บัญชามังกรเดือด - บทที่ 419 อย่ามาเสียใจทีหลัง
บัญชามังกรเดือด บทที่ 419 อย่ามาเสียใจทีหลัง
เมื่อได้ฟังสิ่งที่ซูซูและจ้าวเทียนจีพูด ฉินเทียนก็หน้าบึ้งตึง รีบร้อนเอ่ยกับซูซูว่า: “ที่รัก ผมรักคุณคนเดียวนะ!”
“ผมอุตส่าห์ลำบากสู้เพื่อคุณเลยนะ ที่รัก จูบให้รางวัลทีสิ”
พูดจบ ก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อย่างไม่รู้จักอาย
“พูดอะไรของคุณเนี่ย!” ซูซูหน้าแดงรีบผลักฉินเทียนออกไป
ตาคนนี้หน้าไม่อายเกินไปแล้วจริงๆ ไม่เห็นเหรอว่ามีคนมองอยู่ตั้งเยอะน่ะ?
จ้าวเทียนจีหัวเราะเสียงดังฮ่าฮ่า: “ยินดีกับการแสดงแสงยานุภาพครั้งใหญ่ของคุณฉินด้วยครับ ที่ล้มนายน้อยตระกูลจี้ได้”
“ถ้างั้น คุณฉิน ผมจะผสานงานกับพนักงานของพวกคุณเอง เพื่อช่วยพวกคุณเปิดกิจการในหยุนชวนเดี๋ยวนี้เลยครับ”
“เชิญคุณขอรางวัลกับภรรยาต่อได้เลย”
พูดจบ นายท่านสามจ้าวที่กระมิดกระเมี้ยนคนนี้ ก็ปิดปากย่องออกไป
ทำเอาฉินเทียนแอบเขินนิดๆ เขารีบพูดว่า: “นายท่านสาม ผมไปกับคุณด้วย!”
เขาดึงมือซูซู วิ่งตามไป
แต่พอนึกถึงคำพูดของจี้ซิงก่อนที่จะจากไป ฉินเทียนยังรู้สึกจนปัญญาอยู่เล็กน้อย
ตนเจอกับคนบ้าพลังขนาดนี้ หากแพ้ ไม่แน่ว่าไอ้จี้ซิงนั่นอาจเอาหัวของตนไปขอแต่งงานจริงๆ
ต่อให้ชนะแล้วคงไม่จบ เพราะเขาต้องเผชิญกับการท้าดวลอย่างไม่หยุดหย่อนแน่นอน
ไอ้หมอนี่ มันอยากเล่นแบบหนังเรื่อง “101 Proposals” ไม่สิ ท้าดวลเหรอ?
คิดถึงช่วงสำคัญตอนสุดท้าย จี้ซิงงัดเอาวิชายุทธตระกูลจี้ออกมา บีบให้ตนต้องใช้วิชาจากคัมภีร์ราชาเทพ ถึงเอาชนะมาได้
ฉินเทียนรู้สึกสนใจตระกูลจี้ตระกูลนี้ขึ้นมาหลายเท่าแล้ว
……
ขณะนี้ ณ ถนนทองคำย่านพาณิชย์สำหรับคนเดินเท้าที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในเมืองหยุนโจว ผู้จัดการหลายคนกำลังเล่นไพ่นกกระจอกในห้องประชุมผู้จัดการ
หยางหลินยืนอยู่ด้านข้าง พูดหว่านล้อมขอร้องอยู่ตลอดเวลา
“ผู้อำนวยการห่าว คุณดูสิ ตอนนี้ห้องนั้นของคุณว่างก็ว่างอยู่ ไม่มีคนเช่า มันไม่เสียทิ้งไปเปล่าๆ เหรอ?”
“เรารับรองว่า ค่าเช่าจะยึดตามราคาท้องตลาด ไม่ต่อรองราคาแแน่นอน”
“เราเซ็นสัญญาระยะยาวก็ได้ จ่ายค่าเช่าล่วงหน้าก่อนครึ่งปี”
“คุณว่ายังไงครับ?”
ผู้อำนวยการห่าว ชายวัยกลางคนนั่งอยู่ทางทิศตะวันออก เขาคาบบุหรี่มวนหนึ่งอยู่ในปาก ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นเลยด้วยซ้ำ
“จงแดง”
“ตอง”
“หัวหน้าห่าว นี่คุณจะปล่อยจังหวะยิงปืนแล้วนะเนี่ย”
“โกวซาน เด็กอย่างแกอย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน ถ้าแกชนะ ฉันจะกินไฟกองนี้เลย”
“เชือกสาม”
“กิน” หัวหน้าห่าวหัวเราะลั่น ก่อนจะดันแผ่นไพ่ตรงหน้าล้มลง
โกวซานที่โดนกิน ทำหน้าดวงตก
เขาเป็นหัวหน้ารปภ.ของที่นี่ มีลูกน้องหลายสิบคน ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและรักษาความสงบของทั้งถนนทองคำ
เขาแพ้หลายครั้งติดกันแล้ว เสียหน้าจนหงุดหงิด แต่ก็ไม่กล้าอารมณ์เสียใส่ผู้อำนวนการห่าวและคนอื่นๆ
พอเงยหน้าเห็นหยางหลินที่กำลังก้มหน้าค่อมตัวอยู่ใกล้ๆ ความโกรธของเขาก็ปะทุขึ้นมา
“ไอ้เวรนี่ บอกให้ไสหัวไป ไม่ได้ยินเหรอ?”
“โคตรตัวซวยเลย!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันจะเสียเงินมากขนาดนี้เหรอ?”
“ไสหัวไป!”
เขาพุ่งเข้าไป ถีบร่างหยางหลินอย่างแรงหลายที
หยางหลินตวัดสายตา จะเข้าปะทะ เขาไม่ใช่คนมีความอดทนอะไร อีกอย่าง ยังพอมีวิชาอยู่บ้าง
เมื่อก่อนอยู่ฉู่โจว ก็เป็นหนุ่มเลือดร้อนใฝ่ฝันอยากเข้าร่วมสมาคมฉู่เหมือนกัน
ต่อกรกับคนอย่างโกวซานนั้นไม่คณามือหรอก
“ทำไม ไม่ยอมเหรอ?”
พอเห็นว่าหยางหลินถลึงตา โกวซานก็ยิ้มเยาะ เหวี่ยงมือ ตบบ้องหูหยางหลินเสียงดังเพี๊ยะไปหนึ่งฉาด
จากนั้น ก็ถ่มน้ำลายหนึ่งคำ
“ไม่ส่องกระจกชะโงกดูเงา แกมันตัวอุบาทว์อะไรวะ!”
“เต่าโจรวิ่งออกจากหาดน้ำตื้นที่ไหน กล้ามาทำตัวจอมปลอมที่หยุนชวนของเรา”
“ขืนยังไม่ไปอีก เชื่อไหมว่าฉันจะกระทืบแก?”
สองสามคนที่เล่นไพ่นกกระจอก รวมถึงผู้อำนวยการห่าว มองดูด้วยสายตาเฉยชา ราวกับกำลังดูเรื่องตลก
ตอนนั้นเอง นักบัญชีสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ชื่อหลิวเสี่ยวจวน ก็วิ่งเข้ามา
“ประธานหยาง ทางซุปเปอร์มาร์เก็ตแดนนี่ปฏิเสธคำขอของเราค่ะ”
“ไม่ว่าพูดยังไง ก็ไม่ยอมให้เราเช่าล็อกสินค้า นอกเสียจากว่าเราจะได้รับจดหมายแนะนำจากสมาคมหยุนชวนค่ะ”
“ทางคุณเป็นยังไงบ้างแล้วคะ?”
เมื่อเห็นหลิวเเสี่ยวจวน โกวซานก็ตาเป็นประกาย แยกยิ้มเอ่ยว่า: “พวกแกเป็นพวกเดียวกันสินะ?”
“น้องสาว เช่าที่ไม่ได้ใช่ไหม? ไม่เป็นไร ฉันรู้สาเหตุ”
“มาสิ ช่วยพี่เล่นไพ่นกกระจอกสักสองสามตา แล้วพี่จะบอกน้อง”
พูดจบ ยังดึงมือหลิวเสี่ยวจวนอย่างหน้าด้านๆ
“นายทำอะไรน่ะ?” หลิวเสี่ยวจวนสะบัดมือออกทันที หน้าตาแดงก่ำ แววตาเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ
โกวซานเสียหน้าพาลโมโห กัดฟันพูดว่า: “นังชั้นต่ำ แกกล้าตีฉันเลยเหรอ!”
“ฉันจะตีแกให้หนักเลย!”
พูดจบ ก็กระโจนเข้าใส่หลิวเสี่ยวจวน
หลิวเสี่ยวจวนตกใจกลัวจนกรี๊ดเสียงดัง ไปหลบอยู่หลังของหยางหลิน
หยางหลินทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน เลยยันท้องโกวซานไปทีหนึ่ง
เขาระบายความแค้นออกมา ออกแรงมากพอตัว โกวซานร้องอุทานหนึ่งเสียง ล้มกระแทกโต๊ะไพ่ไปทั้งตัว
ทันใดนั้นก็ทุบโต๊ะไพ่ กระจุยกระจายทันที
“ไอ้ระยำ!”
“แกอยากตายใช่ไหม?” ผู้อำนวยการห่าวยืนขึ้นตะโกน
หยางหลินรู้ว่างานเข้าแล้ว จึงเอ่ยอย่างหัวเสียว่า: “ธุรกิจแบบนี้ไม่ทำก็ได้!”
“เสี่ยวจวน เราไปกันเถอะ!”
เขาดึงมือหลิวเสี่ยวจวน แล้ววิ่งออกไป
โกวซานกับผู้อำนวยการห่าวและคนอื่นๆ โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ: “รีบตามไป!”
“ชักจะเหิมเหริมเกินไปแล้ว!”
“อย่าให้พวกมันหนีไปได้!”
พวกเขานำชายฉกรรจ์ ไล่ตามออกมา โกวซานรีบติดต่อหาพรรคพวกด้านนอกผ่านวิทยุสื่อสาร เรียกให้พวกเขาดักล้อมหยางหลินเอาไว้ทันที
หยางหลินดึงมือหลิวเสี่ยวจวน ยังไม่ทันได้หนีออกจาถนนทองคำ ก็ถูกรปภ.ถือกระบองกลุ่มหนึ่งมาล้อมเอาไว้ก่อน
“ไอ้เวร จะทำให้แกรู้ซึ้งตอนนี้เลยว่า ที่นี่คือถิ่นใคร!”
โกวซานฉวยกระบองอันหนึ่งที่อยู่ในมือลููกน้องมา แล้วฟาดไปตามหน้าและศีรษะของหยางหลิน
หยางหลินรู้แล้วว่าหนีไม่รอด เพื่อไม่ให้หลิวเสี่ยวจวนเดือดร้อนไปด้วย จึงได้แต่เอามือกุมศีรษะ ไม่กล้าสู้กลับ
หลิวเสี่ยวจวนหวาดกลัวจนร้องไห้โฮออกมา เธอล้วงโทรศัพท์ออกมาจะติดต่อหาซูซู ก็ถูกรปภ.คนหนึ่งแย่งเอาไป
โกวซานตีจนเหนื่อย ยังไม่สาแก่ใจ พูดกับลูกน้องว่า: “ตีมันให้หนักๆ!”
“มันตายฉันรับผิดชอบเอง!”
ลูกน้องแก๊งโหดใจเหี้ยม วิ่งเข้าไป เริ่มรุมตีหยางหลิน
หยางหลินล้มลงกับพื้น ถูกตีจนเลือดไหลจากศีรษะ เขาพยายามกันศีรษะเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ตะโกนว่า: “เสี่ยวจวน เธอรีบไป!”
“ไม่ต้องห่วงฉัน!”
“ไปหาฉินเทียนกับซูซู”
จากนั้นเสี่ยวจวนก็ถูกโกวซานจับเอาไว้ ทำให้หนีไปไหนไม่ได้
ผู้อำนวยกการห่าวเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า: “พอแล้ว เลิกตีได้แล้ว”
เขาโบกมือให้รปภ.ถอย แล้วเดินเข้าไป เหยียบเท้าข้างหนึ่งของหยางหลิน ถ่มน้ำลายหนึ่งที แล้วสบถด่าว่า: “ไอ้บัดซบ ทีนี้รู้สึกผิดแล้วเหรอ?”
“พูดมา แกทำทรัพย์สินบริษัทเราเสียหาย จะชดใช้ยังไง?”
หยางหลินกัดฟันเอ่ยว่า: “พวกแกเป็นฝ่ายเริ่มก่อน!”
ผู้อำนวยการห่าวบดเหยียบเท้าหยางหลินลงไปอีกครั้ง ยิ้มเย็นเอ่ยว่า: “ได้ยินมาว่าซูยู่กรุ๊ปของพวกแกเปิดกิจการได้ไม่นาน แต่กลับมีกำไรไม่ขาด”
“ล้านเดียวขาดตัว”
“ให้เวลาแกสิบนาที โอนเขาบัญชีฉัน ไม่อย่างนั้น ฉันจะเอาเพื่อนร่วมงานสาวคนนี้ของแกมาขัดดอก”
โกวซานรีบเอ่ยขึ้นว่า: “ผู้อำนวยการห่าว ความคิดนี้เจ๋งไปเลย!”
“เอานังนี่มาขัดดอก!”
หยางหลินตาแดงก่ำ กัดฟันพูดว่า: “มีเรื่องอะไรก็มาลงที่ฉัน”
“เงินน่ะไม่มี เอาชีวิตไปแทน!”
“แต่ฉันเตือนพวกแกไว้ก่อนนะ ฉินเทียนญาติคนน้องของฉัน ไม่ใช่คนที่จะแหย่มด้วยได้ง่ายๆ”
“พวกแกคิดเยอะๆ จะดีกว่า อย่ามาเสียใจทีหลัง!”