นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 659 หลักฐานยืนยัน
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 659 หลักฐานยืนยัน
พวกชาวเน็ตจะต้องให้ความสนใจอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ และก็คิดว่าซูฉิงนั้นด้อยกว่าหมิงหยุนชาง
ขณะเดียวกัน พนักงานของฮ่อยุนเฉิงก็สังเกตว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ พวกเขาจับประเด็นของข่าวของฮ่อหยุนเฉิงในอินเทอร์เน็ต บริษัทที่อยู่ในการแข่งขัน จะเกิดปัญหาอะไรขึ้นไม่ได้เลยรีบเข้ามาคอมเมนท์ชี้แจง
“คุณฮ่อของเรากับคุณหมิงหยุนชางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกัน เพราะภรรยาของฮ่อหยุนเฉิงเถึงได้ไปเจอ รูปบนอินเทอร์เน็ตไม่น่าเชื่อถือ น่าจะเป็นแค่มุมกล้อง ขอให้ชาวเน็ตอย่าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง”
ตระกูลฮ่อได้แชร์โพสต์นี้ออกไป ไม่รอให้เรื่องอื้อฉาวเอาไว้นานก็โพสต์คำชี้แจง ตอนแรกคิดว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไป แต่ใครจะรู้ว่าพวกชาวเน็ตก็จับข้อสังเกตได้
“เรายังไม่ทันได้ว่าอะไรก็ออกมาชี้แจงแล้ว จะไม่เร็วไปหน่อยหรอ”
“หรือว่าตนทำเรื่องเสียหายไว้แล้ว เลยรีบออกมาชี้แจง ถ้าหากว่าไม่ออกมาโพสต์ชี้แจงฉันก็ไม่รู้เรื่องนี้หรอก”
“กลัวว่าฉันไม่รู้ว่าคุณนอกใจหรอ”
…………
คำคอมเมนท์ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และก็มีคนที่ทนไม่ไหวที่จะโจมตีฮ่อหยุนเฉิงเรียกเขาว่าผู้ชายห่วยๆ
ตระกูลฮ่อที่เริ่มอยู่ไม่นิ่ง แต่ตอนนี้แม้พวกเขาแชร์ข้อความชี้แจงไปแล้วก็ไร้ประโยชน์ เพราะเรื่องนี้ถูกชาวเน็ตโจมตีเป็นอย่างมาก
และตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงก็รู้สึกโมโหมากอเขาเองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะถูกชาวเน็ตโจมตีเรื่องนี้
ต้องโทษก็ต้องโทษตัวเองที่ไม่ทันระวัง สนใจแต่อยากจะไปถาม ไม่ได้สนใจว่าจะมีนักข่าวแอบถ่ายเลย
ตอนนี้เขารู้สึกกลุ้ม แต่จะมาเสียใจก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ทำได้เพียงคิดหาวิธีจะแก้ไขยังไงดี
ฮ่อหยุนเฉิงเปิดอ่านคอมเมนท์ คำพูดยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชาวเน็ตต่อว่า”ผู้ชายห่วยๆ” อย่างรุนแรงไม่ยั้ง
“นึกถึงท่านประธานใหญ่จะแอบมีความสัมพันธ์กับศิษย์พี่ของภรรยาตัวเอง หรือว่าเขาคิดว่าซูฉิงเทียบหมิงหยุนชางไม่ได้งั้นหรอ ฮ่าๆ”
“ใครจะรู้ล่ะ แต่ว่าฉันคิดว่า ฉันจะต้องเลือกซูฉิงแน่ แม้ความสามารถเธอจะด้อยแต่เธอก็สวยนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงอ่านคำคอมเมนท์ก็เกิดความโมโหขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าพวกชาวเน็ตจะลามปามอย่างนี้
แต่เขาก็ทำได้เพียงเอาแต่เงียบเก็บความโกรธเอาไว้ในใจ ฮ่อหยุนเฉิงปิดโทรศัพท์ไม่อยากรับรู้คอมเมนท์ด่าทอคำพูดจาร้าย เลือกที่จะปิดปากเงียบเอาไว้ก่อน
ขณะเดียวกัน เขาให้คนของบริษัทจัดการเรื่องนี้ ขอบที่อยู่ในฐานะประธานใหญ่ของตระกูลฮ่อกรุ๊ป จะให้คนมาใส่ร้ายง่ายๆ ไม่ได้
และในขณะเดียวกัน ซูฉิงก็ได้เห็นข่าวอื้อฉาวในโซเชียลแล้ว
เธออ่านคำพูดโจมตีฮ่อหยุนเฉิง และมุมแอบถ่ายของปาปารัสซีที่ถ่ายรูปออกมา ก็ได้แต่ยิ้มพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ
สำหรับฮ่อหยุนเฉิงแล้ว
เธอรู้ดีว่าฮ่อหยุนเฉิงเป็นคนยังไง ไม่ยอมทำเรื่องอย่างนี้แน่
เพียงแค่พวกชาวเน็ตไม่รู้ก็เท่านั้น พูดมากไป เธอบอกว่าแค่ประโยคเดียวก็โต้แย้งมาเป็นร้อยประโยค สู้ไม่สนใจจะดีกว่า
ซูฉิงส่ายหัวเบาๆ แล้วก็เปิดเวยป๋อของตัวเองขึ้นมา จากนั้นก็เขียนข้อความของตัวเองลงไป
ตนที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันสองรายการ ก็ถือเป็นความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ แล้ว ก็ควรที่จะโพสต์ความรู้สึกของตัวเองสักหน่อย
ขณะเดียวกัน ก็ถือเป็นการดึงความสนใจของพวกชาวเน็ตด้วย ถ้าหากเอาแต่โจมตีฮ่อหยุนเฉิง ก็ไม่ส่งผลดีกับใครทั้งนั้น
พอคิดมาถึงตอนนี้ ซูฉิงก็เบะปากออกมา แล้วกดเข้าไปตรงช่องข้อความ แล้วก็กดพิมพ์ข้อความลงไป
“คิดไม่ถึงว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมาจะได้ประสบการณ์มากมาย เข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักและยังทำให้ฉันหาตัวตนของตัวเองเจอ ได้เข้าร่วมเป็นกรรมการการตัดสินตันชิงทำให้ฉันมีความตั้งใจและจริงจัง การแข่งขันสองรายการนี้มีความสำคัญต่อฉันมาก เรื่องที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไป ต่อไปฉันก็จะพยายามต่อไป!”
หลังจากที่ซูฉิงพิมพ์ข้อความเสร็จพร้อมกับแนบรูปเซลฟี่หน้าตัวเองแล้วโพสต์ลงในเวยป๋อ จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
เธอกดดูคนมากดไลค์และคอมเมนท์ เพียงไม่นานก็เห็นว่ามีคนหนึ่งแชร์โพสต์ของเธอ
ซูฉิงกดเข้าไปดู
ดูครั้งแรกก็รู้แล้วว่าเป็นหมิงหยุนชาง
“ศิษย์น้องสวยจังเลย ต่อไปก็สู้ๆ นะ!”
ซูฉิงที่อ่านคอมเมนท์ของหมิงหยุนชางก็กลอกตามองบน แล้วก็ไม่ตอบกลับเธอ
สำหรับคนอย่างนี้ที่ต่อหน้าลับอบ่างหนึ่งลับหลังทำอย่างหนึ่ง ยังโพสต์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนกับเธอ และยังมีเรื่องที่ฮ่อหยุนเฉิงนอกใจอีก ก็ไม่ใช่ว่าตั้งใจให้คนนำไปพูดนินทาหรอกหรอ
ซูฉิงกลอกตาขึ้นครุ่นคิด ถ้าหากตนไม่ตอบกลับเธอ จะยิ่งไม่เท่ากับว่าเรื่องความสัมพันธ์จะเป็นจริงหรอ
ยังมีคำสั่งของเหลยข่าย คิดมาถึงตอนนี้ ซูฉิงก็ได้แต่ตอบกลับไปว่า:”ค่ะ”
เธอมองหน้าจอโทรศัพท์กัดริมฝีปากแน่นพร้อมกับพูดพึมพำกับตัวเอง:”ตอบกลับเธอก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติเธอแล้ว!”
เพียงไม่นาน ซูฉิงก็พบว่าเวยป๋อของตนถูกคนแชร์ไปอีก เธอกดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นเหลยข่าย
“ลูกศิษย์เก่งจังเลย แน่นอนว่าต้องร่ำเรียนมาจากฉัน”
ซูฉิงยิ้มขำ คิดไม่ถึงว่าเหลยข่ยจะตลกอย่างนี้
พอเหลยข่ายแชร์โพสต์ออกไปก็ได้รับความสนใจจากสมาคมจิตรกรรมพู่กันจีนมาก และต่างทยอยเข้ามาชื่นชมซูฉิง
“สวยจัง และยังเก่งอีก ฉันอยากจะแย่งภรรยาของประธานฮ่อจังเลย!”
คอมเมนท์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซูฉิงก็ปิดปากยิ้ม
เพียงไม่นาน โพสต์ในเวยป๋อของซูฉิงก็ถูกคนแชร์ออกไปมาก แม้แต่นายกสมาคมตันชิงก็ยังเข้ามาร่วมด้วย
“เคยเห็นตัวจริง สวยกว่าในรูปอีก”
พอซูฉิงอ่านคอมเมนท์นี้ก็หัวเราะออกมา เพราะแม้แต่นายกสมาคมชิงตันก็เข้ามาร่วมชมด้วย ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเขิน
“ติง–”
เสียงโทรศัพท์ดัง ซูฉิงหันไปมองก็เห็นว่ากู้ชวนมาคอมเมนท์ในเวยป๋อ
“ร้ายจริงๆ ทำไมไม่มีใครบอกฉันว่าลูกศิษย์ของฉันโพสต์รูปเซลฟี่ ทำให้ฉันแชร์ช้าของตาเหลยข่ายนั้น!”
จากนั้นก็มีคอมข้างล่างก็มีเหลยข่ายมาตอบ:”เหอะๆ แสดงว่าฉันใส่ใจลูกศิษย์มากกว่าไง!”
ซูฉิงที่อ่านคอมเมนท์ของคนแก่ที่เถียงก็รู้สึกสนุกมาก แล้วรีบเข้าไปร่วมตอบด้วย:”เรื่องนี้สำคัญหรอคะ สำคัญอยู่ที่ตัวฉันมั้ยอ่ะ!”
ทันใดนั้นก็มีคอมเมนท์หัวเราะของชาวเน็ตตามมา
เป็นอย่างที่คิดไว้ กู้ชวนที่พึ่งแชร์โพสต์ออกไป หลิวเฉิงอวี่ก็เข้ามาแชร์ต่อด้วย และทันใดนั้นโพสต์ในเวยป๋อของซูฉิงก็มีคนกดเข้ามาดูเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นที่สนใจมาก
แม้แต่พวกชาวเน็ตที่ไม่ชอบความคิดเห็นของซูฉิงก่อนหน้านี้ ก็มีทั้งแฟนคลับแอนนตี้และแฟนคลับทั่วไป
ทันใดนั้นเรื่องที่ซูฉิงเข้าร่วมรายการแข่งขันสองรายก็รู้กันโดยทั่วไปแล้ว และยังมีพวกชาวเน็ตบางคนไปหาข้อมูลมา ว่าการแข่งขันทุกรายการล้วนเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติ ยิ่งทำให้ยกย่องซูฉิงยิ่งขึ้นไปอีก
ซูฉิงอ่านคอมเมนท์ ก็รู้สึกดีใจ แต่ไหนแต่ไรมาตนมักถูกโจมตีมาตลอด ครั้งนี้ได้เปลี่ยนฐานะก็รู้สึกไม่ชินเท่าไหร่
แต่คนที่เข้ามาเมนท์ด่าซูฉิงก็ยังมีมาก แต่พอเธอกดเข้าไปดูล้วนเป็นพวกไม่มีรูป ดูก็รู้ว่าพึ่งสมัครเข้ามา