บัญชามังกรเดือด - บทที่ 145 งูเห่า
บทที่ 145 งูเห่า
เมื่อได้ยินฉินเทียนพูดถึงหลิวหรูยู่ ซูซูก็อดหัวเราะไม่ได้แล้วพูดว่า : “นั่นคือเทพธิดาของฉัน จะสามารถเอาไปเปรียบเทียบกับมู่เฟยเฟยได้อย่างไร”
“ถ้าหากพูดว่ามู่เฟยเฟยเป็นชั้นแนวหน้า อย่างนั้นหลิวหรูยู่ ก็คงจะระดับเป็นราชินีแห่งสวรรค์แล้วล่ะ”
“มู่เฟยเฟยยังห่างไกลจากเธอมากนัก”
ฉินเทียนกล่าว : “อย่างนั้นทำไม่เชิญหลิวหรูยู่ละ?”
หลิวชิงยิ้มแล้วกล่าวว่า : “สามารถพูดคุยกับมู่เฟยเฟยได้ ก็ถือว่าขอบคุณพระเจ้าแล้ว หลิวหรูยู่ พวกเราไม่กล้าแม้แต่จะคิดจริงๆ ”
“อีกด้านหนึ่ง ระดับสถานะของเธอยังสูงเกินไปอีกด้วย นอกจากนี้ หลิวหรูยู่ยังเป็นพวกทุ่มเทพัฒนางานศิลปะ เลยไม่ยอมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับกลุ่มธุรกิจอีกด้วย”
“ตั้งแต่เปิดตัว ก็ไม่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ไหนเลย แบรนด์ที่มีเชื่อเสียงระดับนานาชาติมากมาย ที่คิดอยากจะตีตลาดภายในประเทศของพวกเรา ต่างก็แสวงหาเธอกันทั้งนั้น แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธไปทั้งหมด”
ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
เดิมทีฉินเทียนคิดอยากจะช่วยติดต่อกับหลิวหรูยู่ให้สักหน่อย แต่ทว่าแต่ละคนต่างก็มีความมุ่งมั่น ในเมื่อทุกคนบอกว่าไม่เคยรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ทางธุรกิจ อย่างนั้นเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องไปรบกวน
ซูซูกล่าวอย่างเสียใจ : “ยังจะพูดอีก ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงที่หลานซี่อครั้งนี้ ตอนแรกฉันได้ยินมาว่า หลิวหรูยู่ก็จะไปเข้าร่วมด้วย ทำให้ฉันตื่นเต้นไปตั้งครึ่งค่อนวัน”
“ใครจะไปรู้ ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่เห็นแม้แต่เงาคน”
ฉินเทียนยิ้มและไม่ได้พูดอะไรออกมา
เธอจะไปรู้ได้อย่างไร หลิวหรูยู่เพื่อที่จะหลบหนีงานเลี้ยง ก็วิ่งออกไปตั้งแต่ครึ่งทางแล้ว
แล้วไปเล่นสกีที่เทือกเขาแอลป์กับตัวเอง หลังจากนั้นก็มาพัวพันกับตัวเอง และถูกเหยี่ยวล่านกลักพาตัวไปจนถึงภูเขาลึก
ภายใต้ปากกระบอกปืนที่โหดเหี้ยมของคนร้าย เขาและหลิวหรูยู่ ก็ถือได้ว่าร่วมเป็นร่วมตายกัน และตกทุกข์ได้ยากไปด้วยกันแล้วละ
จากเรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้ หลังจากที่กลับไปแล้ว หลิวหรูยู่ก็น่าจะกลับประเทศไปอย่างรีบร้อน ตามธรรมชาติแล้วคงไม่มีอารมณ์ไปปรากฏตัวในงานนิทรรศการอีกแล้ว
หลังจากที่ได้พูดคุยเรื่องบางอย่างแล้ว หลิวชิงก็เร่งให้ซูซูและฉินเทียนรีบกลับไปที่บ้าน ในระหว่างเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อย ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
กลับมาถึงบ้าน หยางยู่หลันเข้าครัวด้วยตัวเอง เตรียมอาหารไปวางไว้บนโต๊ะ และยังเปิดไวน์แดงที่สะสมไว้เพื่อมาเฉลิมฉลอง
ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ในขณะเดียวกัน เมืองหลวง ตระกูลพาน
“ไอ้สารเลว!”
“เจ้าฉินเทียนคนนี้ ไม่คิดเลยว่าจะสามารถเอาชีวิตรอดจากมือของเหยี่ยวล่านกไปได้ ดูถูกมันมากเกินไปจริงๆ!”
“หลิวหรูยู่นังตัวแสบคนนี้ จะว่างจนไปเล่นสกีอะไรก็ไม่รู้!”
“ไม่ใช่เพราะมัน ฉินเทียนจะต้องตายอย่างแน่นอน!”
เธอแจ้งผ่านช่องสัญญาณบางอย่าง ตอนนี้เข้าใจเรื่องที่ผ่านมาบางส่วนแล้ว จนถึงตอนนี้เธอก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ที่ฉินเทียนยังมีชีวิตอยู่ได้นั้น ก็เป็นเพราะหลิวหรูยู่
ถึงอย่างไรก็ตามหลิวหรูยู่ก็เป็นดาราดังที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก เธอถูกลักพาตัว ดังนั้นคนที่มีความเกี่ยวข้องจึงถูกส่งตัวผู้ที่มีความสามารถออกไปเพื่อช่วยชีวิตให้เร็วที่สุด
เป็นจังหวะที่ฉินเทียนได้รับการช่วยเหลือพอดี
“เรื่องในครั้งนี้ พี่รองก็เสียงใจมากเช่นกัน”
“แต่เขาบอกว่า บางทีคนแซ่ฉินอาจจะยังไม่ถึงที่ตาย เขาให้พวกเราอดทนไปก่อน”
“รออีกไม่กี่วัน ก็จะเป็นงานวันเกิดของนายท่านอานแล้ว”
“นายท่านอานป่วยระยะสุดท้าย คราวนี้ไม่รอดแน่นอน ตอนที่เขาอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิด ก็ควรจะทำการแบ่งเขตอิทธิพลใหม่ พวกเราตระกูลพาน จะต้องได้เติบใหญ่เข้มแข็งยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”
“จะได้รับตำแหน่งในเมืองหลวง ก็อาจจะไม่แน่”
“เมื่อถึงตอนนั้น ฉินเทียนก็เป็นเพียงแค่คนคนหนึ่ง ยังคิดอยากที่จะจัดการอย่างไร ก็สะบัดสะบิ้งอย่างนั้นได้”
พานหู่ที่นั่งอยู่ในรถเข็น ปลอบโยนด้วยเสียงแผ่วเบา
“ไม่ได้!”
“ฉันปล่อยมันไปไม่ได้!”
“มันยิ่งทำให้ฉันโกรธมากขึ้นไปอีก ซูซูนังผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้น พึ่งจะทำครีมยาอะไรสักอย่าง ไม่คิดว่าจะคว้าเหรียญทองในงานมหกรรมความงามนานาชาติได้”
“เห็นได้ชัดว่าเป็นศัตรูกับฉัน”
“ฉันจะต้องสั่งสอนให้เป็นบทเรียนแก่พวกมันอย่างแน่นอน!”
พานหู่กล่าวอย่างเป็นกังวลว่า : “พี่ พี่เตรียมตัวว่าจะทำอย่างไร?”
พานเหม่ยเออร์ขบฟันแล้วพูดว่า : “องค์กรแมงป่องไท่ตายไปแล้ว เหยี่ยวล่านกก็จบไปแล้ว อย่างนั้นเราก็หานักฆ่าที่เก่งยื่งกว่านี้อีกสิ!”
“ทั่วทั้งโลกใบนี้มีนักฆ่าอีกมากมาย ขอเพียงยินดีที่จะจ่าย ไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถหาคนที่ฆ่าฉินเทียนได้!”
“ฉันได้วางแผนให้คนไปตามหาแล้ว เชื่อสิ จะต้องได้ผลลัพธ์เร็วๆ นี้แน่!”
“เมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะต้องดูคนแซ่ฉินนี้เอาไว้ให้ดีเลย!”
พานหู่รู้ว่าตั้งแต่เล็กพานเหม่ยเออร์เป็นคนที่เอาแต่ใจมาก เรื่องไหนที่เธอตัดสินใจว่าจะทำ จะต้องทำในทันที
เขาถอนหายใจออกมา แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไปแล้ว
ถูกฉินเทียนส่งมือสังหารมาทำร้ายจนกลายเป็นคนพิการ ชีวิตที่ดีก็ได้พังทลายลง เขาก็ปล่อยมันไปไม่ได้
ในเวลาเดียวกัน บนเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งที่ถูกคนซื้อมาเป็นการส่วนตัวตั้งอยู่ในส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติกที่ห่างไกล
คนผมขาวโพลนคนนี้ ชายผิดขาวที่สวมใส่ชุดคลุมสีขาว ได้เดินออกมาจากห้องทดลอง
ราวกับงูพิษที่รอโอกาสและเคลื่อนไหวอยู่ในความมืดมิดอย่างไรอย่างนั้น
“ศาสตราจารย์ครับ มีข่าวมาแล้วครับ”
“บัญชาพญายมที่ปรากฏในอาณาจักรมังกรตะวันออกสองครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับคนคนหนึ่งที่ชื่อฉินเทียนครับ”
“ท่านว่า จะส่งคนไปจับเขากลับมาสอบสวนใช่ไหมครับ ไม่แน่ เขาอาจจะรู้ว่าพญายมคนก่อนอยู่ที่ไหน”
เสื้อคลุมสีขาว จะต้องเป็นผู้ที่เหลือรอดของดอกไม้แห่งความมืดอย่างแน่นอน แล้วยังเป็นคนที่มีจิตวิญญาณของดอกไม้แห่งความมืดอีกด้วย คนวงในต่างเรียกเขาว่าศาสตราจารย์
ในสายตาของคนภายนอกก็เป็นแค่ปีศาจธรรมดา ปรมาจารย์พิษเท่านั้น
จากที่ได้ฟังรายงานจากลูกน้องแล้ว เขาดูไม่ค่อยตกใจสักเท่าไร ค่อยๆ ถอดถุงมือสีขาวที่อยู่บนมือออก
“พญายมคนก่อนยังไม่ตาย นี่มันเป็นเรื่องที่ยืนยันได้อยู่แล้ว”
“สิ่งที่พวกเราต้องทำตอนนี้ก็คือ ต้องหาเขาออกมาให้เจอ เพื่อที่จะล้างแค้นให้เหล่าพี่น้องที่ตายไปเหล่านั้น”
“อาณาจักรมังกรตะวันออก ไม่ใช่สถานที่ที่นักฆ่าธรรมดาจะสามารถไปได้ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ให้กลุ่มงูเห่าเล็กไปเถอะ ”
“เลี้ยงดูพวกเขามานานขนาดนี้แล้ว ก็ถึงเวลาที่พวกเขาต้องออกมาตอบแทนพวกเราบ้างแล้ว”
ลูกน้องลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า : “สมาชิกกลุ่มเล็กงูเห่ามีอยู่ห้าคน ล้วนแต่เป็นนักฆ่าที่ถูกจัดอันดับว่าดีเด่นของโลก แล้วยังเป็นไพ่ใบเอกใบหนึ่งในมือของพวกเราอีกด้วย”
“คนธรรมดาคนหนึ่งอย่างฉินเทียน ศาสตราจารย์คุณแน่ใจหรือว่า คุ้มค่าที่จะให้ไพ่ใบเอกใบนี้เคลื่อนไหวเหรอครับ?”
ปรมาจารย์พิษยิ้มเยาะแล้วพูดว่า : “ฉันจะต้องทำอย่างไร้ข้อผิดพลาด”
“ไปดำเนินการเถอะ”
“นอกจากนี้ นายไปรายงานต่อเบื้องบนด้วย บอกว่ายาพิษที่พวกเขาต้องการหมายเลขหนึ่ง ฉันทำการทดลองทางเภสัชวิทยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่เกิดเหตุอะไร ไม่นานก็จะนำออกสู่ท้องตลาดได้แล้ว”
“ให้พวกเขาส่งเงินทุนตามมาทีหลังด้วย”
“ครับ!” ลูกน้องพูดอย่างตื่นเต้น “ศาสตราจารย์สมแล้วที่เป็นศาสตราจารย์จริงๆ!”
“ตอนนี้พวกเราต้องการคนก็มีคน ต้องการเงินก็มีเงิน ก็ใช้เวลาอีกไม่นาน ดวงตานางฟ้าจะต้องได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ของราชาแห่งโลกใต้ดินได้อย่างแน่นอน!”
ภายใต้คำสั่งการ ที่หลบซ่อนอยู่ทั่วทุกแห่งในโลก ทั้งสลัม สังคมชั้นสูง โบสถ์ ฟาร์มและร้านเหล้าของกลุ่มเล็กงูเห่า เป็นครั้งแรกที่ได้มารวมตัวกัน
พวกเขาก็รู้ อาณาจักรมังกรตะวันออก เป็นสถานที่ต้องห้ามของคนอย่างพวกเขา
เมื่อตอนที่กำลังปรึกษากันว่าจะเข้าไปอย่างเป็นความลับได้อย่างไร บังเอิญว่า ได้ค้นพบเบาะแสบางอย่างของพานเหม่ยเออร์
พวกเขาเริ่มที่จะติดต่อ พานเหม่ยเออร์ดีใจกับข่าวที่คาดไม่ถึง รีบตกลงในทันที ใช้ประโยชน์จากช่องทางของตระกูลพาน ช่วยให้พวกเขาลักลอบเข้าเมืองไปได้
และตามสัญญา ต้องการเพียงแค่ฆ่าฉินเทียน ก็จะให้เงินรางวัลถึงห้าร้อยล้าน
พานเหม่ยเออร์พึ่งจะทำการซื้อกิจการทั้งหมดของเจี้ยนเหรินกรุ๊ป ด้วยทรัพย์สินนับหมื่นล้าน เธอพูดว่าแค่ธรรมดาห้าร้อยล้าน เดิมทีก็ไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับเธอ
ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงแค่สามารถฆ่าฉินเทียน เธอก็ไม่ลังเลเลย ที่จะจ่ายในราคาที่สูงมากยิ่งกว่านี้ได้อีก
รางวัลจำนวนมหาศาลมาอยู่ตรงหน้าเช่นนี้ ไม่มีใครที่จะไม่รู้สึกหวั่นไหวได้หรอก
ดังนั้นจึงพูดได้ว่า เวลาที่คนมีเงินต้องการที่จะทำให้ใครสักคนตาย ถ้าคนนั้นไม่คิดอยากที่จะตาย มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
โชคดี ที่ฉินเทียนไม่ใช่คนธรรมดา
ปรมาจารย์พิษคนที่มีจิตวิญญาณของดอกไม้แห่งความมืดยังไม่ตาย แล้วยังมีผู้มีอิทธิพลลึกลับคอยสนับสนุนอยู่อีกด้วย แล้วยังก่อตั้งดวงตานางฟ้าขึ้นใหม่ เป็นไปได้ว่าเขาจะต้องมาแก้แค้นในอนาคต
ข่าวคราวนี้ ฉินเทียนได้บอกฉานเจี้ยนไปแล้ว
ในตอนนี้ดวงตาของฉานเจี้ยนแดงก่ำ
นี่ก็เป็นศัตรูที่เขาเสาะแสวงหาอย่างยากลำบากมาหลายปี เป็นพลังที่สนับสนุนให้เขามีชีววิตรอดต่อมาได้
เขาได้เปลี่ยนลักษณะนิสัยที่อ่อนโยน และก็ตั้งกลุ่มไปฝึกฝนคำสาปสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง
หยาดเหงื่อที่ไหลออกมามากกว่าสิบหยดในตอนนี้ เพียงเพราะ เมื่อตอนที่เจอศัตรู จะสามารถลดเลือดที่ไหลออกมาได้สักหนึ่งหยด
บทที่ 144 กลับบ้าน