บัญชามังกรเดือด - บทที่ 491 สองแผนการ
บัญชามังกรเดือด บทที่ 491 สองแผนการ
หยางหยวนชิ่งกัดฟันแน่นและเอ่ย “ตอนนี้มีเพียงสองแผนการ”
“แผนแรก สิ่งที่รัฐบาลต้องการปกป้องมีแค่เพียงแบบแผนการก่อสร้างเท่านั้น สำหรับเรื่องผู้ใดจะเป็นผู้ก่อสร้าง พวกเขานั้นไม่ได้สนใจ”
“ดังนั้น พวกเราสามารถฆ่าฉินเทียนและรับช่วงต่อแผนการก่อสร้างนี้ได้”
“พวกเราสามารถใช้จ่ายเงินราคาสูง เพื่อให้ซาโรและนักออกแบบที่มีชื่อว่าอลิสเข้ามาให้ความร่วมมือกับพวกเรา”
คุณชายยิ้มและเอ่ยอย่างเย็นชา “แผนการที่สองล่ะ?”
หยางหยวนชิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “แผนการที่สอง ถ้าหากการฆ่าฉินเทียนนั้นไม่ง่ายดายนัก เช่นนั้นพวกเราก็ส่งคนไปฆ่าซาโรและศิษย์ของเขาที่ชื่อว่าอลิส!”
“ครั้งนี้จะวานจ้างนักฆ่าระดับชาติเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีเรื่องใดผิดพลาด!”
“หากไม่มีนักออกแบ โปรเจ็กต์ของฉินเทียนก็ไม่มีทางจะดำเนินการต่อได้ ทุกคนไม่ว่าใครก็อย่าได้ทำ!”
แผนการทั้งสองนี้ สามารถกล่าวได้ว่าทั้งโหดเหี้ยมและไร้ความปราณี
หลังจากได้ยินเช่นนั้น สายโทรศัพท์ก็ตกอยู่ภายในความเงียบ
“คุณชาย ทำไมคุณถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะครับ?”
“ตามความเห็นของผม แผนการที่สองนั้นน่าจะสำเร็จได้ง่ายที่สุด และอยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าคลื่นลมของการเกลียดชังจะรุนแรงมากเพียงใด อย่างไรก็ไม่กระทบมาถึงที่นี่แน่นอน”
“ตราบใดที่คุณออกคำสั่ง ครั้งนี้ ผมจะลงมือจัดการจัดส่งคนด้วยตัวของผมเอง!”
“นายบอกว่าอลิสเป็นคนที่ช่วยฉินเทียนออกแบบใช่หรือเปล่า?” เสียงของคุณชายที่อยู่ภายในสายโทรศัพท์แปลกไปเล็กน้อย
หยางหยวนชิ่งชะงักไปชั่วขณะและรีบกล่าว “ใช่ครับ!”
“อลิสเป็นลูกศิษย์ของซาโร น่าจะเป็นผู้หญิง การฆ่าเธอนั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ”
“คุณชาย ออกคำสั่งมาเถอะครับ”
“สารเลว!” ฉับพลันคุณชายตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห
“หยางหยวนชิ่ง ตอนนี้ฉันจะเตือนนายไว้ กำจัดความคิดนี้ทิ้งไปซะ!”
“ถ้าหากว่าอลิสสูญเสียแม้แต่ผมเพียงเส้นเดียว ฉันจะฆ่าล้างตระกูลของนายให้หมดสิ้น!”
“อะไรกัน?” หยางหยวนชิ่งอ้าปากกว้างด้วยความประหลาดใจ
ทำไมคุณชายถึงได้ให้ความสำคัญกับอลิซขนาดนี้?
หรือว่า เขาและอลิสมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันงั้นเหรอ?
หยางหยวนชิ่งนั้นยากที่จะเปลี่ยนมุมมองนี้
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขาสัมผัสได้ถึงเจตนาแห่งการสังหารที่น่าหวาดกลัวของคุณชาย เพียงเสี้ยววินาที หัวใจของเขารู้สึกหนาวเย็น!
“คุณชาย ผมผิดไปแล้ว!”
“ผมสัญญาว่าจะไม่สร้างปัญหาครับ!” เขาพูดด้วยความตื่นตระหนก
คุณชายสบถด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจากนั้นเอ่ยอย่างเย็นชา “ล้มเลิกความคิดเพ้อฝันทั้งหมดของนายซะ!”
“เรื่องที่ดินผืนนั้นหลังจากนี้ไม่ต้องเอ่ยถึงอีกแล้ว”
“หยางหยวนชิ่ง นายออกหน้าที่จะแจ้งให้เจ้าบ้านของตระกูลใหญ่ทั้งห้าได้รับทราบ พรุ่งนี้จะมีการประชุมเพื่อตัดสินใจเรื่องสหพันธ์ธุรกิจทางใต้ และจะทำการประกาศต่อสาธารณชน!”
“แผนการใหญ่ของพวกเรานั้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”
เอ่ยจบก็ตัดสายโทรศัพท์ในทันที
หยางหยวนชิ่งทอดถอนหายใจ จากนั้นทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง
อิงจากการพูดของคุณชาย แผนการนี้ล่าช้าไม่ขับเคลื่อน เพื่อให้เวลาแก่หยางหยวนชิ่งครอบครองที่ดินหรูอี้
ได้ที่ดินผืนนี้มาถือครอง ชื่อเสียงของหยางหยวนชิ่งจะต้องพุ่งสูงอย่างแน่นอน เขาสามารถใช้จังหวะและขั้นตอนที่จะสนับสนุนผลักดันให้หยางหยวนชิ่งนั้นได้รับหน้าที่เป็นผู้นำ
ตอนนี้ที่ดินผืนนั้นถูกฉินเทียนช่วงชิงไปเสียแล้ว ชื่อเสียงของหยางหยวนชิ่งพลันสูญสิ้น
คุณชายกลับต้องการขับเคลื่อนแผนการใหญ่ นั่นหมายความว่าคุณชายเตรียมพร้อมที่จะทอดทิ้งเขาแล้วใช่หรือไม่?
ไม่ยินยอม!
โกรธเคือง!
ทำให้ใบหน้าของหยางหยวนชิ่งบิดเบี้ยว!
“ฉันไม่มีทางยอมแน่!”
“ฉินเทียนจะต้องตาย!”
เขากัดฟันแน่นพร้อมกับเอ่ยประโยคนั้น จากนั้นเขาก็พุ่งตัวออกไปจากห้องด้วยความโกรธเกรี้ยว
หยางคุนที่อยู่ด้านนอกตื่นตกใจจนก้นนั้นแนบชิดลงไปกับพื้น
“พ่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ลูกสามารถช่วยได้!”
หยางหยวนชิ่งเดินพลางกล่าว “แกไปยังห้องใต้ดินไปพบกับปีศาจขาว บอกเขาเรื่องที่ปีศาจดำถูกฆ่าตาย”
“แต่ว่าในตอนนี้อย่าเพิ่งให้เขาออกมา”
“พวกนาย ไปเตรียมรถ!”
“ฉันจะไปคฤหาสน์ไท่หู!”
คฤหาสน์ไท่หู เป็นที่ตั้งฐานทัพของตระกูลหม่า ในขณะนี้ก็ถูกครอบงำด้วยความรู้สึกสิ้นหวังและความโกรธเกรี้ยว
ห้องโถงใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน แต่ทว่ากลับอยู่ภายในความเงียบสงบ ไม่มีใครเอ่ยพูดสิ่งใด
“จั๋วชุน หรือว่าเรื่องนี้นั้นจะจบลงเช่นนี้หรือ? ฉินเทียนผู้นี้มีสามหัวหกแขนหรือไร เก่งกาจเหนือมนุษย์ เขาช่างบ้าบิ่นเกินไปแล้ว!”
“คุณรีบส่งคนไปจัดการสังหารเขา!” หยางเสี่ยวหุ้ยเอ่ยด้วยความโกรธเคือง
หม่าจั๋วชุนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เงียบปากไปเถอะคุณ!”
“คุณคิดว่าการสังหารฉินเทียนง่ายดายขนาดนั้นเลยหรือ? ถ้าหากว่าใช่ พี่ชายของคุณผู้ที่ไม่ยอมเสียเปรียบใคร คงลงมือจัดการไปเสียตั้งนานแล้ว!”
“ถ้ามีความสามารถ งั้นคุณก็ให้พี่ชายของคุณลงมือจัดการเองเลย!”
“ตระกูลหยางของพวกคุณชุบเลี้ยงยอดฝีมือมากกว่าพวกเราอีกไม่ใช่หรือ?”
แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยถูกตำหนิเช่นนี้มาก่อน และยังถูกตำหนิต่อหน้าบุคคลสำคัญในตระกูลอีกด้วย หยางเสี่ยวหุ้ยตื่นตกใจจนพูดไม่ออก
หม่าจินหยู่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะและเอ่ย “พ่อครับ เรื่องนี้คุณให้ผมจัดการเถอะครับ ตอนนี้พ่ายแพ้แล้ว ผมยากที่จะปัดความผิด”
“ผมยินดีที่จะยอมรับความผิดทั้งหมด”
“แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องฉินเทียน ผมคิดว่าพวกเรานั้นไม่ควรขัดแย้งกัน ตรงกันข้าม ควรจะกระชับความสัมพันธ์กันให้มากขึ้น”
“ผมสามารถสัมผัสได้ว่าฉินเทียนนั้นเป็นคนที่ทำเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ พวกเราตระกูลหม่าหากเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีกับเขา ในอนาคตคงได้รับผลประโยชน์มากมาย”
หยางเสี่ยวหุ้ยเอ่ยในทันใด “หม่าจินหยู่ แกกำลังหมายถึงอะไร?”
“น้องชายของแกเกือบเอาชีวิตไม่รอด ตอนนี้ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แกเป็นพี่ชาย ไม่ล้างแค้นให้กับเขาก็ช่างเถอะ”
“แต่แกกลับยังช่วยพูดแทนฉินเทียนอีก!”
“แกใช่คนของตระกูลหม่าหรือเปล่า!”
หม่าจินหยู่เองก็โกรธเช่นกัน เขาเอ่ย “น้าหยาง จินหลงเขาเป็นฝ่ายที่กระทำผิดก่อน!”
“เป็นเขาที่นำคนบุกไปสังหารฉินเทียนก่อน!”
“ผมคิดว่าในอนาคตหลังจากนี้คุณเองก็ควรอบรมสั่งสอนเขาให้ดีหน่อย!”
“แกพูดว่าอะไรนะ?” หยางเสี่ยวหุ้ยทั้งตื่นตกใจทั้งโกรธเคือง เอ่ยด้วยเสียงที่ดังลั่น “หม่าจั๋วชุน คุณฟังสิ!”
“ตอนนี้แม้แต่เด็กรุ่นหลังก็เริ่มพูดจาแบบนี้กับฉันแล้ว!”
“เห็นฉันเป็นอะไร?”
“ฉันหยางเสี่ยวหุ้ยแต่งงานกับคุณ เพื่ออะไร?”
“พวกคุณทอดทิ้งฉันใช่ไหม? งั้นก็ได้ ฉันจะพาจินหลงกลับไปยังบ้านตระกูลหยาง!”
เธอทั้งร้องห่มร้องไห้ทั้งสร้างความวุ่นวาย
หม่าจั๋วชุนกระวนกระวายใจ
“เอาล่ะ พอได้แล้ว เลิกโต้เถียงกันเสียที!”
“ตอนนี้ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกันเองไหม? ผมเรียกพวกคุณมาเพื่อที่จะขอความคิดเห็น ไม่ใช่มาดูพวกคุณทะเลาะกัน!”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยสิ่งใดในตอนนี้
ในเวลานี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งเดินเข้ามารายงาน
“นายท่าน เจ้าบ้านหยางมาแล้วครับ”
หยางหยวนชิ่งมางั้นเหรอ?
หยางหยวนชิ่งชะงักไปชั่วขณะและรีบเอ่ย “รีบไปเชิญเข้ามา!”
อันที่จริงอายุของเขานั้นมากกว่าหยางหยวนชิ่ง แต่ทว่าแต่งงานกับน้องสาวของเขา หากเรียกตามฐานะคนในครอบครัวแล้วต้องเรียกเขาว่าพี่ชาย
เขายังคงรู้สึกขอบคุณมากที่ตอนแรกหยางหยวนชิ่งสามารถหมั้นหมายน้องสาวที่งดงามและอายุน้อยให้แก่เขาได้
เนื่องจากพลังอำนาจของตระกูลหยาง รวมถึงวิธีการลงมือทำเรื่องต่างๆของหยางหยวนชิ่ง สำหรับพี่เขยคนนี้หม่าจั๋วชุนรู้สึกกลัวเกรงเขามาโดยตลอด
ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ยิ่งทำให้เขามีความรู้สึกไม่กล้าสู้หน้าหยางหยวนชิ่ง
หยางหยวนชิ่งมาเยือนในเวลานี้ คงไม่ใช่ว่ามาโจมตีเขาหรอกใช่ไหม?
เขารีบเข้าไปทักทาย
“พี่ชายของผมมาแล้ว!”
“ดีเลย ฉันกับเขากำลังจะกลับไปยังบ้านตระกูลหยาง!”
“หม่าจั๋วชุน ฉันต้องการหย่ากับคุณ!” ครั้นได้ยินว่าคนจากที่บ้านของเธอมา หยางเสี่ยวหุ้ยเอ่ยเสียงดังอย่างภาคภูมิใจ
ใบหน้าของหยางหยวนชิ่งสงบนิ่ง ออร่านั้นดูสง่างามและสุขุม
ตระกูลหม่าทุกคนได้เห็น ต่างก้มศีรษะทักทายด้วยท่าทีหวั่นเกรง
“พี่ชาย พี่จะต้องจัดการให้กับฉันนะ!”
“หม่าจั๋วชุนกับพวกเขารวมหัวกันรังแกฉัน!” หยางเสี่ยวหุ้ยวิ่งเข้ามา
เหนือความคาดหมาย หยางหยวนชิ่งนั้นไม่ได้ไล่ถามคาดคั้น
และเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “น้องสาว ช่วยดูแลกับภาพลักษณ์ของตัวเองด้วย เธอเป็นภรรยาของหม่าจั๋วชุนและยังเป็นนายหญิงของบ้านตระกูลหม่า”
“ส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวายเช่นนี้ทำตัวเหมือนกับอะไร”
“จั๋วชุน ฉันมาในครั้งนี้มีเรื่องสำคัญอยากจะปรึกษา”
หม่าจั๋วชุนชะงักงัน จากนั้นเขารีบเอ่ยทันใด “พวกเราไปที่ห้องหนังสือกันเถอะครับ!”