บัญชามังกรเดือด - บทที่ 554 สู้รบด้วยชีวิต
บัญชามังกรเดือด บทที่ 554 สู้รบด้วยชีวิต
ในช่วงเวลาวิกฤติ ฉินเทียนกระโดดขึ้นทันที จับปลายดาบไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง
เดิมทีดาบเล่มนี้เป็นงานฝีมือชิ้นหนึ่ง เนื่องจากเป็นดาบที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นแม้แต่ปลายดาบก็กว้างเท่าฝ่ามือและหนาหนึ่งนิ้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะใช้แรงจับไว้แค่ไหนก็ไม่สามารถแทงทะลุผิวหนังได้แน่
ลิเหลียงคิดว่าฉินเทียนกำลังจะต้องตาย ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเศร้าโศกเล็กน้อย
กระทั่งเขาพบว่าฉินเทียนนั้นเป็นเสมือนจี้ประดับชิ้นหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น ติดห้อยอยู่บนปลายดาบ จากนั้นเขาก็คำรามแผดเสียงด้วยความโกรธ
ขณะที่เขาคำรามด้วยความโกรธ เขาก็เหวี่ยงดาบด้วยความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น
ด้วยลมกระโชก ฉินเทียนถูกเหวี่ยงไปในอากาศด้วยดาบขนาดใหญ่ ร่างกายของเขาเปรียบเสมือนพู่ที่ติดมากับดาบอย่างไรอย่างนั้น
ดูอันตรายและสามารถปลิวไปได้ทุกเมื่อ แต่ทว่าเหมือนกับการเกาะติดอยู่บริเวณปลายของดาบ ไม่ว่าลิเหลียงจะเหวี่ยงแรงแค่ไหนก็ไม่สามารถสลัดให้หลุดได้เลย
เปรียบเสมือนการแสดงกายกรรมชั้นยอดของโลก
ฝูงชนที่อยู่ด้านล่างเวที ดวงตาเบิกกว้าง
“ดี!”
“สมแล้วที่เป็นพี่เทียนของผม ยอดเยี่ยมมากจริงๆ!” จี้ซิงกระตือรือร้นและอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงตะโกน
“เยี่ยม!”
“ทักษะที่น่าทึ่งของคุณฉิน!”
“คุณฉินแข็งแกร่ง!” คนอื่นต่างส่งเสียงเชียร์ราวกับน้ำที่กำลังเดือด
อย่างไรเสีย หลังจากที่ได้เห็นความโหดร้ายของลิเหลียง พวกเขาไม่ต้องการถูกปกครองโดยลิเหลียง เช่นนั้นแล้วยังพอจะมีทางมีชีวิตรอดอยู่บ้างไหม?
ไม่ว่าใครก็ตามต่างก็คาดหวังให้ฉินเทียนเอาชนะลิเหลียงได้
นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ของทุกคนและเจ็ดเมืองทางใต้ ฉินเทียนไม่ลังเลเลยที่จะต่อสู้กับปีศาจเพียงลำพัง ด้วยจิตวิญญาณและการแบกรับภาระนี้ เขาก็พิชิตใจของทุกคนได้แล้ว
“คุณฉินสู้เขา!”
“พวกเรายินดีที่จะให้คุณเป็นผู้นำ!”
“เจ็ดเมืองทางใต้เคารพคุณฉิน!” ภายใต้สถานการณ์ที่น่าตื่นเต้น หม่าจั๋วชุนน้ำตารินไหลและเอ่ยตะโกนคำพูดเช่นนั้นออกไป
หลังจากคำพูดของเขา คนอื่นต่างก็มีปฏิกิริยาตอบโต้จากนั้นก็ตะโกนกันอย่างพร้อมเพรียง
“พวกเรายินดีที่จะให้คุณฉินเป็นผู้นำ!”
“เจ็ดเมืองทางใต้เคารพคุณฉิน!”
เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขา ชั่วขณะหนึ่ง นัยน์ตาของลิเหลียงปรากฏเปลวไฟออกมา
เขาเหวี่ยงดาบขนาดใหญ่ขึ้นสูง จากนั้นกระแทกลงบนเวทีเซวียนหยวน
ถึงแม้ว่าฉินเทียนจะถูกเหวี่ยงมาสักพักหนึ่งแว เหมือนกับการเล่นเกมที่ไร้น้ำหนักอย่างไรอย่างนั้น แต่ทว่าด้วยความอุตสาหะและพลังวิชาที่ไม่ธรรมดาของเขา เขาก็ยังสามารถครองสติได้อยู่เสมอ
ภายในดวงตายังตัดสินทุกการเคลื่อนไหวของลิเหลียงได้อย่างแม่นยำ
เมื่อรู้สึกได้ว่าท่าไม่ดีแล้ว ทันทีที่ดาบขนาดใหญ่สัมผัสพื้นผิวของเวทีเซวียนหยวน เขาปล่อยมือและกลิ้งตัวจากนั้นก็หลบหลีก
กึก!
ดาบทองแดงขนาดใหญ่ ภายใต้แรงผลักดันมหาศาล ดาบสัมผัสกับพื้นหิน ทันใดนั้นประกายไฟก็ลอยขึ้นและเศษหินก็ปลิวว่อน
ในขณะที่พื้นผิวหินแตกเป็นร่องลึก ดาบยักษ์เซวียนหยวนก็แตกหักเช่นกัน
ด้วยวิธีนี้ ลิเหลียงสูญเสียอาวุธของเขาไปอีกครั้ง
ส่วนฉินเทียนหลังจากกลิ้งออกไปไม่กี่เมตร เขายืดร่างกายของเขาและลุกขึ้นในทันใด
ใบหน้าของเขาซีด จ้องมองลิเหลียงด้วยสายตาเย้ยหยัน
“คุณคิดว่าคุณจะยืนหยัดไปได้อีกนานแค่ไหน?”
ลิเหลียงกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว ภายใต้ความโกรธ จะต้องครุ่นคิดอย่างใจเย็น
สูญเสียดาบ สถานการณ์ก็พลิกกลับไปยังช่วงก่อนหน้านี้ เขาไม่สามารถจับฉินเทียนได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงปล่อยให้เรี่ยวแรงของเขาหมดลง
เป็นไปได้หรือไม่ว่าวันนี้ตัวของเขานั้นจะต้องพ่ายแพ้?
ในสายตาเห็นเหยื่ออยู่ตรงหน้า ร่างกายก็มีพละกำลัง แต่กลับทำสิ่งใดไม่ได้เลย เขาไม่ยินยอมให้เป็นเช่นนี้!
นอกจากนี้ หลังจากผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือด เขาสัมผัสได้ว่าพลังเน่ยจิ้งภายในร่างกายของเขานั้นหายไปอย่างรวดเร็ว
เลือดที่เดือดพล่านกลับค่อยๆเย็นลง
สำหรับสิ่งนี้ ฉินเทียนเห็นได้อย่างชัดเจนมากกว่าที่เขาเห็นเสียอีก
ฉินเทียนตัดสินชี้ขาด ลิเหลียงในตอนนี้ เริ่มหดตัวลงแล้วเมื่อเทียบกับช่วงยุคทองก่อนหน้านี้
นี่คือสัญญาณของสภาวะถดถอย!
ดังนั้นตอนนี้เขามั่นใจว่าชัยชนะเป็นของเขา เขาไม่มีท่าทีรีบร้อนเลย เขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อสำรวจความลับบางอย่างของวิหารเทพสังหารจากร่างกายของลิเหลียง
ผู้คนด้านล่างเวทีต่างส่งเสียงโห่ร้อง
ในขณะที่พวกเขากำลังจะตกสู่ห้วงของความมืดมิด ฉินเทียนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพลิกสถานการณ์ ด้วยกำลังของเขาเอง เขาได้ช่วยเหลือพวกเขาไว้
ในสายตาของพวกเขาในขณะนี้ ฉินเทียนคือดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอยู่บนฟากฟ้า เป็นวีรบุรุษกอบกู้โลก!
จี้ซิงหัวเราะเสียงดังลั่น “ปีศาจยักษ์ลิ ทำไมแกไม่สู้แล้วล่ะ?”
“แกคิดว่าหลังจากที่แกเปลี่ยนร่างแล้วแกคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นสิ? บอกแกไว้เลยนะ เมื่อแกอยู่ต่อหน้าพี่เทียนของฉัน แกมันก็เป็นได้แค่ลูกกระจ๊อก!”
“พี่เทียน แสดงให้เขาเห็นถึงพละกำลังของพี่เลย!”
เมื่อได้ยินจี้ซิงประจบสอพลอตนเองเช่นนี้ในที่สาธารณะ ฉินเทียนเองก็พูดไม่ออกเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าในอนาคตตนเองจะมีแฟนบอยตัวน้อยเพิ่มมาอีกหนึ่งคนเสียแล้ว
แต่ทว่า อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้เขามาท้าดวลตัวเขาอย่างไม่จบไม่สิ้น
เมื่อนึกถึงเช่นนี้ ฉินเทียนยิ้มออกมา
เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ทุกคนรู้สึกว่าจะต้องได้รับชัยชนะแน่นอน
แต่ทว่า ต่อจากนั้น คำพูดของชายชุดดำบริเวณก้อนหินขนาดใหญ่รอบด้านทำให้พวกเขาตกใจจนหน้าซีดเผือด
“ฉินเทียน หลบไปหลีกมาเช่นนี้คือทักษะอะไรกันงั้นเหรอ? เจ้าสำนักของพวกเราต้องการเผชิญหน้ากับคุณ ไม่ได้ต้องการเล่นซ่อนแอบกับคุณ”
“ต่อจากนี้ไป หากคุณยังหลบซ่อนอีก พวกเราก็จะฆ่าคนไปทีละคน”
“ถ้าคุณอยากเล่น พวกเราก็จะอยู่เล่นกันไปจนจบ”
ด้วยการสะบัดมือของเขา นักธนูหลายร้อยคนที่อยู่โดยรอบ คันธนูในมือเพ่งเล็งไปยังผู้คนโดยรอบ
คันธนูในมือของพวกเขาจัดทำขึ้นเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่ทรงพลัง แต่สามารถยิงลูกศรได้ถึงสิบดอกด้วยกัน
ตราบใดที่ยิงศรออกไป คนเหล่านี้ที่อยู่ด้านล่างของหุบเขา จะต้องตายอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
ใบหน้าของฉินเทียนโกรธเคือง เขากัดฟันแน่นและเอ่ย “ลิเหลียง บอกคนของคุณ อย่าได้หุนหันพลันแล่น!”
“ตอนนี้ คุณอยากจะสู้ ฉันจะอยู่สู้กับคุณเอง!”
สำหรับแผนการในตอนนี้ วิธีเดียวที่จะสามารถสลัดออกจากการปิดล้อมนี้ได้ก็คือการกำจัดลิเหลียงให้ได้โดยเร็ว
ตราบใดที่ลิเหลียงอยู่ภายใต้เงื้อมมือ เหล่าชายชุดดำย่อมไม่กล้าลงมืออย่างแน่นอน
ลิเหลียงโห่ร้องเสียงดังก้อง ตบหน้าอกด้วยมือทั้งสองข้างเหมือนกอริลลา ในที่สุดช่วงเวลาที่เขารอก็มาถึง
ตอนนี้ เขารู้ เพื่อชีวิตของคนเหล่านั้น ฉินเทียนจะไม่หลบเลี่ยงอีกต่อไป
ท่ามกลางเสียงคำราม เขาพุ่งเข้าไปพร้อมกับหมัดที่เหี้ยมโหดตรงเข้าหาฉินเทียน
ฉินเทียนกัดฟัน เขาถ่ายทอดเน่ยจิ้งไปยังแขนและกำปั้น เตรียมรับหมัดนั้น
“บูม!”
ในหมัดแรก สมน้ำสมเนื้อกัน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ร่างกายของลิเหลียงเป็นสัตว์ร้าย เลือดของสัตว์ภายในร่างกายเดือดดาล
ภายใต้สถานการณ์ที่แข็งขันเช่นนี้ เขายิ่งได้ชกต่อยก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นและกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น
อีกครั้ง!
หมัดที่สอง!
ตูม!
ฉินเทียนถอยหลังร่นไปหนึ่งก้าว
ลิเหลียงก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
หมัดที่สาม หมัดที่สี่…
ตูม บูม ตูม ตูม!
ฉินเทียนถอยไปทีละก้าวจนกระทั่งต้านทานหมัดที่สิบ เขาไม่สามารถอดทนไหวได้อีกต่อไป เขาอ้าปาก เอ่ยปากเพียงหนึ่งคำ จากนั้นกระอักเลือดออกมา
ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ใบหน้าของเขาซีดเผือดในทันที
“ไม่นะ!”
“พี่เทียน รีบหลบ!”
“พี่เทียน…”
ฝูงชนที่อยู่ด้านล่างต่างรู้สึกอ้างว้างและโศกเศร้า เถียหนิงซวง ลิฉุน และคนอื่นต่างก็น้ำตารินไหล
หมัดที่สิบเอ็ด…
หมัดที่สิบสอง…
ฉินเทียนถอยไปทีละก้าว สติของเขาดูเหมือนจะเลือนลางพร่ามัว
จนกระทั่งหมัดที่สิบแปด เขาลอยออกไปราวกับเป็นว่าวที่ขาดจากเชือก เขากระอักเลือดราวกับสายรุ้งกลางอากาศ ร่างกายกระแทกลงบนขอบของเวทีเซวียนหยวน ไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย
“พี่เทียน!”
“คุณฉิน!”
“ฉินเทียน!”
ฝูงชนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างร้องออกมา ดวงตาของทุกคนแดงก่ำ
ชั่วขณะนั้น ทุกคนรู้สึกซาบซึ้งในจิตวิญญาณของฉินเทียน
เห็นได้ชัดว่าฉินเทียนสามารถหลบเลี่ยงได้ แต่ด้วยเหตุผลที่เขาไม่หลบก็เพราะทำเพื่อพวกเขา!
ยอมตายในสนามรบเพื่อปกป้องพวกเขา!
กลิ่นอายของความโหดเหี้ยมทารุณของลิเหลียงกลับมาปะทุอีกครั้ง
“จะยอมจำนนหรือจะยอมตาย!”
ภายในปากของเขา ราวกับว่าเป็นเสียงของปีศาจกำลังขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ก้าวเท้าเดินเข้าไปหาฉินเทียน
เสียงฝีเท้าที่หนักแน่น ราวกับว่าเป็นเสียงของปีศาจกำลังเคาะประตู ดังก้องอยู่ภายในจิตใจของทุกคน