นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 581 นายกำลังขอแต่งงานเหรอ
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 581 นายกำลังขอแต่งงานเหรอ
ซูฉิงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม เธอก็คิดไม่ถึงว่าฮ่อหยุนเฉิงจะพูดอย่างนี้
สักพักอารมณ์ของซูฉิงก็มั่นคงขึ้น เธอมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิง และริมฝีปากของเธอก็ขยับเล็กน้อย “นายกำลังขอแต่งงานอยู่เหรอ?”
“ถ้าฉันขอเธอแต่งงาน เธอจะตอบตกลงไหม?” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงต่ำ แม้ว่าตอนนี้ทั้งสองจะหมั้นกันแล้ว แต่วันแต่งงานที่แท้จริงยังคงอาจจะอีกนาน
“ขอแต่งงานในโอกาสแบบนี้เนี่ยนะ? คุณฮ่อไม่โรแมนติกเอาซะเลยนะคะ ฉันก็คงไม่ตอบตกลงหรอกค่ะ” ซูฉิงเบ้ปาก เอียงศีรษะแล้วพิงไหล่ของฮ่อหยุนเฉิง แววตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อย
พูดตามตรง ตอนนี้ซูฉิงยังไม่อยากแต่งงาน อาจเป็นเพราะเธอคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม หรือยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีก
เมื่อเขาเห็นปฏิกิริยาของซูฉิง เขาก็หลับตาลงและจูบลงที่ผมของเธอ
เขาเข้าใจซูฉิง และสามารถเข้าใจสิ่งที่เธอคิดจากสีหน้าของเธอ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไม่ตกลงจริง ๆ เหรอ?”
รับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่พอใจเล็กน้อยของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็ชะงักไปครู่หนึ่ง “ไม่ใช่ ฉันแค่ยังไม่ได้คิดถึงตอนนั้น”
เขาเอื้มมือไปโอบเอวของซูฉิงและไม่ได้พูดอะไรอีก
ในขณะนี้ ฮ่อเฉียนก็เดินเข้ามา เธอหลบตาเล็กน้อย และค่อย ๆ พูดช้า ๆ “พี่หยุนเฉิง”
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็ลองถามหยั่งเชิง “พี่จะจัดการยังไงกับหว่าน……สวีหว่านเอ๋อร์?”
แววตาของเขามาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของฮ่อเฉียน และฮ่อหยุนเฉิงก็พูดอย่างเย็นชา “มีเรื่องอะไรเหรอ?”
ฮ่อเฉียนตัวสั่นเทาเมื่อถูกสายตาของฮ่อหยุนเฉิงจับจ้อง เธอรีบยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่มีเรื่องอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่สงสัย เพราะเธอดูเหมือนต้องการจะใส่ร้ายซูฉิงมาก……”
ขณะที่พูด ฮ่อเฉียนก็จ้องไปที่หน้าซูฉิง แต่เธอก็เห็นการเยาะเย้ยที่มุมปากของซูฉิิงอย่างชัดเจนราวกับว่าเธอกำลังหัวเราะเยาะกับความจนตรอกของเธอในตอนนี้
“เอ่อ……”
ฮ่อเฉียนรู้สึกผิด แต่โชคดีที่เธอแค่รู้แผนของสวีหว่านเอ๋อร์ แต่ไม่ได้เข้าร่วมแผนการด้วย
แต่มาพูดอะไรตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว ฮ่อเฉียนหยุดพูดสิ่งที่ไม่ควรพูด เธอก็รีบหันหลังกลับและเดินจากไป
ซูฉิงมองตามแผ่นหลังของฮ่อเฉียน และในที่สุดก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้จริง ๆ
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองไปที่ซูฉิงที่ซบอยู่ในอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิงอย่างเกียจคร้าน “ฉันไม่รู้จริง ๆว่าทำไมนายถึงมีน้องสาวอย่างฮ่อเฉียน”
ฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้ตอบอะไรซูฉิง ซูฉิงเงยหน้าขึ้นมองท่าทางของเขา และจึงรู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงยังคงอารมณ์เสียจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่
ซูฉิงยื่นมือออกไปจับแขนของฮ่อหยุนเฉิง และเขี่ยแขนเขาไปมา “ไม่เอาน่า นายโกรธเหรอ?”
แต่ฮ่อหยุนเฉิงยังคงนิ่งเฉย ซูฉิงย่นจมูก และเขย่งปลายเท้าขยับเข้าไปใกล้ “นายโกรธจริง ๆ เหรอ?”
ซูฉิงแกล้งถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
ทันใดนั้น ฮ่อหยุนเฉิงก็ยื่นมือออกมาบีบคางของเธอ และหันไปจูบที่ริมฝีปากเธอ ราวกับว่าต้องการลงโทษ เขากัดริมฝีปากของซูฉิงเบา ๆ ทำให้เธอร้องออกมาเบา ๆ ด้วยความเจ็บปวด
“นายทำอะไรเนี่ย?” ซูฉิงยื่นมือออกไปตีหน้าอกของฮ่อหยุนเฉิง ลูบริมฝีปากล่างที่เจ็บของเธอ
ฮ่อหยุนเฉิงมองเธอด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“ซูฉิง” เขาพึมพำเบา ๆ ราวกับว่ากำลังพูดกับสมบัติล้ำค่าบางอย่าง
ซูฉิงมองเข้าไปที่ดวงตาที่ลึกซึ้งของฮ่อหยุนเฉิง หัวใจของเธอก็อ่อนลง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเบา ๆ ว่า “นายให้เวลาฉันอีกหน่อยได้ไหม?”
……
ในตอนเย็น จู่ ๆ ผู้เฒ่าซูก็โทรศัพท์มา
“เหล่าฮ่อนี่ใจแคบจริง ๆ ฉันแค่ไม่ได้ให้ของขวัญวันเกิดเขา เขาแทบจะเอารูจมูกชี้หน้าฉันอยู่แล้ว”
เมื่อคิดถึงที่ตัวเองโทรไปเอาใจอย่างเหนื่อยยากก่อนหน้านี้ ผู้เฒ่าซูก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตา
ซูฉิงหลุดยิ้มออกมา ผู้เฒ่าทั้งสองคนก็อายุมากขนาดนี้แล้ว ยังทะเลาะกันเหมือนเด็กๆ ทุกวัน
“ฉันได้ยินมาว่าเธอเชิญผู้เฒ่ากู้ชวนมาเหรอ?” ผู้เฒ่าซูถาม
ซูฉิงพยักหน้า “หนูขอให้อาจารย์สอนหนูแกะสลักสร้อยข้อมือ เพื่อมอบให้คุณปู่ฮ่อเป็นของขวัญวันเกิด”
ผู้เฒ่ากู้ชวนประกาศว่าตัวเองมีลูกศิษย์เพียงคนเดียว นั่นคือหลิวเฉิงอวี่ แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือซูฉิงก็เป็นศิษย์ของกู้ชวนเช่นกัน แต่เขาไม่ได้เผยแพร่เรื่องนี้
เมื่อผู้เฒ่าซูได้ยินก็พยักหน้าเบา ๆ “แต่ว่านะ ตอนนี้เธอสามารถเชิญผู้เฒ่ากู้ชวนมาได้ แต่ฉันกลับได้ยินมาว่าลูกศิษย์ของเขาอาจจะไปเมือง A ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
“พี่เฉิงอวี่จะมาเหรอคะ?” ซูชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว เสิ่นเจียวได้เชิญให้เขาไปแกะสลักให้ ก็แสดงว่าเขาไม่ได้อยู่ที่เมือง A แต่ก็อยู่ไม่ไกล
“ฉันก็ไม่รู้เรื่องนัก ถึงตอนนั้นเธอก็ติดต่อเขาไปก็ได้”
ขณะที่ผู้เฒ่าซูพูด จู่ ๆ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขายกมือขึ้นมาแนบที่ริมฝีปาก และกระแอมไอเบาๆ แล้วนั่งตัวตรงด้วยสีหน้าจริงจัง ซึ่งทำให้ซูฉิงต้องจริงจังไปด้วย
“เธอหมั้นกับหนุ่มตระกูลฮ่อนานแล้วใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำถามของปู่ แม้ว่าซูฉิงจะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เธอก็พยักหน้า พิธีหมั้นก่อนหน้านี้คุณปู่ก็อยู่ที่นั่นด้วย
ชายชราจิ๊ปากเบา ๆ แต่สีหน้ากลับลังเลเล็กน้อย และทำท่าจะเหมือนพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่พูด ยิ่งทำให้ซูฉิงสงัยมากยิ่งขึ้น
“คุณปู่ต้องการจะพูดอะไรกันแน่คะ?”
ได้ยินคำพูดของซูฉิง ผู้เฒ่าซูจึงกล่าวว่า “แล้วเธอกับเขา… ”
คำพูดของผู้เฒ่าซูหยุดกะทันหัน และใช้สายตามองซูฉิงอย่างมีเลศนัย
แต่ซูฉิงกลับไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าปู่ของเธอกำลังเล่นปริศนาอะไรอยู่ ตอนนี้เธอก็ยังคงสงสัย
“คุณปู่ต้องการจะพูดอะไรกันแน่คะ?” ซูฉิงพูดอย่างจนปัญญา
“เธอกับเขาข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้วหรือยัง?” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าซูก็พูดคำที่คิดว่าน่าจะเหมาะสมออกมา
ซูฉิงไม่คิดว่าสิ่งที่ปู่ของเธอต้องการจะถามจริง ๆ แล้วคือเรื่องนี้ ใบหน้าของซูชิงก็แดงขึ้นทันที “คุณปู่ ทำไมถึงถามเรื่องนี้ล่ะคะ?”
เธอไออย่างแรง ผู้เฒ่าซูจิบชาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “บางเรื่องเธอก็ต้องระวังนะ พวกเธอทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน”
“แล้วยังไงคะ?” ซูฉิงกระพริบตา
แต่ไม่รู้ว่าผู้เฒ่าซูพูดอะไร ซูฉิงก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ฮ่อหยุนเฉิงที่เพิ่งอาบน้ำออกมาก็เห็นซูฉิงถือโทรศัพท์ด้วยท่าทางอึดอัด
“เป็นอะไรเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงเดินเข้ามา เรือนร่างเขายังคงเปียกโชกไปด้วยหยดน้ำ
ซูฉิงส่ายหน้า “คุณปู่โทรมาหาฉันเมื่อกี้นี้”
ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมืออกไปโอบรอบเอวของซูฉิง และนั่งลงข้างเธอ
“คุณปู่กำชับฉันเรื่องหนึ่ง” ซูฉิงกล่าว
ฮ่อหยุนเฉิงตอบรับ แต่มือของเขาได้เริ่มลูบไล้แขนและหลังของซูฉิง
เขาจูบที่หน้าผากของซู่ชิงอย่างรักใคร่
แต่ในวินาทีต่อมา ซูฉิงกลับคว้ามือฮ่อหยุนเฉิงไว้ เพื่อหยุดการกระทำของเขา