บัญชามังกรเดือด - บทที่ 1 ซูซู
“ครบเวลาห้าปีแล้ว”
“ตาแก่ ฉันทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับคุณแล้วนะ ต่อจากนี้ ถึงเวลาที่ฉันจะไปจัดการเรื่องของตัวเองต่อแล้วล่ะ”
โรงพยาบาลประชาชนที่หนึ่งแห่งเมืองหลงเจียง
ฉินเทียนมองคนที่เดินผ่านไปมาอย่างเร่งรีบและเต็มไปด้วยหลากอารมณ์
ห้าปีก่อน
หลังจากที่ตัดขาดกับครอบครัว เขาก็มายังเมืองเล็กๆ นี่เพียงตัวคนเดียว และหางานส่งอาหารทำ
โดยคิดว่าจะปกปิดตัวตนของตัวเองไปทั้งชีวิต
ใครจะไปรู้ว่าในตอนที่กำลังไปส่งอาหาร จะได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงชะตาของเขา
ก่อเกิดความสัมพันธ์ขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก
หลังจากเกิดเรื่องเขาถึงรู้ว่าเธอชื่อซูซู เป็นแพทย์ฝึกหัดของโรงพยาบาลประชาชนที่หนึ่ง และเป็นสาวสวยอับดับหนึ่งของหลงเจียง
ความบ้าคลั่งในชั่วข้ามคืน สั่นสะเทือนไปทั่วเจียงหลง
ซูซูลากเขาไปที่สำนักงานพลเรือนอย่างเร่งรีบเพื่อขอใบรับรอง
คืนวันวิวาห์ เขากลับถูกชายชุดดำกลุ่มหนึ่งที่รีบร้อนเข้ามาในห้องหอ หักแขนหักขาและโยนลงแม่น้ำนอกเมือง
เขามองเห็นหน้าคนพวกนั้นไม่ค่อยชัด จำได้เพียงคำที่พวกมันพูดก่อนที่จะโยนเขาลงน้ำ:
กล้าแตะต้องผู้หญิงของคุณชายเฟย แกสมควรโดนแล้วไอ้ลูกเต่า…….
ห้าปีผ่านไป เขากลายเป็นราชาเทพที่เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ทำให้คนทั้งโลกหวาดกลัวได้ แล้วเธอล่ะ ยังสบายดีอยู่ไหม ?
“รีบไสหัวไปซะ ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณ !”
“ไม่มีเงินแล้วจะมาตรวจอะไร ? ฉันขอเตือนนะป้า ถ้ายังไม่ไปให้พ้น ฉันจะเรียกรปภ.มาไล่คุณออกไปเดี๋ยวนี้แหละ !”
“ออกไป !”
ความทรงจำถูกเสียงอันหยาบคายขัดจังหวะ ฉินเทียนจึงมองไปตามเสียง
หน้าทางเข้าของโรงพยาบาล มีชายร่างอ้วนในชุดขาวคนหนึ่ง ที่ทั้งผลักทั้งดันแผ่นหลังของหญิงวัยกลางคนที่ดูผ่านร้อนผ่านหนาวมามากคนหนึ่งออกไป
มือของหญิงคนนั้นยังเข็นรถเข็นอยู่
เมื่อมองเห็นหญิงสาวที่นั่งอยู่บนรถเข็น ฉินเทียนก็ตกตะลึง !
ถึงแม้ว่าจะดูไร้ชีวิตชีวาไปบ้าง แต่ด้วยใบหน้าอันไร้ที่ติและร่างกายอันสมบูรณ์แบบนั้น จัดได้ว่าเป็นความงดงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง
เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง !
เป็นเวลาห้าปีที่เขาเพ้อฝันที่จะได้พบเจอกันเธออีกครั้ง
แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้
เทพธิดาที่เคยสั่งสะเทือนความรู้สึกคนทั้งหลงเจียง ตอนนี้กลับกลายเป็นคนพิการนั่งรถเข็นไปเสียแล้ว !
หมอร่างอ้วนที่ชื่อเฉ่าเต๋อ ยกยิ้มมุมปากเอ่ย: “หยางยู่หลัน ยังคิดว่าพวกคุณคือคนโด่งดังของตระกูลซูอยู่อีกเหรอ ?”
“ไม่ใช่ถูกไล่ออกจากตระกูลไปตั้งนานแล้วเรอะ !”
“ไม่มีเงินใช่ไหม ? ผมเพิ่งศึกษาการนวดแผนจีนอยู่พอดี ได้ผลดีกว่าเครื่องกายภาพบำบัดอีกนะ”
“มาเถอะ ไปที่ออฟฟิศผม เดี๋ยวผมจะนวดให้ลูกสาวของคุณฟรีๆ เลย”
ขณะที่พูดก็เอื้อมมือมาผลักรถเข็น
หยางยู่หลันสังเกตเห็นถึงความประสงค์ร้ายของเฉ่าเต๋อ จึงรีบปกป้องลูกสาวในรถเข็นไว้ และพยายามผลักเฉ่าเต๋อออกไป
แต่เฉ่าเต๋อก็ตัวสูงใหญ่กว่ามาก เพียงแค่ผลักมือออกไปส่งๆ ก็ทำให้หยางยู่หลันล้มลงไปกองกับพื้น
หยางยู่หลันจึงสูญเสียการควบคุมรถเข็นในมือไป พุ่งลงบันไดไป
ลูกสาวที่อยู่บนรถเข็นถูกผลักออกไป
“ซูซู !” หยางยู่หลันตะโกนเสียงแหลม
เธอรีบเข้าไปช่วยไว้ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ เท้าก็เกิดพลิกขึ้นมา ทำให้ล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
ในช่วงเวลาที่เป็นอันตราย มีร่างร่างหนึ่งปรากฏขึ้น และกอดหญิงสาวที่กำลังพุ่งมาทางตนเองเอาไว้
“เยี่ยม !” ผู้ชมรอบด้านถอนหายใจด้วยความโล่งอก พร้อมกันปรบมือกันถ้วนหน้า
ฉินเทียนโมโหจนตาแทบหลุดออกจากเบ้า !
รู้สึกถึงร่างกายอันอ่อนแอภายในอ้อมกอด มองดูใบหน้าไร้ชีวิตชีวาตรงหน้า เขากัดฟันเอ่ย: “คุณซู นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?”
“เดิมที่คุณเป็นลูกรักของตระกูลซู ทั้งยังเป็นคนดังในโรงพยาบาล ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ ?”
น้ำเสียงสั่นสะท้านเต็มไปด้วยความปวดใจ
ซูซูมองเขา เหมือนจะตอบโต้อะไรบางอย่าง ในตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและโกรธแค้น
พอเธออ้าปาก แต่กลับพูดไม่ออก
“ฉินเทียน ?”
“ไอ้สารเลว รีบปล่อยลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้นะ !”
หยางยู่หลันรีบเข้ามาคว้าตัวซูซูไปจากอ้อมแขนของฉินเทียน
ฉินเทียนมองไปยังหยางยู่หลัน ลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ยังเรียกคำนั้นออกไปอย่างโง่งม: “คุณแม่”
“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น บอกผมมา”
“ทั้งหมดมันเป็นความผิดของแกนั่นแหละ !”
“แกตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ ? ทำไมถึงยังกลับมาอีก !”
“รีบไสหัวไปซะ พวกเราไม่รู้จักแก !”
“อย่ามารบกวนพวกเรา !” หยางยู่หลานมีท่าทางหงุดหงิดและไม่ยอมรับ
เธอผลักรถเข็น อยากรีบออกไปจากตรงนี้
“จะหนีงั้นเหรอ ? มันจะง่ายดายขนาดนั้นได้ยังไง !”เฉ่าเต๋อรีบเข้ามาขว้างหน้า ยิ้มเย็นพร้อมเอ่ย:
“หยางยู่หลัน ผมเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า พวกคุณมีรายจ่ายที่ยังค้างชำระอยู่”
“ไปคุยกันดีๆ ที่ออฟฟิศผมเถอะ”
หยางยู่หลันพูดอย่างโมโห: “เป็นไปไม่ได้ ! หยูกยาที่พวกเราใช้ต่างก็อยู่ในประกันสุขภาพ มันเบิกจ่ายไปทั้งหมด !”
เฉ่าเต๋อยิ้มเย็นพร้อมเอ่ย: “อยู่ครอบคลุมในประกันสุขภาพจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหัวหน้าแผนกของพวกเราต่างหาก”
“วางใจได้ หัวหน้าแผนกเป็นอาจารย์ของผมเอง แค่ให้ผมพูดอะไรดีๆ แทนคุณนิดหน่อย ทุกอย่างก็ไร้ปัญหา”
“หากปฏิเสธล่ะก็ พวกคุณต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีกอย่างน้อยหลายแสนแน่นอน”
“คุณคงไม่อยากหมดตัวใช่ไหมล่ะ ?”
“ไปกับผมเถอะ !”
เขาตัดสินใจจะกินรวบหยางยู่หลันสองแม่ลูก จึงถือดีเอื้อมมือมาจับรถเข็นอีกครั้ง
หยางยู่หลันตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและไร้ทางสู้
“สารเลว !”
สิ้นเสียงคำรามต่ำ ฉินเทียนก็พุ่งเข้ามา: “ถ้ายังกล้ามาแตะต้องผู้หญิงของฉันอีก ฉันจะจัดการแกซะ !”
เฉ่าเต๋อหัวเราะเสียงดัง: “แกคือคนส่งของที่จับคู่กับคุณหนูใหญ่ซูเมื่อห้าปีที่แล้วงั้นสินะ ?”
“ทำตัวอย่างกับหมา ยังจะกล้ามาเห่าต่อหน้าฉันอีก !”
“จะบอกอะไรให้นะ ฉันน่ะ——”
ฉินเทียนง้างมือ
ผลั้ว !
ด้วยแรงอันมหาศาล เฉ่าเต๋อกุมหน้าพร้อมกับล้มลงไปกองกันพื้น
เขาตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบสนองเหมือนกับหมาบ้าอยากกระโดดกัดคน
ฉินเทียนยกเท้าขึ้นเหยียบศีรษะของเขาพร้อมเอ่ย: “พูดสิ ค่ารักษาพยาบาลมันยังไงกัน ?”
เฉ่าเต๋อถูกทรมานทรกรรมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? เขาถ่มน้ำลายที่มีทั้งเลือดทั้งฟันหลุดออกมาด้วย พร้อมทั้งตะโกนอย่างบ้าคลั่ง:
“ไปตายซะ ฉันจะขุดหลุมฝังศพแกเอง !”
“รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ !”
“ฉันจะฆ่าแก !”
ฉินเทียบออกแรงที่เท้าเล็กน้อย
เฉ่าเต๋อรู้สึกว่าหัวของเขาจะระเบิดเหมือนแตงโมในวินาทีต่อมาแน่ๆ วิญญาณก็แทบหลุดออกจากร่าง
“ฉินเทียน !”
“แกเชื่อไหมว่าถ้าฉันโทรหาหัวหน้าตอนนี้ นังเมียไร้ประโยชน์ของแกจะไม่มีวันได้เข้ามาเหยียบโรงพยาบาลของพวกฉันแม้แต่ก้าวเดียวแน่ !”
“เครื่องมือกายภาพของโรงพยาบาลเราล้ำหน้าที่สุด หากออกจากโรงพยาบาลไป เมียของแกคงกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต !”
“ยังไม่รีบปล่อยอีก !”
ฉินเทียนทำหน้าไร้อารมณ์พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “พวกเหมือนมดปลวดอย่างแก ฉันฆ่าไปแล้วแกจะทำอะไรได้”
เหยียบไปที่หัวหมาตัวนี้
“ฉินเทียน หยุดนะ !”
หยางยู่หลันไม่คิดเลยว่าห้าปีที่ฉินเทียนหายไปจะกลับกลายมาเป็นคนรุนแรงแบบนี้
ภายใต้ความอัปยศอดสู เธอขอร้องทั้งน้ำตา: “หากทำให้พวกเขาขุ่นเคือง แล้วเขาไม่รักษาให้ซูซู แกจะให้ฉันมีชีวิตอยู่ได้ยังไง !”
“หมอเฉ่า ได้โปรดอย่าโทรหาหัวหน้าเลยนะคะ”
“ฉันรู้ว่าทำไมคุณถึงจงใจหาเรื่องฉัน เพราะคุณสงสัยว่าฉันเป็นคนรายงานเรื่องที่พวกคุณรับสินบนใช่ไหม ? ฉันไม่ได้ทำจริงๆ นะ !”
“ฉินเทียนทำให้คุณขุ่นเคือง งั้นฉันจะให้เขาคุกเข่าขอโทษคุณเอง !”
“ฉินเทียน ยังไม่รีบปล่อยหมอเฉ่าอีก และขอโทษด้วย !”
เฉ่าเต๋อถ่มเลือดทิ้ง พร้อมทั้งจ้องไปยังฉินเทียนด้วยความเกลียดชัง ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย
ฉินเทียนเงียบไปครู่หนึ่ง จึงยกเท้าขึ้นพร้อมเอ่ยเสียงเย็น: “โทรไปหาหัวหน้าของคุณให้มาพบฉัน”
ทั้งผู้ชมโดยรอบและหยางยู่หลันต่างก็ไม่นึกไม่ถึงเลยว่า ฉินเทียนนอกจากจะไม่ขอโทษแล้วยังจะให้เฉ่าเต๋อโทรศัพท์อีกด้วย
อำนาจของหัวหน้าแผนกมีมากแค่ไหนพวกเขาต่างก็รู้อยู่แก่ใจ
เจ้าฉินเทียนคนนี้ หรือว่าจะบ้าไปแล้ว ?
“กล้ามากนัก !”
“ไอ้หนู ครั้งนี้แกตายแน่ !”
เฉ่าเต๋อกัดฟันแล้วต่อสายโทรศัพท์