บัญชามังกรเดือด - บทที่ 392 การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด
บัญชามังกรเดือด บทที่ 392 การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด
“ขอบคุณมากคุณฉิน!”
“เรื่องของตระกูลจ้าวและชิงเหยา ฝากคุณฉินด้วย!”
จ้าวเทียนเผิงจากไปด้วยความรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้ง
หลังจากที่เขาจากไปแล้ว ฉินเทียนก็ไร้หนทางที่จะบำเพ็ญตนฝึกฝนร่างกายต่อ เพราะว่าหัวใจของเขานั้นไม่สามารถสงบนิ่งได้เลย
เมื่อมองออกไปยังความมืดมิดบริเวณด้านนอก ราวกับว่าเขานั้นมองเห็นคนชั่วที่หลบซ่อนและคอยบงการเรื่องราวเหล่านี้
หากว่าเขาคาดการณ์ไม่ผิด คนที่ทำเรื่องชั่วนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
เป็นเวลาหลายปี เขาพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องเหล่านั้นและคนเหล่านั้น
ตอนนี้ เขามีครอบครัวของตัวเอง พี่น้องของตัวเอง เขายังพยายามดิ้นรนเพื่อสร้างพื้นที่ของเขาเองด้วย
ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าเขาสามารถขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนกับคนเหล่านั้นและสิ่งเหล่านั้นได้ ตลอดทั้งชีวิตนี้จะไม่ต้องข้องเกี่ยวกันอีกต่อไป
แต่ทว่า คนเหล่านั้นกลับเป็นเสมือนคำสาปที่ไม่สามารถลบล้างได้อย่างไรอย่างนั้น ปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตเขาเป็นบางครั้งบางคราว
เข้ามารบกวนชีวิตอันแสนสงบสุขของเขา
หรือว่าต้องการไล่ต้อนให้ฉันลงมืออย่างโหดเหี้ยมงั้นเหรอ?
เมื่อคิดเช่นนี้ นัยต์ตาของเขาก็ปรากฏเจตนาแห่งการสังหาร!
ท้องฟ้าสว่างสดใส
ความโกลาหลและรอยเลือดทั้งหมดราวกับว่าถูกพรากไปในยามค่ำคืน ราวกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องใดขึ้น
เมื่อแสงสว่างส่องเข้ามา ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความปีติยินดีและความสุข
เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของตระกูลจ้าว
เกี่ยวดองสมรสกับเป่ยเจียง นับได้ว่าเป็นสายสัมพันธ์ที่ส่งผลดีต่อกัน ความแข็งแกร่งและอิทธิพลของตระกูลจ้าว ก้าวหน้าขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น
จ้าวเทียนเล่อ จ้าวซวู่ จ้าวเทียนจี จ้าวข่าย พ่อลูกทั้งสองคู่นี้ที่มีสถานะสูงสุดในตระกูลจ้าวนั้นไม่ปรากฏตัว
เหล่าเครือญาติของตระกูลจ้าวราวกับว่าความจำเสื่อม จำไม่ได้แล้วว่าตระกูลจ้าวมีคนเหล่านี้ด้วย
ตั้งแต่เช้าตรู่พวกเขาก็รีบไปยังที่อยู่อาศัยของจ้าวเฟิง เอ่ยคำชมเชยและชื่นชมทุกรูปแบบ
พ่อบ้านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “รายงานคุณชายเฟิง ตอนนี้พื้นที่จัดงานแต่งนั้นได้ตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว แขกบางส่วนก็มาถึงสถานที่จัดงานแล้วครับ”
“ทางโรงแรมแจ้งข่าวมา คนของเป่ยเจียงและคุณหลิวชิงเหยาได้เตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้วครับ”
“ตอนนี้รอเพียงคุณชายเฟิงปรากฏตัวครับ”
“กระผมอยู่ที่นี่ ขอแสดงความยินดีกับคุณชายที่ได้มีวันมงคลเช่นนี้ ได้เลื่อนขั้นเป็นเจ้าบ้าน”
จ้าวเฟิงหัวเราะเสียงดัง “พ่อบ้าน นายทำได้ไม่เลว”
“ฉันรู้ นายมีลูกชายสองคน คอยช่วยเหลือตระกูลของฉันทำธุรกิจอยู่ที่ต่างเมือง”
“เรียกพวกเขากลับมา เข้าไปทำที่สำนักงานใหญ่!”
พ่อบ้านดีอกดีใจเป็นอย่างมาก “ขอบพระคุณครับคุณชายเฟิง!”
“ครอบครัวของกระผม จะคอยช่วยเหลือคุณชายเฟิงอย่างเต็มความสามารถครับ!”
“ไม่ใช่สิ ต้องช่วยเหลือเจ้าบ้านต่างหาก!”
จ้าวเฟิงผูกหูกระต่าย เขากล่าวอย่างภาคภูมิใจ “เลี่ยวเจี๋ย ทางจ้าวเทียนเผิงเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่?”
เลี่ยวเจี๋ยยิ้มอย่างเย็นชาและกล่าว “เขาเป็นเพียงนายใหญ่ที่ไร้พลังอำนาจ จะไปมีปัญหาอะไรได้ล่ะครับ”
“ไม่เชื่อฟัง ฆ่าให้ตายก็สิ้นเรื่อง”
จ้าวเฟิงหัวเราะและเอ่ย “อย่าพูดเช่นนี้ อย่างไรเสียเขาก็คือนายใหญ่แห่งตระกูล เก็บเขาไว้ เพื่อที่เขาจะได้คอยสนับสนุนฉัน”
“แน่นอน คิดว่าเขาจะต้องเชื่อฟัง”
เลี่ยวเจี๋ยยิ้มพลางเอ่ย “คุณชายเฟิงวางใจได้ จ้าวเทียนเผิงนั้นมารายงานข่าวแต่เช้าตรู่ เขากล่าวว่าเขาได้หลิวชิงเหยาพบแล้ว หลิวชิงเหยานั้นยินดีที่จะแต่งงานใหม่”
“จ้าวเทียนเผิงกล่าวว่าเขาจะเข้าร่วมงาน เป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานให้กับคุณชายและหลิวชิงเหยาด้วยตนเอง”
จ้าวเฟิงกล่าวอย่างตื่นเต้น “ทำได้ดีมาก!”
ตามจริงแล้ว เขาได้ทำการสืบสวนเรื่องหลิวชิงเหยามามาก ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่แนะนำหลิวชิงเหยาให้กับจ้าวซวู่
นั่นเป็นเพราะว่าเขาเข้าใจหลิวชิงเหยา
หลิวชิงเหยาเพื่อที่จะล้างแค้นให้กับพ่อของเธอ เธอยอมทำทุกอย่าง สิ่งนี้ทำให้ความรู้สึกของจ้าวซวู่สั่นไหว
ในระดับหนึ่ง จ้าวเฟิงรู้สึกว่าตัวเขาและหลิวชิงเหยามีความคล้ายกัน เพื่อล้างแค้นให้กับแม่ เขาเองก็ยอมทำทุกอย่างเช่นกัน ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล
เช่นนั้นเขาจึงมอบความจริงใจและคิดอยากจะมอบความอบอุ่นให้แก่หลิวชิงเหยา
เขาไม่รู้ นี่ใช่ความรักหรือเปล่า
แต่ทว่า เขาเข้าใจสิ่งหนึ่งเป็นอย่างดี นั่นก็คือเขาต้องการหลิวชิงเหยา
นอกเหนือจากการประเมินผลประโยชน์ที่ได้จากการแต่งงานของหยุนชวนและเป่ยเจียงแล้วเขายังให้ความสำคัญกับ หลิวชิงเหยาอีกด้วย
ดังนั้น เขาเองก็ยังคงตื่นเต้นเล็กน้อยกับการได้เป็นเจ้าบ่าว
“คุณชาย จวนจะถึงเวลาแล้วครับ เชิญคุณชายไปยังสถานที่จัดงานแต่ง”
“ไม่ใช่สิ เชิญเจ้าบ่าว!”
พ่อบ้านหัวเราะเสียงดังลั่น เขาเปิดประตูรถให้กับจ้าวเฟิงด้วยตนเอง
งานแต่งงานไม่ได้เลือกที่จะจัดขึ้นในโรงแรม แต่อยู่ในเขตของตระกูลจ้าว
บริเวณนี้สืบทอดโดยทายาทของตระกูลจ้าวมาหลายชั่วอายุคน กิจกรรมมงคลสำคัญทั้งหมดของตระกูลล้วนแต่ถูกจัดขึ้นในที่แห่งนี้
ที่นี่นั้นมีความหมายมากเสียยิ่งกว่าโรงแรม
เมื่อจ้าวเฟิงปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน แขกบางส่วนที่ยังไม่รู้เรื่องราวต่างก็เริ่มพูดคุยกัน
ท่ามกลางพวกเขา มีคนมากมายที่ยังไม่รู้จักจ้าวเฟิง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เจ้าบ้านตระกูลจ้าวแล้วก็นายท่านสาม เหตุใดยังไม่ออกมาอีก?”
“พ่อหนุ่มหน้าอ่อนนี่คือใคร? เขาใช่คุณชายจ้าวซวู่หรือไม่?”
“ทำไมมองยังไงก็ไม่เหมือนเลยสักนิดล่ะ”
“ฉันจำได้ว่าเคยเห็นรูปถ่ายของคุณชายจ้าวซวู่นิตยสารเศรษฐกิจ เหมือนว่าจะไม่ได้โตมาในรูปลักษณ์เช่นนี้”
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ใบหน้าของจ้าวเฟิงยังคงเปล่งปลั่งพลางก้าวเดินขึ้นบนเวที
“คุณลุงครับ” เมื่อเห็นจ้าวเทียนเผิง เขาคุกเข่าลงด้วยความเคารพ
จ้าวเทียนเผิงรีบเจ้าไปประคองเขา หัวเราะพลางเอ่ย “วันนี้วันมงคลใหญ่ ฉันเชื่อว่าหากพ่อแม่ของนายรับรู้ พวกเขาจะต้องมีความสุขเป็นอย่างมาก”
“เสี่ยวเฟิง เร็วเข้า ฉันจะแนะนำนายให้ทุกคนได้รู้จักอย่างเป็นทางการ”
“จากนั้นก็สามารถเชิญเจ้าสาวเข้าสู่งานได้”
“นายไม่ต้องกังวล เรื่องที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ฉันได้พูดกับชิงเหยาแล้ว เธอไม่คัดค้านสิ่งใด”
“และอีกอย่างจากที่เธอกล่าวมา เธอเองก็ประทับใจนายไม่น้อย”
“จริงเหรอ?” จ้าวเฟิง ดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึงนี้เป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้เขาไม่มีโอกาสที่จะได้พบหน้ากับหลิวชิงเหยา เพียงแค่ทำการค้นหาและรวบรวมข้อมูลเท่านั้น จากนั้นก็รู้สึกประทับใจในตัวหลิวชิงเหยา
แต่ทว่าเมื่อวานนี้ ในตอนที่เข้าไปรับญาติกับจ้าวซวู่ ในที่สุดเขาก็ได้พบกับหลิวชิงเหยาตัวจริง
เขาพบว่าผู้หญิงคนนี้สวยกว่าที่เขาคิดและจินตนาการไว้เสียอีก ดวงใจของเขาสั่นไหว เขาถือโอกาสพูดคุยกับหลิวชิงเหยาสองสามประโยคและได้ทำการแนะนำตนเอง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นเขาเรียกเธอว่า ‘พี่สะใภ้’
คาดไม่ถึงเลย หลิวชิงเหยาจะมีความประทับใจต่อเขาไม่น้อย นี่เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์จริงๆ!
จ้าวเฟิงกระแอม เขาพยายามทำให้ความตื่นเต้นของเขาสงบลง เขากล่าว “คุณลุง ได้โปรดประกาศด้วย”
“ตกลง”
จ้าวเทียนเผิงจับมือจ้าวเฟิงและเอ่ยเสียงดัง “ทุกท่าน ทุกท่านโปรดเงียบเสียงก่อน”
“พิธีแต่งงานจะเริ่มในไม่ช้า”
“แต่ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีแต่งงาน ผมมีบางอย่างอยากจะประกาศให้ทุกคนได้รับทราบ”
เสียงของเขาดังกึกก้อง น้ำเสียงทรงพลัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้คนภายในงานก็เงียบลงทันที
สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังจ้าวเทียนเผิง อยากรู้นักนายใหญ่ผู้ซึ่งละทางโลกท่านนี้ ในวันสำคัญเช่นนี้มีสิ่งใดอยากจะพูด
สีหน้าของจ้าวเทียนเผิงนั้นมืดมนลง
“เดิมที วันนี้เป็นเรื่องน่ายินดี มีบางเรื่องที่ผมไม่ควรจะพูด”
“แต่ทว่า ในเมื่อทุกท่านเห็นแก่หน้าผมแห่งตระกูลจ้าวและมาร่วมงานแต่งงานนี้ เช่นนั้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดของตระกูลจ้าวของผม ผมก็ควรจะกล่าวให้ทุกคนได้กระจ่างแจ้ง”
เรื่องเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด?
หลายคนสังเกตเห็นถึงการใช้คำพูดของจ้าวเทียนเผิง การแสดงออกนั้นเปลี่ยนไปอย่างอดไม่ได้
ตระกูลจ้าวเกิดเรื่องเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดอะไรกัน?
เมื่อคืนนี้ จ้าวเทียนเล่อและจ้าวเทียนจีออกไปจากงานเลี้ยงด้วยท่าทีรีบเร่ง กระทั่งตอนนี้ พิธีแต่งงานใกล้เริ่มแล้วพวกเขาก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา
หรือว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับเจ้าบ้านทั้งสองแห่งตระกูลจ้าว?
สีหน้าของจ้าวเฟิงเปลี่ยนไปในทันใด เขาเอ่ยเสียงต่ำ “คุณลุง พูดไปก็ไม่ใช่เรื่องดี วันนี้งานมงคลใหญ่ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องเหล่านี้เลย?”
“เรื่องทั้งหมด รอให้สิ้นพิธีแต่งงานก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ”
ท้ายที่สุดเขาก็เป็นวัวสันหลังหวะ[1] เขาไม่ยินดีที่จะให้จ้าวเทียนเผิงเอ่ยถึงเรื่องเหล่านั้น
เพียงแค่อยากให้พิธีแต่งงานเสร็จสิ้นโดยเร็ว นำหญิงงามกลับเรือนหอ ในเวลานั้นทุกอย่างจะเป็นข้อสรุป ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้อีก
วัวสันหลังหวะ[1] หมายถึง คนที่ทำผิดแล้วคอยระแวงกลัวผู้อื่นจะรู้
บทที่ 391 ฆ่าไม่เว้น
บทที่ 393 ถึงเวลามงคลแล้ว