บัญชามังกรเดือด - บทที่ 275 ขอบคุณพี่เทียนแทนฉัน
บัญชามังกรเดือด บทที่ 275 ขอบคุณพี่เทียนแทนฉัน
ข่าวของเฉียงหลงแพร่กระจายออกไป ไนต์คลับรอบๆ หลงเจียงก็ดูเดือดพล่านขึ้นมาทันที
คนส่วนใหญ่ในแวดวงนี้ล้วนแต่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาวที่มีเงิน มีเวลาว่าง หรือไม่ก็ไม่มีเงินแต่มีทุนทรัพย์ทางกายที่ดี
พวกเขา ไม่รู้ว่าพี่เทียนคือใคร แต่พวกเขารู้จักคลับมังกรทอง!
และรู้ว่าเฉียงหลงเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
ในสายตาของพวกเขา คลับมังกรทองยังคงเป็นไนต์คลับที่ใหญ่ที่สุดในหลงเจียง
เฉียงหลงเป็นเถ้าแก่ของคลับมังกรทอง และเป็นพี่ใหญ่ที่น่าเลื่อมใสและให้กับพวกเขา
ตอนนี้ พี่ใหญ่ที่น่าเลื่อมใสคนนี้ อยู่ที่คลับมังกรทอง เพื่อจัดปาร์ตี้ใหญ่ให้กับ “พี่เทียน”
จะเห็นได้ว่า พี่เทียนคนนี้เป็นซูเปอร์ทายาทเศรษฐีแน่นอน
นี่ถือว่าเป็นงานรื่นเริงในแวดวงไนต์คลับเลยทีเดียวนะ
แต่ที่สำคัญไปยิ่งกว่านั้นก็คือ เฉียงหลงพูดว่า เพื่อเป็นการต้อนรับพี่เทียน ทางร้านเปิดฟรีในทุกที่นั่ง
นี่ถือว่าเป็นข่าวดีมากสำหรับคนที่เงินน้อย ที่ปกติใช้ที่นั่งของคนอื่นฟรีๆ
เวลานี้ฝูงหมาป่ากำลังกระโดดโลดเต้น บรรดานกกระจิบนกนางแอ่นทั้งหลายต่างแต่งตัวจัดเต็ม และกรูกันไปที่คลับมังกรทองก่อนเวลาด้วยซ้ำ
พูดตามตรง ฉินเทียนไม่เคยมาไนต์คลับเลย
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ตระกูลฉินที่ซีเป่ย ถึงแม้เขาจะเป็นแค่คุณชายใหญ่ แต่เขาไม่ชอบพบปะผู้คน เลยทำให้มีนิสัยชอบสันโดษ
ตอนนั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน แต่เขาก็ไม่เคยไปสถานที่แบบนี้มาก่อน
ต่อมา มาส่งอาหารที่หลงเจียง พอเลิกงานเพื่อนร่วมงานก็รบเร้าให้ไปไนต์คลับ เขาเองทั้งไม่มีเงิน และไม่มีข้อแม้ใดๆ
ห้าปีหลังออกจากหลงเจียง เขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อเรียนรู้งานอย่างหนักกับผู้จัดการ
เวลาที่เหลือก็วิ่งไปทั่ว สร้างวิหารเทพ สุดท้ายก็ได้ครอบครองความร่ำรวยและอำนาจที่คนทั่วไปฝันอยากจะได้
สิ่งที่เหนือความคาดหมาย คือการไม่ได้เข้ามาสู่สังคมที่เลวทรามโหดร้ายแบบนี้
ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ประตูใหญ่ของคลับมังกรทอง ได้ยินเสียงเพลงครึกครื้น มองดูผู้คนแปลกหน้า มากหน้าหลายตาอยู่เบื้องหน้า ร่างกายเลยรู้สึกสั่นเทา
เหมือนเขาเดินข้ามเข้าไปอีกโลกหนึ่ง
นอกประตู ทางเดินอันเงียบเชียบ มีคนงานที่พึ่งเลิกงาน ใช้ชีวิต หาเช้ากินค่ำ ยังไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะไปที่ไหน
ใครจะไปคิดว่า ด้านในของประตูข้างๆ มีแดนสุขาวดีอยู่
เขาขมวดคิ้ว หันหัวเตรียมจะออกไป
“พี่เทียน!” เฉียงหลงรีบรั้งไว้ และพูดว่า “มาถึงแล้ว ก็ผ่อนคลายสักหน่อยเถอะ”
“จะว่าไป นี้คือธุรกิจของคุณ ผมเป็นแค่คนดูแลแทนเท่านั้น”
“ธุรกิจของคุณเอง แต่คุณยังไม่เคยมาเลยด้วยซ้ำ”
“คิดซะว่ามาสำรวจแล้วกัน!”
ฉินเทียนยิ้มแหยๆ “ฉันว่าฉันกลับบ้านไปอยู่กับเมียดีกว่านะ”
เฉียงหลงรีบบอกว่า “อย่าพึ่งเลย!”
“เมียอ่ะอยู่เป็นเพื่อนเมื่อไรก็ได้”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันจะหมายถึงว่า พี่เทียน เพื่องานละกันนะ”
“คุณว่า คนข้างในนี้ จะมีนักฆ่าไพ่คิงซ่อนตัวอยู่ไหม?”
ได้ยินดังนั้น ฉินเทียนกลับหรี่ตาลง
เขากวาดสายตามองจนทั่ว ผลลัพธ์ก็คือ ปรากฏบุคคลที่น่าสงสัยอยู่สองสามคน
จะว่าไป ที่นี่มีคนร้อยพ่อพันแม่ เสียงดังวุ่นวาย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับลอบฆ่ามากๆ
ถ้าเขาเป็นนักฆ่า และเป้าหมายปรากฏตัวที่นี่ เขาจะไม่ปล่อยให้รอดไปแน่ๆ
“โอเค” เขาพยักหน้าและเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ นั่งลงตรงที่ว่างตรงด้านหลังสุด
เมื่อเห็นว่าเขาเดินเข้าไปแล้ว เฉียงหลงเลยเข้าไปเตรียมงานต่อที่ด้านหลัง
บริกรไม่รู้จักฉินเทียน แต่ก็เสิร์ฟเบียร์ให้เขาอย่างมีมารยาท
“คุณผู้ชายครับ ค่ำคืนนี้สนุกให้เต็มที่นะครับ!”
“ทุกอย่างวันนี้พี่เทียนเป็นคนจ่ายครับ”
ฉินเทียนพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณพี่เทียนแทนผมทีนะ”
“สุดหล่อ ดูท่าคุณยังไม่เคยมาที่ไนต์คลับมาก่อนใช่ไหม”
“หรือว่าได้ยินว่าค่ำคืนนี้ที่นี่เลี้ยงฟรี เลยมากินเหล้าฟรีของพี่เทียน?”
สาวเจ้าเสน่ห์ที่อยู่ข้างๆเมื่อฉินเทียนเดินเข้ามา เขาก็สังเกตเห็นฉินเทียน
เวลานี้ เขายกแก้วเหล้าและยิ้มให้ จากนั้นก็มานั่งข้างๆ ฉินเทียน
ฉินเทียนได้กลิ่นน้ำหอมแรงมาก อดไม่ได้ที่จะขยี้จมูก พยักหน้าและพูดว่า “ครับ”
“งั้นก็แปลกมากเลย ฉันเองก็ไม่เคยมาที่ไนต์คลับนี้มาก่อนเหมือนกัน”
“ค่ำคืนนี้เลยเข้ามาร่วมสนุกสักหน่อย”
“สุดหล่อ พวกเรามาดื่มสักแก้ว หัวอกเดียวกันไง”
ฉินเทียนยกแก้วขึ้น ชนแก้วกับผู้หญิงคนนั้น จากนั้นก็ไม่พูดอะไร มองไปยังฟลอร์เต้นรำด้านหน้าอย่างเบื่อๆ
ตรงนั้น มีเด็กสาววัยรุ่นอยู่หลายคน ใส่หน้ากาก นุ่งน้อยห่มน้อย เต้นรำด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน
“น่าดูไหม?” หญิงสาวเห็นว่าฉินเทียนไม่พูดอะไร เลยชวนเขาพูดคุย
ฉินเทียนตอบว่า “ก็โอเคนะ รูปร่างไม่เลว”
หญิงสาวยิ้มและพูดต่อว่า “ดูแล้วคุณพึ่งเคยมาครั้งแรกจริงๆ แค่นี้ยังเรียกว่าไม่เลวอีกหรือ?”
“มา ช่วยฉันถือกระเป๋าหน่อย”
พูดพลาง หล่อนก็เอากระเป๋าใบเล็กวางไว้ในอกของฉินเทียน ยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า “วันนี้พี่มีความสุข จะเต้นโชว์คุณสักรอบ”
“ดูดีดีนะ”
จากนั้นหล่อนก็สะบัดผมหนึ่งครั้ง และเดินตรงขึ้นไปบนเวที
ทักทายกับดีเจที่อยู่ด้านหลัง และฟลอร์นั้นก็เปลี่ยนเพลงใหม่ทันที
จากความหงุดหงิด กลายเป็นเงียบสงบและผ่อนคลาย
บรรดาผู้คนทั้งหลายต่างพากันตะลึง จนหยุดชะงักไปอย่างไม่รู้ตัว
มีคนเริ่มแสดงอาการไม่พอใจ “นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย?”
“จะได้เต้นต่อไหมอ่ะ?”
จากนั้น เมื่อเห็นหญิงสาวบนเวที ก็เลยสงบลง
“ระบำนกยูง!”
“โอ้โห!สวยมาก!”
หญิงสาวขยับร่างกายไปตามเพลง
ระบำนกยูงแบบคลาสสิค ดูมีเสน่ห์กว่าการเต้นอย่างบ้าคลั่งของเหล่าเด็กสาววัยรุ่นที่อยู่บนฟลอร์เต้นรำซะอีก
ด้านล่างเวที มีเสียงผิวปากดังขึ้น และเริ่มมีเสียงกรี๊ดดังขึ้นเรื่อยๆ
หลังจบเพลง หญิงสาวก็เดินลงจากเวทีไปนั่งข้างๆ ฉินเทียนด้วยรอยยิ้ม
แลบลิ้นอย่างทะเล้นและพูดว่า “ไม่ได้เต้นแบบนี้มานานแล้ว เป็นไงบ้าง พอดูได้ไหม?”
ฉินเทียนเลิกคิ้วและตอบว่า “คุณเรียนเต้นรำมาหรือ”
“เมื่อก่อนเคยเรียนมาช่วงหนึ่ง แต่ทิ้งไปนานแล้วล่ะ”
“ตอนนี้ไม่มีอะไรทำ เลยเปิดคลาสสอนโยคะให้กับพวกเมียเศรษฐีทั้งหลาย ไม่ก็บรรดาเด็กสาวที่ฝันอยากจะเป็นเมียเศรษฐีได้มาออกกำลังกาย”
“ทำความรู้จักอย่างเป็นทางการสักหน่อยเจียงหง สุดหล่อ ชื่ออะไรหรือ?”
หล่อนยกแก้วเหล้าขึ้นอีกครั้ง
ฉินเทียนตอบอย่างเรียบเฉย “ฉินเทียน”
เจียงหงจงใจพูดโอ้อวดว่า “ฉินเทียน?คุณคงไม่ใช่พี่เทียนคนนั้นหรอกใช่ไหม?”
ฉินเทียนหัวเราะและตอบว่า “คุณเดาถูกแล้ว”
เจียงหงปิดปากหัวเราะร่วน พูดต่อว่า “ถ้าบอกว่าคุณอ้วน คุณก็คงตามน้ำอีกสิท่า พูดเบาๆ หน่อยนะ อย่าให้คนอื่นได้ยินหล่ะ”
“ไม่งั้นถ้าพวกเขารู้ว่าคุณปลอมตัวเป็นเพี่เทียนละก็ ไม่แน่อาจจะมาหาเรื่องคุณก็ได้นะ”
ตอนที่หล่อนพูด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ยิ่งเขยิบเข้าใกล้ฉินเทียน
กระโปรงสั้นๆ ของหล่อนปรากฏอยู่ในสายตาของฉินเทียน
ฉินเทียนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งถือแก้วเหล้าเดินตรงเข้ามาจากที่ไกลๆ
เป้าหมายคือเจียงหง
“คนสวย เต้นรำได้สวยมากเลยนะ”
“ให้เกียรติผมสักเพลงได้ไหม” เขามองเจียงหง แววตาแสดงความต้องการอย่างไม่ปิดบัง
เจียงหงเม้มปากยิ้มและพูดว่า “ขอโทษนะคะ ฉันมีคู่เดทแล้ว”
“จะยอมให้ฉันเต้นรำกับคุณหรือเปล่า คุณลองถามความเห็นเขาเองนะ”
พูดพลาง ส่งรอยยิ้มและมองไปทางฉินเทียน ดูเหมือนเป็นการลองใจ
ชายหนุ่มเห็นฉินเทียนแต่งตัวธรรมดาๆ เลยยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าว
“พี่ชาย ผมชื่อโหวหยาน ที่บ้านมีกิจการโรงแรม พ่อผมชื่อโหวเจี๋ยเป็นเลขาธิการสมาคมโรงแรมในหลงเจียง”
“พวกเรามาคุยกันหน่อยเถอะ”
“ให้แฟนของคุณเต้นรำเป็นเพื่อนผมหน่อยได้ไหม?”