นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) - ตอนที่ 53 การกำเนิดปูนซีเมนต์
ตอนที่ 53 การกำเนิดปูนซีเมนต์
เวลาผ่านพ้นราวปลายนิ้วสัมผัส เพียงพริบตาก็ได้มาถึงรัชสมัยเซวียนลี่ที่ 8 เดือนแปด วันที่ห้า
ฟู่เสี่ยวกวนได้เข้ามาอาศัยอยู่บนเขา ด้านหลังของเขาซีซานเป็นเวลา 3 วัน
การเตรียมการสร้างปูนซีเมนต์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และในวันนี้ ก็จะเริ่มขั้นตอนของการผลิตแล้ว
น้ำตกยังคงไหลลงมาจากยอดเขา เสียงฟ้าร้องคำราม กังหันน้ำขนาดใหญ่ทั้งสามอยู่ด้านใต้ของน้ำตก ส่งผลให้เครื่องโม่หินหมุนเป็นรอบไปอย่างช้า ๆ
“ใส่ส่วนผสมลงไป ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนคำรามลั่น เพื่อสร้างความกระตือรือร้นให้แก่คนงาน
“ใส่ส่วนผสมลงไป ! ”
เสียงเริ่มดังขึ้นมาทีละคน คนงานจำนวนมากใส่หินปูนและหินตากแห้งที่เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้วลงไปในร่องบดทั้งสอง จากนั้นก็มีเสียงดังกรอบแกรบตามมา หินปูนเหล่านั้นถูกบดละเอียดโดยเครื่องโม่หิน
และใส่กากแร่ลงไปอีกร่องบดหนึ่ง ด้วยเนื้อผิวของกากแร่ที่ค่อนข้างแข็ง ดูแล้วต้องใช้แรงอย่างมาก หากเปลี่ยนเป็นถลุงเหล็ก คิดแล้วว่าน่าจะใช้แทนได้
เขาทำได้แค่เพียงใช้วิธีที่ง่ายดายที่สุดมาเป็นวิธีการจัดการในเบื้องต้นเท่านั้น แน่นอนว่า เขาไม่รู้วิธีการประมวลผลในขั้นสูง
หากเพิ่มกังหันน้ำและเครื่องโม่อีกเล็กน้อย การก่อสร้างเรือนซีซานน่าจะพอเป็นไปได้ สำหรับการสร้างถนน…เขาอยากจะสร้างถนนตั้งแต่ซีซานจนไปถึงหลินเจียงให้เป็นถนนปูนซีเมนต์ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะยังไม่ง่ายนัก
เขาได้สอนกระบวนการและอัตราส่วนทั้งหมดของปูนซีเมนต์ให้แก่เฟิ๋งซี และในวันนี้ขั้นตอนทุบให้แหลกก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ก็ไม่มีเรื่องที่เขาต้องจัดการมากแล้ว
เขายืนมองฉากกังหันลมและเครื่องโม่แรงน้ำ รวมไปถึงโรงเก็บของและเตาเผาขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปนั้น ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มออกมาน้อย ๆ
ทันทีที่เขาผลิดปูนซีเมนต์สำเร็จ ก็สามารถเริ่มสร้างโรงงานซีซานได้ในทันที เริ่มแรกสร้างโรงงานสบู่หอมกับสบู่ไขมันขึ้นมาก่อน นี่เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด หลังจากนั้นก็สร้างโรงงานน้ำหอม เพราะดอกไม้เหล่านั้นยังคงไม่บาน และเป็นเพราะเครื่องแก้วของหยู๋จงถานก็ยังไม่เสร็จดี
คนงานกำลังทำงานกันอย่างขะมักเขม้น ผงที่ได้รับการบดเรียบร้อยแล้วถูกเทลงไปในหลุมใหญ่ภายใต้การสั่งการของเฟิ๋งซี หลังจากนั้นก็เทน้ำลงไป คนกลุ่มใหญ่ก็ใช้ไม้ในมือกวนไปมา
“หยุด ! ”
“ข้าบอกให้หยุดเทน้ำ แต่พวกเจ้าจงกวนต่อไป”
เฟิ๋งซีประหม่าอย่างยิ่ง นี่คือครั้งแรกของเขาที่รับงานใหญ่หลวงเฉกเช่นนี้ นี่คือความเชื่อมั่นของคุณชาย ห้ามทำพลาดเด็ดขาด
เขาหยิบยกไม้พายขึ้นมา แล้วใช้มือบีบโคลนที่อยู่บนนั้น พร้อมทั้งตะโกนบอกคนข้าง ๆ “ต้าต้าน ไปเอาไม้พายสองสามอันมาวางบนนี้ กวนได้ไม่เสมอกันแล้ว เร็วเข้า ! ”
ไม้พายสองสามอันถูกวางไว้บนปากหลุม “ขึ้นไป ขึ้นไป 20 คน เทน้ำ หากข้าบอกให้หยุดก็ต้องหยุดในทันที ! ”
“เหล่าหลี่โถว ตั้งเตาเผา ไฟไม่ต้องแรงเกินไป ! ”
“ขอรับ ! ”
ทันใดนั้นเตาเผาก็ลุกโชนขึ้นมา ควันหนาราวกับเมฆหมอกกำลังตกลงมาปกคลุม
ผ่านไปได้ 1 ชั่วยาม เฟิ๋งซีถึงได้คิดว่าน้ำปูนซีเมนต์ที่อยู่ในหลุมนั้นน่าจะได้แล้ว
“ขึ้นเตา ! ”
“เหล่าหลี่โถว เจ้าอย่าโหมไฟมากจนเกินไป ประเดี๋ยวข้าจะเรียกเจ้า”
“ขอรับ ! ”
โคลนชุดแรกที่อยู่ในหลุมได้ถูกเทลงไปในเตาเผาแล้ว จากนั้นเวลาก็ได้ผ่านไปแล้วอีกหนึ่งชั่วยาม เฟิ๋งซีตะโกนลั่น “เหล่าหลี่โถว เติมไฟอย่างเต็มที่อย่าได้หยุด!”
……
…..
ฟู่เสี่ยวกวนยืนมองอยู่ห่างออกไป เขาเองก็มิรู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ เพราะเขามิทราบว่าเจ้าสิ่งนี้ต้องใช้เวลาเผานานเท่าใด เขาเพียงแค่พูดกับเฟิ๋งซีไว้ว่ามันต้องเผาให้เหลวเป็นน้ำก่อนแล้วค่อยนำไปทำให้เย็นตัว และเฟิ๋งซีก็ได้ไปหาเหล่าหลี่โถว เหล่าหลี่โถวกล่าวว่าต้องใช้เวลาเผาประมาณ 5 ชั่วยาม
เยี่ยงนั้นก็เผาดีกว่า เผามันอีกครา ตราบใดที่ไปในทิศทางที่ถูกต้อง เยี่ยงนั้นอย่าได้กลัวพลาดพลั้ง นั่นคือสิ่งที่ฟู่เสี่ยวกวนพูดกับเฟิ๋งซี อีกอย่างเฟิ๋งซีก็ไม่อยากพลาดพลั้ง
ดังนั้นพอตกค่ำ ทุกคนจึงไปทานมื้อค่ำ และกลับไปทำงานต่ออย่างขยันขันแข็ง
ฟู่เสี่ยวกวนมิได้เปิดเตาเล็ก สามวันที่ผ่านมาเป็นเยี่ยงนี้ เขารู้สึกประทับใจให้กับหลายร้อยคนที่อยู่ที่นี่เป็นอย่างยิ่ง
“คุณชายผู้สูงส่งได้มาเฝ้ารออยู่ที่นี่ อย่าได้อู้งานเชียว ! ”
“พวกเจ้าตั้งใจทำงานกัน คุณชายกำลังเฝ้ามอง เขาไม่มีทางปฏิบัติกับพวกเจ้าไม่ดีเป็นแน่ !”
“……”
ความจริง ฟู่เสี่ยวกวนไม่คุ้นชินกับอาหารเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถทนให้ท้องหิวได้ ทำได้เพียงนึกย้อนไปยังปีนั้นที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่ เปลือกของผักป่าก็เคยกินมาแล้ว ดังนั้นอาหารที่อยู่ตรงหน้าจึงกลายเป็นอร่อยขึ้นมาทันที
เป็นเพราะหลายวันที่ผ่านมานั้นผ่านไปได้สบายเกินไป
คิดได้ว่าการเผานั้นใช้เวลาอย่างยาวนาน แต่การเย็นตัวนั้นก็ใช้เวลานานยิ่งกว่า ฟู่เสี่ยวกวนกลับมายังภายในห้องของตนเอง นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างพิเศษ เขาไม่คุ้นเคยกับการนอนเบียดกับผู้คนเป็นจำนวนมากในเตียงเดียวกัน
นั่งสมาธิเพื่อฝึกฝนคัมภีร์พระสูตรเก้าหยางอยู่ชั่วครู่ เขาจึงหลับลงในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังเยี่ยงนี้ได้
ทันทีที่รู้สึกตัวตื่น เขาก็ลุกขึ้นมาขยับร่างกายเล็กน้อย จึงได้เห็นเฟิ๋งซีปรี่เข้ามาราวกับบิน ด้วยดวงตาแดงก่ำ
น้ำเสียงของเฟิ๋งซีนั้นดูตื่นเต้นอย่างมาก “คุณชายขอรับ ท่านดูนี่เถิด ปูนซีเมนต์ได้มีรูปลักษณ์เยี่ยงนี้หรือไม่”
ฟู่เสี่ยวกวนรีบรับมันมาดู ปูนซีเมนต์ได้แข็งตัวแล้ว เขาเองก็มิรู้ว่าสิ่งนี้แท้จริงแล้วใช่ปูนซีเมนต์หรือไม่ แต่อย่างน้อยสีของมันก็ดูเหมือนอยู่
“นำเจ้าสิ่งนี้มาบดเป็นผง”
เฟิ๋งซีได้นำไม้มาบดปูนซีเมนต์ในถังนี้ให้เป็นผง “ไป ไปยังริมแม่น้ำ”
ฟู่เสี่ยวกวนนำกระบวยขึ้นมาเทน้ำอย่างระมัดระวัง กวนให้เข้ากัน หลังจากนั้นก็เรียกให้เฟิ๋งซีนำอิฐที่เหลืออยู่บนเตาเผาลงมาสองก้อน เขาทาปูนซีเมนต์นี้ลงไปบนอิฐ หลังจากนั้นก็วางซ้อนกัน
“รอสักประเดี๋ยวให้แห้งก่อน หากสองก้อนนี้ยังคงติดกัน ก็แปลว่าประสบความสำเร็จแล้ว ยิ่งแข็งยิ่งดี วางไว้ก่อนอย่าเพิ่งขยับ”
เฟิ๋งซีปกป้องก้อนอิฐสองก้อนนี้ราวกับเป็นก้อนทองคำก็ไม่ปาน เฝ้ามาได้ 1 ชั่วยามแล้ว
“มีการเปลี่ยนแปลงขอรับ”
“หยิบขึ้นมาดูสิ”
“ถ้าเยี่ยงนั้น เชิญคุณชายได้ไหมขอรับ?”
“อย่ากล่าวเรื่องไร้สาระ รีบทำเร็ว ๆ เข้า”
เฟิ๋งซียื่นมือออกไปด้วยความประหม่า ลอบกล่าวภายในใจว่า ขอพระเจ้าประทานพร มันต้องติดสิ!
เขาหยิบก่อนด้านบนนั้นขึ้นมา หลังจากนั้น… ก้อนด้านล่างก็มิได้ร่วงหล่นแต่อย่างใด
“สำเร็จแล้วอย่างนั้นรึ ? ”
“เจ้าลองสะบัดดูสิ”
เฟิ๋งซีสะบัดไปมาเบา ๆ ก็ยังมิมีการขยับ เขาเพิ่มแรงลงไปอีกเล็กน้อย ก็ยังไม่ได้ผล หลังจากนั้นเขาจึงใช้แรงทั้งหมด อิฐสองก้อนนั้นจึงแยกจากกันในที่สุด “นี่…”
“ยอดเยี่ยม ทำไปเยี่ยงนี้ แน่นอน ยามที่ลงมือจงจำไว้ว่าเจ้าต้องจดขั้นตอนการทำงานตลอดกระบวนการ และการใส่อัตราส่วนต่าง ๆ เจ้าสามารถนำปูนซีเมนต์ในปริมาณที่เล็กน้อยมาทดลองได้ เจ้ามิต้องทำตามคำพูดของข้าทั้งหมดโดยไม่คิดที่จะปรับเปลี่ยน หากเจ้าคิดว่าสิ่งที่เจ้าคิดมันดีกว่าก็ปรับเปลี่ยนได้ ต้องเรียนรู้ที่จะคิดค้น รวมไปถึงเครื่องมือเหล่านี้ ต้องคิดค้นขึ้นมาใหม่ทั้งหมด จำได้หรือไม่”
“จำได้ขอรับคุณชาย ! ”
“ปูนซีเมนต์ที่เผาเรียบร้อยจนแห้งแล้วก็ให้บดเป็นผง เมื่อบรรจุเรียบร้อยแล้วให้นำไปส่งที่ซีซาน เท่านี้ ก็เรียบร้อยแล้ว ! ”
“ขอรับ ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนและซูม่อเดินลงเขาไป และมีเสียงกู่ร้องของเฟิ๋งซีตามหลังมา “พี่น้องทั้งหลาย สำเร็จแล้ว พวกเราทำสำเร็จแล้ว!…”
“ใช้ความพยายามอย่างมากเพียงเพื่อให้ก้อนอิฐติดกันเท่านั้นรึ?” ซูม่อเอ่ยขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจ
“ใช่สิ มิได้ง่ายดายเลย”
“แป้งข้าวใช้มิได้หรือ?”
“แป้งข้าวใช้ได้เพียงของที่มีขนาดเล็ก ข้าต้องการใช้กับของที่มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่จนถึงขนาดที่เจ้าไม่มีทางจินตนาการได้”
ซูม่อครุ่นคิด คำพูดนี้ถือว่าสมเหตุสมผล
ทันใดนั้นฟู่เสี่ยวกวนก็เอ่ยถามขึ้นมา “เจ้าว่า หากข้าใช้สิ่งนี้เพื่อสร้างกำแพงเมือง โดยใช้หินฟ้าเป็นฐาน ใช้ปูนซีเมนต์นี้เพื่อยึดติดและทาปูนซีเมนต์เข้าไปอีกชั้นหนึ่ง เจ้าว่าจะถูกทุบจนแตกได้หรือไม่”
ซูม่อชะงักนิ่ง “ข้ามิทราบ แต่อย่างไรการโจมตีเมืองก็มิใช่การทลายทำแพงเมือง”
“อือ ข้าเพียงถามไปเยี่ยงนั้นแล”