นายน้อยเจ้าสำราญ (逍遥小地主) - ตอนที่ 84 ฟู่ต้ากวนรับอนุภรรยา
ตอนที่ 84 ฟู่ต้ากวนรับอนุภรรยา
รัชสมัยเซวียนลี่เดือนเก้าวันที่สิบห้า ฟู่เสี่ยวกวนได้รับจดหมายจากฟู่ต้ากวนหนึ่งฉบับ
เนื้อหาในจดหมายมีเพียงประโยคเดียวนั่นคือ “บุตรชายข้า พ่อจะรับอนุภรรยาเข้าบ้านแล้ว ครั้งนี้รับ 5 คน เจ้าต้องกลับมาร่วมงานเสียหน่อย ทำความรู้จักกับพวกนาง จะได้มิเรียกชื่อผิด”
รวดเร็วเช่นนี้เชียวหรือ ?
ฟู่เสี่ยวกวนอยู่ในความตกตะลึง จากนั้นจึงได้เข้าใจว่าเรื่องนี้ควรที่จะรีบเร่งเนื่องจากฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้คลอดบุตรภายในวันที่สิบห้าเดือนแปดในปีหน้า ฟู่ต้ากวนจะต้องมีบุตรเพิ่ม 5 คน หากไม่รีบแล้วละก็อาจจะไม่ทันการและอาจจะถูกกล่าวโทษว่าขัดขืนคำสั่งของฝ่าบาท เช่นนี้คงไม่ดีแน่
เขาไตร่ตรองดูสถานการณ์ที่เรือนซีซาน หมู่บ้านหวังเจียชุนก็สร้างเสร็จแล้ว โรงกลั่นน้ำหอมซีซานก็สร้างเสร็จแล้ว ส่วนกระจกที่ออกแบบและขนส่งมาจากหลินเจียงก็อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ
สองวันมานี้เขาได้สอนจางเสี่ยวเหมยอีกหลายครั้ง คาดว่านางคงจำได้ขึ้นใจ
ดอกมะลิและดอกกุ้ยฮวาก็ได้เก็บเกี่ยวมาเป็นที่เรียบร้อย ส่วนดอกไม้สดที่ปลูกใหม่นั้นจะต้องรออีกสักเดือนจึงจะออกดอกเบ่งบาน
โรงกลั่นสุราแห่งใหม่นั้นก็สร้างเสร็จแล้วเช่นกัน โดยมีพื้นที่กว้างขวางกว่าเดิมเป็นสิบเท่า เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ลงมือกลั่นสุราเรียบร้อยแล้ว สุราเทียนฉุนและสุราเซียงเฉวียนได้เพิ่มปริมาณการผลิตมากขึ้นไม่น้อย ส่วนยอดสุราซีซานนั้นเพิ่มปริมาณผลิตมากขึ้นถึงสองส่วน เนื่องจากต้องเริ่มกลั่นแอลกอฮอล์เพื่อนำไปใช้ผลิตน้ำหอม
บัดนี้สถานที่ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จก็คือศูนย์วิจัยและพัฒนากับสำนักศึกษา ต่อจากนั้นก็เป็นโรงงานสบู่และลำดับสุดท้ายคือโรงงานผลิตกระดาษ
จดหมายที่เฝิงหล่าวซื่อส่งกลับมานั้นกล่าวว่าถนนที่ภูเขาเฟิ่งหลินตัดเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากภูมิประเทศที่ไม่อำนวยจึงทำให้เกิดความล่าช้า จึงคาดว่าในปลายปีถึงจะสามารถเชื่อมต่อไปยังภูเขาต้วนหุนซานได้
ในจดหมายยังได้กล่าวอีกว่าเขาได้เลือกช่างเหล็กจำนวนกว่ายี่สิบคนและชายร่างกำยำอีกหลายร้อยคนเดินทางเข้าไปในต้วนหุนซานอีกครั้ง เขาต้องการกำลังคนเพื่อสำรวจและศึกษาวิธีการขุดเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้มิได้บอกคุณชาย หวังว่าคุณชายจะเข้าใจ
หากเป็นเช่นนี้ เขาก็จะนำเรื่องระเบิดกับยามากล่าวในวาระการประชุมครั้งหน้า
ฟู่เสี่ยวกวนคิดได้ดังนั้นจึงเรียกจางเช่อเข้าพบและให้เขาไปเรียกหลี่อี้มา
หลี่อี้คอยช่วยเหลืออยู่ที่หลังภูเขาซีซาน และได้กลับมายังเรือนซีซานในตอนเที่ยง
“มาได้จังหวะพอดิบพอดีเสียจริง มาเถอะ มากินข้าวกัน” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยเรียกอย่างอบอุ่น
หลี่อี้ตกตะลึง เขารีบโบกไม้โบกมือแล้วเอ่ยว่า “ข้าน้อยมิบังอาจขอรับ คุณชายมีเรื่องอันใดได้โปรดสั่งมาเถิด อีกประเดี๋ยวข้าน้อยจะกลับไปกินที่เพิงพัก”
“อย่าได้พูดไปให้มากความ ข้าให้เจ้านั่งกินด้วยกันก็จงกินเถิด ซิ่วเอ๋อร์ ช่วยตักข้าวให้หลี่อี้ด้วย”
“เอ่อ….” หลี่อี้ไตร่ตรองอยู่นานมาก หากแต่ว่าคุณชาย จะให้ข้าร่วมโต๊ะกินข้าวกับท่านได้อย่างไร จะไม่เป็นการทำผิดกฎหรือ ? ”
“ที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าเจ้าได้รู้จักข้าไปนาน ๆ กว่านี้ เจ้าจะเข้าใจเอง”
หลี่อี้นั่งลงด้วยจิตใจไม่สงบนิ่ง ชุนซิ่วเดินถือถ้วยใส่ข้าวและตะเกียบมาให้เขา
“กินข้าวกันก่อนเถิด” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยแล้วจับตะเกียบหยิบอาหารใส่ในถ้วยเขา “เดี๋ยวข้าน้อยตักเองขอรับ” หลี่อี้รีบยกถ้วยขึ้นมาเร็วไวและลงมือรับประทาน
“อืม ต้องเช่นนี้สิ… บ้านของเจ้า เมื่อก่อนนี้อยู่ที่ใด ? ” ฟู่เสี่ยวกวนกินไปพลางเอ่ยชวนคุย
“อยู่ที่หนิงโจวอำเภอหุยสุ่ยขอรับ”
“อ้อ…อาศัยอยู่ในอำเภอนั้นหรอกหรือ ? ”
“ขอรับ เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้เกิดขึ้นยามเที่ยงคืน ทุกพื้นที่ถูกน้ำท่วมคล้ายจมอยู่กลางทะเล จึงทำได้เพียงทิ้งบ้านทิ้งช่องแล้วรีบหนีตาย”
“มีญาติคนอื่นอีกหรือไม่ ? ”
หลี่อี้นิ่งลงชั่วครู่แล้วเอ่ยตอบไปว่า “ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน เนื่องจากในตอนนั้นมองอะไรไม่เห็น ทุกคนต่างก็วิ่งหนีตายเป็นพัลวัน ไม่รู้ว่าท่านพ่อและพี่น้องคนอื่นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่”
“คนดีย่อมได้ผลตอบแทน ข้าจะวานให้ขนส่งซีซานช่วยสืบหาให้อีกแรง”
“ขอบพระคุณคุณชายมากขอรับ ! ”
“เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
ฟู่เสี่ยวกวนมิได้เอ่ยคำใดขึ้นมาอีก ทั้งสองคนก้มหน้ากินข้าวต่อ เมื่อกินเสร็จชุนซิ่วจึงจัดแจงเก็บโต๊ะอาหารให้เรียบร้อย และรินชาให้เขาทั้งสอง
“ข้าจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเจ้ามีความรู้ด้านประทัดใช่หรือไม่ ? ” ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยถามขึ้นหลังจากดื่มชา
“ขอรับคุณชาย ตระกูลข้าทำประทัดอีกทั้งคุณภาพดี”
“อืม ข้าต้องการให้เจ้าช่วยทำดินปืนระเบิดให้เสียหน่อย เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าดินระเบิดของตระกูลเจ้านั้นมีส่วนผสมอะไรเท่าไหร่บ้าง ? ”
ในยุคนี้มีประทัดและดินปืนระเบิดเกิดขึ้นแล้วจึงมิใช่เรื่องแปลกอันใด หลี่อี้จึงรีบตอบกลับไปว่า “ส่วนผสมเช่นเดียวกับผู้อื่น ๆ นั่นคือ หนึ่งดินประสิวสองกำมะถันและสามคือถ่านไม้”
ฟู่เสี่ยวกวนพยักหน้าตอบรับว่า “เจ้าจงจำวิธีนี้ให้ดี แล้วไปทดลองทำ อัตราส่วนดินประสิว กำมะถันและถ่านไม้คือ 75 : 10 : 15 จงกล้าที่จะทำการทดลอง ข้ามิได้จะให้เจ้าทำประทัด สิ่งที่จะทำออกมานี้ไม่สามารถทนต่อความชื้น ต้องจุดได้อย่างมั่นคง อีกทั้งขั้นตอนการทำข้าแนะนำให้ใช้กำมะถันและดินประสิวบริสุทธิ์ บดและผสมให้เข้ากันละเอียดที่สุด ซึ่งหมายความว่าข้าต้องการให้สิ่งนี้คุณภาพดีเลิศยิ่งกว่าประทัดของเจ้า อีกทั้งต้องให้ความร้อนสูงยิ่งกว่าประทัดเสียอีก”
หลี่อี้ยกมือขึ้นเกาหัว คุณชายรู้เรื่องราวพวกนี้ได้อย่างไร ?
อีกทั้งส่วนผสมของคุณชายและของเขาแตกต่างกันอย่างไร ? แน่นอนว่าเขาจะทำตามที่คุณชายบอก แต่ระดับความร้อนที่คุณชายกล่าวมานั้นคือสิ่งใดกัน ? และควรวัดกันอย่างไร ?
ฟู่เสี่ยวกวนไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมใด ๆ เขาเอ่ยขึ้นเพียงว่า “เจ้าอาจจะยังไม่รู้กฎของซีซาน เรื่องนี้มอบหมายให้เจ้ารับผิดชอบก็ต้องดูแลให้เรียบร้อย ไม่ว่าเจ้าต้องการกำลังคน กำลังทรัพย์ วัสดุเท่าใด ก็สามารถแจ้งกับผู้ดูแลจางได้โดยตรง เขาจะจัดการให้แก่เจ้า สิ่งที่เจ้าต้องทำนั้นคือการค้นคว้าทดลองอย่างไม่มีสิ่งใดกวนใจ”
“ข้าจะต้องเดินทางกลับไปหลินเจียง ศูนย์วิจัยและพัฒนากำลังก่อสร้าง เจ้าสามารถไปใช้บริเวณที่ก่อสร้างเรียบร้อยแล้วในการทดลองได้ ข้าไม่จำกัดวิธีการทดลองของเจ้า เพียงแต่อย่าทำให้ศูนย์ทดลองระเบิดเสียหายเท่านั้นพอ แน่นอนว่าต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าด้วย”
หลี่อี้พอเข้าใจอยู่บ้าง ความหมายของคุณชายนั้นคือ เขาต้องการดินปืนระเบิดสีดำที่มีแรงระเบิดสูง
“คุณชายโปรดวางใจ ข้าจะไปพบท่านผู้ดูแลจางบัดเดี๋ยวนี้ ข้าจะต้องทำสิ่งที่คุณชายปรารถนาออกมาให้จงได้ขอรับ”
“ไปเถิด”
ฟู่เสี่ยวกวนนั่งพิงอยู่ที่เก้าอี้ครู่หนึ่ง เขาครุ่นคิดและตัดสินใจว่าให้เป็นไปเช่นนี้ก่อน “ซิ่วเอ๋อร์ เตรียมตัวเดินทางกลับหลินเจียง ! ”
……
……
บัดนี้แสงสีส้มระเรื่อได้หายไปจากท้องฟ้าเกือบหมดแล้วมันถูกทาบทับแทนที่ด้วยสีดำของค่ำคืน ขบวนเดินทางของฟู่เสี่ยวกวนกลับมาถึงจวนฟู่แห่งหลินเจียง
ภายในจวนถูกประดับประดาด้วยไฟหลากสี และมีกลิ่นอายของงานเฉลิมฉลองมากมาย
สีหน้าของฟู่ต้ากวนเต็มไปด้วยความลำบากใจ ฟู่เสี่ยวกวนและฉีชื่อกำลังร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน
“ลูกชายข้า พ่อได้เผาพระราชโองการให้แม่ของเจ้าแล้วนะ”
ฟู่เสี่ยวกวนตกตะลึง ฟู่ต้ากวนจึงเอ่ยต่อว่า “เรื่องแบบนี้ ต่อไปจะให้ข้าอธิบายกับแม่เจ้าได้อย่างไร ? พ่อทำได้เพียงเผาพระราชโองการนี้ไปให้แม่เจ้ารับรู้ นางจึงจะเชื่อ”
“ท่านพ่อ……ที่จริงมิต้องทำถึงเช่นนี้หรอกขอรับ แม่ของข้าจากไปกว่าสิบปีแล้ว ข้าคิดว่านางคงอยากเห็นจวนฟู่สนุกสนานเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเป็นแน่”
“เห้อ…จะว่าอย่างไรก็เป็นการไม่ซื่อสัตย์ต่อแม่ของเจ้าอยู่ดี”
“ท่านพ่อ อนุภรรยาทั้งห้านี้ ท่านได้เลือกด้วยตนเองหรือไม่ ? ท่านคงมิได้ไปสุ่มสี่สุ่มห้ารับมาใช่หรือไม่ ? ”
“จะว่าไปแล้วก็น่าแปลกยิ่ง แม่สื่อที่ต้องการช่วยข้าจัดการเรื่องนี้มีมากมายนัก อีกทั้งสตรีที่ยินยอมแต่งงานกับข้าก็มากมี ทุกคนล้วนเป็นสตรีผู้เพียบพร้อม หนึ่งในนั้นมีบุตรสาวของพ่อค้าผ้าด้วย ดังนั้นจึงหาได้ครบห้าคนในเวลาไม่นาน หากแต่งคนหนึ่งก็จัดงานแต่งทีหนึ่งและสามารถเรียกเก็บของขวัญและเงินได้มากกว่า แต่ผู้มาร่วมงานคงจะเบื่อหน่าย ดังนั้นพ่อจึงได้จัดทีเดียวให้แล้วเสร็จไป บ้านเราก็มิได้ขาดแคลนเงินส่วนนั้น”
ฟู่เสี่ยวกวนหัวเราะอยู่ในใจ เขาผู้นี้จะจัดงานแต่งในครั้งเดียว การส่งตัวเข้าหอนั้นมีสตรีถึง 5 คนรอเขาอยู่ ร่างกายของเขาจะรับไหวงั้นหรือ ?