นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) - ตอนที่ 425 แผนการใหม่
ตอนที่ 425 แผนการใหม่
รัชสมัยเซวียนลี่ปีที่9 เดือนสิบ วันที่สามสิบ หิมะตกหนัก ณ ด่านภูเขาเยี่ยน
ขบวนส่งตัวในเช้าวันนี้ ได้ถอนทัพออกเดินทางจากด่านภูเขาเยี่ยน เข้าไปยังด่านอันแข็งแกร่งที่ตั้งตระหง่าน และได้เดินเข้าไปในทุ่งหิมะที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ทั้งยังเป็นต่างแคว้นอีกด้วย
ทุ่งหญ้าได้ถูกพายุหิมะกลบฝังมานานแล้ว ทุ่งหิมะอันกว้างใหญ่ไร้ซึ่งผู้คน
ตามหลักการแล้ว แม่ทัพใหญ่เผิงเฉิงอู่แห่งกองทัพชายแดนเหนือได้เสนอคนให้กับคณะทูตจำนวน 1,000 คน เหตุผลเพราะการเดินทางไกลไปเมืองหลวงของแคว้นฮวง พระวรกายขององค์หญิงสามนั้นบอบบาง และเกรงว่าจะมิคุ้นชินกับอาหารระหว่างเดินทาง
คนนับพันนี้กลับมิใช่ทหารของกองทัพชายแดนเหนือ แต่เป็นช่างซ่อมที่คอยรับผิดชอบแนวหลัง ดังนั้นท้ายที่สุดแล้วท่าป๋าชิวจึงยินยอมให้เผิงเฉิงอู่ส่งคนมา 100 คน ให้คอยรับผิดชอบเรื่องปัญหาที่พักและอาหารขององค์หญิง
ไป๋ยู่เหลียนได้แฝงตัวอยู่ในกลุ่มช่างซ่อมหนึ่งพันคน และได้ปลอมตัวให้เหมือนช่างซ่อม
ฟู่เสี่ยวกวนมิได้ไปยังแคว้นฮวง เพราะเขาได้เปลี่ยนแปลงแผนการเดิมแล้ว เดิมทีขบวนส่งตัวจะมิมีทางไปถึงพระราชวังที่สร้างขึ้นใหม่ของประเทศฮวงและจะเดินทางกลับมา…
กำลังรบของดาบเทวะได้สูงกว่าที่เขาคาดหวังไว้มากแล้ว ในปัจจุบันนี้ได้อยู่ในอาณาเขตของแคว้นฮวง พวกเขาได้ไปปล้นสะดมทุ่งเลี้ยงสัตว์ของชาวฮวงมาหลายแห่งจนมีม้าศึกมากเพียงพอ ทั้งยังเปลี่ยนไปใส่ชุดของชาวฮวงทั้งหมด
หลังจากที่ขบวนส่งตัวได้เข้าไปในอาณาเขตของแคว้นฮวงแล้ว ดาบเทวะก็จะปรากฏตัวออกมาอีกครา ขบวนทัพจะเข้าไปปล้น พร้อมกับสังหารท่าป๋าชิวและท่าป๋ายวน หลังจากนั้นก็จะแย่งชิงองค์หญิงสามกลับมา
ส่วนเรื่องรับผิดชอบ ราชวงศ์หยูย่อมต้องซักถามความรับผิดชอบของแคว้นฮวง !
ส่วนเรื่องผลลัพธ์ ฟู่เสี่ยวกวนมิได้กังวลว่าจะก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองแคว้นเลยแม้แต่น้อย
บัดนี้ฟู่เสี่ยวกวนได้ออกไปจากเมืองซินเฉิงแล้ว เขาได้กลับมายังอำเภอผิงหลิง และเพิ่งมาถึงโรงตีเหล็กโจวจี้
หลังจากที่ได้ค้นคว้าในหลายวันที่ผ่านมา โจวเถียเจี้ยงก็ได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับกรรมวิธีการหลอมเหล็กกล้าใหม่นี้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
“คุณชายโปรดดู ความแข็งแกร่งของเหล็กกล้านี้ได้สูงกว่าเหล็กไปอีกขั้นแล้ว แต่ข้าน้อยคิดว่ายังคงต้องใช้เวลาในการปรับปรุงอีกมาก ในหลายวันมานี้ข้าน้อยคิดมาตลอดว่าแท้จริงแล้วปัญหาผุดมาจากที่ใด และจากที่ได้มองในวันนี้คาดว่าเป็นเพราะอุณหภูมิเตาคั่วของข้าน้อยไม่เพียงพอ จนทำให้ปริมาณสิ่งเจือปนในเหล็กหลอมที่ข้าทำออกมายังคงสูงอยู่”
“แน่นอนว่า นี่คือวัสดุหลังจากที่ได้ใช้กรรมวิธีการหลอมของคุณชาย…” โจวเถียเจี้ยงหยิบเหล็กขึ้นมาหนึ่งก้อนและส่งให้กับฟู่เสี่ยวกวน “ชิ้นส่วนนี้คือผลผลิตหลังจากที่เมื่อวานข้าน้อยได้ใช้กรรมวิธีการหลอมร้อยครั้ง ความแข็งแกร่งรวมไปถึงความทนทานของมันได้มาเหนือกว่าวิธีการชุบเหล็กของข้าน้อย”
ในหลายวันนี้โจวเถียเจี้ยงหมกมุ่นอยู่กับกรรมวิธีการคั่วเหล็กกล้าแบบใหม่ ฟู่เสี่ยวกวนได้ให้ตั๋วเงินจำนวน 1,000 ตำลึงกับเขามา เขาใช้ตั๋วเงินนี้ในการซื้อวัสดุจำนวนมาก และแน่นอนว่าเขาได้จ้างหมอที่ดีที่สุดมารักษาบุตรชายของเขาแล้ว
เขาได้หลอมเหล็กกล้าออกมาหนึ่งชิ้น ใช้วิธีการคั่วเหล็กกล้าที่ฟู่เสี่ยวกวนให้มา วิธีการนี้สำคัญต่อยุคสมัยนี้มากยิ่งนัก กล่าวได้ว่าในวันนี้สามารถผลิตเหล็กกล้าด้วยวิธีนี้ได้แล้ว
แต่เขาก็ยังคงรู้สึกว่าเหล็กกล้านี้ยังมิสมบูรณ์มากพอ หากสามารถพัฒนาความทนทานและความแข็งแกร่งขึ้นไปได้อีกขั้น นี่ต่างหากถึงจะเรียกได้ว่าเป็นความก้าวหน้าของยุคสมัยอย่างแท้จริง
ฟู่เสี่ยวกวนครุ่นคิด ดูเหมือนว่าของสิ่งนี้จะเข้ากันได้กับเตาหลอมเหล็กทรงสูง อุณหภูมิของเตาหลอมเหล็กทรงสูงสามารถสูงได้ถึง 1,200 องศา แต่โจวเถียเจี้ยงมิสามารถออกไปจากที่นี่ได้ เช่นนั้นจะทำเยี่ยงไรดี ?
เขาหยิบเหล็กกล้าขึ้นมาดูโดยละเอียด เคาะไป เขย่าไป ดีเยี่ยม !
เมื่อมีสิ่งนี้ มิว่าจะเป็นปืนคาบศิลาหรือปืนใหญ่หงอีก็จะได้รับการปรับปรุงจนดีขึ้นไปอีกขั้น นอกจากนี้ยังพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่และอาวุธของกองกำลังดาบเทวะให้ดีได้อีกด้วย
แน่นอนว่า การประยุกต์ใช้เหล็กมีตลาดที่กว้างขวาง เพียงแต่หากผลิตสิ่งนี้ออกมาได้ ลำดับแรกจะถูกนำไปใช้กับอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่เสียก่อน
“หากต้องการเข้าไปดูสายแร่ในภูเขาผิงหลิง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือยามใด ? ”
“เรียนคุณชาย ช่วงระหว่างฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะดีที่สุดขอรับ”
“อือ…” ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้า ยังคงต้องรออีกครึ่งปี การขนส่งเหล็กจากที่ซีซานมายังที่แห่งนี้ค่อนข้างลำบาก
“นำเหล็กกล้าที่หลอมร้อยครั้งชิ้นนี้ไปสร้าง…กระบี่หนึ่งเล่ม ลักษณะเป็นเยี่ยงนี้”
ฟู่เสี่ยวกวนหยิบถ่านขึ้นมาและคุกเข่าลงไปวาดภาพที่พื้น โจวเถียเจี้ยงเองก็คุกเข่าลงไปดูอย่างตั้งใจ เขาไม่ได้รู้สึกประหลาดอะไรกับการกระทำหรือความคิดอันแปลกประหลาดของคุณชายผู้นี้อีกต่อไปแล้ว
คุณชายมิใช่ปุถุชนคนธรรมดาทั่วไปเป็นแน่ !
เขามิทราบว่านามของฟู่เสี่ยวกวนนี้โด่งดังเพียงใดในใต้หล้า เพียงแค่กรรมวิธีการคั่วเหล็กกล้าที่คุณชายเสนอมา ก็ทำให้เขาชื่นชมคุณชายเป็นอย่างมากแล้ว
“กระบี่ยาว 10 ฉื่อ เป็นเส้นตรง ทำสันด้านหลังกระบี่ ปลายกระบี่ยื่นโค้ง ใช้หนังห่อตรงด้ามกระบี่…”
ตีเหล็กมาครึ่งค่อนชีวิต ตีดาบหรือกระบี่มาก็มิน้อย แต่มิเคยพบเห็นอาวุธลักษณะนี้มาก่อน
เขาบอกว่ามันคือกระบี่ แต่มันมิมีความกว้างและส่วนโค้งเฉกเช่นกระบี่ เขาบอกว่ามันคือกระบี่ แต่ก็มิได้ถูกลับให้คมทั้งสองด้าน ดังนั้นเจ้ากระบี่ที่คุณชายท่านนี้กล่าวมานั้น จึงทำให้โจวเถียเจี้ยงดวงตาเป็นประกายขึ้นมาอีกครา
“ข้าน้อยจะลองดูขอรับ”
“มิต้องรีบ…” ฟู่เสี่ยวกวนวางถ่านลงแล้วลุกขึ้นยืน และเอ่ยถามว่า “บุตรชายของเจ้าอาการดีขึ้นแล้วหรือยัง ? ”
“ข้าน้อยต้องขอบคุณคุณชายมากยิ่งนัก บุตรชายของข้าอาการดีขึ้นมากแล้วขอรับ”
“เจ้าเตรียมจะให้เขาสืบทอดวิชาของเจ้าหรือไม่ ? ”
โจวเถียเจี้ยงครุ่นคิดไปชั่วขณะ “ข้ามีบุตรชายเพียงคนเดียวเท่านั้น วิชาการตีเหล็กของตระกูลโจวมิสามารถตัดขาดการสืบทอดได้”
“ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งอยากให้เจ้าลองฟัง”
“คุณชายโปรดกล่าว ! ”
“ข้าเตรียมจะสร้างสำนักอาวุธแห่งหนึ่งขึ้นที่นี่ มีไว้เพื่อสร้างอาวุธ รวมไปถึงกระบี่ที่ข้าได้เอ่ยให้เจ้าฟังเมื่อครู่ แน่นอนว่ายังมีแบบอื่น ๆ อีก นี่จะมิเหมือนโรงเหล็กเล็ก ๆ ของเจ้าที่ทำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ข้าต้องการสร้างขนาดใหญ่ และต้องครอบคลุมไปถึงการคั่วเหล็กกล้าและการหลอมร้อยครั้งด้วย”
“จำเป็นจะต้องใช้ช่างเหล็กจำนวนมาก ข้าสามารถส่งมอบให้เจ้าได้ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่เจ้าก็ยังต้องหาหนทางแก้ด้วยตนเอง”
“สำนักอาวุธแห่งนี้จะมอบให้เจ้าเป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบ ส่วนเรื่องกรรมวิธีการคั่วเหล็กกล้าและการหลอมร้อยครั้ง เจ้าสามารถสอนให้แก่พวกเขาได้ การมองโลกในแง่ดีจะขัดขวางการเจริญก้าวหน้าของแคว้น แท้จริงแล้วเหล็กกล้าชนิดนี้มิได้ดีที่สุด ทั้งยังมีสิ่งที่เรียกว่าโลหะผสม ซึ่งคือการนำวัสดุที่มิเหมือนกันมาเผารวมเข้าด้วยกัน”
“ข้ามิมีเวลามาอธิบายของสิ่งนี้ให้เจ้าฟังโดยละเอียด ต้องให้เจ้าพาพวกเขาค้นคว้ากันด้วยตนเอง แน่นอนว่า การวิจัยนี้มิจำเป็นต้องมีคนจำนวนมาก สิ่งที่จำเป็นคือประสบการณ์ สิ่งสำคัญของที่นี่ยังคงเป็นการสร้างอาวุธอยู่”
“หลังจากที่ข้าเดินทาง เจ้าต้องวางแผนด้วยตนเอง หยิบยกขึ้นมาหนึ่งแผนการ หลังจากนั้นไปหาจางเช่อผู้รับผิดชอบโรงงานปูนซีเมนต์ เขาเป็นพ่อบ้านของข้า ค่าใช้จ่ายรวมไปถึงวัสดุที่เจ้าต้องการใช้ทั้งหมดในที่นี้ ให้เจ้าติดต่อกับเขาโดยตรง แต่บัญชีรายการต้องชัดเจน เจ้ามีความสามารถพอจะทำได้หรือไม่ ? ”
โจวเถียเจี้ยงตกตะลึงทันพลัน คุณชายเชื่อมั่นในตัวเขา !
คุณชายได้มอบกรรมวิธีการคั่วเหล็กกล้าและการหลอมร้อยครั้งให้เขาด้วยตนเอง เขาจะต้องสร้างกระบี่ที่ดีที่สุดในใต้หล้าให้แก่คุณชายให้จงได้ !
ในฐานะช่างเหล็กผู้หนึ่ง ยังมีสิ่งใดที่ดีไปกว่าการหล่อหลอมวัสดุที่ดีที่สุด และการสร้างอาวุธที่แข็งแกร่งกัน
เขาโค้งคำนับ “ข้าน้อยจะทำสิ่งที่คุณชายมอบหมายให้สำเร็จ ! ”
“อือ ข้าจะให้พ่อบ้านจางสร้างโรงงานขึ้นใหม่ทั้งหมดที่ด้านล่างของภูเขาผิงหลิง คาดการณ์ว่าจะสร้างเสร็จและได้ใช้ในวันปีใหม่ ในช่วงหลายวันนี้เจ้าก็เตรียมกำลังคนและความพร้อมเอาไว้ก่อน”
สำหรับความคิดนี้คือความตั้งใจชั่วคราวของฟู่เสี่ยวกวน ความก้าวหน้าของศาสตร์ด้านวัสดุมิได้มาเพียงชั่วข้ามคืน และตอนนี้เมื่อมีการคั่วเหล็กกล้าแล้ว ก็จะสามารถทำให้อาวุธของดาบเทวะแข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ทั้งหมด
ในเมื่อโจวเถียเจี้ยงไปซีซานมิได้ เยี่ยงนั้นก็สร้างสำนักอาวุธขึ้นที่นี่ไปเลย และรับสมัครกองกำลังสำรองของดาบเทวะที่นี่เสีย
ในแผนการของฟู่เสี่ยวกวน กองกำลังพิเศษดาบเทวะ จะต้องมีทหารที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมด 10,000 นาย หลังจากที่กองกำลังนับหมื่นนายนี้ถูกสร้างขึ้นมาจนสำเร็จ จึงจะสามารถไปนำธงของแคว้นฮวงมาได้ !