บัญชามังกรเดือด - บทที่ 295 ช้อปปิ้ง
บัญชามังกรเดือด บทที่ 295 ช้อปปิ้ง
เมื่อเจอกับการยิงคำถามแบบปุบปุบของเหลิ่งน่ายจื่อ สมองฉินเทียนก็ประมวลผลไม่ทันเล็กน้อย
แต่เขายังคงพยักหน้าในทันที พร้อมเอ่ยว่า: “ใช่”
เหลิ่งน่ายจื่อ: “เธอสวยมากไหม?”
ฉินเทียนพ่นลมหายใจ: “สวย”
เหลิ่งน่ายจื่อ: “แล้ว นายรักเธอไหม?”
ฉินเทียนลังเลครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยจากใจจริงว่า: “เธอให้แสงสว่างในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตฉัน”
“และตอนนี้ ก็ให้ครอบครัวฉันด้วย”
“เธอสวยและจิตใจดีมาก แต่เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง”
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันขอปกป้องเธอด้วยหัวใจไปตลอดชีวิต ไม่ให้คลื่นลมภายนอกซัดกระทบเธอได้”
เหลิ่งน่ายจื่อ: “นายเป็นทายาทวิหารพญายม เป็นผู้นำแห่งวิหารเทพ ในฐานะผู้หญิงของนาย นายคิดว่าเธอจะอยู่อย่างสงบสุขไปได้ตลอดเหรอ?”
“หอคอยงาช้างที่นายสร้างให้เธอ จะยั่งยืนไปได้นานแค่ไหน?”
แววตาฉินเทียน สาดประกายรัศมีดุร้าย
เอ่ยเสียงต่ำว่า: “งั้นฉันก็จะฆ่าคนที่มันก่อคลื่นลมพวกนั้นให้สิ้นซาก”
สิ้นคำนั้น ลมทะเลโดยรอบ ก็คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายอันดุดัน
เจ้าหงส์ที่กำลังลอยเอื่อยเหนือผิวทะเลสาบในตอนแรก ร้องหนีเตลิด ราวกับถูกทำให้ตกใจกลัวกระทันหัน
เหลิ่งน่ายจื่อขยิบเปลือกตาแรงๆ เธอก้มหน้าพูดว่า: “ฉันเข้าใจแล้ว”
ฉินเทียนนึกขึ้นได้ว่าเสียการควบคุมไปเล็กน้อย จึงรีบยับยั้งตัวเองในทันที
เขาเปลี่ยนเรื่องคุย เอ่ยว่า: “เอ่อ เธอหิวไหม?”
“ให้ฉันไปซื้อของกินให้เธอหน่อยดีไหม?”
เหลิ่งน่ายจื่ออยากจะพูดบางอย่าง กลับเห็นชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเดินดุ่มๆ มาแต่ไกล
ความเอือมระอาฉายผ่านดวงตาของเธอ
“ฉันรู้สึกหนาวนิดหน่อย เราไปที่อุ่นๆ กันเถอะ”
เธอลุกขึ้นยืน แล้วเดินลิ่วออกไป
“คุณผู้หญิง คุณฟังผมนะ!”
“ผู้หญิงสวยสง่าแบบคุณ ทำไมต้องเชื่อฟังคนแบบไอ้หมอนี่ด้วย?”
“คุณดูสิ มันดูอย่างกับกุ๊ยข้างถนน ไม่คู่ควรกับคุณเลยสักนิด!”
“มันรังแกคุณใช่ไหม! บอกผมมา ผมจะเอาคืนให้คุณเอง!”
ชาร์ลียืนขวางหน้าเหลิ่งน่ายจื่อ ด้วยหน้าตาที่ฉุนเฉียว
เมื่อครู่เจ้าหมอนี่เห็นเหลิ่งน่ายจื่อ ก็ตกตะลึงในความงาม
ผู้หญิงแบบนี้ ควรควงคู่กับสุภาพบุรุษอย่างเขามากกว่า
ขณะที่ดูสภาพฉินเทียน ทั้งตัวสวมเสื้อผ้าอยู่บ้าน บนเท้ายังใส่รองเท้าแตะอีก ไม่คู่ควรกับเหลิ่งน่ายจื่อเลยสักนิด
เขาคิดว่ายังพอมีหวัง จึงรีบตามมา
“เอ็งนี่ไม่ดูตาม้าตาเรืออีกแล้วนะ ข้าจะโยนเอ็งลงทะเลให้ฉลามกิน!” ฉินเทียนหน้าถมึงทึง
ไม่รู้ทำไม จิตใจของเขาตอนนี้ ถึงไม่สบอารม์ณ์เป็นอย่างมาก
มีอารมณ์กรุ่นโกรธ ซึ่งยังไม่มีที่ให้ระบายพอดี
ชาร์ลีแสยะยิ้ม: “ไอ้หนู แกอยากดวลกับฉันเหรอวะ?”
“มาสิ ดูสิว่าใครจะโยนใครลงทะเล!”
“มาทำตัวกร่างที่นี่ ฉันจะบอกแกให้นะ ที่นี่เคยเป็นอาณานิคมของพวกฉันมาก่อนเว้ย!”
“ฉันสิคือเจ้าถิ่นที่นี่!”
“ลุงฉันเป็นเจ้าพ่อที่นี่ด้วย!” เขาเลิกแขนเสื้อขึ้น เตรียมจะพุ่งเข้าหา
ประเมินกันแค่รูปร่าง เขาก็คิดว่าตัวเองสามารถซัดฉินเทียนให้หมอบได้แล้ว
ไม่แปลกใจที่จองหองขนาดนี้ คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น
ฉินเทียนเหยียดยิ้มมอง ไม่ว่าลุงของมันจะเป็นเจ้าพง หรือเจ้าพ่ออะไรก็ตาม
เมื่อไรที่มันพุ่งเข้ามา เขาจะโยนมันลงไปสงบสติอารมณ์ในทะเลซะ
“ฉันอยากไปช้อปปิ้ง พวกนายมีใครไปบ้าง” เหลิ่งน่ายจื่อเอ่ยเสียงราบเรียบ แล้วเดินตรงออกไปด้านนอก
“ผมไป!”
“คุณผู้หญิง ผมรู้มาว่าที่นี่มีช้อปปิ้งพาราไดซ์อยู่ที่หนึ่ง ผู้หญิงทุกคนชอบที่นั่น”
“ผมจะพาคุณไปเอง!”
“ไอ้หนู เมืองยุโรปของเรามีคำกล่าวว่า สุภาพบุรุษไม่ข่มเหงตัวตลก”
“วันนี้แกรอดตัวไปนะ!” ชาร์ลีเอ่ยเตือนฉินเทียน ก่อนจะเดินตามเหลิ่งน่ายจื่อไปอย่างตื่นเต้นดีใจ แนะนำสิ่งที่ตนคิดว่าน่าสนใจไปด้วย
ฉินเทียนเองก็จนปัญญา
เขารู้ว่า วันนี้ตนทำให้ศิษย์น้องคนนี้ไม่พอใจไปแล้ว แม้ตัวเขาจะไม่รู้ว่า ทำให้ไม่พอใจยังไงก็เถอะ
ดังนั้น ต่อให้ตอนนี้เขาอยากจะปลีกตัวหนีไปมากแค่ไหน แต่เอาเข้าจริงแล้วก็ไม่กล้า
เพราะเรื่องนั้น
เขาได้แต่เดินหงอยคอตกตามหลังไป
ลานจอดรถด้านนอกสวนสาธารณะ ชาร์ลีเปิดประตูรถเมอร์เซเดสเบนซ์ออก เชิญเหลิ่งน่ายจื่อขึ้นไปนั่งอย่างแสนสุภาพ
เหลิ่งน่ายจื่อมองฉินเทียนที่เดินคอตก แล้วเอ่ยเสียงเย็นเยือกว่า: “รีบไสหัวมาเดี๋ยวนี้!”
‘อย่าทำฉันขายหน้า!’
เดิมชาร์ลีไม่อยากให้ฉินเทียนขึ้นรถ แต่ตอนนี้ เขารู้สึกว่าบารมีตัวเองข่มฉินเทียนได้แล้ว
คนอย่างมัน คงไม่เคยเห็นของหรูหราอะไรมาก่อน
เดี๋ยวพอไปถึงช้อปปิ้งพาราไดซ์ เขาค่อยทำให้ฉินเทียนขายหน้าอีกรอบก็ได้ หลังจากนั้น เหลิ่งน่ายจื่อต้องตัดใจจากฉินเทียนแน่นอน
พอเป็นแบบนี้ เขาจะได้เที่ยวกับสาวเกรดพรีเมี่ยมแบบนี้ บนเกาะสวยงามเล็กๆ แห่งนี้แล้ว
พระเจ้า แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!
เขาจึงพูดกับฉินเทียนว่า: “สาวสวยขนาดนี้ แกให้เธอขึ้นรถแท็กซี่ได้ยังไง?”
“ไอ้น้อง รีบขึ้นมาสิ”
“ด้วยใบบุญของเมียแก วันนี้เลยให้แกลองสัมผัสรถหรูส่วนตัวเลยนะ”
ฉินเทียนขึ้นรถ จากนั้นก็ตัดสินใจใช้ท่าไม้ตาย คือ แกล้งตาย
ขอเพียงทำให้เหลิ่งน่ายจื่ออารมณ์เย็นได้ เธอพูดอะไร ตนก็จะทำอย่างนั้นแล้วกัน
ไม่นาน ก็มาถึงช้อปปิ้งพาราไดซ์แล้ว
เกาะมลายูเป็นสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลมาที่นี่
ดังนั้น ช้อปปิ้งพาราไดซ์แห่งนี้ จึงมีสินค้าหรูหราจากทั่วโลกเกือบทั้งหมด
แต่ถึงจะกล่าวว่าทั่วโลก ทว่าสิ่งล่อตาล่อใจ ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ยุโรปเหล่านั้น
ฉินเทียนเห็นว่ามีเหล้าหลงไท่ที่มีฝุ่นเกาะทึบสองขวด อยู่บนเคาน์เตอร์เล็กๆ ตรงมุมหนึ่ง
“คุณผู้หญิง คุณอยากซื้ออะไรไหมครับ?”
“ผมคุ้นเคยทั่วที่นี่เลย ผมแนะนำให้คุณเอง” ชาร์ลีเอ่ยอย่างกระตือรือร้น
เหลิ่งน่ายจื่อกวาดตามอง แล้วเอ่ยว่า: “ซื้อกระเป๋าสักใบก่อนแล้วกัน”
“รับทราบครับ!” ชาร์ลีจิตใจกระชุ่มกระชวย
เขาเคยได้ยินมานานแล้วว่า ผู้หญิงเอเชียหลายคน แค่กระเป๋าใบเดียวก็จีบติดแล้ว
ตอนนี้เหลิ่งน่ายจื่อเป็นฝ่ายเสนอให้ซื้อกระเป๋า หรือกำลังจะสื่อถึงเขาหรือเปล่า?
เขาบอกตัวเองในใจว่า ขอเพียงราคากระเป๋าที่เหลิ่งน่ายจื่อเลือกอยู่ในระดับที่เอื้อมถึง ราคานี้ เขาก็จะจ่าย!
แต่ว่า พอเห็นเหลิ่งน่ายจื่อเดินไปยังเคาน์เตอร์แบรนด์ข้างๆ ใจเขาก็หายวาบขึ้นมา
เคาน์เตอร์เหล่านี้ เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกทั้งนั้น
ชาแนล แอร์เมส หลุยส์-วิตตอง กุชชี่ต่างๆ ไม่ว่าจะอันไหน ราคาก็แพงทั้งนั้น
แม้จะได้ตัวเหลิ่งน่ายจื่อมา แต่เขาก็สงสารเงินในกระเป๋าตัวเองเล็กน้อย
“คุณผู้หญิง คุณชอบใบไหนครับ?”
“ผมว่าใบนี้เหมาะกับคุณมาก ลองดูหน่อยไหมครับ?” เขาเดินตามอยู่ข้างๆ ตั้งใจแนะนำกระเป๋าใบเล็กที่ราคาไม่กี่ร้อยยูโรใบหนึ่ง
เหลิ่งน่ายจื่อกัดฟัน เอ่ยว่า: “เล็กไป”
ทันใดนั้น เธอเห็นกระเป๋าใบหนึ่งวางอยู่ในเคาน์เตอร์โนเนมแบรนด์หนึ่ง จากมุมที่อยู่ไกลออกไป
แม้การออกแบบลวดลายจะแหวกแนว แต่ดูแล้วก็คือกระเป๋าถือใบใหญ่ใบหนึ่ง
ไม่ต่างอะไรกับกระเป๋าที่พวกป้าตลาดสดใช้ไปซื้อผัก
“ใบนี้แหละ” เธอพยักหน้า
ชาร์ลีตกใจอ้าปากเหวอ แต่ไม่นาน ก็ดึงสติกลับมา แล้วแย้มยิ้มปีติยินดี
กระเป๋าใบนี้ราคาสิบกว่ายูโรเท่านั้น
เขาไม่คิดเลยว่า ตัวเองจะได้สาวสวยขนาดนี้มา ด้วยราคาไม่กี่สิบยูโรเท่านั้น
โชคดีชะมัดเลย!
เมื่อเห็นเหลิ่งน่ายจื่อกำลังจะจ่ายเงิน เขาจึงรีบชิงจ่ายเงินตัดหน้าก่อน
พอเห็นแบบนี้ เขามั่นใจว่าเหลิ่งน่ายจื่อคงไม่มีประสบการณ์ทางโลกมากมาย จึงไม่กล้าซื้อของราคาแพงเกินไป
ดังนั้น เขาจึงพูดอย่างใจป้ำว่า: “คุณผู้หญิง ต่อไปชอบอะไร คุณเลือกได้ตามสบายเลยนะครับ”
“ส่วนเรื่องจ่ายเงิน ปล่อยเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษเองครับ”
“ผมยินดีจ่ายให้เต็มที่”
“คุณชาร์ลี ถ้างั้นก็ขอบคุณมากเลยนะคะ” เหลิ่งน่ายจื่อเอ่ยหน้าแดงระเรื่อ ก่อนหยิบกระเป๋าใบใหญ่ แล้วเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่อยู่ไกลๆ