นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 656 ความสามารถกับพรสวรรค์มีความสัมพันธ์กัน
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 656 ความสามารถกับพรสวรรค์มีความสัมพันธ์กัน
ทันใดนั้นรายชื่อผู้เข้าแข่งขันก็ปรากฏตัวเลขขึ้นมา
“ซูฉิง…….3!”
ซูฉิงพูดพึมพำอยู่คนเดียว แววตาหดลง การแข่งขันครั้งนี้ตนได้ที่3
“ยินดีกับคุณหลี่เจินด้วยที่ลำดับที่หนึ่ง มีคุณสมบัติเข้ารอบสิบในหกคนสุดท้ายและสามารถผ่านเข้ารอบห้าคนสุดท้าย เข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้าย!”
เสียงพิธีกรดังขึ้น ซูฉิงตบเข้าที่หน้าอกของตัวเอง แล้วก็ยิ้มออกมา
“ขอบคุณ ขอบคุณทุกคนมากค่ะ”
คุณหลี่เจินก็น้ำตาไหลออกมาจากหางตา ด้วยความดีใจที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้
พิธีมอบรางวัลได้ถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เพียงไม่นานซูฉิงข่าวของซูฉิงผ่านเข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันก็ดังก้องไปทั่วประเทศ
คนทั่วประเทศต่างก็รู้สึกเหลือเชื่อ มองดูหน้าจอก็เห็นซูฉิงรับรางวัลพร้อมกับถือถ้วยรางวัล ผู้รับผิดชอบรางวัลได้เดินมาข้างหน้าซูฉิงเพื่อมอบรางวัลให้กับเธอ
ซูฉิงเข้ามาถึงการแข่งขันรอบสุดท้าย ทุกคนต่างก็มองหน้าสบตากัน ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าซูฉิงจะต้องตกรอบตั้งแต่รอบแรกแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ดีอย่างนี้!
นึกถึงก่อนนี้ที่กู้ชวนเคยเปิดเผยผลงานแกะสลัก ซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกที่ซูฉิงเข้ารอบแรก!
ผู้ชมต่างก็รู้สึกเสียใจภายหลัง นึกถึงก่อนหน้านี้ตเคยพูดสบประมาทซูฉิงเอาไว้เยอะ ตอนนี้หน้าแตกรู้สึกเจ็บแสบไปทั้งหน้า
เทคนิคการแกะสลักของซูฉิงนั้นได้รับการยอมรับจากทุกคน แต่ว่าก็มีคนในวงการจิตรกรรมและพู่กันจีนที่ยังไม่ยอมรับซูฉิง
ชาวเน็ตต่างก็ชื่นชมเทคนิคการแกะสลักของซูฉิง แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ไม่พอใจ และต่อว่าเรื่องผลงานของซูฉิง
“ไม่ใช่มั้ง คงไม่มีใครที่จะทำให้เธอชนะได้ ตันชิงของซูฉิงไม่เท่ากับหมิงหยุนชางเลย ครั้งนี้ได้รับชัยชนะ ก็คงจะดวงดีเท่านั้นแหละ!”
พอคำพูดนี้พูดออกไปทำให้พวกชาวเน็ตต่างก็เปลี่ยนทิศ ก็มีไม่น้อยที่พูดเรื่องตันชิงของซูฉิง
“ใช่แล้ว ก่อนหนี้เธอไม่ใช่ว่าใช้ความเป็นศิษย์ของคุณเหลยแล้วอวดเบ่งหรอกหรอ ถ้าหากว่าตนมีความสามารถจริงจะพึ่งคนอื่นทำไม!”
พวกชาวเน็ตต่างก็ถกเถียงกันเรื่องตันชิงของซูฉิง ยังมีคนนำเอาหมิงหยุนชางเปรียบเทียบกับซูฉิง และมีคนไม่น้อยเริ่มด่าทอซูฉิง โดยไม่สนใจว่าเธอเป็นตัวแทนรับรางวัลระดับชาติ
และซูฉิงเวลานี้กำลังนั่งอยู่ในโรงแรม การแข่งขันแกะสลักเหลือรอบสุดท้ายแล้ว ซึ่งเป็นการแข่งขันวันสุดท้าย อุปกรณ์การสื่อสารได้ถูกนำกลับมาให้แล้ว เธออ่านคำวิจารณ์ในโลกโซเชียล แต่ก็ไม่ได้สนใจ
ซูฉิงเบะปาก มีคนที่ไม่รู้จักเธอจริงมาด่าทอเธอ ซูฉิงที่อ่านคอมเมนท์วิจารณ์แต่เธอก็รู้สึกเฉยชาแล้ว
และตอนที่เธอกำลังจะวางโทรศัพท์ลงเพื่อพักผ่อนนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เธอคิด
ซูฉิงเหลือบมองก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของนายกสมาคมภาพวาดตันชิง
เธอหยิบโทรศัพท์แล้วกดรับสาย:”ฮัลโหล มีอะไรหรอคะ”
น้ำเสียงของซูฉิงพูดตรงๆ ราวกับน้ำไหลออกมา ทำให้คนที่ได้ยินรู้จักสบายใจมาก
“อีกสองวันจะมีการแข่งขันภาพวาดชิงตัน รู้เธอพึ่งแข่งขันการแกะสลักเสร็จ มีเวลาว่างเข้าร่วมการแข่งขันมั้ย”
นายกสมาคมวาดภาพตันชิงดังมาตามสาย คิดว่าเขาคงจะดูพวกคอมเมนท์เสียหายแล้ว
“เข้าร่วมงั้นหรอ”
ซูฉิงฉีกยิ้ม ยิ้มบาง :”คุณจะให้ฉันกดดันพวกเขาหรอ จะเอาอะไรมาแข่งก้น”
“ฮ่าๆ วับหนุ่มทุกวันนี้มีความมั่นใจจังเล”
นายกสมาคมวาดภาพตันชิงเงยหน้าขึ้นหัวเราะ แต่ว่าซูฉิงนั้นมีความสามารถจริง :”ฉันจะให้เธอไปแข่งกับพวกเขาได้ยังไง จะเชิญมาเป็นกรรมการตัดสินต่างหาก ถ้าให้เธอเข้าร่วมจริงๆ เกรงว่าพวกเขาจะละอายไม่กล้าสู้แน่”
“น่าจะมีเวลาค่ะ คุณส่งสถานที่และเวลาเข้าเมล์ของฉันได้เลย ฉันมีเวลาแล้วจะไปค่ะ”
ซูฉิงพยักหน้าตอบ สองวันนี้เธอพึ่งแข่งขันเสร็จ เรื่องของบริษัทก็ไม่มีอะไรที่เธอต้องจัดการ และก็ไม่มีอะไรทำ
พอดีกับช่วงนี้รู้สึสึกเบื่อ ก็จะไปดูสมาคมวาดภาพชิงตันสักหน่อย
หลายวันต่อมา ซูฉิงได้รับบัตรเชิญของสมาคมชิงตัน ครั้งนี้ให้เธอไปเป็นกรรมการตัดสิน แล้วไปยืนแต่งหน้าอย่างละเอียด ดูเป็นผู้ใหญ่
ซูฉิงทาลิปสติกสีแดง ทำให้ดูสวยมีเสน่ห์
เธอนั่งรถที่มารับโดยเฉพาะ ระหว่างทางก็มองเห็นพวกพนักงานของสมาคมวาดภาพชิงตัน และเธอก็เดินทางเข้ามาสนามการแข่งขันข้างในสุด
ก็มีคนไม่น้อยเห็นรถของซูฉิง และมองเห็นผู้หญิงบนรถ คิดว่าคุ้นๆหน้า แต่ก็มองไม่ชัดดูไม่ออกว่าคนที่อยู่บนรถคือซูฉิง
การแข่งขันที่เริ่มขึ้น ผู้เข้าร่วมแข่งขันก็ต่อแถวขึ้นไปบนเวที ตรงข้ามเป็นตำแหน่งกรรมการตัดสินนั่งอยู่
เสียงดนตรีดังขึ้น ก็มีเหล่ากรรมการเดินออกมาข้างหน้า
คนแรกที่เดินเข้ามาก็คือนายกสมาคมวาดภาพตันชิง ซึ่งมีชื่อเสียงและความสามารถในวงการวาดภาพตันชิงมาก ดังนั้นครั้งนี้เขาเลยได้มาเป็นกรรมการตัดสินก็ไม่ใช่แปลก
ต่อจากนั้นก็เป็นกรรมการอาวุโสของวงการวาดภาพตันชิง ล้วนเป็นปรมาจารย์ที่หาตัวเจอได้ยาก วันนี้ได้มารวมตัวในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้น
แต่ว่าตอนที่กรรมการคนสุดท้ายเดินมานั้นทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง
ต้นขาที่เรียวราวกับผู้หญิงที่เดินออกมา คนโดยรอบต่างก็รู้สึกตกใจ วงการตันชิงมีหญิงสาวตั้งแต่เมื่อไหร่
สุดท้าย ใบหน้าของซูฉิงปรากฏต่อสายตาของผู้ชมก็ทำให้พวกเขาต่างก็อึ้งตาค้าง
วันนี้ซูฉิงที่แต่งตัวดูสุขุมซึ่งแตกต่างจากวันปกติที่เธออยู่ในชุดสูททำงาน แววตาสุกใสของเธอที่ตอนนี้กลายเป็นดูสุขุมและจริงจัง
กรรมการตัดสินที่มาครบแล้ว และได้มายืนบนเวลา แววตาของทุกคนต่างก็มองไปที่ซูฉิงด้วยความสงสัย
ถึงแม้ว่าอายุยังน้อย แต่การวางตัวนั้นดูไม่แพ้กรรมการอาวุโสของวงการวาดภาพตันชิงเลย และใบหน้ารูปไข่ที่ดูดุดัน ยิ่งดึงดูดสายตาของคนไม่น้อย
คิดไม่ถึงว่าซูฉิงจะได้เป็นกรรมการการตัดสินในครั้งนี้ด้วย นึกถึงการแข่งขันแกะสลักที่เธอประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ ทุกคนก็รู้สึกตกใจขึ่นมาอีกครั้ง
จากนั้นเหล่ากรรมการตัดสินก็เข้าประจำที่นั่ง การแข่งขันก็เริ่มขึ้น
ผู้เข้าแข่งขันคนแรกขึ้นมา ใช้มือทั้งสองข้างทำให้ท้องแสดงพลังออกมา แล้วก็เห็นเป็นแสงสีเขียวออกมา ตันชิงของผู้แข่งขันคนนั้นก็ปรากฏต่อสายตาของผู้ชม
เหล่ากรรมการต่างก็มองอย่างใช้ความคิด ทำให้ผู้เข้าแข่งขันคนนี้รู้สึกประหม่า
จากนั้นก็เห็นผู้รับผิดชอบยื่นไมค์ให้กับซูฉิง ที่ทำหน้านิ่งเรียบ:”ฉันดูออกแล้วว่า ตันชิงของคุณนั้นถือว่าพรสวรรค์ที่เก่งกว่าคนปกติ ฉันพูดถูกใช่มั้ย”
ผู้แข่งขันคนนั้นก็พยักหน้า ซูฉิงก็พูดต่อ:”แต่ว่าพลังสุดท้ายของคุณยังไม่พอ ความสำเร็จนั้นสามส่วนมาจากพรสวรรค์อีกเจ็ดส่วนนั้นมาจากความพยายาม ตันชิงของคุณถึงได้ดูออกว่ายังไม่มากพอ พลังทั้งสองข้างที่ปล่อยออกมาแต่ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนไม่จริงจังทำครึ่งๆกลางๆอย่างนี้แม้จะเกิดมามีพรสวรรค์แต่ไม่รู้จักฝึกฝนก็เสียดายเปล่า”
ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นได้ยินอย่างนั้นก็ก้มหน้าอย่างรู้สึกอาย