นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 680 จุดจบของการถูกทรยศ
นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 680 จุดจบของการถูกทรยศ
บริษัทเฟิงกรุ๊ปถูกโจมตีทั้งหน้าและหลัง ไม่เพียงแต่บริษัทเฉินที่เผชิญหน้ากับเขา แม้แต่บริษัทฮ่อกรุ๊ปก็ยังโจมตีบริษัทเฟิงกรุ๊ปอย่างดุเดือดอยู่ตลอดเวลา
ตอนนี้ บริษัทเฟิงกรุ๊ปไม่สามารถรับมือได้ และยังขาดเงินทุนอีกด้วย ไม่นานนักก็ไม่สามารถยืนยัดอยู่ได้
เฟิงไป่โจวดูข้อมูลบนหน้าจอที่ค่อยๆลดลง กัดฟัน และไม่คาดว่าบริษัทของเขาจะมาถึงจุดนี้
แต่ บริษัทเฉินกรุ๊ปมีข้อมูลเหล่านั้นของเขาได้อย่างไร? สิ่งนี้ทำให้เฟิงไป่โจวตกอยู่ในครุ่นคิดอย่างไม่ต้องสงสัย
เขามองดูบริษัทเฉินกรุ๊ปแสดงข้อมูลของเขาเอง อย่างที่ทุกคนรู้ มันเป็นเรื่องจริงเท็จอย่างไรเราไม่รู้
เพียงแต่ว่าตอนนี้เขาถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย และก็รับมือไม่ได้เลย
จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย โปรแกรมเมอร์ของบริษัทเฟิงกรุ๊ปก็ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันและก้มหัวให้กันไปทีละคนๆ
บริษัทเฉินกรุ๊ปชนะสงครามธุรกิจนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
เพียงเพราะตอนนี้บริษัทเฟิงกรุ๊ปกำลังถึงจุดตกต่ำลง ก่อนหน้านี้ก็ถูกบริษัทฮ่อกรุ๊ปโจมตี ต่อมาก็ถูกบริษัทเฉินกรุ๊ปจับตาดูเขา และตอนนี้ก็ต้านไว้ไม่ไหวแล้ว
สิ่งนี้ทำให้เฟิงไป่โจวโกรธมาก เขาไม่ได้คาดหวังว่าบริษัทเฉินกรุ๊ปจะงี่เง่าแบบนี้ เมื่อไม่นานมานี้ยังร่วมกันโจมตีตระกูลฮ่อกรุ๊ปด้วยกัน ตอนนี้พวกเขากับเข้ากับบริษัทตระกูลฮ่อกรุ๊ปเพื่อกำจัดเขา!
เฟิงไป่โจวโกรธมาก เขากำลังมองหุ้นของเขาร่วงลงสู่ก้นบึ้งอีกครั้ง ซึ่งทำให้เขาต้องหาวิธีหรือทางออกอื่น
ในความสิ้นหวัง ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของเฟิงไป่โจว นั่นก็คือ หวางปินปิน!
เมื่อไม่กี่วันก่อนหวางปินปินคืนเงินให้เขา และแผนกต้อนรับของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ก็ยังกล่าวด้วยว่าหวางปินปินเป็นลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งทำให้เขาเชื่อ
ในเวลานี้ นอกจากหวางปินปินแล้ว ดูเหมือนว่าไม่มีใครสามารถช่วยบริษัทเฟิงกรุ๊ปได้อีกแล้ว
เฟิงไป่โจวไปที่ถนนการค้าเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่อีกฝ่ายไม่กล้ายื่นมือช่วยเหลือกลุ่มของตระกูลเฟิงกรุ๊ป ภายใต้อำนาจของตระกูลฮ่อกรุ๊ป ซึ่งทำให้กลุ่มของบริษัทเฟิงกรุ๊ปตกอยู่ในสภาวะโดดเดี่ยว
ในเวลานี้ มีเพียงหวางปินปินเท่านั้นที่เต็มใจร่วมมือกับเขา
แม้ว่าคนนี้จะดูไม่น่าเชื่อถือ แต่มีความหวังเพียงเล็กน้อยก็ดีกว่าไม่มี
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฟิงไป่โจวก็กัดฟันและโทรหาหวางปินปิน
“คุณเฟิง” ไม่นานนักสายก็เชื่อมต่อ และเสียงของหวางปินปินก็ดังขึ้น: “คุณเฟิง คุณเปลี่ยนใจแล้วหรือ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเฟิงไป่โจวก็เขินอายเล็กน้อย ด้วยความสิ้นหวัง เขาต้องจึงขอความช่วยเหลือจากหวางปินปิน“ฉันเข้าใจแล้ว”
“เข้าใจแล้วก็ดีครับ คุณเฟิงเข้าใจถูกจริงๆ”
ในเวลานี้หวางปินปินหัวเราะดัง เขาไม่เคยคิดว่าคนอย่างเฟิงไป่โจวจะมีทางเลือกสุดท้ายเป็นกับเขาด้วย
“คุณเฟิง คุณคิดอย่างไร? ถ้าคุณร่วมมือกับฉัน คุณเองก็รู้”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เฟิงไป่โจวก็รู้ถึงเจตนาของอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
เฟิงไป่โจวไปที่อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาโครงการนี้ล่วงหน้า มันต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขางงงวยก็คือ เนื่องจากหวางปินปินเป็นลูกค้ารายใหญ่ ทำไมเขาจึงจะต้องให้บริษัทเฟิงกรุ๊ปเป็นคนออกเงินทุนสนับสนุนอีก?
แต่เฟิงไป่โจวไม่ได้ถามคำถามนี้ออกไป
ตอนนี้เขาถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย หวางปินปินจึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขาแล้ว
“ฉันรู้”
เฟิงไป่โจวตอบรับ “สักพัก ฉันจะให้คนของฉันโอนเงินไป ฉันหวังว่าประธานหวางจะไม่ทำลายความหวังของฉัน และปล่อยโครงการเผยแพร่สู่สาธารณะเร็วๆ ซึ่งนี่มันจะดีสำหรับทุกคน”
ตอนนี้เฟิงไป่โจวอยู่ในความต้องการรายได้เร่งด่วน ดังนั้นจึงจอมจ่ายในราคาที่สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่เขาต้องการจะได้มา ถึงได้โอนเงินให้ไปเท่านั้น แล้วเขาก็จะได้รับรายได้มากขึ้น
“โอเค คุณเฟิงดีนะที่เป็นคนตรงไปตรงมา”
หวางปินปินหัวเราะ จากนั้นเฟิงไป่โจวก็วางสาย
ในไม่ช้าหวางปินปินก็ได้รับเงินที่เฟิงป่โจวโอนมา แต่สิ่งที่เฟิงไป่โจวไม่รู้ก็คือ เจ้าของบัตรธนาคารนี้ ก็คือฮ่อหยุนเฉิง
ในเวลานี้ เขารีบที่จะบรรลุความสำเร็จ และไม่ได้สนใจมันมากนัก เขาโอนเงินทั้งหมดไปยังหวางปินปินโดยตรง
หลังจากที่หวางปินปินได้รับเงินแล้ว เขาก็แจ้งฮ่อหยุนเฉิงทันที
ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดหวังว่าเฟิงไป่โจวจะเชื่อหวางปินปิ และนำเงินทั้งหมดของเขาออก
ฮ่อหยุนเฉิงยกมุมปากขึ้นและยิ้มจาง ๆ เมื่อมองไปที่การโอนเงินในบัตร เขาเองก็นึกไม่ถึงว่าเฟิงไป่โจวยังมีเงินฝากอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งค่อนข้างมากนี้อยู่
เงินทุนของเฟิงไป่โจวหมดลง และเขาก็ยังคงรอผลของโครงการอย่างใจจดใจจ่อ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าบริษัทเฉินและบริษัทฮ่อจะรู้เรื่องบางอย่าง และความเร็วของการโจมตีก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำเอาเฟิงไป่โจวที่ไม่มีเงินทุนอยู่เลย ตั้งรับไม่ทัน
เขากัดฟัน บริษัทเฉินกรุ๊ปและบริษัทฮ่อกรุ๊ปเพิ่มการโจมตีแรงขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าพวกเขาจะต้องรู้อะไรบางอย่างแน่
เขานึกถึงเอกสารของตัวเองในมือของบริษัทเฉินกรุ๊ปอีกครั้ง และตกอยู่ในห้วงความคิดลึกๆ
ทันใดนั้นใบหน้าของเฉินเจียวก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง
ใช่ เฉินเจียวเป็นลูกสาวของเฉินมู่ลู่ เธออยู่ใกล้เขาในทุกวันนี้และจุดประสงค์คืออะไรกัน พอคิดก็รู้ได้ในทันที
เมื่อคิดถึงการพบเฉินเจียวในครั้งล่าสุด ดูเหมือนว่าเขาจะไปประชุมและเอาเอกสารไว้ที่สำนักงาน
เมื่อเขากลับมา ข้อมูลก็หายไป
สิ่งนี้ทำให้เฟิงไป่โจวได้สติอย่างไม่ต้องสงสัย เขาไปตรวจสอบการกล้องวงจรปิดในวันนั้นและเฉินเจียวก็เป็นคนเอาข้อมูลไปจริงๆ
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา บริษัทเฉินกรุ๊ปก็เริ่มโจมตีเขา
เขากัดฟันและกำหมัดอย่างลับๆ เขาไม่เคยคิดว่าเฉินเจียวจะทรยศเขาเช่นนี้!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฟิงไป่โจวก็โกรธมากและมาที่คอนโดของเฉินเจียว
เขาเตะประตูจนเปิดออกและเห็นเฉินเจียวนั่งอยู่ข้างใน
“คุณมาได้ยังไง……”
เฉินเจียวเปิดปากของเธอ มองไปที่ดวงตาที่โกรธมากของเฟิงไป่โจว และเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วนเฟิงไป่โจวก็วิ่งตรงไปที่เฉินเจียวและถามว่า “คุณเอาข้อมูลของฉันไปหรือเปล่า?”
เฉินเจียวไม่เคยเห็นเฟิงไป่โจวหน้าตาแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงส่ายหน้าด้วยความตกใจ “ข้อมูลอะไร ฉันไม่รู้”
“ยังแกล้งงี่เง่าต่อหน้าฉันอีกเหรอ!” เฟิงไป่โจวตะโกน “ฉันถึงว่า ทำไมฉันถึงหาข้อมูลชิ้นนั้นไม่เจอ ที่แท้ก็เป็นเธอที่อยู่เบื้องหลัง ไม่น่าแปลกใจเลยที่จู่ๆ ฉันก็ไปพบคุณที่ถนนในวันนั้นนี่เป็นแผนของคุณตั้งแต่ต้นใช่ไหม?!”
คำพูดของเฟิงไป่โจวทำให้เฉินเจียวเบิกตากว้าง แต่เธอยังคงส่ายหัว “ไม่ ไม่ใช่ฉัน คุณจำคนผิดแล้ว”
“ฉันผิดหวังในตัวคุณมาก” ดวงตาของเฟิงไป่โจวเต็มไปด้วยความหนาวเย็นซึ่งทำให้เฉินเจียวไม่รู้ว่าต้องทำอะไรอยู่พักหนึ่ง
“ไม่ใช่ฉันจริงๆ…”
ตาของเฉินเจียวมีน้ำตาไหล เธอจับมือเฟิงไป่โจว และเริ่มอธิบาย
เฟิงไป่โจวหลับตาแล้วส่งภาพในโทรศัพท์มือถือของเขาให้เฉินเจียว “ตอนแรกฉันก็อย่าจะไว้หน้าคุณอยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าคุณจะไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่คุณทำ ถือซะว่าฉันมองคุณผิดมาตลอดเวลาก็แล้วกัน”
เมื่อมองดูตัวเองในการกล้องวงจรปิด เฉินเจียวก็เปิดปากของเธอ
“นี่คุณจงใจเหรอ?”
เฉินเจียวไม่เห็นกล้องวงจรปิดในสำนักงานในวันนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เฟิงไป่โจวตั้งใจซ่อนกล้องเพื่อติดตามดูเธอ
“ถ้าฉันไม่ทำ ฉันก็จะรู้ได้อย่างไร ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ลับหลังฉัน ”
เฟิงไป่โจวก็ยอมรับอย่างไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งทำให้เฉินเจียวรู้สึกราวกับว่าถูกสายฟ้าฟาดลงทั่วร่างกายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย