บัญชามังกรเดือด - บทที่ 327 สี่ตำลึงเคลื่อนพันชั่ง
บัญชามังกรเดือด บทที่ 327 สี่ตำลึงเคลื่อนพันชั่ง
เพราะอารมณ์โมโห แล้วพูดเสียงดัง แผ่นมาสก์หน้าของซูซูก็จึงหลุดออก
“ไม่ทำแล้ว นอน!” เธอดึงแผ่นมาสก์หน้าออกด้วยความโกรธ แล้วล้มตัวลงนอน
ทว่า บังเอิญเห็นภาพพื้นหลังของฉินเทียน คิ้วของเธอก็ย่นเข้าหากัน แล้วกล่าว“คุณอยู่ไหน?”
“คุณควรอยู่ที่โรงแรมไม่ใช่เหรอ ? ทำไมดูเหมือนอยู่ในบ้าน ?”
“นอกจากนั้น ห้องนี้มันห้องของเด็กผู้หญิงหรือเปล่า ?”
ฉินเทียนก็เพิ่งจะสังเกตเห็น ว่าเตียงที่ตัวเองนอนอยู่ เป็นสีชมพูด้วยรสนิยมที่น่าขยะแขยงของหวางเฉียง
เขาตะลึงไปครู่หนึ่ง และรีบกล่าว“ มีเพื่อนคนหนึ่งเห็นผมไม่มีที่พัก เลยยกคฤหาสน์หลังนี้ให้ ”
“จริงเหรอ!”
“หรือไม่คุณก็มาดูเองสิ !”
ซูซูเบะปาก ยิ้มเยาะและกล่าว“คุณไม่ต้องอธิบายอย่างร้อนตัวขนาดนั้น”
“อธิบายก็เท่ากับซ่อนเร้นปิดบัง ”
“เพื่อนคนนี้ แซ่หลิว ชื่อหรูยู่ใช่ไหม?”
“ฉันเข้าใจ!”
ฉินเทียนร้อนรนขึ้นมาแล้วจริงๆ แล้วนี่จะอธิบายกันยังไงล่ะทีนี้
“ที่รักฟังผมอธิบายก่อน!”
“พอเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว”
“ชีวิตของดาราดังตอนนี้ก็ไม่ได้สงบสุขเท่าไร คุณอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ ”
“ฉันจะนอนแล้ว แค่นี้นะ”พูดจบก็กดวางสายในทันที
แม้ปากซูซูจะพูดว่าไม่เป็นอะไร แต่ฉินเทียนรู้ ว่าในใจของเธอก็คิดมากอยู่เหมือนกัน
โมโหจนอดไม่ได้ที่จะตบหน้าตัวเองไปฉาดหนึ่ง
ไม่มีเรื่องแล้วแส่หาเรื่องทำไม เดิมทีตั้งใจจะวิดีโอคอลหวานกับภรรยาสักหน่อย แต่กลับหาเรื่องใส่ตัวเองซะงั้น
นอน!
เขาโกรธจนเผลอหลับไป
ขณะเดียวกัน ที่เมืองหยุนชวน สถานบันเทิงที่ทันสมัยและมีความเป็นส่วนตัวแห่งหนึ่งในเมือง
ภายในห้องรับรองสุดหรูขนาดใหญ่ ชายวัยสามสิบคนหนึ่ง นอนอยู่บนโซฟาในชุดคลุมอาบน้ำ
หญิงสาวสี่คนที่รูปร่างเซ็กซี่ ในชุดบิกินี่
คนหนึ่งกำลังบีบนวดหัวไหล่ให้เขา และอีกสองคนก็กำลังบีบท่อนขาให้เขา
อีกคน ก็กำลังปอกส้ม แล้วป้อนมันให้เขา
เสียงเพลงที่บรรเลง กำลังเล่นเพลงของหลิวหรูยู่ น้ำเสียงที่ไพเราะ ดังก้องกังวานอยู่ภายในห้อง
ชายหนุ่มกำลังกินส้ม ด้วยสีหน้าที่สบายใจ
เขาก็คือบุคคลตระกูลดังในเมืองหยุนชวนคุณชายของตระกูลจ้าว จ้าวซวู่
“คุณชาย โม่ชงมาแล้วครับ”พ่อบ้านวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา พูดเสียงแผ่วด้วยรอยยิ้ม
จ้าวซวู่พูดเสียงเรียบ“ให้เขาเข้ามา”
“ครับ”พ่อบ้านโบกมือไปยังด้านนอก ชายคนหนึ่งที่รูปร่างอ้วนจ้ำม่ำ ใบหน้าแดงก่ำเดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี
เขาคือผู้ที่ดูแลรับผิดชอบบริษัทหวงฉาวอยู่เบื้องหน้าโม่ชง
ก่อนหน้านั้นเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับจ้าวซวู่ หลังจากที่เรียนจบ ภายใต้การจัดการของจ้าวซวู่ ก็จึงก่อตั้งบริษัทหวงฉาวขึ้นมา
ในตอนแรก จ้าวซวู่ก็เพียงแค่นึกสนุกเท่านั้น บริษัทนี้ อันที่จริงแล้วเป็นแค่ช่องทางคัดกรองจัดหาดาราสาวๆให้เขาเท่านั้น
แต่ภายใต้การดำเนินการอย่างแข็งขันของโม่ชง ในตอนนี้ได้กลายไปเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการบันเทิงไปแล้ว
ตัวโม่ชงเอง ก็ถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการบันเทิงอีกด้วย
“พี่จ้าว มีข่าวดีมาบอก ”
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว อีกสามวัน ดาราดังหลิวหรูยู่ ก็จะเป็นศิลปินในสังกัดพี่แล้ว ”
“ถึงตอนนั้น เธอจะต้องว่านอนสอนง่ายแน่ๆ ”
เมื่อได้ยินชื่อของหลิวหรูยู่ ดวงตาของจ้าวซวู่ก็เบิกกว้าง ยิ้มเยาะแล้วกล่าว“ ไอ้เจ้าหวางเฉียงนั่นไม่ได้เอะใจอะไรเลยใช่ไหม ?”
โม่ชงกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ไม่ครับ”
“เมื่อกี้เขายังโทรหาผม เร่งให้ผมรีบๆเซ็นสัญญา เขาจะไปตั้งหลักปักฐานที่ต่างประเทศ”
“เขายังฝันว่าจะได้สามร้อยล้านนั่นอีกเหรอ ”
จ้าวซวู่ยิ้มเยาะแล้วกล่าว “หวางเฉียงมันเป็นตัวอะไร อยากจะได้เงินสามร้อยล้านจากฉันไปงั้นเหรอ ”
“ฉันจ้าวซวู่ถึงจะรวย แต่ก็ไม่ให้พวกสุนัขแบบนี้เอาไปกินหรอกนะ ”
“ฉันรับปากจะให้เขาสามร้อยล้าน ก็เพื่อจะรั้งเขาไว้ รอสามวันให้หลังเมื่อมีงานแถลงข่าว ประกาศข่าวออกไป ”
“หวางเฉียงก็ไม่มีทางเลือก ถึงตอนนั้น ให้เขาสักสิบยี่สิบล้าน ก็ถือว่าทำบุญทำทานให้หมามัน”
โม่ชงรีบพูดขึ้นมา“พี่จ้าวช่างฉลาดจริงๆ !”
“ของที่มีค่าที่สุดของบริษัทซิงถู ก็คือสัญญาของหลิวหรูยู่”
“พี่จ้าวควักเงินสิบล้านก็ได้ทั้งคนได้ทั้งเงิน ผมต้องขอแสดงความยินดีกับพี่จ้าวก่อนเลยนะครับ”
จ้าวซวู่ขมวดคิ้ว และกล่าว“หลิวหรูยู่คนนี้ช่างจัดการยากจริงๆ”
“ภายใต้แรงกดดันตั้งมากขนาดนี้ เธอก็ยังไม่ยอมก้มหัวอีก?”
โม่ชงกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ถึงเธอจะยังไม่ยอมก้มหัวให้ในตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้ออกมาชี้แจงอะไร”
“ผมว่า เธอคงยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ คงอยากจะรอจนวินาทีสุดท้ายละมั้งครับ ”
“ขอเพียงแค่ข่าวการซื้อกิจการของซิงถูถูกประกาศออกไป หลิวหรูยู่ไม่มีทางให้ถอย ผมเชื่อว่า ถึงตอนนั้นเธอต้องมาซบอกพี่จ้าวแน่นอนครับ ”
“หากเธอไม่มีความคิดนี้ คงออกมาประจันหน้ากับสื่อไปแล้วพี่จ้าวว่าถูกไหม ?”
จ้าวซวู่ยิ้มเยาะแล้วกล่าว“นับว่าเธอยังมีวิสัยทัศน์อยู่ ”
เมื่อนึกถึงรูปร่างหน้าตาของหลิวหรูยู่ และคิดว่าตัวเองกำลังจะได้ครอบครองเธอ แววตาของจ้าวซวู่ก็มีประกายไฟลุกโชนขึ้นมา
“ถึงตอนนั้น ฉันจะจัดการเธอให้หนำใจเลย !”
“ให้เธอได้รู้ ว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้านายของเธอ !”
โม่ชงยิ้มและกล่าว“ ผมยังมีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่งครับ ”
“พี่จ้าว สัญญาของมู่เฟยเฟยกับต้นสังกัดเดิมหมดลงแล้ว ผมตั้งใจจะเซ็นสัญญากับเธอ และการเจรจาเบื้องต้นก็ได้บรรลุผลแล้วครับ”
“พี่จ้าว มู่เฟยเฟยคนนี้แม้จะเทียบกับหลิวหรูยู่ไม่ได้ แต่ก็เป็นเบอร์ต้นๆเหมือนกันนะครับ ”
“หรือไม่ ส่งตัวเธอมาก่อน แล้วให้พี่จ้าวช่วยดูแลจัดการหน่อยเป็นไงครับ?”
จ้าวซวู่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง และกล่าว“ฉันไม่ชอบมู่เฟยเฟย”
“ช่วงนี้ฉันต้องเตรียมพร้อมตัวเอง ถึงเวลาจะได้ดูแลปรนนิบัติหลิวหรูยู่ให้ดี”
โม่ชงยิ้มแล้วกล่าว “ได้ครับ!”
“หากพี่จ้าวไม่มีคำชี้แนะอะไรแล้ว หลังสามวัน ผมจะพาคนไปที่ซิงถูด้วยตัวเองนะครับ”
“ผมได้เชิญสื่อจำนวนมาก แล้วปล่อยข่าวออกสู่สาธารณชน ตัดช่องทางหนีทีไล่ของหวางเฉียงกับหลิวหรูยู่ ”
จ้าวซวู่โบกมือ และกล่าว“นายไปจัดการเถอะ”
“ฉันมีแค่ความต้องการเดียว หลังสามวัน ที่ตรงนี้ ฉันจะต้องได้เห็นหลิวหรูยู่มาคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนฉัน ”
“ฉันแทบทนรอไม่ไหวอยู่แล้ว !”
โม่ชงคิดอะไรขึ้นมาได้ ลังเลอยู่ชั่วครู่ พูดเสียงแผ่ว“พี่จ้าว ในเมื่อทนรอไม่ได้ แล้วทำไมต้องรออีกสามวันด้วยล่ะ ?”
“ในความเห็นของผม เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลง พรุ่งนี้ผมสามารถจัดงานแถลงข่าว แล้วเอาตัวหวางเฉียงกับหลิวหรูยู่มาได้เลย”
จ้าวซวู่ยิ้มเยาะ แล้วมองไปยังพ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ และกล่าว“กัวเซิง นายบอกเขาสิ”
กัวเซิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม“หลังสามวัน ก็เป็นวันประชุมสามัญครอบครัวของจ้าวซื่อด้วยครับ”
“คุณเองก็รู้ ในตระกูล มีบางคน คอยวิพากษ์วิจารณ์และไม่พอใจ ที่คุณชายถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไป ”
“หากไม่ผิดจากที่คาด ถึงตอนนั้นพวกเขาจะต้องโจมตีคุณชายอีกเป็นแน่”
“คุณชายต้องการจะเตรียมเซอร์ไพรส์ ถึงตอนนั้น ใช้การซื้อซิงถูตบหน้าพวกเขา”
“พิสูจน์ให้พวกเขาได้เห็น ว่าที่คุณชายเป็นผู้สืบทอดนั้น เหมาะสมกับการได้รับ”
โม่ชงกล่าวด้วยความสงสัย“สำหรับธุรกิจครอบครัวที่ยิ่งใหญ่อย่างจ้าวซื่อ การซื้อซิงถูมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?”
กัวเซิงยิ้มและกล่าว“คุณชายซื้อซิงถู ก็เพราะหลิวหรูยู่”
“เมื่อได้หลิวหรูยู่ ก็เท่ากับได้ครอบครองเมืองหนานเจียง”
“เมื่อมีตัวตนของหลิวหรูยู่ คุณชายก็สามารถพิสูจน์ให้คนในตระกูลได้เห็น ว่าเขาสามารถยึดครองเมืองหนานเจียงได้”
“นี่ก็คือเป้าหมายสำคัญของคุณชาย”
“คุณชาย ผมพูดถูกไหมครับ ?”
จ้าวซวู่หัวเราะร่า และกล่าว“พ่อบ้านกัวเข้าใจฉันที่สุด”
“ดังนั้นโม่ชง นายรู้ความสำคัญของเรื่องนี้แล้วหรือยัง?”
โม่ชงพูดอย่างตื่นเต้น“ ใช้วิธีสี่ตำลึงเคลื่อนพันชั่ง ช่างสมกับเป็นพี่จ้าว ฉลาดหลักแหลมจริงๆ!”
“พี่จ้าวโปรดวางใจ!”
“ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ให้คนที่ต่อต้านพี่จ้าวต้องหุบปากตลอดไป !”
จ้าวซวู่พยักหน้า และกล่าว“ญาติๆพวกนั้นของฉัน ไม่ได้โง่เขลา เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ นายต้องเก็บมันเป็นความลับ”
“ฉันกังวลว่าหากพวกเขารู้เข้า จะมาก่อกวนได้”
“ถึงฉันจะไม่ได้กลัวพวกเขา แต่ว่า การประชุมของตระกูลนั้นสำคัญมาก เป็นไปได้ก็อย่าให้มีปัญหาอะไรเพิ่ม”
“เข้าใจแล้วครับ!”โม่ชงจากไปอย่างตื่นเต้น