บัญชามังกรเดือด - บทที่ 57 คอยดูเถอะ
“แม่ ฉันคิดว่า พวกเราควรหาทางช่วยคุณปู่”
“ตอนนี้ฉันเปิดบริษัทแล้ว แม่ก็กลายเป็นคนรับผิดชอบของสหพันธ์แล้ว แต่คุณปู่กลับไม่เหลืออะไรเลย”
“ฉันทำใจไม่ค่อยได้ ยังไง เขาก็เป็นคุณปู่ของฉัน”
วันถัดมา ซูซูพูดกับหยางยู่หลันอย่างรับไม่ได้
หยางยู่หลันพูดอย่างเซ็งๆ:“ว่ากันตามเหตุผลแล้วตาแก่นี่ไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี สมควรแล้วที่จะตกอยู่ในจุดจบนี้”
“แค่ว่าซูซูลูกพูดก็ถูก ยังไงเขาก็เป็นปู่แท้ๆ ของลูก พวกเรายกโทษให้เขา เพื่อเห็นแก่พ่อแกเถอะ”
“——ลูกจะทำอย่างไรล่ะ?”
ซูซูครุ่นคิด แล้วพูดว่า:“แม่ ฉันมีสองวิธี”
“อย่างแรก ถ้าคุณปู่อยากลุยเดี่ยว ก็ให้เขาซื้อโรงงานเล็กๆ ถึงตอนนั้นแม่ก็ให้เขาเข้าร่วมสมาคมการแพทย์ และให้สัญญาจัดหาสินค้าบางอย่างแก่เขา”
“อย่างที่สอง ถ้าคุณปู่ไม่อยากเป็นกังวล ก็เชิญเขามาเป็นที่ปรึกษาในบริษัทของฉัน”
“ฉันจะให้เงินเดือนเขาทุกเดือน ถือเป็นเงินบำนาญให้เขา”
หยางยู่หลันพยักหน้า:“แม่จะไปสำนักงานพอดี จะได้ไปบอกตาแก่ด้วย”
“เป็นประโยชน์แก่เขาจริงๆ”
หยางยู่หลันไปแล้ว ก็ซูซูพูดกับฉินเทียนว่า:“คุณตามฉันไปโรงงาน”
“จะต้องทำสินค้าตัวอย่างของครีมซูยู่หลายอัน และฉันมักจะรู้สึกว่าสูตรมีปัญหา พอดีเลยจะได้ไปปรึกษาคุณปู่รอง”
“เขาเป็นครูคนแรกในด้านแพทย์แผนจีนของฉัน ไม่แน่อาจจะมีข้อเสนอแนะที่ดีก็ได้”
“โอเค”ฉินเทียนยินดีรับใช้อย่างมาก ขับรถพาซูซูมายังโรงงานผลิตยาซูซื่อ
“สูตรนี้ เป็นวิธีการแปลกใหม่จริงๆ!”
“ซูซู มีแค่ผู้หญิงฉลาดอย่างหลานเท่านั้น ที่คิดออกมาได้!”เห็นสูตรของครีมซูยู่ ซูเป่ยฉีก็ชื่นชม
จากนั้น ทั้งสองก็เริ่มศึกษา
เห็นพวกเขาตั้งใจกันแบบนี้ ฉินเทียนก็สนใจ เขามองไปยังใบสั่งยาที่อยู่บนโต๊ะ
“ชีวเวชสำอางของคุณนี้ ใช้ส่วนผสมจากพืชทั้งหมดเลยหรือ?”
ซูซูกำลังทำสมาธิ จึงพูดไปงั้นๆ ว่า:“คุณไม่เข้าใจ ก็อย่าขัดเลย”
ฉินเทียนไม่มีอะไรทำ จึงออกไปเดินเล่น ดื่มน้ำแก้วหนึ่ง เห็นซูซูและซูเป่ยฉี ยังคงมีสีหน้าเคร่งขรึม
มองไปแล้ว ราวกับนักเรียนสองคนที่ร่วมการสอบเอ็นทรานซ์ กำลังเผชิญหน้ากับโจทย์ยากที่แก้ไม่ได้
ฉินเทียนมองดูนาฬิกา พูดเสียงเบา:“ภรรยา เที่ยงแล้ว คุณควรไปกินข้าวได้แล้ว”
“อย่ามากวนฉัน!”ซูซูโกรธเล็กน้อย
ฉินเทียนคิดเล็กน้อย ชี้ไปยังสมุนไพรจีนตัวหนึ่งที่เรียกว่าส้มผด แล้วพูดว่า:“ทำไมต้องใส่สิ่งนี้?”
ซูเป่ยฉีพูดอธิบาย:“เราเป็นแทนนินในสารสกัดส้มผด ส่วนผสมนี้ สามารถตกตะกอนโปรตีนได้ ที่มีฤทธิ์ช่วยดับหรือสมาน”
“เพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้น นั่นก็คือ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่กระชับ”
พูดจบ ซูเป่ยฉีจึงตระหนักอะไรได้ เงยหน้าขึ้นไปมองฉินเทียน แล้วพูดว่า:“คุณว่ามีปัญหาไหม?”
ซูซูก็ขมวดคิ้วมองมา
ฉินเทียนยิ้ม แล้วพูดว่า:“ผมรู้จักยาทาที่ทำมาจากแทนนิน มีฤทธิ์ระงับอาการปวด ห้ามเลือด และต้านเชื้อแบคทีเรีย”
“แต่ตอนนี้คุณทำเครื่องสำอาง คุณคิดว่าแทนนินที่มากเกินไป เหมาะสมงั้นหรือ?”
“ผู้หญิงถือว่าความอ่อนนุ่มคือความสวยงาม ผมว่า พวกเขาน่าจะไม่อยากให้ผิวตัวเองแข็งหรอกนะ?”
ตรงหน้าซูซูเป็นประกาย:“ความหมายของคุณคือ?”
ฉินเทียนหัวเราะ:“สิ่งมีชีวิต รวมทั้งพืชและสัตว์ ชีวเวชสำอางของคุณ กลับหมกมุ่นอยู่กับด้านพืชมากเกินไป”
“ทำไมไม่ลองแร่ธาตุสัตว์ล่ะ?เช่น ใช้ผงไข่มุกหรือผงไหม มาแทนส้มผด”
“ไข่มุก?”ซูซูตบโต๊ะ:“ใช่สิ!”
“ทำไมฉันถึงไม่คิดถึงสิ่งนี้เลย?”
ซูเป่ยฉีก็พูดอย่างตื่นเต้น:“ถ้าอยากจะลดต้นทุน พวกเราก็ใช้ไหมได้”
ซูซูพูดด้วยรอยยิ้ม:“คุณปู่รอง พวกเราเอาสูตรนี้แหละ รีบทำสินค้าตัวอย่างออกมาเถอะค่ะ!”
หลังจากพูดจบ เธอก็คิดขึ้นได้ มองฉินเทียน แล้วพูด:“คุณไม่ใช่แค่เข้าใจการฝังเข็ม แต่ยังรู้เรื่องยาจีนอีก?”
ฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม:“ผมแค่เห็นว่ามีแผ่นมาส์กไข่มุกกับไหม จึงคิดขึ้นมาได้”
“ผมจะไปเข้าใจอะไร ภรรยาคุณกับคุณปู่รอง ต่างหากที่เป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง”
ซูซูส่งเสียงไม่พอใจ พูดว่า:“อย่ามาเลียแข้งเลียขา!”
“มาส์กไข่มุกกับไหมเป็นของที่เพศหญิงใช้เป็นพิเศษ ดูไม่ออกเลยนะว่า คนแซ่ฉินคุณเข้าใจผู้หญิงดีมาก”
“บ้าผู้หญิงไง!”
“ผม——”ฉินเทียนดูตกตะลึง
ซูซูหัวเราะ เตรียมไปทำสินค้าตัวอย่างกับซูเป่ยฉี ทันใดนั้น ประตูห้องทดลองก็ถูกถีบออก ซูเป่ยซานจับไม้เท้า ปรากฏตัวที่หน้าประตู
ด้านหลัง เป็นซูเหวินเฉิงและซูหนาน
ซูซูตะลึงเล็กน้อย พูดว่า:“คุณปู่ คุณมาแล้ว”
“แม่ฉันบอกปู่แล้วสินะคะ”
“ปู่จะเลือกอย่างไรคะ?”
“ฉันว่า คุณปู่ก็อายุมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปลำบากอีก งั้นมาเป็นที่ปรึกษาให้ฉันดีกว่านะคะ”
ซูซูที่เพิ่งได้สูตรเฉพาะมา อารมณ์ดีมาก ไม่ได้สังเกตเห็นว่าใบหน้าของซูเป่ยซานดูผิดปกติ
ได้ยินคำพูดของเธอ ซูเป่ยซานก็หัวเราะอย่างเยือกเย็น:“แกนี่ปีกกล้าขาแข็งจริงๆ ถึงได้กล้าจ้างฉันทำงานให้แก”
“ซูซู แกลืมไปแล้วหรือ บ้านนี้ใครเป็นหัวหน้าครอบครัว?”
ซูซูหน้าแดงทันที
“ตอนนี้ฉันจะประกาศอย่างเป็นทางการว่า เพราะว่าแกทำผิดอย่างร้ายแรง หักหลังครอบครัว ตอนนี้ ฉันจะใช้ความเป็นหัวหน้าครอบครัว ไล่แกออกจากตระกูลซู!”
“ตั้งแต่นี้ไป ตระกูลซูไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับแกอีก”
“ปู่พูดอะไรคะ?”ซูซูตะลึงอยู่ที่เดิม เธอหวังดีแท้ๆ คิดไม่ถึงเลยว่า กลับมีผลลัพธ์เช่นนี้ได้
ถูกไล่ออกจากตระกูลซู สำหรับเธอแล้ว ไม่ได้เสียหายอะไรจริงๆ แต่ ต้องบอกว่า นี่คือความละอายอย่างมาก!
คนๆ หนึ่ง แม้แต่ตระกูลของอเธอยังไม่ยอมรับเธอ คนอื่นจะคิดอย่างไร?
ในชั่วพริบตาเดียว เธอเหมือนกับตกไปในเหวน้ำแข็ง
“ซูเป่ยซาน คุณบ้าไปแล้วหรือ?”
“ซูซูเป็นหลานสาวที่ดีขนาดนี้ จะหาได้จากไหนอีก?คุณดันไม่ยอมรับหลานสาวคนนี้!”
“คุณนี่มัน——ตาแก่หงำเหงือกจริงๆ!”ซูเป่ยฉีโกรธจนพูดไม่ออก
ซูเหวินเฉิงกับซูหนาน พูดเสียงดัง:“ทุกคนรีบมาดูเร็ว!”
“ดู้ถ้าแก่คนใหม่ของพวกคุณสิ เป็นคนแบบไหนกันแน่”
“ฉันบอกพวกคุณให้นะ ห้าปีก่อน เธอแอบหนีออกไป ไปทำสัญญาสันติภาพกับฉินเทียนพนักงานส่งของจนๆ”
“ตอนนั้นเธอยังเป็นคุณหนูอยู่เลย!”
“ตอนนี้ยิ่งหน้าด้านมากขึ้น ร่วมมือกับคนนอก ขโมยธุรกิจครอบครัว หักหลังต่อบรรพบุรุษ”
“เถ้าแก่แบบนี้ ถ้าพวกคุณไปอยู่กับเธอ จะมีอนาคตไหม?”
“พวกคุณล้วนแต่เป็ยคนเก่าแก่ของตระกูลซู ผมบอกพวกคุณได้เลยว่า อนาคตอันใกล้นี้ ตระกูลซูจะก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ”
“มาขอพึ่งพาอาศัยตอนนี้ยังทันนะ!”
คนจำนวนมากในโรงงานต่างล้อมเข้ามา ได้ยินคำนี้ ก็วิจารณ์อย่างเงียบๆ
“อยากตายใช่ไหม!”ฉินเทียนพุ่งเข้าไป จับเสื้อของซูเหวินเฉิงไว้
“คุณจะทำอะไร?คนแซ่ฉิน ผมบอกคุณให้นะ ถ้ากล้าแตะต้องผมแม้แต่ปลายเล็บ ผมจะทำให้คุณต้องรับผลที่ตามมา!”ซูเหวินเฉิงร้องด้วยความตกใจ
“ฉินเทียน”ซูซูตะโกนออกมา พูดอย่างเจ็บปวด:“ปล่อยพวกเขาไป!”
“ตั้งแต่นี้ไป ฉันไม่อยากเจอพวกเขาอีก!”
ฉินเทียนจึงปล่อยมือ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่า ผ่านเรื่องนี้มาแล้ว ซูซะยอมแพ้ต่อตระกูลซู โดยสิ้นเชิง
นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย
ก่อนไป ซูหนานมองซูซูแล้วพูดอย่างเยือกเย็น:“รู้ยังทำไมตอนนี้ต้องไล่แกออกจากตระกูล?นั่นเพราะว่า ตระกูลซูจะรุ่งเรืองขึ้นแล้ว”
“และแก ก็ไม่มีสิทธิ์สัมผัสแสงแห่งตระกูล”
“พวกเราคอยดูเถอะ!”