บัญชามังกรเดือด - บทที่ 544 พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
บัญชามังกรเดือด บทที่ 544 พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
“ถอด!”
“รีบถอดสิ!”
“ถ้าหากบนตัวของนายไม่มีรูปอันนี้จะกลัวอะไร?”
“รีบถอด!”
ฟังคำพูดของลิเหลียงแล้วทุกคนล้อมโจมตีเสินเฟิงด้วยความโกรธ ตำหนิสั่งให้เขาถอดเสื้อตรวจสอบทันที
ในดวงตาของเสินเฟิงเปิดเผยสีที่หวาดกลัวมากออกมา เหมือนกับว่าหนูตัวเล็กตัวหนึ่งเพิ่งขโมยของแล้วถูกแมวแก่กลุ่มหนึ่งโอบล้อมไว้
ภายใต้ความโกรธของทุกคนเขาตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้ เอามือวางบนเสื้อผ้าแล้วทำท่าทางต้องการที่จะถอดเสื้อออกมา
ทุกคนเบิกตากว้างแล้วต่างก็ต้องการรอดู
“คุณชาย ขอโทษ!”
ทันใดนั้นเสินเฟิงกัดฟันพูดแล้วประโยคหนึ่ง ใช้ท่าทางที่รวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัวควักของออกมาหนึ่งอย่างจากในอ้อมอกโยนทิ้งลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว
พู่เสียงหนึ่ง ในพริบตาหมอกควันพุ่งขึ้นมารอบทิศ
กลิ่นที่ทิ่มจมูกทำให้ทุกคนตกใจร้องถอยหลัง ใช้มือปิดจมูกและตาไว้อย่างลนลาน
“ระเบิดควัน!”
“มีพิษ!”
“ระวัง!”
ในงานโกลาหลใหญ่เป็นแถบ ๆ
แม้กระทั่งเทวดาเจ็ดดาวที่โอบล้อมเสินเฟิงต่างก็ไม่ทันได้ตั้งตัว
และฉินเทียนที่นั่งบนเวทีเห็นชัดเจน หลังเสินเฟิงปล่อยระเบิดควันแล้วก็เหมือนกับนกตัวหนึ่งหลบหนีออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็วอย่างนั้น
ช่วงระยะห่างสองสามร้อยเมตร ถ้าหากเขาอยากไล่ตามก็ไม่ใช่ไล่ตามไม่ทัน
แต่เขากลับนั่งอยู่ไม่ขยับ ในดวงตาปรากฏรอยยิ้มที่เย็นชาขึ้นมา
ก็เหมือนมองปลาตัวหนึ่งที่หนีจากแห หนีหลุดจากแหหนึ่งวิ่งไปยังแหถัดไปแล้ว
รอตอนที่เทวดาเจ็ดดาวมีปฏิกิริยากลับมาอยากที่จะไปไล่ตาม เงาร่างของเสินเฟิงก็ได้มาถึงปากทางหุบเขา สั่นไหวหายไปแล้ว
ทุกคนโกรธมาก!
“เสินเฟิงเป็นมือมืดที่อยู่เบื้องหลัง!”
“เขากับหมอนี่ที่ตายคนนี้เป็นพวกเดียวกัน!”
“เป็นเขาที่ฆ่าคนและใส่ร้าย!”
ทุกคนที่มีปฏิกิริยามาร้องเสียงดังอย่างตกใจ
ที่รู้สึกช็อกที่สุดก็เป็นเฉินเถิงและเจี่ยงเส้าแล้ว
เจี่ยงเส้ายังดีหน่อยฝืนทนอยู่ไม่ได้พูดออกมา เฉินเถิงอดทนไม่ไหวแล้ว
เขามองลิเหลียงอยู่ พูดอย่างโกรธจัด“คุณชายลิ เสินเฟิงเป็นคนของคุณเขาอาศัยชื่อของฉินเทียนฆ่าบูชาอู่ของพวกเรา”
“เพราะอะไร?”
“เพราะอะไรเขาทำอย่างนี้ เบื้องหลังเป็นใครที่สั่งการอีก?”
ในงานเงียบลงมา สายตาของทุกคนต่างก็ส่องไปทางลิเหลียงทั้งหมดแล้ว
เสินเฟิงเป็นลูกน้องของเขา เอาตามหลักเหตุผลแล้วเขาก็เป็นผู้ที่สั่งการอยู่เบื้องหลัง
ตอนนี้แทบจะสามารถยืนยันได้ ปีศาจขาวของตระกูลหยางเป็นการร่วมมือฆ่าเพื่อการแข่งขันของเฉินเถิงและตระกูลเจี่ยง
และปรมาจารย์ของตระกูลเฉินกับตระกูลเจี่ยงเป็นเสินเฟิงที่สั่งการให้คนไปฆ่า เรื่องชุดนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉินเทียน
ตอนนี้ก็ดูมีความเกี่ยวข้องกับลิเหลียงหรือเปล่า
เผชิญหน้ากับคำถามของทุกคน ลิเหลียงทำหน้ามืดมนไม่พูดร่างกายสั่น เหมือนกำลังทำการตัดสินใจสุดท้ายที่สำคัญอย่างหนึ่ง
“จากสถานการณ์นี้แล้ว นักฆ่าที่บุกรุกตระกูลหลินในยามดึกก็เป็นเสินเฟิงคนนี้อีกทั้งลูกน้องของเขาแล้วหลินตงเอ่ยปากด้วยเสียงที่เย็นชา
เหยียนซิวลังเลแล้วเล็กน้อยก็พูด“นักฆ่าสองสามคนนั้นที่บุกรุกตระกูลเหยียนทั้งหมดต่างก็ปิดหน้าอยู่”
“พวกเราก็เพียงแค่ฟังพวกเขาพูดเต็มปากว่าฉินเทียนเป็นคนสั่งการ ก็ไม่ได้มีหลักฐานอื่น ”
“ตอนนี้ดูแล้ว เรื่องน่าสงสัยมาก”
หลินหลงก็เอ่ยปากแล้ว
“คนกลุ่มนั้นที่บุกรุกหอชงเซียวของพวกเรา ฉันสามารถยืนยันได้ไม่ใช่ฉินเทียนที่ชี้แนะ”
“ระหว่างฉินเทียนและเป่ยเจียงถึงแม้มีบุญคุณความแค้นเล็กน้อย แต่นิสัยของฉินเทียนฉันยังคงรู้”
“เขาอยากที่จะฆ่าคน เดิมทีก็ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ”
ฉินเทียนคิดไม่ถึงหลินหลงผู้หญิงคนหนึ่งจะเข้าใจตัวเองอย่างนี้
เขาอมยิ้มพูด“ขอบคุณน้าหลินมาก”
หลิวชิงเหยาพูดอย่างโมโห“ใครเป็นน้าของนาย?อย่าสร้างความสัมพันธ์มั่ว!”
“จี้ซิงล่ะ?การตายของเขา คงจะมีความเกี่ยวข้องกับนายใช่ไหม?”
“เรื่องนี้นายจะว่ายังไง?”
ฉินเทียนฝืนยิ้มไม่พูด
หวังเยว่พูดเสียงขรึม“ทุกท่าน เรื่องนี้ที่จริงขอแค่ใจเย็นลงคิดหน่อย ก็สามารถพบจุดสงสัยในนั้นได้”
“ถ้าหากพูดว่าฉินเทียนต้องการฆ่าคนอย่างลับ ๆ งั้นเพราะอะไรทุกครั้งต่างก็ต้องยืมปากของคนอื่นทิ้งชื่อด้วยล่ะ?”
“ในเมื่อเขาไม่ถือสาทิ้งชื่อไว้ งั้นเพราะอะไรต้องปิดหน้าอีก?”
“นี่เดิมทีก็คือขัดแย้งกันเอง”
“ตอนนี้ดูแล้วก็คือมีคนอาศัยชื่อของเขาเอาเจ็ดเมืองทางใต้นี้ทำให้ปั่นป่วน ฉวยโอกาสหาผลประโยชน์บรรลุเป้าหมายของตัวเอง”
ได้ยินคำพูดนี้ทุกคนที่ใจเย็นลงมาพยักหน้าติดต่อกัน ใช่ ที่พวกเขายืนยันฉินเทียนเป็นฆาตกรต่างก็แค่ได้ฟังคนอื่นพูดมา
ใครก็ไม่มีหลักฐานโดยตรงสักนิด
ช่องโหว่ข้างในนี้ชัดเจนมากแล้วจริง ๆ
จ้าวจิ่วรี่ยืนขึ้นมาแล้ว เขาเอาสายตาวางไปบนตัวของลิเหลียง
“คุณชายลิ เสินเฟิงเป็นคนของคุณตอนนี้ดูแล้วฉินเทียนได้รับภัยพิบัติ คุณอาศัยดึงเพื่อนร่วมความคิดเส้นทางเดียวกันขึ้นตำแหน่ง ก็คือผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด”
“เรื่องนี้ คุณจะอธิบายต่อทุกคนสักหน่อยไหม?”
“คุณเป็นผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลังหรือเปล่า!”
นี่ได้เป็นการบังคับให้ลงจากตําแหน่งต่อหน้าแล้ว
ดวงอาทิตย์ของตระกูลจี้พูด พลังไม่ธรรมดา
“น้องชาย เป็นนายที่ทำจริง ๆ เหรอ?”
“เพราะอะไรนายต้องทำเรื่องเหล่านี้?”
“นายรีบพูดสิ!”ลิฉุนพูดอย่างตื่นตระหนกตกใจ
เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว หล่อนก็คือทั้งตกใจทั้งดีใจ ตกใจคือคิดไม่ถึงมีเบื้องหลังมากอย่างนี้
กระทั่งดีใจ หล่อนก็พูดไม่ชัดเจนตัวเองสรุปแล้วกำลังดีอกดีใจอะไร อาจจะเป็นเพราะฉินเทียนเริ่มล้างมลทินให้ตัวเองแล้ว?
แต่เรื่องโยงมาถึงลิเหลียงก็ทำให้หล่อนไม่สงบมากอีก
เหมือนลิเหลียงในที่สุดตัดสินใจแล้ว เขาพูดเสียงดัง“ถงเหรินถอดเสื้อ!”
“ครับ!”
นับตั้งแต่เจ้าแปดถูกจับ เสินเฟิงถูกล้อม สีหน้าของถงเหรินก็ดำสนิทเหมือนกับเหล็กอย่างนั้น
กลิ่นไอฆ่าบนตัวของเขานั้นรวมตัวกันเหมือนปืนยาวหนึ่งกระบอก ตั้งแต่เริ่มจนจบต่างก็ไม่ได้กระจายหายไป
ขอแค่ลิเหลียงออกคำสั่งเสียงหนึ่ง เขาก็ต้องไปทำสงครามต่อสู้!
ในความคิดของเขาในเมื่อแผนการได้แดงออกมาแล้ว อย่างนั้นก็ใช้วิชาการต่อสู้ไปจัดการแก้ไขทั้งหมด!
ฟังคำพูดของลิเหลียงแล้ว เขาฉีกแควกเสียงหนึ่ง ฉีกเสื้อผ้าบนตัวแล้ว
หมุนตัวมาเพียงเห็นแผ่นหลังที่ดำมืดเหมือนเหล็ก กล้ามเนื้อแข็งแกร่งมีพลังเหมือนหินแกรนิตทั้งชิ้น
กลับไม่มีรูปอะไร
ทุกคนถอนใจ ดูแล้วถงเหรินไม่ใช่พวกเดียวกัน
จากนั้นไม่รอทุกคนพูด ลิเหลียงยืนขึ้นมาแล้วยื่นมือเลยทันที เริ่มแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออก
“คุณชายไม่ได้!”
“คุณชาย คุณเป็นฐานะอะไร จะเปิดหน้าอกโชว์หลังต่อหน้าทุกคนได้ยังไง!”
มองเห็นการกระทำของลิเหลียง ถงเหรินคุกเข่าข้างเดียว ขอร้องให้ลิเหลียงหยุดการกระทำนั้น
กระทั่งในดวงตาของเขาน้ำตาคลอออกมาแล้ว นั่นเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ทนไม่ได้ที่จะเห็นเจ้านายได้รับการเหยียดหยามถึงมีอารมณ์แล้ว
ลิเหลียงยิ้มอย่างสบายใจ พูด“ถงเหรินพวกเราถูกคนหลอกใช้แล้วกลับยังไม่รู้”
“ความผิดนี้ใหญ่มากแล้วจริง ๆ !”
“เรื่องมาถึงขั้นนี้ไม่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองอีก วันหลังยังจะอยู่ต่อที่เจ็ดเมืองทางใต้นี้ได้ยังไง?”
พูดอยู่ เขาถอดเสื้อเชิ้ตแล้ว
เพียงเห็นภายใต้แสงแดดที่สดใสสวยงาม ผิวเนียนนุ่มละเอียดพอมองก็คือคุณชายตระกูลร่ำรวยที่บำรุงดูแลอย่างดี
หมุนตัวมาบนแผ่นหลังก็ไม่มีรูปใด ๆ
ทุกคนถอนใจ
ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะย่นคิ้ว เอาตามประสบการณ์ของเขารูปร่างชนิดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นนักบู๊ที่ฝึกฝนวิชา
หรือว่าลิเหลียงเป็นเพียงแค่คนเรียนหนังสือ ร่างกายอ่อนแอคนหนึ่งจริง ๆ ?
แต่เขาจู่ ๆ พบว่าบนแผ่นหลังที่นุ่มละเอียดของลิเหลียงมีร่องรอยสองสามเส้นเล็กจนไม่สามารถสังเกตได้
เหมือนถูกคนใช้เล็บมือเกาออกมา ได้เป็นแผลเป็นแล้วผ่านไปสองสามวันอีกรอยแผลเป็นหลุดร่วงก็จะไม่มีร่องรอยที่จะค้นหาได้
“คุณฉิน ยังต้องการให้ผมพิสูจน์อะไรไหม?”ลิเหลียงมองฉินเทียนยิ้มพูด
ฉินเทียนกระดกคิ้วแล้ว“คุณชายลิสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ ดีมาก”
“ผมได้รับคำตอบที่ผมอยากได้แล้ว คุณชายลิสามารถใส่เสื่อได้แล้ว”