บัญชามังกรเดือด - บทที่ 494 ฉันจะหักมันเสีย
บัญชามังกรเดือด บทที่ 494 ฉันจะหักมันเสีย
หลังจากที่หม่าจั๋วชุนเอ่ยจบ อันธพาลหลายร้อยคนที่อยู่ด้านหลังเขาก็ดึงดาบออกจากคมฝักและเอ่ยอย่างพร้อมเพรียง “ฉินเทียน ปรากฏตัวออกมารับความตายซะ!”
“ปรากฏตัวออกมารับความตาย!”
เสียงนั้นดังก้องไปทั่วทั้งถนนเส้นยาวนี้
แสงไฟชั้นบนของผู้พักอาศัยโดยรอบทั้งหมดดับลง ดวงตานับไม่ถ้วนที่หลบซ่อนอยู่ในความมืด เฝ้าดูการต่อสู้ที่น่าสลดใจที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างเงียบงัน
ขณะนี้ หลิวชั่นได้เดินออกมาพร้อมกับหม่าหงเทาและสมาชิกขององค์กรคำสาปสวรรค์
“เถ้าแก่หม่า พี่เทียนของพวกเรานั้นอยากจะเจรจากับคุณ” หลิวชั่นกล่าวอย่างจริงใจ
หม่าจั๋วชุนสบถในลำคอและเอ่ย “หลิวชั่น นายก็แค่สุนัขตัวหนึ่งเท่านั้น มีคุณสมบัติอะไรที่จะมาพูดคุยกับฉัน”
“ฉินเทียนล่ะ? ไปเรียกเขาออกมาซะ!”
“ตาเฒ่า ช่วยแสดงท่าทีเคารพต่อพี่เทียนของพวกเราหน่อย!” ถงชวนกลอกตาและแสดงท่าทีการโต้เถียง
ด้านข้างของหม่าจั๋วชุน บูชาอู่หลายคนก้าวเท้าออกมาด้านหน้าก้าวหนึ่งในทันใด ข้างหลังพวกเขา อันธพาลหลายร้อยคนพุ่งเข้ามาราวกับกระแสน้ำ ห้อมล้อมถงชวนและคนอื่นๆ
ถงชวนและคนอื่นๆนั้นไร้ท่าทีกลัวเกรง พวกเขาทุกคนนั้นมีพละกำลังที่เพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น แทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มต้นการต่อสู้ครั้งใหญ่
หลิวชั่นรีบเข้ามาตรงกลางเพื่อขวางกั้น เอ่ยด้วยรอยยิ้มขื่นขม “เจ้าบ้านหม่า ขอพูดตามตรงไม่ปิดบัง ลูกชายคนโตของคุณอยู่ในกำมือของพวกเรา”
“พี่เทียนกล่าวว่าหากต้องการให้หม่าจินหยู่มีชีวิตรอด คุณต้องเข้าไปพบเขาเพียงลำพัง”
“แกว่าอะไรนะ?” หม่าจั๋วชุนตรงเข้าไปบีบคอหลิวชั่น เขากัดฟันและเอ่ย “แกพูดอีกครั้งสิ?”
“ปล่อยเขา!” หม่าหงเทาตะโกนเสียงดัง ดาบยาวปรากฏออกจากคมฝัก จากนั้นพุ่งตรงเข้าไปสัมผัสบริเวณลำคอของหม่าจั๋วชุน
เนื่องจากเขาชักดาบออกมาอย่างรวดเร็ว หม่าจั๋วชุนและบูชาอู่รอบกายเขานั้นไม่สามารถตอบสนองได้ทันท่วงที
แต่ทว่า โซ่วอู๋ฉางที่ยืนอยู่ข้างกายหม่าจั๋วชุนนั้นเคลื่อนไหวในทันใด เขาใช้หลังมือของเขาตวัดดาบออกไป
เสียงแกร๊กดังขึ้น คมดาบยาวถูกเหวี่ยงออกไป แม้แต่หม่าหงเทาก็อดไม่ได้ที่จะถอยหลังร่นไปหนึ่งก้าว
เขาประหลาดใจมากและรีบมองไปทางโซ่วอู๋ฉาง
เพียงเห็นแค่มือของฝ่ายตรงข้ามนั้นผอมแห้งราวกับกรงเล็บของนก สีดำสนิทราวกับเหล็กดิบ
“นายเป็นคนของสำนักกรงเล็บอินทรีงั้นเหรอ?” เขาเอ่ยถามด้วยความตื่นตะลึง
มือคู่หนึ่งที่เป็นเนื้อหนังมังสาแกร่งราวกับเหล็ก ตวัดคมดาบยาวของเขาโดยตรง นี่เป็นสิ่งที่เขา ถงชวนและคนอื่นนั้นไม่เคยคาดคิดมาก่อน
น้ำเสียงของโซ่วอู๋ฉางเป็นเสมือนกับเสียงของนกฮูก เอ่ยอย่างเยือกเย็น “ไม่อยากตายก็ซื่อสัตย์หน่อย”
“เรียกฉินเทียนออกมาซะ”
“เหล่าหม่า ส่งเขามาให้ฉัน” ชุยหมิงที่อยู่ด้านข้างกัดฟันเอ่ย
ถงชวน เถียปี้และคนอื่นต่างก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ทั้งหมดเป็นองค์กรคำสาปสวรรค์ ตอนนี้เหล่าหม่าถูกผู้อื่นแสดงอำนาจข่มขวัญเสียแล้ว พวกเขาทุกคนล้วนรู้สึกอับอายขายหน้า
ในสถานการณ์ตอนนี้หากใครขยับทุกอย่างอาจจะระเบิดได้
“อย่าได้หุนหันพลันแล่น!”
“พวกนายอย่าลืมคำพูดของพี่เทียน!” หลิวชั่นรีบตะโกนแผดเสียงดัง
เขากัดฟันแน่นและเอ่ยกับหม่าจั๋วชุน “เจ้าบ้านหม่า ต่อให้คุณจะเชื่อหรือไม่ ทว่าเรื่องนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว”
“ตอนนี้หม่าจินหยู่อยู่ในกำมือของพี่เทียน หากคุณลงมือกระทำรุนแรง พี่เทียนกล่าวไว้ เขาทำได้เพียงแค่ฆ่าลูกชายคนโตของคุณก่อนเท่านั้น จากนั้นค่อยต่อสู้กับคุณจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ตายกันไปสักข้าง”
“ปล่อยลูกชายของฉัน!” หม่าจั๋วชุนตะโกนด้วยความโกรธเคือง
หลิวชั่นกัดฟันและเอ่ยอีกว่า “พี่เทียนบอกไว้ให้คุณเข้าไปพบเขาเพียงลำพัง”
หม่าจั๋วชุนกัดฟันแน่นและไม่พูดไม่จา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉินเทียนผลักบานหน้าต่างออกมา กระชากหม่าจินหยู่ออกมาเช่นกันและวางดาบพาดไว้บนคอของเขา
“เจ้าบ้านหม่า คุณมองดูหน่อยว่าคนผู้นี้คือใคร?”
“หากคุณกล้าทำคนของผมแม้สักนิดเดียว ผมจะบั่นคอของเขาทิ้งทันที!”
น้ำเสียงนั้นชัดเจน ดังก้องไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน
หม่าจั๋วชุนเงยศีรษะขึ้นอย่างหวาดกลัว เมื่อมองเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ชั่วพริบตานัยต์ตาของเขาแดงก่ำ
“จินหยู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เขาถามอย่างโกรธเคือง
หม่าจินหยู่กัดฟันและเอ่ยตอบ “พ่อครับ ผมไม่ทันระวังตัวเลยถูกจับตัวมา”
“ไม่ต้องสนใจผม ความปลอดภัยของพ่อนั้นเป็นเรื่องสำคัญ”
“พ่อรีบไปเถอะ!”
สีหน้าของหม่าจั๋วชุนดูหม่นหมองและซับซ้อน ราวกับว่าเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจ
ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะด้วยเสียงแผ่วเบา “คุณชายหม่า คุณลองทายดูสิ เขาจะเข้ามาที่นี่เพียงลำพังเพื่อคุณหรือเปล่า?”
ใบหน้าของหม่าจินหยู่แดงก่ำ เขานิ่งเงียบไม่พูดจา แน่นอนว่าเขาเองก็ต้องการทราบคำตอบเช่นกัน หากว่าหม่าจั๋วชุนทำเพื่อธุรกิจของตัวเขาเอง ไม่สนใจถึงความอันตรายต่อเขาที่เป็นลูกชาย เช่นนั้นในอนาคตเขาจะเผชิญหน้ากับผู้เป็นพ่อได้อย่างไร?
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ท้ายที่สุดแล้วหม่าจั๋วชุนก็ได้ทำการตัดสินใจ
“ฉินเทียน ถ้าแกกล้าแตะต้องลูกชายฉันแม้แต่ปลายเส้นผม ฉันจะฆ่าล้างโคตรตระกูลแก!”
“คนอื่นรออยู่ที่นี่ บูชาอู่ทั้งเจ็ดตามฉันมา!”
เขายอมใช้วิธีการประนีประนอม ภายใต้การคุ้มกันจากบูชาอู่ทั้งเจ็ดคน เขาได้บุกเข้ามา
เมื่อเห็นเช่นนี้ หม่าจินหยู่รู้สึกตื่นเต้นจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ขณะนี้ เขาสัมผัสได้แล้ว ภายในหัวใจของพ่อเขา ตัวเขาเองก็ยังพอมีความสำคัญอยู่บ้าง
ชายหนุ่มผู้โหยหาการยอมรับและความรักจากผู้เป็นพ่อ หลั่งน้ำตาด้วยความตื่นเต้น
บูชาอู่ทั้งเจ็ด จิตสังหารแผ่ซ่าน หยิ่งยโสจนไม่มีใครเทียบได้ คุ้มกันหม่าจั๋วชุน กระทั่งมาถึงด้านนอกห้อง
ชายอ้วนคนหนึ่ง ยกเท้าขึ้นเตะประตูเสียงดังโครม
“ไอ้สกุลฉิน ยังไม่รีบปล่อยคุณชายใหญ่อีก คุกเข่าลงรับความตายซะ!”
“ไม่อย่างนั้นจะฆ่าล้างโคตรแก!” เขาตะโกนก่นด่าเสียงดังลั่น
“พี่เทียน ได้โปรดออกคำสั่ง ฉันจะไปฆ่าไอ้อ้วนนั่นให้ตาย!” ถงชวนกัดฟันแน่นและเอ่ย มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น เส้นเลือดปูดนูน
ฉินเทียนมองออก องค์กรคำสาปสวรรค์คิดอยากจะลงมืออย่างไร แต่ทว่า หากไม่มีคำสั่งจากเขา ทุกคนต่างไม่กล้าลงมือ
“ฉินเทียน ความตายอยู่เหนือศีรษะ แกยังกล้าคิดต่อต้านอีกงั้นหรือ?”
“ปล่อยลูกชายฉัน คุกเข่าลง ร้องขอความเมตตาจากฉันเสีย” ท่าทีของหม่าจั๋วชุนโอหังอวดดี เขาดูมั่นใจว่าสามารถกดขี่ข่มเหงฉินเทียนได้แล้ว
ฉินเทียนยิ้มและพูด “เจ้าบ้านหม่า ให้คนของคุณออกไป พวกเราคุยกันตามลำพังเถอะ”
ชายอ้วนคนเมื่อครู่เอ่ยตะโกนเสียงดังทันใด “อย่าได้คิดเพ้อฝัน!”
“ไอ้คนสกุลฉิน แกคิดอยากฉวยโอกาสนี้สังหารเจ้าบ้านหม่าสินะ จะบอกแกไว้ ไม่มีทางหรอก!”
“ทางออกเดียวของแกในตอนนี้ก็คือ…”
เขายังเอ่ยไม่ทันจบ ฉินเทียนก็เคลื่อนไหว
เหมือนภาพลวงตา เพียงเสี้ยววินาทีพลันปรากฏตัวตรงหน้าไอ้อ้วนคนนั้น
“แกคิดจะทำอะไร?” ไอ้อ้วนชะงักงัน เปิดปากถามโดยสัญชาตญาณ
“นายพูดมากเกินไปแล้ว” ฉินเทียนแสยะยิ้ม จากนั้นฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของชายอ้วนทันใด
ชายอ้วนไม่สามารถหลบหนีได้เลย
เสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้น ร่างกายของเขาลอยละลิ่ว จากนั้นกระแทกลงบนพื้นอย่างรุนแรง ฟันภายในปากหลุดหายไปเกือบครึ่ง
ปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด กรีดร้องเสียงดังลั่นราวกับหมูถูกฆ่า
“รนหาที่ตายนัก!” บูชาอู่สองคนที่อยู่ด้านข้าง พุ่งเข้าหาฉินเทียนพร้อมกันจากทั้งทางด้านซ้ายและด้านขวา
ฉินเทียนเตะขาคู่ เตะกระแทกพวกเขาจนกระเด็นออกไป
ทั้งสามคนหยิบอาวุธออกมาและพุ่งตรงไปทางฉินเทียน
ความเร็วของฉินเทียนนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก ราวกับภาพลวงตาอย่างไรอย่างนั้น เคลื่อนตัวไปยังท่ามกลางพวกเขา ภายในชั่วพริบตา ทุกคนต่างลอยละลิ่วออกไป
หม่าจั๋วชุนเฝ้ามองบูชาอู่ทั้งเจ็ดคนที่เขาพามา เพียงชั่วพริบตาเดียวพวกเขาทั้งหกคนถูกจัดการจนสิ้นฤทธิ์ เขาตื่นตกใจจนพูดไม่ออก
“ฉันประเมินแกต่ำไป!”
“เอากรงเล็บของฉันไปกินซะ!” เหลือโซ่วอู๋ฉางเพียงคนสุดท้าย นัยต์ตาของเขาดุร้าย คำรามด้วยเสียงทุ้มต่ำ กางกรงเล็บออกมาราวกับสายลม เพ่งเล็งไปทางฉินเทียน
กรงเล็บเนื้อที่เปรียบเสมือนเหล็ก เมื่อครู่นี้ได้สะบั้นมีดเหมียวของหม่าทงเทาจนหักเป็นท่อน
เมื่อเผชิญหน้ากับกรงเล็บที่แหลมคมนี้ ฉินเทียนไม่เพียงไม่ถอยร่นเท่านั้น แต่ยังก้าวไปข้างหน้าเพื่อรอต้อนรับมัน ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยห้านิ้วที่ยื่นออกมา เขายังใช้กรงเล็บของเขาเพื่อคว้ากรงเล็บของโซ่วอู๋ฉาง
กรงเล็บปะทะกรงเล็บ!
แต่ทว่านิ้วทั้งห้าของเขานั้นเรียวยาวและขาวสะอาด มองอย่างไรก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโซ่วอู๋ฉาง
เช่นนี้สามารถรับมือได้งั้นหรือ?
เสียงแกร่กดังขึ้น นิ้วมือของทั้งสองคนนั้นประสานกัน
“ฉันจะหักมัน!” โซ่วอู๋ฉางร้องคำรามด้วยความโกรธ พยายามใช้แรงหักนิ้วทั้งห้าของฉินเทียน
ฮืม?
หลังจากที่พยายามออกแรง พบว่าฉินเทียนนั้นยังคงนิ่งงันและมั่นคงราวกับภูเขาไท่ซาน เขาอดไม่ได้ที่จะตะลึงงัน
“ฉันจะหักมันเสีย” ฉินเทียนยิ้มเยาะและออกแรงเพิ่มขึ้นในทันใด