นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 631 ฟื้นแล้ว
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 631 ฟื้นแล้ว
เมื่อเห็นหน้าซีดเซียวของเย่ซี ซูฉิงก็รู้สึกผิดมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ฮ่อ เย่ซีก็คงไม่เป็นอย่างที่เธอกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้
ซูฉิงกำหมัดแน่นและกัดฟันแน่น เนื่องจากฮ่อหยุนเฉิงยังอยู่ข้างๆ เธอ จึงไม่เธอจึงทำอะไรได้ไม่มาก
ทั้งสองคนมาที่ห้องของเย่ซี และก็มีกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนมากลอยออกมา
ซูฉิงขมวดคิ้ว และเธอก็รู้สึกลำบากใจเมื่อเห็นว่าเย่ซีนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลโดยบนใบหน้าดูซีดไปหมด
ซูฉิงขมวดคิ้วและก้าวไปข้างหน้า ลูบหน้าผากของเย่ซี สัมผัสที่เย็นยะเยือก ทำให้หัวใจของเธอสั่นเครือ
ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ข้างๆ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของซูฉิง เขาก็ทำได้เพียงตบหลังซูฉิงเบาๆ เพื่อเป็นสัญญาณบอกเธอว่าไม่ต้องเศร้า
เขารู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของแม่ฮ่อ แต่เขาก็พูดอะไรมากไม่ได้ และทำได้เพียงติดตามซูฉิงอย่างเงียบๆ
สิ่งที่แม่ฮ่อทำนั้น ไม่อาจให้อภัยได้จริงๆ และซูฉิงเองก็ทนไม่ไหวจริงๆ
ซูฉิงเดินไปหยิบผ้าขนหนูร้อน เช็ดหน้าผากของเย่ซีเบาๆและเช็ดร่างกายของเธอเบาๆ ทุกอนุมูลสัมผัสถึงหัวใจของเธอ
“ไม่ต้องกังวล เธอต้องหายในเร็ววันนี้แน่นอน”
ฮ่อหยุนเฉิงตบหลังซูฉิงบาๆและปลอบโยนเธอ
แต่ซูฉิงไม่พูดอะไรเลย และยังคงรู้สึกหงุดหงิดกับแม่ฮ่อในใจของเธอ
สิ่งนี้ทำให้ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกหนักใจเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงนั่งลงข้างๆและเงียบไป
“พี่ซูฉิง…”
ทันใดนั้น มือของเย่ซีก็ขยับ และเธอก็ตะโกนเรียกซูฉิง
หัวใจของซูฉิงเหมือนถูกยกขึ้นทันที และเธอก็จับมือของเย่ซี “ฉันอยู่ที่นี่ ฉันอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัว”
เธอปลอบโยนของเย่ซี แม้ว่าเย่ซีจะเงียบไป แต่ปากของเธอก็ยังสั่นอยู่
วินาทีถัดมา เย่ซีก็ลืมตาขึ้น ดวงตาของเธอดูน่าตกใจมาก “พี่ซูฉิง!”
เธอตะโกน ทำให้ซูฉิงตกตะลึงไป
โดยปกติเย่ซีจะเชื่องและเงียบมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเย่ซีในรูปแบบนี้
“ฉันอยู่นี่”
ซูฉิงพูดเบา ๆ พรางลูบมือของเย่ซี
เมื่อเห็นว่าเป็นซูฉิง เย่ซีก็สงบลง และในวินาทีถัดมา โดยไม่สนใจมือที่ยังห้อยสายน้ำเกลืออยู่ เธอโผลเข้ากอดซูฉิง
“ฮือฮือ พี่ซูฉิง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ฉันตกใจหมดเลย”
เสียงที่หายใจไม่ออกของเย่ซีเข้ามาในหูของซูฉิง ทำให้เธอรู้สึกผิดในใจ และก็รู้สึกโล่งใจไปในเวลาเดียวกัน
“ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวแล้วนะ”
ซูฉิงยังคงปลอบโยนเย่ซี ในขณะที่ฮ่อหยุนเฉิงที่ด้านข้าง สีหน้าดูบูดบึ้งเล็กน้อย
ซูฉิงไม่เคยปลอบโยนเขาแบบนี้มาก่อนเลย
เย่ซีดสูดน้ำมูกเข้า “ฉันแค่ฝันว่าคุณนายฮ่อกำลังรังแกคุณ ตกใจหมดเลย”
ในวินาทีต่อมาเย่ซีก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ
ซูฉิงได้ยินเสียงและเห็นว่าเป็นหลอดตรงสายน้ำเกลือของเย่ซีมีเลือดปนอยู่ บางทีอาจเป็นเพราะขยับตัวเร็วเกินไป และดวงตาที่เจ็บปวดของเย่ซีก็เต็มไปด้วยน้ำตาอยู่ครู่หนึ่ง
“อย่าขยับ เลือดย้อนกลับแล้ว”
ซูฉิงแค่คิดว่ามันตลก เธอปล่อยให้เย่ซีนอนลงแล้วเรียกฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ข้างๆเธอ
“ทำไมคุณถึงยังนั่งอยู่ที่นั่น ทำไมคุณไม่ซื้อโจ๊กมาซักชามล่ะ”
ซูฉิงพูดอย่างโกรธเคือง ฮ่อหยุนเฉิงเงียบ และทำได้เพียงทำตามที่ซูฉิงบอก และคิดว่าซูฉิงคงจะไม่โอนบาปของแม่ฮ่อมาให้กับตัวเอง
“ไม่เป็นไรนะ นอนลงไปซะ”
ซูฉิงช่วยเย่ซีให้นอนลง และปลอบโยนเธอไว้
ดวงตาของเย่ซีเต็มไปด้วยความวิตกกังวล และเธอก็เอาแต่นึกถึงใบหน้าที่ดูเฉียบขาดของแม่ฮ่อ
ซูฉิงเห็นความกังวลของเย่ซี และคอยปลอบโยนเธอ ส่งสัญญาณให้เธอผ่อนคลาย
“ตอนนี้มีท่านผู้เฒ่าฮ่อจัดการแล้ว และแม่ฮ่อก็ไม่กล้าทำอะไรกับฉันแล้วละตอนนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ซีก็โล่งใจมาก
ในขณะนี้ฮ่อหยุนเฉิง ไปซื้อโจ๊กและกลับมาที่วอด ทันทีที่เขามาถึงประตูเขาก็ได้ยินทั้งสองคุยกันเรื่องแม่ฮ่อ
“นอกจากนี้ เขาทำให้เธอเป็นแบบนี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแน่”
ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว แท้จริงแล้ว ซูฉิงได้อดทนต่อแม่ฮ่อ และตอนนี้เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น แม้แต่เขาเองก็ยังไม่สามารถหยุดซูฉิงได้
“อ่ะ? แต่เขาเป็นแม่ของประธานฮ่อนะคะ”
ยิ่งเย่ซีพูดมากเท่าไหร่เสียงของเธอก็ยิ่งเงียบลง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เห็นด้วยที่ซูฉิงจะทำแบบนั้น
“ถ้าใครทำผิดต่อเรา เราก็ต้องสนองให้เขา”
อย่างไรก็ตาม ซูฉิงได้ตัดสินใจแล้ว และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“เขาทำเรื่องแบบนี้ไปแล้ว ฉันจะอดทนกับเขาต่อไปได้ยังไง? ครั้งนี้ฉันต้องทำให้เขารู้”
ในขณะนี้ ฮ่อหยุนเฉิงซึ่งอยู่ที่ประตูก็เดินเข้ามา
ซูฉิงเงียบทันที ฮ่อหยุนเฉิงต้องได้ยินเรื่องที่เธอพูดเมื่อกี้อย่างแน่นอน เธอก้มศีรษะลง กลัวสิ่งที่ฮ่อหยุนเฉิงจะพูด แต่หัวใจของเธอก็ยังสงบ
ใครจะรู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้ขมวดคิ้ว และเขาก็วางข้าวต้มในมือไว้หน้าเตียง “กินเร็วๆ เดี๋ยวมันจะเย็นหมด”
ซูฉิงรู้สึกประหลาดใจและลังเลใจ ฮ่อหยุนเฉิงตอบตกลงโดยปริยายกับการที่เธอกำลังมุ่งเป้าไปที่แม่งั้นหรือ?
อย่างไรก็ตาม แม่ฮ่อก็ยังเป็นแม่ของฮ่อหยุนเฉิง และในตอนแรกเธอเองก็เป็นกังวลว่าอาจจะจะทำมากเกินไปหรือเปล่า
เมื่อคิดดูดีๆแล้วฮ่อหยุนเฉิงเขาเองก็น่าจะรู้สึกผิดต่อเย่ซี ดังนั้นเขาจึงเห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว
ซูฉิงพยักหน้าและยื่นโจ๊กให้เย่ซี “รีบกินเถอะ นานมากแล้วเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย เดี๋ยวก็เป็นลมไปซะหรอก”
เนื่องจากฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ ซูฉิงจึงไม่ถามอะไรให้เสียบรรยากาศ
เย่ซีไม่เข้าใจว่าพวกเขาสองคนกำลังทำอะไร เนื่องจากซูฉิงพูดอย่างนั้น เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตาม
มือที่เติมน้ำเกลือของเธอไม่สะดวกเท่าไหร่ ดังนั้นซูฉิงจึงหยิบช้อนซุปขึ้นป้อนเข้าปากของเธอ ปล่อยให้ฮ่อหยุนเฉิงเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ
อีกด้านหนึ่ง ในบ้านเก่าตระกูลฮ่อ
ท่านผู้เฒ่าฮ่อนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาด้วยสีหน้าจริงจัง และคนใช้รอบๆก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรเลย
ท่านผู้เฒ่าฮ่อเป็นแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่เขาเพิ่งกลับมา และมีคลื่นแห่งความเกลียดชังอยู่รอบตัวเขา
“เธอ ไปเรียกทั้งสองคนมาหาฉันสิ”
ท่านผู้เฒ่าฮ่อชี้ไปที่คนรับใช้ข้างๆ เขา
คนรับใช้พยักหน้า เหงื่อเย็นไหลออกมา กังวลว่าอีกไม่นานอาจจะโดนทรมาน
สำหรับสองคนนั้น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นคนรับใช้ที่เป็นคนเล่าเรื่องนี้
หลังจากนั้นไม่นาน คนรับใช้ทั้งสองก็ถูกตามเข้ามา
เมื่อเห็นว่าหน้าของท่านผู้เฒ่าฮ่อแข็งทื่อ คนรับใช้ทั้งสองก็คุกเข่าลงทีละคนๆ “พวกเราผิดไปแล้วคะ”
ท่านผู้เฒ่าฮ่อเป็นทายาทของตระกูลฮ่อเช่นกัน แม้ว่าเขาจะแก่ แต่เขาก็ยังมีทักษะที่แท้จริงอยู่บ้าง
“พูดมา พวกเธอพูดอะไรกับนายหญิงฮ่อ”
ท่านผู้เฒ่าฮ่อยักคิ้ว คิดไม่ถึงว่าทุกวันนี้คนใช้ในบ้านจะปากมากเช่นนี้
“พวกเรา พวกเรา……”
คนรับใช้ทั้งสองมองหน้ากันด้วยท่าทางเขินอาย หลังจากที่ท่านผู้เฒ่าฮ่อตำหนิ พวกเขาก็จำเป็นต้องพูดออกมา
“หลี่หม่าขอให้เราทำสิ่งนี้คะ เธอทำงานในบ้านมาหลายปีแล้ว หากเราไม่ฟังเธอ เธอขู่พวกเราว่าจะไล่เราออก”
คนรับใช้สองคนตกใจมากจนเหงื่อไหลออกมาและน้ำตาไหลก็ไหลออกจากหางตาเล็กน้อย
“ใช่หรอ?”
ท่านฮ่อส่ายหัว ไม่คิดว่าหลี่หม่าจะเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง? เรื่องนี้มันแค่นี้จริงๆหรือ หรือมีคนอื่นอยู่เบื้องหลังอีก ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะเจาะลึกลงไป และในตอนนี้ก็ทำได้เพียงให้ความไม่เป็นธธรมแกซูฉิงเท่านั้น
“ไปเถอะ โยนของทั้งหมดของหลี่หม่าทิ้งออกไปให้หมด ฉันไม่มีทางเก็บคนแบบนี้ไว้เด็ดขาด”