนจะเผยรอยยิ้มจางๆ
“จ่ายค่าชดใช้? ขอโทษจริงๆ ค่ะ คุณผู้ชาย ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เสื้อผ้าของคุณคงแพงมาก ฉัน…ฉันควรทำยังไงดี?”
เมื่อพนักงานเสิร์ฟเห็นซูฉิง ดวงตาก็สั่นไหว และยังคงแสร้งทำเป็นตื่นตระหนกต่อไป
ผู้ชายธรรมดามองแล้วอาจรู้สึกสงสาร แต่ฮ่อหยุนเฉิงไม่สนใจ และไม่แม้แต่ปรายตามอง
“เธอควรทำยังไงเหรอ? เธอก็ควรตั้งใจทำงานแล้วหาเงินมาชดใช้ไงล่ะ ไม่ใช่เอาแต่พูดจาไร้สาระอยู่ตรงนี้”
ซูฉิงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เป็นไงล่ะ ให้ฉันแนะนำงานให้ไหม?”
พนักงานที่ได้ยินก็หน้าซีดและกัดริมฝีปากมองซูฉิง “คุณ คุณดูถูกฉันแบบนี้ได้ยังไง?”