นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 74
ตอนที่ 74 – ความจริง
โรงพยาบาลราษฎร์ที่สอง แผนกฉุกเฉิน
ในห้องพยาบาลในแผนกที่เดิมทีนับว่าว่างเปล่าจู่ ๆ เต็มไปด้วยสมาชิกคุนหลุน
คนหนุ่มเหล่านี้ตอนที่ต่อสู้จับกุมคนร้ายแต่ละคนคึกคักกระปรี้กระเปร่า หลังการต่อสู้สิ้นสุดแต่ละคนนอนลงโอดโอยบนเตียง โวยวายให้คุณพยาบาลสาวฉีดยาแก้ปวดให้พวกเขา
แต่คนเหล่านี้ก็แค่มีแผลถลอก
เริ่มแรกคุณพยาบาลสาวนึกว่าพวกเขาต้องการจะแกล้งเป็นน่าสงสารเพื่อหาเรื่องคุย คนป่วยอย่างนี้พวกเธอเห็นมาเยอะแล้ว เตรียมจะฉีดยาให้พวกเขาเจ็บ ๆ อย่างจงใจกันแล้ว
ภายหลังได้ยินว่าพวกเขาช่วยคนจึงกลายเป็นอย่างนี้ ก็เลยไม่ได้ลงมือโหดเหี้ยม
อีกอย่าง พวกเธอค้นพบว่านักรบหนุ่มเหล่านี้เจ็บปวดจริง ๆ
อันที่จริง ความเจ็บปวดประเภทนี้ที่โลกภายในมีชื่อเรียกโดยเฉพาะ : ผลข้างเคียงโอเวอร์โหลด
คนธรรมดาออกกำลังกายเกินขนาดจะมีกรดแลคติกสะสมในร่างกาย ปวดเมื่อยเป็นที่สุด
แต่ผู้ฉีดยาแปลงพันธุกรรม “เบอร์ต่ำ” จะปวดเส้นประสาทโดยตรงมากกว่า
อย่างเช่น หลิวเต๋อจู้ตอนนี้ถ้าออกกำลังกายเกินขนาดก็จะเจ็บปวด เพราะเขาแค่ฉีดยา FDE-005
ถ้าหลังจากนี้เขาฉีดยา 004, 003 ตามลำดับ ผลข้างเคียงประเภทนี้ก็จะค่อย ๆ หายไป
พยาบาลไม่เคยเห็นเหตุการณ์ประเภทนี้ แต่หูเสี่ยวหนิวเคยเห็นที่โลกภายใน
ถึงเขาไม่ได้ฉีดยาแปลงพันธุกรรม แต่ไม่เคยกินเนื้อหมูก็เคยเห็นหมูวิ่ง
หูเสี่ยวหนิวแอบครุ่นคิดกับตัวเองว่าองค์กรคุนหลุนดูท่าทางจะมีความแข็งแกร่งระดับหนึ่ง
นี่เริ่มทะลุมิติกันไม่นานมากก็หายาแปลงพันธุกรรมได้มากขนาดนี้แล้ว
บอสเจิ้งคนนั้นในโลกภายในน่าจะมีตำแหน่งพอประมาณ
ในขณะนี้ ลู่หยวนถูกหามลงจากรถพยาบาลเป็นคนสุดท้าย สมาชิกคุนหลุนที่อยู่ด้านข้างขยิบตากล่าวว่า “หัวหน้าหน่วยลู่ จัดห้องผู้ป่วยเดี่ยวให้คุณเถอะ เสี่ยวอิงพูดว่าครั้งที่แล้วเขาอยู่ห้องเดี่ยว พยาบาลที่นั่นสวยมาก”
เสี่ยวอิงก็คือคนขับรถแท็กซี่ที่ชนรถคนร้ายคนนั้น ก่อนหน้านี้หลิวเต๋อจู้ถูกคนลักพาตัวใต้ทางด่วน คนที่ขับรถออฟโร้ดชนรถ MPV จนคว่ำก็คือเขา ภายในคุนหลุน มักจะมีฉายาว่าผู้กล้าท้าตาย*
ลู่หยวนขมวดคิ้วกล่าวว่า “ไม่ต้อง คุณเปลี่ยนให้ผมไปอยู่ข้าง ๆ ตัวหูเสี่ยวหนิวนั่น”
“หา?” สมาชิกคุนหลุนอึ้งไป “ฝั่งนั้นวอร์ดใหญ่หนวกหูมากเลยนะครับ”
“ไม่ต้องสนเรื่องนี้” ลู่หยวนคิดแล้วกล่าวว่า “ผมยังมีเรื่องบางอย่างที่คิดไม่ออก จะถามเพื่อนใหม่สี่คนนี้ของพวกเราสักหน่อย จริงสิ คุณให้ปันโส่วไปเช็คตัวตนของพวกเขาหน่อย”
“ครับ” สมาชิกคุนหลุนผลักลู่หยวนที่บาดแผลเต็มตัวเข้าห้องผู้ป่วย
สมาชิกคนนี้มองดูตาปริบ ๆ ว่าลู่หยวนที่วินาทีก่อนยังสงบนิ่งครุ่นคิด วินาทีถัดมาเข้าห้องผู้ป่วยจู่ ๆ เริ่มตะโกนว่าเจ็บขึ้นมา เข้าสู่บทบาทในพริบตา
จนกระทั่งลู่หยวนนอนลงบนเตียงผู้ป่วยติดกับหูเสี่ยวหนิวก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายสักนิด เอาแต่พลิกตัวไป ๆ มา ๆ อย่างเจ็บปวด
หูเสี่ยวหนิวลังเลสักพัก จากนั้นหันหน้ามองไปทางลู่หยวนกล่าวว่า “ขอบคุณพวกคุณที่เร่งมาช่วยพวกผมทันเวลานะครับ”
“ขอบคุณพวกเราย่อมจะสมควรอยู่แล้ว” ลู่หยวนพลิกตัว บาดแผลบนขา, บนเอว, บนหลังเจ็บจนเขาแยกเขี้ยว “เมื่อกี้คุณเห็นไหมว่าตอนที่ผมช่วยพวกคุณเท่มาก ตอนนั้นผมเผชิญกับความตายโดยไม่หวาดหวั่น เผชิญหน้ากับปากกระบอกปืนของคนร้ายยังคงสงบนิ่งเยือกเย็น…… ไม่ดิ ตอนนั้นคุณยังอยู่ในถุงกระสอบอยู่เลย มองไม่เห็น”
หูเสี่ยวหนิว “……”
ลู่หยวนถอนหายใจ “ถ้าบอสเจิ้งเห็นจะต้องเลื่อนขั้นเพิ่มเงินเดือนให้ผมแน่!”
หูเสี่ยวหนิวหันเหหัวข้อไปว่า “แต่ว่า ท่านรู้ได้ยังไงว่าพวกผมเกิดเรื่อง”
ลู่หยวนตอบว่า “คนที่พบว่าพวกคุณเกิดเรื่องไม่ใช่พวกเรา มีคนอื่นน่ะ พวกเราแค่ปะเหมาะพอดีเท่านั้น แน่นอนว่าการจับคนร้ายพวกนั้นก็เป็นหน้าที่ของพวกเรา”
หูเสี่ยวหนิวถามอย่างกังขาว่า “มีคนอื่นเหรือครับ ใคร”
“บอกไม่ได้ครับ” ลู่หยวนส่ายหน้าแสดงออกว่าต้องการทำตามกฎรักษาความลับ
สมาชิกคุนหลุนคนหนึ่งถือถุงพลาสติกสีดำเดินเข้าห้องผู้ป่วย “นี่คือมือถือสี่เครื่องที่หาเจอบนรถคนร้าย เป็นของพวกคุณไหม จะเคลมไหมครับ”
หูเสี่ยวหนิวหยิบของตัวองออกมาจากในถุงพลาสติก พาสเวิร์ดยังไม่ถูกเจาะ ยังเป็นโทรศัพท์มือถือที่สมบูรณ์ไร้ความเสียหาย
เขาเปิดออกดู ค้นพบด้วยความประหลาดใจว่าหลิวเต๋อจู้ส่งข้อความวีแชตมาหนึ่งข้อความ “นี่นับว่าเป็นดีลครั้งแรก จำไว้ว่าจ่ายทองคำด้วยนะ”
หูเสี่ยวหนิวตะลึงงัน
ข้อความวีแชตนี้เชื่อมโยงเหตุและผลทั้งหมดเข้าด้วยกัน เป็นหลิวเต๋อจู้ที่ค้นพบว่าตนเองเผชิญหน้ากับอันตราย ดังนั้นสร้างโอกาสให้คุนหลุนลงมือจับคนร้าย ช่วยชีวิตตนเอง
ดังนั้นหลิวเต๋อจู้จึงพูดว่าดีลครั้งแรกสมบูรณ์แล้ว ดีลที่ว่ามานี้ก็คือการช่วยชีวิตตนเองหนึ่งชีวิต
ในพริบตานั้น ภาพพจน์เร้นลับของหลิวเต๋อจู้ยิ่งสูงใหญ่ขึ้นไปอีก
อีกฝ่ายรู้ได้อย่างไรว่าตนเองมีอันตราย แล้วขับเคลื่อนคุนหลุนได้อย่างไร เขาคิดไม่ออก
หูเสี่ยวหนิวคิดแล้วตอบข้อความหลิวเต๋อจู้ว่า “ขอบคุณนะ ความร่วมมือครั้งนี้แฮปปี้มาก ๆ ดีลครั้งแรกผมจะจ่ายราคาเป็นสองเท่า”
หลิวเต๋อจู้ที่อยู่อีกฝากของโทรศัพท์หลังจากอ่านข้อความนี้ก็เบิกบานกับข่าวดีไม่คาดฝันในพริบตา
นี่เป็นสหายผู้ร่วมมือเทพเซียนอะไร บอกว่าให้สองเท่าก็ให้สองเท่า หรือว่านี่เป็นโลกของคนมีเงินเหรอ
อีกอย่าง ครั้งนี้เขาน่าจะสามารถฮุบทองคำหนึ่งแท่งโดยเทพไม่รู้ภูตผีไม่เห็นรึเปล่า
เวลานี้ จู่ ๆ ลู่หยวนถามหูเสี่ยวหนิวว่า “จริงสิครับ พวกคุณถูกจับได้ยังไง ทีแรกผมนึกว่าคนที่คนร้ายจับจะเป็นเจียงเสวี่ย, หลี่ถงอวิ๋น ผลคือเปิดถุงกระสอบจึงได้ค้นพบว่าไม่ใช่ แต่ก่อนนี้ก็ไม่เคยเห็นพวกคุณเลยนะ”
นี่เป็นหนึ่งในข้อกังขาของลู่หยวน
หลิวเต๋อจู้ไปซุ่มอยู่ที่ลานหมายเลขสี่ถนนสิงสู่อย่างไร้เหตุไร้ผล อย่างกับว่ากำลังรอคนร้าย
ตอนที่หลิวเต๋อจู้มาถนนสิงสู่คนขับรถแท็กซี่เป็นคนของคุนหลุน ก็คือเสี่ยวอิงที่ภายหลังชนคนร้าย
เวลานั้นเสี่ยวอิงแอบลองถามหลิวเต๋อจู้ว่ามาทำอะไร หลิวเต๋อจู้บอกว่ามาเอาทองคำ
หลังเหตุการณ์ค้นพบว่าสถานที่เกิดเหตุอยู่ในบ้านเจียงเสวี่ย แต่ไม่เห็นเจียงเสวี่ยกับหลี่ถงอวิ๋น กลับเพิ่มหูเสี่ยวหนิวมาสี่คน
ก่อนและหลังการต่อสู้มีจุดต้องสงสัยมากเกินไปแล้ว
หูเสี่ยวหนิวอธิบายว่า “พวกเราเป็นผู้พักอาศัยใหม่ในตึก 12 นักเรียนของโรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศเมืองลั่ว วันนี้ต้องการจะไปเยี่ยมเพื่อนบ้านห้อง 201 คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนร้ายข้างในพอดี ก็เลยถูกจับ”
“พวกคุณไม่ใช่นักท่องเวลาเหรอครับ” ลู่หยวนกังขา “เป็นแค่ความบังเอิญจริง ๆ?”
“อืม เป็นความบังเอิญครับ” หูเสี่ยวหนิวพยักหน้า
ลู่หยวนยิ้ม ๆ ไม่พูด
เวลานี้ สมาชิกคุนหลุนคนหนึ่งเดินมาจากข้างนอก เขาหยิบเอกสารหนึ่งปึกยื่นให้ลู่หยวนกล่าวว่า “หาเจียงเสวี่ยเจอแล้วครับ เธอกับลูกสาวหลังจากได้รับข้อความเตือนก็ไปอยู่บ้านเพื่อน ก่อนเกิดเรื่องส่งข้อความให้ท่าน แต่ท่านไม่ตอบ”
ลู่หยวนอึ้งไป “ผมไม่ได้รับข้อความนะ”
สมาชิกคุนหลุนชะงักไป “หัวหน้าหน่วยลู่ มือถือท่านโดนตัดแล้ว……”
ลู่หยวนแอบบ่นว่าซวย “โชคร้ายจังนะ แต่ละวัน ๆ เงินเดือนก็น้อยแค่นั้น แม้แต่ค่าโทรศัพท์ยังจ่ายไม่ไหว ก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะนับว่าเป็นการบาดเจ็บจากการทำงานหรือไม่นับ น่าจะนับปะ!”
หูเสี่ยวหนิวอยู่ข้าง ๆ ลังเลเล็กน้อย เขาคิดไม่ถึงว่าเงินเดือนของสมาชิกคุนหลุนจะไม่ได้สูงเลย
ต้องรู้ว่านี่เป็นหน่วยงานที่จัดการกับเรื่องแปลกประหลาด อันตรายสูงยิ่ง ถ้าเงินเดือนใครเขาจะเต็มใจเสี่ยงชีวิตล่ะ
มียาแปลงพันธุกรรมและสกิลเหนือธรรมชาติ ตัวเองออกไปกระทำเรื่องราวได้ตามอำเภอใจ ถึงจะไปเป็นบอดี้การ์ดให้คนรวยก็มีรายได้ขั้นต่ำปีละเป็นล้านแล้ว
นี่ไม่ใช่ยุคสมัยที่มีเงินจะสามารถใช้ผีโม่แป้งเหรอ
หูเสี่ยวหนิวคิดแล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ถ้าทำได้ ผมเต็มใจจะบริจาคให้คุนหลุนในนามส่วนตัว……”
“หยุดเลยครับ” ลู่หยวนขัดคำพูดของหูเสี่ยวหนิว “ถ้าคุณบริจาค ถึงเวลาคุณกับตาสีตาสามีอันตรายพร้อมกัน ผมจะช่วยใครก่อน? เวลานั้นผมได้แต่ช่วยคนที่อยู่ใกล้สุดก่อนถูกรึเปล่า แต่ถ้าตอนนั้นคุณอยู่ใกล้ผมที่สุดจริง ๆ ความยุติธรรมของพวกเราคุนหลุนก็จะถูกคนตั้งข้อสงสัย…… นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมพูด เป็นสิ่งที่บอสพวกเราพูด วางใจเถอะครับ บอสเจิ้งของพวกเราร้ายกาจมาก เขาจะหาเงินมาเองแหละ”
ลู่หยวนพูดจบกับเปิดข้อมูล ข้างในถึงกับเป็นข้อมูลตัวตนของหูเสี่ยวหนิวและพวก
สมาชิกคุนหลุนโน้มตัวมากระซิบข้างหูเขาว่า “พ่อเขาคือ…… ย้ายโรงเรียนไปที่ห้องเรียนของหลิวเต๋อจู้……”
ลู่หยวนตะลึงงัน ไม่น่าล่ะพออ้าปากก็จะให้เงิน ที่แท้มีเงินขนาดนี้!
จู่ ๆ เขาหันศีรษะไปจ้องเขม็งถามว่า “หูเสี่ยวหนิว คุณรับปากว่าจะให้ทองคำหลิวเต๋อจู้กี่ก้อน กี่กรัม”
หูเสี่ยวหนิวตะลึงงัน ขณะนี้ลู่หยวนกำลังจ้องเขาเขม็ง คล้ายกับว่ารู้อะไรทุกอย่างหมดแล้ว
เขาลังเลอยู่สองวินาที “ทองคำหนึ่งร้อยกรัม ครั้งนี้ให้สองแท่ง”
ลู่หยวนพูดในใจว่านี่ก็ถูกแล้ว หูเสี่ยวหนิวก็คือผู้ซื้อของหลิวเต๋อจู้
อีกฝ่ายมีเงินมีอำนาจ หาหลิวเต๋อจู้มาซื้อพชทรพยากรโลกภายในก็อยู่สมเหตุสมผล
เขากล่าวกับสมาชิกคุนหลุนว่า “เอาพวกเขาสี่คนลงทะเบียนให้ผมให้หมดเลย มีหนึ่งคนก็นับเป็นหนึ่งคนว่าเป็นนักท่องเวลาทั้งหมด ไม่ผิดไปหรอก”
ขณะนี้ ลู่หยวนรู้สึกว่าตนเองรู้ความจริงแล้ว
……………………………………
* อันนี้แปลมั่วมากกกกก คำต้นฉบับคือ 命硬三郎 ซึ่ง 命硬 แปลได้ว่าคนอึด คนที่ตายยาก ทำนองนี้ ส่วน 三郎 เหมือนเป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นว่าซาบุโร่ เราพยายามหาว่ามันมีการ์ตูนหรือหนังญี่ปุ่นอะไรไหมที่มีตัวละครชื่อนี้แล้วขับรถเก่ง ๆ แต่ยังหาไม่เจอค่ะ ดังนั้นไม่รู้จริง ๆ ว่าฉายานี้มีที่มายังไง
แต่มีสำนวนจีนอีกคำหนึ่งคือ 拼命三郎 ซึ่งแปลได้ว่าผู้กล้าหาญที่พร้อมจะเสี่ยงชีวิต (เป็นฉายาของขุนพลจีนที่ภายหลังสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าชื่อสือเล่อ) ดังนั้นอีกทฤษฎีหนึ่งคือคนเขียนแค่ใช้สำนวนผิดจ้า
สิ่งหนึ่งที่สร้างความปวดหัวพอควรคือเวลาที่คนในเรื่องใช้คำว่า “คุณ” แบบที่สุภาพเป็นทางการเป็นพิเศษ ซึ่งเราแปลว่าท่าน แต่รู้สึกตลอดว่า “ท่าน” มันดูสูงเกินไปหน่อย แต่จะใช้เป็นคุณมันก็เหมือนจะละเลยภาษาต้นฉบับไปนิด
ตอนที่ 75 – นอกเวที