บัญชามังกรเดือด - บทที่ 126 กูจะล้มมันด้วยตัวกูเอง
บทที่ 126 กูจะล้มมันด้วยตัวกูเอง
อะไรนะ?
ได้รับรายงาน พานหู่เดือดเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที
เฉียงหลง ไอ้หมอนี่ นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าที่จะสมรู้ร่วมคิด จัดการหมาป่ารอยบากอย่างสิ้นซาก
“ช่างกลัาจริงๆ!”
“ฉินเทียนต้องเป็นคนบงการอย่างแน่นอน”
“กูจะล้มมันด้วยตัวกูเอง!”
พานหู่ที่อารมณ์เดือนพล่าน เรียกลูกน้องที่ฝีมือดีทั้งหลายเข้ามาในทันที นำแก็งด้วยตัวเอง ตามไปฆ่าถึงหลงเจียง จะลงโทษฉินเทียนอย่างร้ายแรงที่สุด
“รอก่อน!”
พานเหม่ยเออร์เดินออกมาจากข้างนอก
“อะหู่ คนแซ่ฉินนั้นยากที่จะจัดการ พวกเราสู้ไปบอกพี่ชายสองจะดีกว่านะ”
“ขอให้พี่ชายสองตัดสินใจ”
พานหู่ถอนหายใจ แล้วพูดว่า : “พี่สาว คุณไม่ใช่ไม่รู้ ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความเป็นจริงจริงๆแล้ว พ่อของพวกเราย้ำนักย้ำหนา ก่อนวันคล้ายวันเกิดนายท่านอัน ทุกคนห้ามเกิดความผิดพลาด”
“ในวันคล้ายวันเกิดครั้งนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับฐานะทางสังคมของเมืองในภายภาคหน้าของตระกูลพานของเรา ”
“นิสัยที่สุขุมของพี่ชายสองนั้น เขาคงพูดว่าเรื่องนี้รอให้ผ่านวันคล้ายวันเกิดของนายท่านอันไปก่อนค่อยจัดการอย่างแน่นอน”
“งานเลี้ยงวันเกิดยังเหลือเวลาประมาณหนึ่งเดือน คุณอยากให้คนแซ่ฉินมีชีวิตอยู่นานขนาดนั้นเลยเชียวหรือ?”
พานเหม่ยเออร์กัดฟัดหมดคำจะพูด นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในครั้งที่แล้วที่ได้มาเที่ยวที่หลงเจียง เธอก็เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
นั้นเป็นตอนที่เธอได้รับความอับอายอย่างใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตของเธอ
เธอเกลียดอย่างมาก ฉินเทียนเขาจะต้องได้รับการลงโทษที่ร้ายแรงที่สุดในทันที
“งั้นพวกเรามาปรึกษาวางแผนกันอย่างรอบคอบที่สุด”
“ทางที่ดีที่สุด นายไม่ต้องออกโรงด้วยตัวเอง”
“แบบนี้ถ้าเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พี่ชายสองและพ่อ ก็ไม่สามารถตามถึงตัวของพวกเราได้”
พานหู่ระงับอารมณ์ลงกลับมาคิดสักพัก ยิ้มอย่างเย็นชา : “พี่สาว คุณได้เตือนสติผม”
“พอดีที่ในมือของผม ได้ซ่อนไพ่คิงอยู่หนึ่งใบ ยังไม่รู้ว่าจะใช้มันได้ยังไง”
“ในครั้งนี้ ผมจะทำให้ฉินเทียนเอ่ยคำมั่นว่าพวกเขาจะต้องความจงรักภัคดีต่อผม”
พานเหม่ยเออร์รีบถามทันที : “ไพ่คิงอะไร”
พานหู่กระซิบ : “ช่วงก่อนหน้านี้ มีนักฆ่าชาวเอเชีย 2-3 คนถูกตำรวจสากลตามล่า ลักลอบหนีเข้ามาอยู่ที่นี่”
“พวกเขาได้รับการแนะนำผ่านจากเพื่อนข้างนอกให้มาพึ่งฉัน”
“ฉันจัดการให้พวกเขาไปอยู่บ้านพักตากอากาศที่ชานเมืองได้หลายวันแล้ว”
“พี่สาว นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ประสบการณ์อันโชกโชนของพวกเขา คุณว่าไหม?”
พานเหม่ยเออร์กระซิบ : “คนพวกนี้พึ่งพาได้ใช่ไหม”
“นายอย่าลืมนะ แม้แต่ท่านเซียว ยังตายอยู่ในมือคนแซ่ฉิน”
พานหู่ยิ้มด้วยความเย็นชา : “ณ จุดนี้ พี่สาววางใจเถอะ ”
“พวกเขาล้วนเป็นนักฆ่าชั้นยอดในต่างประเทศ ถ้าให้พูดด้านการประลองการต่อสู้ อาจจะเทียบไม่ได้กับฉินเทียน แต่ถ้าจะพูดในด้านการสังหารแน่นอนว่าไม่มีพลาด”
“ผมจะไปเจอกับเขาในตอนนี้เลย!”
พานเหม่ยเออร์พูดอย่างตื่นเต้น : “อะหู่ นายบอกพวกเขา หลังจากเรื่องนี้สำเร็จ ฉันจะตอบแทนพวกเขา 100 ล้าน”
“วางใจเถอะพี่สาว ให้เป็นหน้าที่ผม”
พานหู่เดินออกไปด้วยความกล้าหาญ
“คนแซ่ฉิน คร่าวนี้นายตายแน่!”
“นี้เป็นจุดจบของผู้ที่มารุกรานฉัน พานเหม่ยเออร์”ในสายตาของพานเหม่ยเออร์แสดงออกถึงแววตาแห่งความชั่วร้ายอย่างยิ่ง
เธอเชื่อมั่น ถ้าหากนักฆ่ามืออาชีพที่สุดยอดเหล่านี้ออกโรง ฉินเทียนต้องตายอย่างไม่มีวันฟื้น
“นักฆ่าของเอเชีย?”ได้ยินรายงานจากเหลยเป้า ฉินเทียนยิ้มอย่างเย็นชา : “รู้เบาะแสอะไรไหม?”
เหลยเป้ารีบรายงาน : “ไม่นานมานี้พวกเราได้รับคำสั่งที่ส่งมาจากตำรวจสากล องค์กรนักฆ่าพวกนี้มีทั้งหมด 5 คน หัวโจกมีชื่อว่าแมงป่องไท่”
“ลูกน้องในแก๊งมีชาย 3 หญิง 1 มีรหัสเรียกคือ เคราใหญ่ หมาป่าคราม ผีขาว และเสี่ยวเม่ย ล้วนเป็นทหารรับจ้างข้ามชาติ”
“องค์กรแมงป่องไท่ ไม่กี่ปีมานี้ทุกที่ทั่วโลก ได้ก่อคดีฆาตกรรมอย่างน่าสยดสยองมาแล้วมากมาย ซึ่งจัดอยู่ในรายชื่อในหมายแดงของตำรวจสากล”
“คิดไม่ถึงว่า พวกมันหลบหนีมาถึงประเทศเราได้อย่างคาดไม่ถึง ใจกล้าจริงๆ!”
“เป็นไปได้ไหมว่าพวกมันไม่รู้ว่าพวกเราที่นี่เป็นสถานที่ต้องห้ามของทหารรับจ้าง?”
ฉินเทียนยิ้มอย่างเย็นชา : “นี่เขาเรียกว่ากลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล ทั่วโลกล้วนคิดว่าพวกมันไม่น่าจะหนีมาทางพวกเราได้ แต่พวกมันก็ดันหนีมาที่นี่”
“แก๊งเขี้ยวมังกรของพวกคุณนั้นมีแผนแล้วหรือยัง”
เหลยเป้ารีบเอ่ย : “องค์กรแมงป่องไท่เจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยม ยากที่จะจัดการ ต้องการจัดการพวกมันให้สิ้นซาก ผมยังต้องขอคำแนะนำจากเบื้องบน”
“ไม่ต้องของคำแนะนำแล้ว” ฉินเทียนพูดด้วยเสียงเย็นชา : “ในครั้งนี้ พวกคุณรับผิดชอบการเสนอข้อมูล รูปแบบการเคลื่อนไหว ผมจัดการเอง”
เหลยเป้าพูดอย่างประหลาดใจ : “คุณผู้ชายเตรียมความพร้อมยังไง”
ในสายตาของฉินเทียนสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็น
“คนประเภทนี้ ถ้าหากแก๊งเขี้ยวมังกรพวกคุณออกโรงเอง ก็จะตายคาที่ ทำให้นักสู้อิสรภาพได้ขึ้นชื่อว่าพูดจาเหลวไหลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ในเรื่องการจับกุม การคุมตัว การพิจารณาคดีหรือแม้แต่การส่งตัวพวกนี้ก็ยุ่งยากมากเกินไป”
“เปลืองทรัพยากร”
“ให้ผมออกโรงเอง ส่งพวกมันไปถึงจุดจบเถอะ”
“ปัญหาต่างๆก็พลอยสิ้นสุดไปด้วย ในขณะเดียวกันก็ต้องส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังกลุ่มใต้ดินข้ามชาติ ที่นี่เป็นหลุมฝังศพของพวกมัน
“ไม่อยากตายก็ไม่ต้องมา”
พูดจบฉินเทียนส่งข้อความไปหา ฉานเจี้ยน : โอกาสทองที่จะอวดศักดาของเรามาถึงแล้ว เหลือไว้แค่หวูฉางและอะเปิน ส่วนคนที่เหลือนายเป็นคนนำทีมด้วยตัวเอง
ฉานเจี้ยนตอบกลับทันทีทันใด : รับรองภารกิจลุล่วง
ดังนั้นจึงต้องเหลือผีหวูฉางและอะเปิน ด้านหนึ่งสวนสัตว์ร้ายต้องมีคนดูแลบ้าน นอกจากนั้นความเคลื่อนไหวของหวูฉางมากเกินไป
แต่อะเปินเพิ่งจะเข้ามาไม่นาน ฉินเทียนต้องการให้เวลาเขาปรับตัวสักหน่อย
ที่เหลือนั้นฉานเจี้ยนและชุยหมิงไม่ต้องพูดถึง ล้วนเป็นคนที่มีประสบการณ์สูง ดังนั้นในครั้งนี้ที่ต้องเตรียมตัวก็คือ ถงชวน เถียปี้ และเถียหนิงซวง
“ทุกท่าน ผมได้ยินมาว่าพวกคุณล้วนเป็นนักฆ่าชั้นยอดข้ามชาติ หลายปีมานี้ไม่เคยพลาดเลย”
“ในครั้งนี้ ฝากด้วยนะ”
“ฆ่าเขาได้ พวกนี้เป็นของพวกคุณทั้งหมด”
“แต่ต่อจากนี้ ที่นี่ก็คือบ้านของพวกคุณ ผมจะจัดการให้ที่หลบภัยตลอดชีวิตแก่พวกคุณ”
ในบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งในชานเมือง พานหู่ได้นำกระเป๋ารหัสลับมาเปิดออก
ในกระเป๋า ครึ่งหนึ่งเป็นเงินหยวน อีกครึ่งหนึ่งเป็นเงินดอลลาร์
ข้างบนวางรูปไว้หนึ่งใบ เป็นฉินเทียนนี่เองที่ถือเข็มขัดเป็นแส้
บนโซฟาข้างๆมีชาวต่างนั่งอยู่ 2-3 คน
คนตรงกลาง บนใบหน้ามีรอยสักรูปแมงป่องหนึ่งตัว นี่คงเป็นหัวหน้าองค์กร แมงป่องไท่ อย่างแน่นอน
ด้านข้างคือ เคราใหญ่ หมาป่าคราม ผีขาว และเสี่ยวเม่ย
“เขาชื่ออะไร?”
“รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาดี”เสี่ยวเม่ยโหดเหี้ยมที่มีหลากหลายอารมณ์ หยิบรูปของฉินเทียนขึ้นมา ยิ้มอย่างมีเลศนัย
พานหู่รีบแนะนำ : “ฉินเทียนตอนนี้ได้รับข้อมูลว่า เขาคือนักบู๊อาวุโส ผู้เชี่ยวชาญด้านกำลังภายใน”
“พวกคุณต้องการให้ช่วยอะไร ผมจัดการให้ได้หมด”
ผีขาวยิ้มอย่างเย็นชา : “สไนเปอร์ มีไหม?”
พานหู่ตะโกนออกไปข้างนอก ทันใดนั้นมีชายชุดดำร่างกายกำยำสองคน ถือกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบเดินเข้ามา
เปิดกระเป๋าหนึ่งใบปรากฏเป็นปืนไรเฟิลซุ่มยิงแยกประกอบ 1 กระบอก
“M24?” ผีขาวเห็นแล้วคันไม้คันมือ ลงมือประกอบปืนเสียงดังแกรกๆไม่กี่ครั้งก็สำเร็จ เขาประกอบกล้องติดปืนและกล้องมองกลางคืนเข้าไป ยิ้มอย่างเย็นชา : “ของดี”
“นับตั้งแต่ตอนนี้ แซ่ฉินเป็นบุคคลที่ได้ตายไปแล้ว”
พานหู่เปิดกระเป๋าอีกใบ ข้างในมีมีดมากมายหลายแบบ ยังมีแม้กระทั้งระเบิดมือสองลูก
เขามองแมงป่องไท่แล้วถาม : “สิ่งที่ควรทำผมล้วนทำให้หมดแล้ว ต่อจากนี้ก็อยู่ที่ศักยภาพของพวกคุณแก๊งแมงป่องไท่แล้ว”
“คนของผมได้สืบที่อยู่ของฉินเทียนแล้ว คุณดูเอาว่าสะดวกลงมือได้เมื่อไร”