นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 643 ตีแสกหน้าต่อหน้าคนอื่น
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 643 ตีแสกหน้าต่อหน้าคนอื่น
ทันใดนั้นเอง เสียงทุกคนต่างซุบซิบนินทาเรื่องซูฉิง ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนได้ยินไปถึงหูของซูฉิง
ซูฉิงเบะปากไม่ใส่ใจ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืน แล้วก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อควานหาห่อผ้าสีแดง
“คุณปู่คะ นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่มอบให้กับคุณปู่ค่ะ หวังว่าคุณปู่จะชอบนะคะ”
ซูฉิงเปิดห่อผ้าสีแดงออก ก็เป็นหยกหลิงหลงเกลี้ยงเกลาไร้ตำหนิ ปรากฏแก่สายตาทุกคน
คุณปู่ฮ่อที่รับหยกหลิงหลงมาก็พูดชมไม่ขาดปาก ถ้าเทียบกับตอนของเฉินเจียวแล้ว ก็ยิ่งทำให้เฉินเจียวรู้สึกประหม่าขึ้นมา
“สีของหยกช่างดีเหลือเกินทำไมรู้สึกคุ้นๆ จังเลยละ…..”คุณปู่ฮ่อที่ลูบไล้หยก ก็ตาวาวขึ้นมา:”นี่คือผลงานของกู้ชวน!”
“ใช่แล้วค่ะ”
ซูฉิงยิ้ม แล้วก็ก็เริ่มอธิบายเรื่องราวของหยกหลิงหลงก้อนนี้
“คุณหลิวมาแล้ว!”
และทันใดนั้นเอง ก็มีคนตะโกนขึ้นจากกลุ่มคน และทุกคนก็หันไปมองทางหน้าประตู
ก็เห็นหลิวเฉิงอวี่สวมชุดจีนสีเขียว ตั้งใจมางานนี้เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ฮ่อ
“คุณฮ่อ นี่คือของขวัญวันเกิดที่ผมตั้งใจเตรียมมามอบให้กับคุณ”
หลิวเฉิงอวี่มางานเลี้ยงครั้งนี้มาในนามอาจารย์เพื่อมาร่วมอวยพรวันเกิดคุณปู่ฮ่อ
“คุณหลิว คุณมาได้บังเอิญมาก เมื่อกี้คุณเฉินยังโชว์แหวนที่เป็นผลงานของคุณอยู่เลย!”
ทุกคนได้ยินอย่างนั้นต่างก็พยักหน้าแล้วชี้ไปทางแหวนหยกที่อยู่ด้านหลังเสินเจียว
แต่ใครจะรู้ว่าสีหน้าของหลิวเฉิงอวี่เปลี่ยนเป็นตกใจทันที เขาเดินไปข้างหน้าแล้วหยิบแหวนหยกมาลูบดู:”แหวนหยกนี่ ไม่ใช่ของฉัน”
ทุกคนที่ได้ยินอย่างนั้นก็เป็นการตีแสกหน้าเฉินเจียวอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ทุกคนต่างก็ตกใจแล้วก็พูดฮือฮากันว่าหลิวเฉิงอวี่พูดผิดรึเปล่า
“ไม่ใช่แหวนของฉันจริงๆ”
หลิวเฉิงอวี่มองแหวนที่อยู่ในมืออย่างละเอียด แล้วก็หันไปทางซูฉิงที่อยู่บนเวที จากนั้นก็เดินไปหาเธอพร้อมกับยื่นแหวนให้กับเธอ:”ศิษย์น้อง เธอช่วยฉันดูหน่อยสิ ผลงานของฉันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
ทุกคนได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งรู้สึกหน้าแหก
“ทำไมดูครึกครื้นอย่างนี้ หรือว่าฉันมาช้าไปหรอ”
และทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงคุ้นดังมาจากหน้าประตู ทุกคนต่างก็หันไปมองตามเสียง ก็เห็นกู้ชวนเดินเข้ามา
“กู้ชวน! เขามาได้ยังไง”
ทุกคนต่างก็แตกตื่น คิดไม่ถึงว่าแม้แต่กู้ชวนก็มาร่วมงานด้วย คนอย่างนี้ปกติแล้วน้อยมาที่จะได้พบเจอเขา
“คุณกู้ คุณก็มาด้วย”
คุณปู่ฮ่อที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานส่งเสียงถาม เขาสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเฉินเจียวไม่สู้ดี ก็รีบดึงความสนใจของทุกคน
“ครับ ก็ไม่ใช่เป็นการให้การสนับสนุนคุณหรอกหรอ”
ชุดของกู้ชวนกับหลิวเฉิงอวี่ใส่มาเหมือนกัน แต่ดูมีภูมิฐานมากกว่าหลิวเฉิงอวี่
วินาทีต่อมา กู้ชวนก็สังเกตเห็นหยกหลิงหลงที่อยู่ในมือของซูฉิงก็กะพริบตาพูด:”นี่มันหยกหลิงหลงนี่ ทำไมฉันดูคุ้นตาจังเลย”
คนที่อยู่โดยรอบได้ฟังอย่างนั้นก็เริ่มคิดถึงเรื่องน่าอายของซูฉิง
และแหวนหยกของเฉินเจียวก็ถูกเธอยัดเก็บไว้ในกระเป๋าแล้ว พวกเขาไม่เชื่อว่าหยกหลิงหลงของซูฉิงจะเป็นของจริง
“คุณซูฉิงว่าหยกหลิงหลงนี้เป็นผลงานที่คุณทำขึ้นมาด้วยตัวเอง คุณกู้ คุณช่วยดูดีๆ นะอาจจะมีคนปลอมแปลงได้”
เฉินเจียวพูด เธอรู้สึกไม่พอใจ คิดไม่ถึงว่าแหวนหยกของตัวเองกจะถูกทุกคนบอกว่าปลอม มองดูซูฉิงที่ทำหน้าเย่อหยิ่ง เธอก็ยิ่งโมโห
พอพูดอย่างนั้นออกไปก็ดึงดูดสายตาของทุกคนให้หันไปมอง
“คุณกู้ คุณลืมไปแล้วหรอ ก่อนหน้านี้ฉันได้ไปคุยกับตระกูลของคุณ คุณอย่างยังไม่อยากให้เลยนะ”
ซูฉิงยิ้ม แล้วยื่นหยกหลิงหลงให้กับกู้ชวน
และวินาทีต่อมาก็เห็นกู้ชวนทำหน้าอาลัยอาวรณ์:”จริงๆ ด้วย เฮ่อ นึกถึงตอนนั้น ฉันใช่เวลานานมากกว่าจะทำออกมาได้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้เธอจะนำมามอบให้กับคุณฮ่อ ช่างใส่ใจริงๆ”
เฉินเจียวที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งน่าเสีย
หยกหลิงหลงของซูฉิงเป็นของจริง แต่แหวนหยกของเธอกลับกลายเป็นของปลอม ต่อไปถ้าหากเรื่องแพร่ออกไป เธอจะอยู่ในวงการนี้ได้ยังไง!
“ฉันจำได้ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องนานมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าเธอจะเตรียมของขวัญให้กับคุณท่านฮ่อนานขนาดนี้ ช่างเป็นคนกตัญญูจริงๆ”
คำพูดของกู้ชวนที่พูดออกไปก็ยิ่งทำให้ทุกคนมองด้วยสายตาอิจฉา
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ คุณพูดอย่างนี้ฉันก็รู้สึกเขินนะคะ”
ซูฉิงก้มหน้ายิ้ม และคุณปู่ฮ่อก็ดีใจมาก
“เสี่ยวฉิง ช่างใส่ใจจริงๆ เพื่อปู่แล้วถึงกลับไปหาคุณกู้”
คุณปู่ฮ่อตบไหล่ของซูฉิงเบาๆ ยิ่งทำให้ทุกคนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
และเฉินเจียวที่รู้สึกโกรธแค้นแต่เงียบไว้ ตอนนี้เธอเสียใจภายหลังแล้วที่สวมชุดราตรีสีสดมา อยากจะหลบหนีแต่ก็ยังมีคนสังเกตเห็นอยู่ดี
“คุณปู่ครับ เธอก็ใส่ใจคุณปู่มาตลอดนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสริม ยิ่งทำให้ทุกคนหุบปากเงียบ
มีคนใหญ่คนโตมาเพื่อปกป้องซูฉิง ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาต่อว่าอะไรซูฉิงแล้ว
“แปะๆๆ–”
และทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงใครบางคนที่ปรบมือพร้อมกับพูดดีๆ :”เด็กดีอย่างนี้ ทำให้ฉันนับถือจริงๆ”
ก็เห็นเป็นเหลยข่ายเดินเข้ามา ทำให้ซูฉิงแปลกประหลาดใจมาก
เหลยข่ายถือเป็นปรมาจารย์ด้านการประดิษฐ์ตัวอักษรและจิตรกรรม มีชื่อเสียงด้านจิตรกรรมประดิษฐ์อักษร ใครที่เจอเขาต่างก็ต้องล่าถอยให้
ยิ่งทำให้เฉินเจียวรู้สึกโมโหมาก คิดไม่ถึงว่าแม้แต่เหลยข่ายก็ยังมาชื่นชมซูฉิง
“ไม่กล้า ไม่กล้า ท่านอาวุโสเหลยชมเกินไปแล้ว”
ซูฉิงรีบตอบปฏิเสธ มีท่านอาวุโสมาร่วมงานเยอะมาก ถ้าหากพูดอย่างนี้ออกไป ยิ่งจะทำให้คนโกรธแค้นมาก
“ทั้งกตัญญูทั้งมีมารยาท ท่านฮ่อ ว่าที่ภรรยาของหลานชายของคุณไม่เลวจริงๆ”
คิดไม่ถึงว่าเหลยข่ายจะชมซูฉิงต่อหน้าทุกคนอย่างนี้ ยิ่งทำให้ซูฉิงในสายตาของทุกคนนั้นสูงขึ้น
“ไม่หรอก เธอก็แค่เป็นเด็กคนหนึ่งก็เท่านั้น”
คุณปู่ฮ่อที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกแปลกเลยรีบพูดปฏิเสธ
“เป็นเด็กจริงๆ งั้นก็มาเป็นลูกศิษย์ของฉันมั้ย เรียนรู้ต่อไปก็ไม่ใช่เด็กแล้ว”
ทุกคนที่ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ
เหลยข่ายให้ซูฉิงมาเป็นศิษย์ต่อหน้าคนมากมายอย่างนี้ ตำแหน่งนี้มีคนตั้งมากมายอยากจะได้
“เรื่องนี้ จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง”
คุณปู่ฮ่อคิดว่าไม่เหมาะสม เลยคิดจะปฏิเสธ แต่ใครจะรู้ว่าเหลยข่ายจะพูดออกมาอีกครั้ง
“เฮ่อ เรื่องนี้คุณตัดสินเองไม่ได้หรอก ผมต้องถามความคิดเห็นของคุณซู”
ซูฉิงกลืนน้ำลายอึก เธอต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่เพ่งมองมาทางเธอ เธอได้แต่ทำหน้านิ่ง
“ท่านอาวุโสเหลยนั้นฝีมือเยี่ยมยอด แต่ว่าฉันตอนนี้ไม่มีความคิดนี้ ต้องขออภัยด้วยค่ะ”
หลังจากซูฉิงพูดจบก็ยิ้ม ด้วยสีหน้าเรียบ