บัญชามังกรเดือด - บทที่ 298 เราไม่ได้ก่อเรื่อง
บัญชามังกรเดือด บทที่ 298 เราไม่ได้ก่อเรื่อง
เหลิ่งหยุนได้ยินว่ามีเรื่อง ก็รีบสะลัดอารมณ์ที่ไม่จำเป็นออกไปทันที เผยสีหน้าเย็นเฉียบ แล้ววิ่งตามฉินเทียนไป
ตอนเธอเจอเถียหนิงซวงกับเหมยหงเซว่ครั้งแรก แม้จะก่อเรื่องให้ไม่พอใจไปบ้าง
แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่ในใจ
ตอนนี้ เถียหนิงซวงกับเหมยหงเซว่มีเรื่อง ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับพวกเขาถ้วนหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น เแม้เหลิ่งหยุนจะโกรธเถียหนิงซวง แต่ในใจยังคงชื่นชมมากอยู่
เธอรู้สึกว่า เถียหนิงซวงเหมือนตัวเองตอนเข้ามาใหม่ๆ เธอชอบจริตแบบนี้
ไม่อย่างนั้น หลังเถียหนิงซวงกับเหมยหงเซว่ได้รับบาดเจ็บ เธอคงไม่ส่งว่านล้ำค่าไปให้หรอก
ทั้งสองขวางหน้ารถแท็กซี่คันหนึ่ง ฉินเทียนบอกตำแหน่ง เร่งคนขับ ให้ขับเร็วขึ้น
อาณาเขตของหมู่เกาะไม่ได้กว้างใหญ่อะไร ไม่นาน ก็มาถึงถนนโล่งเส้นใหญ่เส้นหนึ่ง บริเวณทางเลี้ยวด้านหน้า มีเสียงเบิ้ลเครื่องมอเตอร์ไซค์ดังกระหึ่ม
พร้อมด้วย เสียงร้องตระโกนคึกคะนอง
แต่ฟังจากสำเนียง กลับเป็นภาษาจีน
คนขับแท็กซี่จอดรถที่ห่างออกมาไกลๆ เอ่ยว่า: “น่าจะเป็นแก๊งซิ่ง”
“เฮ้อ ไอ้พวกสวะจากแดนมังกรพวกนี้ ถึงจะไม่กล้ามาอะไรกับคนท้องถิ่นอย่างเรา แต่พวกมันเอาแต่รังแกคนพวกเดียวกันแบบพวกคุณโดยเฉพาะเลย”
“เรื่องแบบนี้ แม้แต่ตำรวจยังขี้เกียจจะสนใจ”
“พวกคุณระวังตัวด้วยแล้วกัน”
ได้ยินคำพูดของคนขับ อารมณ์ของฉินเทียนก็ผ่อนคลายลง แต่สีหน้ากลับย่ำแย่กว่าเดิม
ที่โล่งใจ เป็นเพราะรู้ว่า ไม่ใช่คนของปรมาจารย์พิษ ปัญหาเลยไม่ได้ใหญ่อะไร
แต่ที่หน้าบึ้ง เป็นเพราะเขาได้รู้ว่า มีคนจีนย้ายถิ่นฐานออกไปทั่วทุกมุมโลกเยอะมากจริงๆ
พวกเขารวมกลุ่มเล็กๆ ขึ้นมา ไม่กล้ากลั่นแกล้งชวนต่างชาติ เลยเจาะจงลงมือกับคนชาติเดียวกันแทน
คนพวกนี้ มันช่างเป็นเศษสวะของชาติซะจริงๆ!
เขาหน้าตาขรึมเข้ม เดินไปพร้อมกับเหลิ่งหยุน
พอเลี้ยวพ้นโค้งมา พื้นที่ด้านหน้าโล่งกว้าง
เห็นนักเลงกลุ่มหนึ่ง ล้อมรอบเถียหนิงซวงกับเหมยหงเซว่ไว้ตรงกลาง พวกเขาร้องตะโกนอย่างฮึกเหิมคึกคะนอง
หลายคนในนั้น ขี่มอเตอร์ไซค์แปลงเครื่อง ดริฟต์ล้อวนรอบหญิงสาวสองคนเป็นวงกลม
มีไอ้หนุ่มสองคนนั่งอยู่บนเบาะหลังมอเตอร์ไซค์ ถือถุงช้อปปิ้งหยอกล้อเหย้าแหย่อยู่ในมือสองสามถุง
และแล้วสถานการณ์ก็กระจ่าง
เถียหนิงซวงและเหมยหงเซว่กลับมาจากช้อปปิ้ง แล้วโดนไอ้พวกแก๊งซิ่งพวกนี้ฉวยกระเป๋าไป จากนั้น ยังปิดล้อมพวกเธอไว้อีก
แม้สองสาวจะโกรธ แต่ยังควบคุมตัวเองไม่ให้ลงมือได้มาจนถึงตอนนี้
อีกสาเหตุหนึ่งคือ ต่างบ้านต่างเมืองมาไกลเป็นพ้นๆ ลี้ หญิงสาวสองคนอย่างพวกเธอ ไม่คุ้นที่คุ้นทาง เลยหวาดกลัวไปตามประสา
อีกอย่าง ตอนออกมาเมื่อเช้า ฉินเทียนบอกว่าห้ามพวกเธอก่อเรื่อง
ดังนั้น ด้วยความจนใจ เหมยหงเซว่จึงโทรศัพท์หาฉินเทียน
“ว่าไง แม่สาวสวยทั้งสอง คิดได้หรือยัง?”
“ยอมไปดื่มเหล้ากับพี่ดีๆ เถอะน่า พออยู่เป็นเพื่อนพี่จนพอใจแล้ว ไม่ใช่แค่จะคืนของให้พวกเธอนะ”
“อยากได้อะไร พี่จะไปซื้อมาให้พวกเธอเลย”
เจ้าหัวโจกหวงเหมา ที่คาบซิการ์ม้วนใหญ่อยู่ในปาก เอ่ยอย่างคุกคาม
“พี่เหมา สองสาวนี่สวยชะมัดเลยอะ!”
“มองจนพวกเราอยากจะเป็นเพื่อนกับพวกเธอแทบทนไม่ไหวแล้วเนี่ย” พวกผู้ชายทั้งกลุ่มโห่ร้อง
“ได้ยินไหมเนี่ย?”
“พี่เหมามีความอดทนจำกัดนะ พูดด้วยดีๆ แล้วไม่ชอบ”
เมื่อเห็นหญิงสาวสองคนกัดฟันไม่พูดไม่จา เจ้าหัวล้านหนึ่งในนั้นก็ทนไม่ไหว กระโจนเข้าไปดึงแขนของเถียหนิงซวงทันที
เถียหนิงซวงหมดความอดทนในที่สุด ยื่นมือออกไป จับข้อมือของเจ้าหัวล้าน แล้วบิดอย่างแรง
เจ้าหัวล้านร้องโอดโอย คุกเข่าลงข้างหนึ่ง
“พี่เหมาช่วยฉันด้วย!”
“นังพวกโสโครกนี่มันกล้าทำฉัน รีบฆ่ามันเร็ว!”
หวงเหมาแววตาดุดัน กำลังจะออกคำสั่งลงมือ
เหมยหงเซว่รีบเอ่ยว่า: “ฉันโทรไปบอกหัวหน้าแล้ว เดี๋ยวหัวหน้าของพวกเราก็มาแล้ว!”
“ฉันขอเตือนให้พวกแกระวังตัวไว้ให้ดี หัวหน้าพวกเรา นิสัยใจคอใช่ย่อยนะ!”
ได้ยินสิ่งที่เธอพูด หวงเหมาและคนอื่นๆ ก็ระเบิดหัวเราะลั่น
จากที่พวกเขาเคยเห็นมา ไอ้ผิวเหลืองที่มาต่างเมืองพวกนี้ แต่ละคนกลัวตายกันทั้งนั้น ไม่มีใครกล้าหือกับพวกเขาหรอก
เพราะพวกมันไม่มีใครหนุนหลังยังไงละ
“คนสวย พอหัวหน้าของเธอมา ฉันจะซัดมันให้หมอบในหมัดเดียวไปเลย!”
“พวกเรา จับพวกมันไว้ก่อน!”
“วันนี้ได้ส่วนแบ่งกันทุกคน!”
สิ้นคำสั่ง ผู้ชายทั้งกลุ่มก็หอนโบร๋วๆ ราวกับสุนัขจิ้งจอก ตั้งท่าจะกระโจนใส่เถียหนิงซวงกับเหมยหงเซว่
ทันใดนั้น เสียงเย็นเยียบเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ฉันนี่แหละ หัวหน้าของพวกเขา”
เสียงไม่ดัง แต่ทุกคนอดหวาดผวาไม่ได้ พวกเขาเหลียวไปมองพร้อมกัน
เห็นฉินเทียนถือข้าวของกับกระเป๋าใบใหญ่เต็มสองมือ อย่างกับพ่อบ้านทำความสะอาด ข้างๆ ยังมีสาวสวยสวมชุดกิโมโนงดงามคนหนึ่งด้วย
พวกเขาอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะลั่น
“พี่เทียน!” เถียหนิงซวง รีบปล่อยมือที่จับเจ้าหัวล้านออกทันที
เธอก้มหน้าพูดอย่างลำบากใจว่า: “ขอโทษนะ ฉันไม่น่าก่อเรื่องเลย”
ฉินเทียนเค้นเสียงในลำคอ สายตาจับจ้องไปที่หวงเหมา เอ่ยว่า: “แกเป็นหัวหน้าใช่ไหม?”
“คุกเข่าลง ตัดมือสองข้างของตัวเองซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิต”
“พูดอะไรของแก?” หวงเหมาหัวเราะหงุดหงิด แล้วพูดว่า: “ไอ้หนู เอ็งเป็นป๋าเหรอวะ?”
“หิ้วผู้หญิงสวยมาเยอะขนาดนี้”
“จะบอกแกให้นะ แม่สองคนนี่ แล้วก็คนข้างๆ แก วันนี้ต้องไปกินเหล้ากับพี่ให้หมด”
“เอาไง บอกข้อแลกเปลี่ยนมาสิ”
ฉินเทียนเอ่ยหน้านิ่ง: “ข้อแลกเปลี่ยนของฉัน ก็คือชีวิตของแก”
หวงเหมาพูดลอดไรฟัน: “ดูทรงแกนี่ ถ้าไม่เห็นโลงศพคงไม่หลั่งน้ำตาสินะ”
“พวกเรา ทำให้มันเห็นความเก่งกาจของแก๊งซิ่งเราเป็นขวัญตาเดี๋ยวนี้เลย!”
“จัดการ!”
มอเตอร์ไซค์เหล่านั้น เร่งเครื่องเสียงกระฮึ่มใส่ฉินเทียนอยู่นานแล้ว
ขณะนี้ได้ยินคำสั่งจากหวงเหมา คนขับก็บิดคันเร่งจนสุด ก่อนจะปล่อยเบรก
คันหนึ่งในนั้น เสียงดังแว๊นๆ ยกล้อพรวดเข้ามา จากนั้น พุ่งตรงเข้าใส่ฉินเทียนอย่างคุ้มคลั่ง
สองสามคันด้านหลัง มือขับชักมีดยาวออกมา ครูดไปตามพื้น จนเกิดประกายไฟเป็นทาง ระหว่างขี่ตามกันมา
ฉินเทียนยืนถือกระเป๋าใส่ของใบใหญ่ไม่ขยับเขยื้อน
เหลิ่งหยุนเองก็มองด้วยสายตาเฉยชาเช่นกัน ราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
จนกระทั่งมอเตอร์ไซค์คลั่งคันหน้าแล่นเข้ามาตรงหน้า ฉินเทียนจึงเงื้อเท้าข้างหนึ่งขึ้น ถีบใส่ล้อหน้า ซึ่งดูเหมือนถีบไปอย่างนั้น
เสียงดังครืน
ทั้งรถมอเตอร์ไซค์และคนขี่ ล้มกระแทกพื้น จากนั้น บนทางประกายไฟก็เกิดกระแสไฟฟ้าแล่นไปตามพื้น วิ่งเข้ากระแทกสองสามคันที่อยู่ด้านหลัง
ปัง ปัง ปัง ปัง!
คันด้านหลังหลบไม่ทัน ล้มระเนระนาดลงไปพร้อมกัน
ชั่วพริบตา รถมอเตอร์ไซค์เหล่านั้นพังยับเยินหมดทุกคัน
คนขี่ที่ถูกรถหนักอึ้งทับร่างอยู่ เจ็บจนร้องครวญหาพ่อหาแม่
คราวนี้ หวงเหมาและลูกน้องคนอื่นๆ พวกนั้น พากันตะลึงลาน
“ไอ้หนู แกเป็นใครวะ?” หวงเหมาถามอย่างหวาดหวั่น
ฉินเทียนหัวเราะหึหนึ่งเสียง คร้านจะสนใจหวงเหมา
เขามองเถียหนิงซวงกับเหมยหงเซว่ แล้วพูดว่า: “ฉันบอกว่า ห้ามพวกเธอก่อเรื่อง”
“แต่ ไม่ได้บอกว่าถ้ามีคนมาหาเรื่องพวกเธอ แล้วห้ามสู้กลับนิ”
“คติของพวกเราคือ ไม่ก่อเรื่อง ไม่เกรงกลัว แต่หากมีใครมาหาเรื่องเรา งั้นก็ทำให้พวกมันเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี่ซะ”
“ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าต้องทำยังไง?”
เถียหนิงซวงและเหมยหงเซว่ นัยน์ตาสวยทอประกายสว่างใสพร้อมกัน
“รู้แล้ว!” พวกเธอตอบกลับด้วยความซึ้งใจ จากนั้น ก็กัดฟัน เดินตรงไปหานักเลงพวกนั้นที่อยู่รอบ