บัญชามังกรเดือด - บทที่ 384 ตัวหมาก
บัญชามังกรเดือด บทที่ 384 ตัวหมาก
จ้าวข่ายอยู่ในห้อง เหมือนกับว่าเป็นมดที่อยู่บนหม้อร้อนอย่างไรอย่างนั้น ร้อนรนกระวนกระวาย
ตั้งแต่หลังจากที่เขาสั่งการคนขับรถบรรทุก คิดอยากจะติดต่อจ้าวเฟิง เพื่อลองสอบถามว่าเรื่องราวสำเร็จแล้วใช่หรือไม่
แต่ว่า โทรศัพท์ของจ้าวเฟิงโทรไม่ติดเลยสักนิด
โทรศัพท์ของคนที่เดินทางไปรับเจ้าสาวที่เป่ยเจียง โทรไม่ติดทั้งหมด
เนื่องจากจ้าวเฟิงปิดข่าว ดังนั้น เขาไม่รู้ว่าผลลัพธ์ของเรื่องราวแท้ที่จริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่
ในขณะที่กำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดัน ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือที่ยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น
เขาสะดุ้งตกใจ นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถบรรทุกที่ถูกเขาซื้อตัวเอาไว้คนนั้น ก็ตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ตามแผนการแล้ว คนขับรถบรรทุกคนนี้ ควรจะตายพร้อมกันกับจ้าวซวู่ถึงจะถูกต้อง
ตอนนี้ ทำไมถึงได้โทรศัพท์มาอย่างกะทันหัน?
ภายใต้แสงสว่างของไฟที่สาดส่องลงมา ทันใดนั้นจ้าวซวู่ก็มีเหงื่อเย็นผุดออกมา รู้สึกว่าบริเวณรอบๆทำให้ขนลุกซู่ เหมือนกับว่ามีวิญญาณที่อาฆาตพยาบาทอย่างไรอย่างนั้น
ลังเลอยู่เพียงแค่ครู่หนึ่ง เขายังคงรับสายโทรศัพท์ กล่าวอย่างลองเชิง: “คุณโทรหาใคร?”
จ้าวเทียนเล่อกลืนน้ำลายลงไป เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง: “เรื่องราวสำเร็จเรียบร้อยแล้ว”
“เงินส่วนที่เหลือจะโอนเข้าบัญชีเมื่อไหร่?”
เมื่อได้ยินว่าเรื่องสำเร็จแล้ว จ้าวข่ายดีใจกับข่าวดีที่ได้รับ
แต่ว่า เขากล่าวด้วยความเดือดดาล: “เงินส่วนที่เหลืออะไร? ทั้งหมดสิบล้าน ไม่ใช่ว่าฉันจ่ายไปหมดแล้วในครั้งเดียวหรอกหรือ?”
“ไม่ใช่ ทำไมแกถึงไม่ตาย? แกอยู่ที่ไหน ระวังอย่าให้จ้าวเทียนเล่อพบตัว!”
ตอนนี้ ในที่สุดจ้าวเทียนเล่อก็ฟังออก น้ำเสียงที่คุ้นเคยนี้ ก็คือจ้าวข่าย
ทันใดนั้น เขาก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว
แท้ที่จริงแล้ว คือคนในครอบครัว!
หลานชายแท้ๆของเขาเพื่อแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอด ถึงกับทำร้ายลูกชายของเขาจนตาย
“ฮัลโหล พูดซิ!”
“แกอยู่ที่ไหนกันแน่?”
จ้าวเทียนเล่อมองดูโทรศัพท์มือถือเงียบๆ ไม่ได้ตอบ วางสายโทรศัพท์
สีหน้าของเขาอึมขรึมน่ากลัว
“จ้าวเฟิง ตอนนี้ ฉันในนามเจ้าบ้าน ขอสั่งแก”
“นำพาองครักษ์ทั้งสองคน สังหารจ้าวข่าย!”
จ้าวเฟิงกล่าวอย่างตื่นเต้น: “จ้าวเทียนจีละ?”
“จ้าวข่ายเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมคิดว่าจ้าวเทียนจีจะต้องมีส่วนพัวพันด้วย”
จ้าวเทียนเล่อกัดฟันแน่น: “จับตัวเขากลับมา ฉันจะพาไปที่ศาลบรรพบุรุษ สอบสวนด้วยตนเอง ต่อหน้าบรรพบุรุษทั้งหมดของวงศ์ตระกูล!”
จ้าวเฟิงกล่าวด้วยความเดือดดาล: “คิดไม่ถึงว่า เป็นจ้าวข่ายอย่างคาดไม่ถึง!”
“เขาช่างไม่มีมโนธรรมจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าลงมือกับพี่น้องท้องเดียวกัน!”
“เลี่ยวเจี๋ย หลู่ซิ่น ไปกับฉัน!”
เขาพุ่งตัวออกไปด้วยใบหน้าที่ดุร้าย
ด้านในห้อง จ้าวข่ายที่ถูกตัดสายทิ้ง ยังไม่ได้สติกลับคืนมาบางส่วน
เขาคิดอยากจะโทรกลับไปอีกครั้ง ทันใดนั้นก็คิดอะไรบางอย่างออก รีบร้อนนำซิมการ์ดโทรศัพท์ออกมาแล้วทำลายทิ้ง
ในเวลานี้ จ้าวเทียนจีพุ่งเข้ามาด้วยไปหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจลนลาน
“อะข่าย เกิดเรื่องใหญ่นแล้ว!”
“จ้าวซวู่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ถูกชนตาย แกรู้ไหม?”
เขาออกมาจากโรงแรมพร้อมกับจ้าวเทียนเล่อ แต่ว่าตระหนักได้ว่าเรื่องราวจะต้องร้ายแรง จ้าวเทียนเล่อไม่ได้ให้จ้าวเทียนจีไปดูจ้าวซวู่ด้วยกัน
เนื่องจากจ้าวเทียนเล่อกลัวว่า จ้าวซวู่เกิดเรื่อง จะเป็นโอกาสให้จ้าวเทียนจีจะก่อการกบฏ
เมื่อถึงเวลานั้นของจ้าวเทียนเล่อ ทราบดีว่าลูกชายของเขาจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่นอน แต่ว่าก็คิดไม่ถึงว่า จะตายอย่างน่าเวทนาอย่างคาดไม่ถึง
จ้าวเทียนจีสืบข่าวมาจากหนึ่งในผู้ติดตาม ที่อยู่ในขบวนรับเจ้าสาว ดังนั้นถึงได้มาหาลูกชายของเขาเพื่อปรึกษาด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เนื่องจากเขารู้ว่า โอกาสของพวกเขาสองคนพ่อลูกมาถึงแล้ว
“พ่อ ผมรู้แล้ว!”
จ้าวข่ายกล่าวอย่างลำพองใจ: “เมื่อครู่ คนขับรถบรรทุกยังโทรศัพท์มาหาผม รายงานสถานการณ์”
“คนขับรถบรรทุก? โทรศัพท์?” จ้าวเทียนจีอึ้งไปทันที เข้าใจอะไรบางอย่าง
แท้ที่จริง กลอุบายฉากนี้ มาจากในมือของลูกชายตนเอง
“แกกล้ามากเกินไปแล้ว!”
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมแกไม่ปรึกษาฉันก่อนล่วงหน้า?”
“พ่อ ผมกลัวว่าถ้าหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันบางอย่างขึ้น จะไปเกี่ยวโยงไปถึงพ่อได้”
“ตอนนี้ดีแล้ว จ้าวซวู่ตายแล้ว ผู้สืบทอดของตระกูลจ้าว มีเพียงแค่ผมเท่านั้น”
“พ่อ พรุ่งนี้ ผมจะแต่งงานกับหลิวชิงเหยา!”
จ้าวเทียนจีเดินวนอยู่ภายในห้องด้วยความตื่นเต้น ยากที่จะสงบจิตใจลง ในทันทีทันใด
ทันใดนั้น ราวกับมีอะไรบางอย่างดลใจเขา สมองแวบขึ้นมาทันที: “แกบอกว่า คนขับรถบรรทุกโทรศัพท์หาแก? เมื่อครู่นี้?”
จ้าวข่ายกล่าวอย่างดูแคลน: “ถูกต้อง”
“ไอ้ชาติหมานี้ เดิมทีควรจะตายไปตั้งนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ในที่สุด คิดจะแบล็กเมล์ผม”
“แต่ว่าพ่อท่านวางใจ ไอ้หมอนั่นเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาหายได้ มีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วันแล้ว”
“ทันทีที่มันตาย ก็จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้แล้ว”
“ไอ้สารเลว!” จ้าวเทียนจีหน้าถอดสี กัดฟันกล่าวเสียงเบา: “ผู้ติดตามขบวนรับเจ้าสาวบอกฉัน คนขับรถบรรทุกตายคาที่ไปแล้ว”
“จะโทรศัพท์มาหาแกได้อย่างไร?”
“แกถูกหลอกแล้ว ตอนนี้เท่ากับว่าแกสารภาพออกมาเอง!”
“ไม่ทันกาลแล้ว แกรีบหนี!”
“รีบไปหาที่ซ่อนตัวสักแห่ง!”
จ้าวข่ายก็ลนลานเช่นกัน: “พ่อ คงไม่ใช่หรอกน่า?”
“อีกอย่าง ยังมีจ้าวเฟิงอีกคนนะ”
ทันทีที่เสียงพูดจบลง เสียงโครมก็ดังขึ้น ประตูถูกคนถีบเปิดออก
จ้าวเฟิงภายใต้การคุ้มกันของเลี่ยวเจี๋ยและหลู่ซิ่น ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
เมื่อเห็นเขา จ้าวข่ายก็กล่าวอย่างตื่นเต้น: “จ้าวเฟิง ทำไมแกเพิ่งจะมาตอนนี้?”
“ทำไมไม่รับสายฉัน?”
“ตอนนี้แกร่วมมือกับฉันฆ่าจ้าวซวู่ ต่อไป ฉันก็จะเป็นผู้สืบทอดแล้ว”
“ใช่แล้วจ้าวเฟิง ตอนแรกแกเสนอความคิดเห็นให้จ้าวซวู่แต่งงานกับ มิสู้พรุ่งนี้ก็ให้แกช่วยพูด ให้หลิวชิงเหยาเปลี่ยนมาแต่งงานกับฉัน”
“แกวางใจ ฉันจะไม่ปฏิบัติต่อแกอย่างไม่ยุติธรรมแน่นอน!”
จ้าวเฟิงกล่าวอย่างดูแคลน: “จ้าวข่าย ความตายมาเยือนตรงหน้า นึกไม่ถึงว่าแกยังจะฝันอย่างสวยงามอยู่อีก”
“แกสังหารพี่น้องท้องเดียวกัน ต้องถูกลงโทษด้วยการสังหาร”
“ตอนนี้ ฉันได้คำสั่งของเจ้าบ้านของตระกูลจ้าว จะมาฆ่าแก”
“ยังมีจ้าวเทียนจี ลูกชายของแกกระทำความผิดมหันต์เช่นนี้ แกก็เป็นฆาตกรสมทบใช่ไหม?”
“ถึงแม้เจ้าบ้านจะบอกว่า จะต้องนำตัวแกกลับไปสอบสวนความผิดที่ศาลบรรพบุรุษ แต่ว่า ฉันคิดว่า แกยังมีหน้าไปพบบรรพบุรุษอยู่อีกงั้นหรือ?”
“แกพูดอะไร?” ในที่สุดจ้าวข่ายก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ เขามองจ้าวเฟิง กล่าวอย่างเดือดดาล: “แกมันไอ้ชาติหมา!”
“นึกไม่ถึงว่าแกจะกล้าหักหลังฉัน?”
“แก——”
เขายังไม่ทันได้พูดจบประโยค หลู่ซิ่นพุ่งตัวเข้าไป แทงเข้าไปที่หัวใจ
“อะข่าย!”
จ้าวเทียนจีโศกเศร้าเป็นอย่างยิ่ง ล้มลงไปบนพื้น
เรื่องราวมาถึงตรงนี้ เขาเข้าใจทั้งหมดแล้ว
เขามองจ้าวเฟิง กัดฟันกล่าว: “แกมันโหดเหี้ยมจริงๆ!”
“แกหลอกใช้อะข่ายให้ฆ่าจ้าวซวู่ตาย ทั้งยังใช้ประโยชน์จากการตายของจ้าวซวู่ มากำจัดอะข่ายทิ้ง”
“เป็นแก!”
“แกถึงเป็นฆาตกรตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังคนนั้น!”
จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงดังด้วยความลำพองใจ
“อาสาม เสียดายเพียงแค่ อารู้ช้าเกินไปแล้ว”
“ไม่ผิด เป็นดั่งที่อาพูด จ้าวซวู่และจ้าวข่าย ล้วนเป็นตัวหมากในมือของผม”
“ตอนนี้ หมากทั้งสองตัวก็ตายหมดแล้ว ขอถามว่าตระกูลจ้าว ยังมีใครที่ยังแข่งขันกับฉันจ้าวเฟิงได้อีก?”
“จ้าวเทียนจี มิสู้แกคุกเข่าลงไปอ้อนวอนฉัน”
“ขอเพียงแค่แกรับรองว่าจะจงรักภักดีกับฉัน อีกทั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน เสนอแนะให้ฉันเป็นเจ้าบ้าน ฉันก็จะไว้ชีวิตแกสักครั้ง เป็นอย่างไร?”
จ้าวเทียนจีโกรธแค้นเดือดดาลเป็นอย่างยิ่ง สบถด่าอย่างเกรี้ยวกราด
“แกมันไอ้ลูกนอกสมรส!”
“ไอ้สารเลว!”
“ฉันจะสู้กับแกอย่างสุดชีวิต!” เขาพุ่งไปหาจ้าวเฟิงด้วยความโกรธแค้น
จ้าวเฟิงไม่ขยับเขยื้อน สายตาถากถาง ก็เหมือนกับว่ากำลังมองดูหมาที่ตกน้ำตัวหนึ่ง
เลี่ยวเจี๋ยที่อยู่ด้านข้างถีบออกไปอย่างรุนแรง ตรงกับหัวใจของจ้าวเทียนจีพอดี
จ้าวเทียนจีร้องด้วยความน่าเวทนาทีหนึ่ง ปากกระอักเลือดสด ร่างกายกระเด็นออกไป กระแทกเข้าไปบนกำแพงอย่างรุนแรง
จากนั้น ก็หล่นลงบนพื้น
กระตุกสองที แล้วก็ไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย