บัญชามังกรเดือด - บทที่ 379 มาเยาะเย้ยฉันหรอ
บัญชามังกรเดือด บทที่ 379 มาเยาะเย้ยฉันหรอ
“คุณคือใคร?”
“มาทำอะไรที่นี่ครับ?” ชายรักษาหน้าประตูทั้งสองคนเดินเข้ามา แล้วเอ่ยถามและเต็มไปด้วยความตักเตือน
เสียงเบาๆของชายหนุ่มที่เอ่ยออกมา “ไปแจ้งราชาหลิน ว่ามีคนรู้จักจากหยุนชวนอยากที่จะขอพบ”
“คุณมาจากหยุนชวน?”ชายผู้รักษาหน้าประตูเอ่ยถาม
ชายหนุ่มพยักหน้า
ยามหน้าประตูเอ่ยยิ้ม “รถขบวนของคุณหนูพวกเราเพิ่งจะออกไปนะ คุณเป็นคนของตระกูลจ้างใช่ไหม เรื่องงานแต่งงาน อยากที่จะพบคุยกับราชาหลิน?”
ชายหนุ่มพยักหน้า ราวกับว่าเขานั้นไม่อยากที่จะเอ่ยอะไรเยอะแยะออกมา
“รอสักครู่”ยามหน้าประตูวิ่งเข้าไปรายงาน
วันนี้เป่ยเจียงและตระกูลจ้าวแต่งงาน ภายในใจของพวกเขานั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
เพราะว่าดังนั้นคนของตระกูลจ้าวแห่งหยุนชวน นับว่าเป็นแขกคนสำคัญ
“ฉันจะไม่พบใครทั้งนั้น”
“คุณนาย เขาเอ่ยว่าเขานั้นคือคนเก่าแก่ของหยุนชวน”
“คนเก่าแก่ของหยุนชวน?”ยู่หลิงหลงนิ่งครู่หนึ่ง คิดถึงอะไร ก่อนที่สะหน้าจะเปลี่ยน
เธอนั้นกัดฟันแล้วเอ่ย “เอากล้องหน้าประตูส่งมาที่ห้องของฉัน”
“รับทราบครับ”
เร็วๆนั้นยู่หลิงหลงเธอก็เห็นภาพจากกล้อง และเห็นชายหนุ่มที่หน้าประตู
เมื่อเห็นหน้าใบนี้ เธอนั้นนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยเบาๆ “ไปเรียกเขาเข้ามาเถอะ”
ชายหนุ่มเดินเข้ามาภายด้านใน
เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้า สายตาของเขานั้น กลับเจ็บปวดอีกครั้ง
ในเวลานั้น ไม่รู้ว่าจะเอ่ยเช่นไรเลย
ในที่สุด ก็เป็นยู่หลิงหลงเอ่ยตัดความเงียบ “จ้าวเทียนเผิง เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
“ตระกูลจ้าวนั้นก็เหมือนเป็นแม่ของพวกเขา งั้นคุณก็มีใช่ไหม??”
“คุณนี่มาเยาะเย้ยฉันหรอ?”
จ้าวเทียนเผิง เป็นคนโตของตระกูลจ้าวแห่งหยุนชวน จ้าวเทียนเล่อและจ้าวเทียนจีเป็นพี่ชายใหญ่แห่งตระกูลจ้าว
เขาอายุยังน้อย เดิมทีแล้วต้องเป็นคุณชายของตระกูลจ้าวที่เป็นคนรับช่วงต่อ แต่เพราะเรื่องเหตุการณ์อารมณ์ความรู้สึก เลยทำให้เสียใจ
ไม่เพียงแต่พลาดตำแหน่งผู้นำ ตระกูลจ้าวในวันนี้ ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นกรรมลิขิตแล้ว
แต่ว่าเขาในวันนี้กลับไม่เคยลืมผู้หญิงคนหนึ่ง นั่นก็คือยู่หลิงหลง
ในตอนนั้น ราชาแห่งเป่ยเจียงคนเก่าหลินหู่ยังอยู่ เธอยู่หลิงหลงนั้นเป็นลูกสาวคนเดียวของหลินหู่ และยังเป็นสาวสวยอีกด้วยที่ไร้เดียงสา
ในรอบงานเลี้ยงนั้น จ้าวเทียนเผิงได้เจอกับหลินหลง นับว่าเป็นรักแรกพบ ที่ทำอะไรไม่ได้
หลินหลงนั้นสำหรับจ้าวเทียนเผิง ก็เหมือนจะมีความรู้สึกดีๆ เดิมทีแล้ว เป็นสาวสวยเหมือนกับเป็นคู่กัน เหมือนเกิดมาเพื่อคู่กัน
ใครจะไปรู้ ว่าหลินหู่จะโดนต้วนชิ่งทำร้าย และโลกของหลินหลงนั้นก็ได้พังทลายลง
เดิมทีนั้นเป็นผู้หญิงที่สาวสวย แต่กลับได้หายหน้าไปจากสายตา กลับกลายเป็นสีดำที่รอที่จะฆ่าล้างแค้น
แต่ว่าหลิวชิงเหยาในวันนี้
จ้าวเทียนเผิงในตอนนั้นค้นหาหลินหลงแทบบ้า อีกทั้งยังขาดสติไปอีกด้วย และต้องเผชิญหน้ากับพ่อของเขา ก่อนที่จะใช้พละกำลังทั้งหมดของหยุนชวน ใช้กำลังทั้งหมดเป่ยเจียงเพื่อล้างแค้นให้ หลินหู่
แต่ว่าเหล่าจ้าวนั้นไม่ยอมให้ทำเช่นนี้ ในอีกด้าน โอกาสนั้นก็ไม่เพียงพอ
เป่ยเจียงและหนานเจียงนั้นเป็นศัตรูกัน พวกเขาตระกูลจ้าวนั้นสามารถที่จะต่อสู้กันได้ เพื่อประโยชน์ต่างๆ
อีกด้านหนึ่ง เขานั้นได้โกรธลูกของเขานั้นเองมาก เพื่อหญิงสาวคนหนึ่งกลับขาดสติ เลยทำให้เขานั้นโกรธมาก
ในความโกรธแค้น เหล่าจ้าวเลยให้ลูกชายของเขานั้นไปอยู่ในบริษัทในชายแดน
เดิมทีที่อยากจะทุบตีเขา เพียงแค่จ้าวเทียนเผิง นั้นพอจะปรับตัวแล้วสามารถที่จะกลับมาเข้าตระกูล แล้วรับหน้าที่เป็นผู้สืบทอดต่อไป
ใครจะไปรู้ ว่าจ้าวเทียนเผิงนั้นไม่เคยเปลี่ยนใจ ตั้งแต่ความโกรธนั้น เขานั้นได้ไปอยู่ในบริษัทนั้นไม่เคยกลับมาอีกเลย
เหล่าจ้าวเกลียดจนไม่รู้จะเอ่ยอย่างไร เจ็บปวดชอกช้ำใจ
ภายใต้ความโกรธ เลยยอมสละจ้าวเทียนเผิง แล้วเลี้ยงลูกคนที่สอง ก็คือผู้นำตระกูลคนปัจจุบันของตระกูลจ้าว จ้าวเทียนเล่อ
จ้าวเทียนเผิงนั้นพยายามมาตลอด อยากที่จะล้างแค้นให้หลินหู่ อยากที่จะเอาคนรักกลับมา
เพียงแค่ ในที่สุดเขานั้นก็พบว่าต้วนชิ่ง นั้นถูกฆ่า ได้เปลี่ยนหัวหน้ากันเป่ยเจียง เลยตกมาถึงหลินหู่มาคอยปกป้อง นามว่าหลิวเช่อ
ในตอนนั้น หลินหลงนั้นก็ไม่ใช่หลินหลง อีกต่อไป เป็นผู้นำตระกูลหนานเจียง นามว่ายู่หลิงหลง
ที่สำคัญเลยก็คือ เอนั้นได้เป็นภรรยาลับๆของหลิวเช่อ
หลิวเช่อนั้นก็ได้คลอดลูกสาว
จ้าวเทียนเผิงอยู่ในความสิ้นหวัง ในที่สุดก็รู้ว่า แค่พลาดไปรอบเดียว นั่นก็เหมือนพลาดไปตลอดชีวิต
เขาเลยเอาหลินหลงสาวสวยคนนี้ซ่อนไว้ในใจลึกๆ และคิดว่าในชีวิตนี้คงจะไม่ได้เจอหลินหลงอีก และจะใช้เพียงแค่ความทรงจำต่อไปในการคิดถึง
ไม่คิดเลยว่า ไม่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ กลับได้พบกันอีก
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของยู่หลิงหลง จ้าวเทียนเผิงนั้นก็ได้แค่ยิ้มฝืนๆ
“หลงหลง——”
“เรียกฉันว่าหลินหลงหรือไม่ก็ประธานหลินเถอะ!”
จ้าวเทียนเผิงสีหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่นก่อนจะเอ่ย“หลงหลง”นี่คือชื่อเดิมที่พวกเข้าใช้เรียกในตอนที่มีความรัก
เขาเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด “รับทราบประธานหลิน”
“ฉันหลายปีมานี้ เวลาส่วนมากก็จะใช้ในการทำธุรกิจ และไม่ค่อยได้ดูเรื่องตระกูลเท่าไหร่เลย”
“ในรอบนี้เป็นเทียนเล่อโทรเข้ามาหาผม บอกว่าลูกชายของเขานั้นอยากจะแต่งงาน อยากจะแต่งงานกับลูกสาวของราชาเป่ยเจียง ผมที่เป็นปู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมาร่วมยินดี”
“ผมนั้นก็ผ่านมาทางเป่ยเจียง เลยแวะมาเยี่ยมคุณสักหน่อย”
“ทำไมหรอ หรือว่างานแต่งครั้งนี้ คุณไม่ได้ยินยอมหรอกหรอ?”
ยู่หลิงหลงมองไปที่จ้าวเทียนเผิง ก็รู้ดีว่าเขานั้นไม่ผิดหรอก
เธอกัดฟันเอ่ย“พวกคุณตระกูลจ้าว นั้นก็แค่จะใช้อำนาจของฉันเอง!”
“พวกคุณนั้นสู้ฉินเทียนไม่ได้หรอก แล้วก็เอาอันกั๋วไม่ลงหรอก ก็เอาลูกสาวของฉันไป แล้วบีบบังคับให้เป่ยเจียงมาร่วมเป็นพันธมิตรกันอีก!”
“ฉันบอกพวกคุณเลยนะ สละใจไปเถอะ!”
“เพียงแค่ฉันหลินหลงยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกคุณทำตามอำเภอใจหรอก!”
“อีกทั้ง หากลูกสาวของฉันนั้นได้รับความเสียใจจากหยุนชวน ฉัน หลินหลงและห้าเสือจะพากับไปที่ หยุนชวน และทำลายตระกูลจ้าวให้สิ้นซาก!”
เมื่อมองเห็นยู่หลิงหลงโกรธเช่นนี้ ในสายตาของจ้าวเทียนเผิง นั้นก็อบอุ่นขึ้นมา
เหมือนกับว่าเขานั้นได้เห็นในช่วงที่เธอนั้นไม่คิดไม่เครียด ของเธอในสมัยก่อน
ในปีนั้นหลินหลงนั้นดึงดูดเขา นี่มันเป็นเรื่องของความจริง
“คุณยิ้มอะไร?”
“รู้สึกว่าฉันทำไม่ถูกหรอ?”ยู่หลิงหลงนั้นแอบโกรธ
จ้าวเทียนเผิงกระแอมออกมาก่อนเอ่ย “คุณวางใจได้เลย”
“ผมมันแค่คนไร้ประโยชน์ ไม่มีอำนาจอะไร ไม่ได้อยู่ในตระกูลจ้าว แต่ว่าก็ยังพอมีหน้าตานะ”
“ผมนั้นรับประกันเลยว่า หลานสาวชิงเหยาแต่งเข้ามาในตระกูลจ้าว จะไม่ให้เธอได้รับความน้อยใจใดๆ”
“ถึงแม้หลานชายของผมนั้นอยากจะใช้งานแต่งงาน เพื่อบีบให้เป่ยเจียงเข้าร่วมสงคราม แต่เรื่องนี้ รายละเอียดผมก็ไม่ค่อยทราบเท่าไหร่”
“รอให้ผมไปถึงตระกูล แล้วเข้าในสถานการณ์ แน่นอนว่าจะต้องมารายงานให้คุณ”
“คุณวางใจเถอะ ไม่ว่าอย่างไร ผมจ้าวเทียนเผิงขอให้ชีวิตเป็นประกันเลย ว่าจะไม่ให้ลูกสาวของคุณต้องเสียใจ”
ยู่หลิงหลงดวงตาแดงก่ำ
เธอนั้นเป็นหญิงสาวตัวคนเดียวมานานแล้ว ไม่เคยมีชายคนไหนเลยที่จะมาให้ความอบอุ่นเช่นนี้ให้กับเธอ
นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เธอเอ่ยเสียงต่ำ “หลายปีมานี้ คุณไม่ได้แต่งงานเลยหรอ?”
“ทำไมหรอ”
จ้าวเทียนเผิงเอ่ยยิ้มเจื่อน “ผมคิดว่ามันคุ้มค่านะ”
“เพียงแค่ผมไม่อยากแต่งงาน ภายในใจของผมมีคนนั้นแล้ว ที่คอยอยู่ข้างๆผมมาตลอด”
ยู่หลิงหลงหนังตากระตุก เธอนั้นรู้ดีว่า หญิงสาวในใจของจ้าวเทียนเผิงนั้นก็คือเธอ
เพียงแต่ว่า คนนั้นไม่ใช่ เธอในวันนี้ ไม่ใช่เธอในตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว
เธอถอนหายใจแล้วเอ่ยเบาๆ“ในตอนนั้น ฉันต้องขอโทษจริงๆ”
จ้าวเทียนเผิงรีบเอ่ย “คุณไม่ผิดหรอกนะ”
“ตอนหลังผมก็รู้ว่า ระหว่างพวกเรานั้น เป็นเพียงแค่ความรักช่วงหนึ่ง คุณกับหลิวเช่อ นั้นแหละถึงจะเหมาะสมคู่ครอง ใช้ชีวิตร่วมกัน”
“ในตอนที่คุณต้องการความช่วยเหลือ ผมนั้นไม่อยู่”
“แต่ว่าหลิวเช่อนั้นเขาช่วยคุณมาตลอดทั้งหมด เขานั้นเป็นชายแท้จริงๆ”
“หลายปีมานี้ ฉันนั้นไม่เคยคิดจะโทษเขาเลยเหมือนกัน”
ยู่หลิงหลงเธอเช็ดน้ำตา ก่อนจะเอ่ย “ไม่เอ่ยอันนี้แล้ว”
“ตอนนี้ก็เจอกันแล้ว คุณรีบไปเถอะ”
“พรุ่งนี้เป็นวันแต่งงานของเหยาเหยา คุณช่วยเอาอันนี้ไปให้เธอหน่อยก็แล้วกัน”
เธอนั้นระมัดระวัง ก่อนที่จะถอดแหวนในมือออกมา
“นี่เป็นแหวนที่คุณย่ามองให้ฉัน คุณย่าบอกว่า หากลูกสาวแต่งงานออกไป ยังไงสะก็ยังเป็นเลือดเนื้อของย่า”