บัญชามังกรเดือด - บทที่ 52 พี่เทียนผมผิดไปแล้ว
“อู๋เทียนสงมาแล้วหรือ?”
“ฉินเทียน พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?หรือว่า พวกเราจะยอม”
เห็นผู้คนโห่ร้องตรงหน้าประตู ได้ยินชื่อของอู๋เทียนสงอย่างเลือนราง ใบหน้าหยางยู่หลันดูหวาดกลัว
สีหน้าของซูซู ก็เคร่งขรึมอย่างผิดปกติเช่นกัน
พวกเขาเป็นผู้ริเริ่มงานที่ยิ่งใหญ่นี้ เป็นเจ้าภาพ คิดไม่ถึงว่า จะพัฒนากลายเป็นแบบนี้ได้
ซูเป่ยฉีกัดฟัน พูดด้วยความเกลียดชังว่า:“ถ้าต้องร่วมมือกับนักธุรกิจเลวๆ กลุ่มนี้ ผมยอมกลับบ้านเกิดไปขายมันเทศเสียดีกว่า!”
ตอนนี้ ในห้องโถง ก็เหลือเพียงพวกเขาไม่กี่คน ที่ดูโดดเดี่ยวไม่มีใคร
ฉินเทียนยิ้ม:“ไม่ต้องห่วง เรื่องสนุกๆ กำลังเริ่มแสดง”
ทีมรถออดี้ค่อยๆ จอดลงที่หน้าประตู ในรถทุกคัน มีคนวัยกลางคนสวมชุดแบบซุนยัดเซ็นเดินลงมา
ถึงแม้จะดูธรรมดา แต่ออร่าที่ดูสูงส่ง ทำให้คนไม่กล้ามองโดยตรง
“โหย เจ้าสมาคมเถีย เลขาธิการจาง พวกคุณมาแล้วหรือ!”
เมื่อเห็นคนสองคนที่เดินนำมา อู๋เทียนสงก็เข้าไปทักทายอย่างตื่นเต้น
เถียหลินเฟิงพยักหน้า พูดว่า:“ประธานอู๋ คุณนี่ทราบข่าวได้มีประสิทธิภาพเชียวนะ รู้ว่าคุณอยู่ในยุโรป กิจกรรมครั้งนี้ ที่จริงแล้วไม่ได้แจ้งคุณ”
อู๋เทียนสงรีบพูดว่า:“บังเอิญจัง!”
“ผมเพิ่งลงจากเครื่องบิน ก็ได้ยินเลขาธิการหอการค้าของพวกเรารายงานเรื่องนี้”
“นี่คือเรื่องดีของพวกเราหลงเจียง ยิ่งไปกว่านั้น เลขาธิการจางก็มาร่วมงาน ผมจะไม่กล้ามาด้วยหรือ?”
“เลขาธิการจาง ด้านในผมเตรียมไว้หมดแล้ว คุณรีบเข้ามาเถอะ”
เลขาธิการจางสวมแว่น มองไปแล้วดูสุภาพเรียบร้อย ราวกับนักเรียน
เขาจับมือกับอู๋เทียนสงไปอย่างสบายๆ ถามเถียหลินเฟิงเบาๆ:“เจ้าสมาคมเถีย คุณแน่ใจนะ คนนั้นอยู่ในนี้?”
เถียหลินเฟิงพูดอย่างร้อนใจ:“น่าจะไม่ผิดแน่”
เลขาธิการจางสูดหายใจลึกๆ รีบก้าวไปข้างใน
รอบๆ นั้น มีผู้คนล้อมรอบราวกับเป็นคนมีเกียรติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอู๋เทียนสง เขาตามติดอยู่ข้างกายของเลขาธิการจาง เดินเข้าไปในห้องโถง มองเห็นตำแหน่งที่อยู่ตรงกลางในด้านตรงข้าม ซูซูกำลังนั่งอยู่บนรถเข็น
ฉินเทียนกับหยางยู่หลันยืนอยู่ทั้งสองด้าน
เขาตะลึงเล็กน้อย พูดว่า:“พวกคุณคือใคร?”
“เดี๋ยวจะมีงานสำคัญเกิดขึ้นที่นี่แล้ว คนที่อยู่ว่าง รีบออกไปซะ”
เลขาธิการจางกับเจ้าสมาคมเถียมาถึง ผู้คนที่ตระหนักได้ ต่างมาต้อนรับที่หน้าประตู
คนพวกนี้กลับยืนอยู่ตรงกลาง อย่างไม่แยแส ดังนั้นอู๋เทียนสงจึงคิดว่า เป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้อง
ได้ยินคำพูดของเข อู๋เฟยจึงรีบพูดว่า:“พูดกับพวกแกไง?ได้ยินไหม!”
“ยังไม่รีบออกไปอีก!”
ซูหนาน ซูเหวินเฉิง เป่ยซาน และสมาชิกสหพันธ์เหล่านั้นที่ถูกอู๋เฟยดึงมา ทุกคนต่างดูภูมิใจ
งานในวันนี้ เดิมทีเป็นของซูซูกับฉินเทียน
คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายกับถูกไล่ออกไป
พวกเขาสัมผัสถึงความรู้สึกของการแก้แค้นอย่างรุนแรงแล้ว
“ฉินเทียน พวกเรารีบไปกันเถอะ!”เห็นคนใหญ่คนโตอย่าวเถียหลินเฟิงกับเลขาธิการจาง หยางยู่หลันก็ยอมแพ้โดยสิ้นเชิง
จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีแม้แต่ความตั้งใจสุดท้ายที่จะต่อสู้
“โอเค”คิดไม่ถึงว่า ครั้งนี้ ฉินเทียนจะตอบตกลง
เขาผลักซูซู เดินไปด้านนอก
“คุณฉิน!”ขาของเถียหลินเฟิงอ่อนลงเล็กน้อย พูดอย่างหวาดกลัวว่า:“วันนี้เป็นวันพิธีก่อตั้งบริษัทใหม่ของคุณกับคุณซูซูไม่ใช่หรือ?”
“ผมมาช้าไปนิดเดียว เพราะว่าไปเชิญเลขาธิการจางมาโดยเฉพาะ แล้วทำไมพวกคุณถึงจะไปล่ะ?”
“งั้นหรือ?”ฉินเทียนยิ้มอย่างเยือกเย็น:“แต่ว่าดูเหมือนที่นี่จะไม่มีใครต้อนรับพวกเรา”
เถียหลินเฟิงรีบพูด:“ก่อนหน้านี้น่าจะเข้าใจผิด เดี๋ยวค่อยคุยกัน”
“คุณฉิน ประธานซู ผมขอแนะนำให้พวกคุณรู้จัก ท่านนี้คือ เลขาธิการจางที่มาใหม่”
“เลขาธิการจางเพิ่งมารับตำแหน่ง ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจของหลงเจียงมาก”
“ได้ยินเกี่ยวกับการกระทำของคุณฉินกับคุณซูแล้ว จึงมาแสดงความยินดีด้วยตนเองโดยเฉพาะ”
ทำไม สถานการณ์ดูผิดปกติ?
รวมถึงอู๋เทียนสงด้วย ทุกคนต่างงุนงง
หรือว่าเถียหลินเฟิง หัวหน้าสมาคมของหลงเจียงที่สง่างาม จะมาเพื่อมาหาฉินเทียนกับซูซู?
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ยิ่งจะทำให้พวกเขาประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง
“เลขาธิการจาง……”ฉินเทียนมองนักวิชาการที่ดูเรียบง่าย หัวเราะอย่างเยือกเย็น:“ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สวัสดี”
เห็นเพียงเลขาธิการจางมาตรงหน้าฉินเทียน พูดด้วยความเคารพและตื่นเต้น:“คุณฉิน คุณจริงๆ ด้วย!”
“ท่านเรียกผมว่าเสี่ยวจางก็พอแล้ว!”
“คิดไม่ถึงว่าคุณฉินจะเปิดบริษัทที่หลงเจียง ช่างเป็นเกียรติแก่ผมจางเจี้ยนซวินจริงๆ!”
“คุณฉิน ถ้าต้องการอะไร กำชับผมได้เลยนะครับ!”
อะไรนะ?
เลขาธิการที่สง่างาม เมื่ออยู่ต่อหน้าของฉินเทียนแล้ว ดันเรียกตัวเองว่าเสี่ยวจาง!
นี่เหมือนกับระเบิดลูกหนักอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ทุกคนในที่งาน ต่างตกตะลึงโดยสิ้นเชิง
แม้แต่เถียหลินเฟิง ก็คิดไม่ถึงว่า จางเจี้ยนซวินไม่ใช่แค่รู้จักกับฉินเทียน แต่ยังให้เกียรติด้วย……
พอนึกถึงท่าทีที่นายท่านของตัวเองเคารพต่อฉินเทียนแบบนั้น ก็ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“คุณฉิน คุณซู พวกคุณต่างหากที่เป็นตัวละครสำคัญที่แท้จริงของวันนี้!”
“พวกเรามาเพื่อร่วมพิธีเปิดบริษัทใหม่ของพวกคุณ”
“ท่านไปไม่ได้นะ!”หัวหน้าคนอื่นๆ ในสมาคม ต่างยิ้มอย่างชื่นชม
ฉินเทียนพูดอย่างเยือกเย็น:“ถูกต้อง งานในวันนี้ เป็นของผมกับภรรยาจริงๆ”
“ก็แค่ พวกเราเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีภูมิหลังอะไร สู้คนใหญ่คนโตอย่างพวกคุณที่รวยและมีอำนาจไม่ได้”
“ในพวกคุณนี้มีคนอยากไล่พวกเราไป พวกเราไปเถอะ”
ใบหน้าของเถียหลินเฟิงดูเหยเก
จางเจี้ยนซวินก็เช่นกัน เขาพูดเสียงหม่นลงไป:“ผมเพิ่งมาถึง ไม่ค่อยแน่ใจสถานการณ์ในที่นี้ เจ้าสมาคมเถีย เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เถียหลินเฟิงรีบมองไปยังอู๋เทียนสง
“ประธานอู๋ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ คุณพูดมาให้ชัดเจนที”
อู๋เทียนสงก็ตื่นตระหนก รีบถามอู๋เฟย:“ไอ้เด็กเปรตอย่างแกไปทำอะไรขัดใจคุณฉินกับคุณซูใช่ไหม?”
“ผม——”
“ผมอะไรล่ะ!ยังไม่รีบคุกเข่าอีก ขอโทษคุณฉินกับคุณซูเดี๋ยวนี้!”อู๋เทียนสงไม่ให้อู๋เฟยอธิบาย ก็ถีบออกไป ทำให้เขาล้มลงไปที่พื้น
เขาฉลาดมาก เข้าใจในทันที ว่านี่คือความผิดของลูกชายตัวเอง
ได้เห็นทัศนคติที่เถียหลินเฟิงกับจางเจี้ยนซวินมีต่อฉินเทียน ถึงเขาจะไม่เข้าใจ แต่ก็ตัดสินใจได้อย่างฉลาดที่สุดในทันที
มีแค่แบบนี้ ถึงจะสามารถระงับความโกรธของเถียหลินเฟิงกับจางเจี้ยนซวิน และรักษาอู๋ซื่อไว้ได้
อู๋เฟยคุกเข่าไปที่ใต้เท้าของฉินเทียนและซูซู และก็ตกตะลึงเช่นกัน
ฉินเทียนมองอู๋เฟยที่อยู่ตรงปลายเท้า หัวเราะและพูดอย่างเย็นชา:“คุณชายเฟย คุณไม่ได้ก่อตั้งสหพันธ์การจัดหาการแพทย์และยา เพื่อมาข่มขู่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอีกหลายคน”
“และก็ คุกคามว่าจะทำลายพวกเรา หากบริษัทของเราไม่เข้าร่วมเป็นสหพันธ์ ไม่ทำตามคำสั่งของคุณหรอกหรือ?”
“คุณยังบอกอีกว่าจะให้ผมฉินเทียนคุกเข่าขอโทษคุณ”
“ทำไมตอนนี้ คุณกลับคุกเข่าล่ะ?”
สีหน้าอู๋เฟยเปลี่ยนไป อยากจะด่าออกไปอย่างรุนแรงตามสัญชาตญาณ
“สารเลว!”อู๋เทียนสงตบหน้าเขาไปฉาดหนึ่ง
“แกมันไร้ค่าเสียจริง ดูสิ ถือโอกาสที่ฉันไม่อยู่ ไปทำอะไรไว้?”
“วันนี้ถ้าคุณฉินไม่ให้อภัย ฉันจะหักขาแก และไล่แกออกไปจากบ้าน!”
ตอนนี้ อู๋เฟยตื่นตระหนกแล้วจริงๆ เพราะเขารู้ว่า พ่อของเขาไม่ได้มีเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ยังมีลูกนอกสมรสอยู่ข้างนอกอีกหลายคน
ทำเขาพิการแล้ว ก็สามารถให้ลูกนอกสมรสมาสืบทอดธุรกิจครอบครัวได้เลย
“พี่เทียน คุณซู ผมผิดไปแล้ว!”
“ก่อนหน้านี้ผมแค่ล้อเล่น เพื่อให้พิธีเปิดธุรกิจที่ไม่อาจลืมได้แก่พวกคุณ!”
“พวกคุณได้โปรดอย่าทะเลาะกับผมที่มีความรู้ต่ำกว่าเลย!”
ก้มหัวให้ไป ก็ตบหน้าตัวเองไปด้วย มองไปแล้วตลกสุดๆ