บัญชามังกรเดือด - บทที่ 585 คุกพญายม
บัญชามังกรเดือด บทที่ 585 คุกพญายม
ได้ฟังการบรรยายของกัปตันมังกรดำแล้ว เนี่ยชิงหลงมองฉินเทียนยิ้มและกล่าวว่า : “พี่ใหญ่ หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น เซียวโผหู่หน้าไม่อาย ต้องการบูชาคุณเป็นอาจารย์เลย ใช่ไหมครับ?”
“ฉินเทียนยิ้ม พูดอย่างไม่สนใจว่า : “เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าเอ่ยขึ้นมาอีกเลย…….ถึงศูนย์บังคับบัญชาแล้ว”
ค่ายทหารที่ตระหง่านและงดงามด้านล่าง เครื่องบินรบค่อยๆ บินลงจอดที่สนามบิน
ฉินเทียนอยู่ภายใต้การสนับสนุนของทุกคน เดินลงมาจากเครื่องบินรบ
ด้านนอก เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและเงียบสงบ บุรุษทุกคนต่างยืนตรงราวกับหอกพุ่งแหลน ทั้งหมดจับจ้องอยู่ที่พิธีการด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“ยินดีต้อนรับหัวหน้าใหญ่”
“ทำความเคารพ!”
หลังจากเสียงตะโกนอันดังกึกก้องของเซียวโผหู่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายร้อยคนในแดนเหนือ ทำความเคารพโดยพร้อมเพรียงกัน
เป็นฉากที่ทำให้รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
เนี่ยชิงหลงยิ้ม และพูดเบาๆ ว่า : “พี่ใหญ่ หากไม่ได้มาด้วยกันกับคุณ ฉันจะได้เสพสุขกับการต้อนรับแบบนี้ได้ยังไง”
“เห็นไหมล่ะ จอมพลกับรองจอมพลของแดนเหนือ มากันหมดเลย”
“นี่คือเซียวโผหู่เอายศนายพลขึ้นไป นำมาไว้ที่นี่ทั้งหมดเลย”
ฉินเทียนรู้สึกอบอุ่นในใจ อากาศหนาวและมีลมแรง สภาวะแวดล้อมที่นี่ ไม่ดีอย่างแน่นอน
แต่ว่า ความผูกพันของเขาที่มีต่อที่นี่ มันลึกซึ้งอย่างมาก
นี่เป็นสถานที่ที่เกิดใหม่ของเขา เคยอยู่ที่นี่ และทิ้งความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนที่สุดในชีวิตเอาไว้
“ครั้งนี้ฉันมาเพราะเรื่องส่วนตัว ทุกคนไม่ต้องสุภาพขนาดนี้หรอก” เขากล่าวพร้อมอมยิ้ม
ประโยชน์ส่วนรวมมาก่อนประโยชน์ส่วนตน
เซียวโผหู่นำพาทุกคน ด้วยฐานะข้าราชการระดับสูง หลังจากที่ต้อนรับฉินเทียนเสร็จแล้ว ต่อมา ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัวแล้ว
เขารีบเดินเข้ามา นำฉินเทียนมาไว้ในอ้อมกอด หัวเราะเสียงดัง : “พี่ใหญ่ คุณมาแล้ว!”
“คิดถึงแทบตายเลย!”
“อะแฮ่ม……” ฉินเทียนรู้สึกเขินอายทันที
เขาสูง 1.8 เมตรกว่า พูดตามหลักเหตุผล ก็โดดเด่นกว่าใครแล้ว แต่เซียวโผหู่คนนี้สูง 1.9 เมตร เมื่อคนตรงหน้าสูงเกือบ 2 เมตร ดูเหมือนว่าเขายังคงน่าเอ็นดูเกินไป
ถูกเจ้าหนุ่มคนนี้โอบกอด ใบหน้าของเขาแทบจะอยู่บนอกของเขา แม่งเอ๊ย ทำไมรู้สึกแปลกๆ วะ
“ไปให้พ้น!” ฉินเทียนคำรามออกมา ทั้งตัวเต็มไปด้วยพลัง และผลักเซียวโผหู่ออกไป
เซียวโผหู่เกาๆ ศีรษะ และกล่าวด้วยใบหน้าเขินอาย : “พี่ใหญ่ คุณยังคงรุนแรงป่าเถื่อนจริงๆ”
เมื่อเห็นจอมพลที่สง่าน่าเกรงขามของพวกเขา อยู่ต่อหน้าฉินเทียน เหมือนกับเด็กตัวใหญ่ที่ชอบประจบสอพลอ เหล่าทหารที่อยู่รอบๆ ทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
รองจอมพลหลิวชิงเฟิงเดินไปข้างหน้า อมยิ้มและกล่าวว่า : “หัวหน้าใหญ่ ที่นี่ลมแรง เราไปพูดคุยกันที่ศูนย์บังคับบัญชาเถอะ”
ฉินเทียนคิดไตร่ตรองเล็กน้อย และส่ายๆ หัว
เขามองไปที่ทุ่งน้ำแข็งที่ไกลสุดลูกหูลูกตาไกล และมีความรู้สึกโหยหาและเร่งด่วนในดวงตาของเขา
“ตาเฒ่าสบายดีไหม?”
“ที่ฉันมาในครั้งนี้ หลักๆ ก็คือมาเยี่ยมเขา ไม่รบกวนงานราชการของพวกคุณหรอก พวกคุณจัดเตรียมรถ เพื่อส่งฉันไปพบตาเฒ่าหน่อยเถอะ”
เซียวโผหู่ดูเหมือนว่าจะคาดเดาเอาไว้ก่อนแล้ว เขาพูดกับหลิวชิงเฟิงว่า : “รองจอมพล คุณพาทุกท่านกลับไปก่อนเถอะ”
“ฉันจะไปส่งพี่ใหญ่ด้วยตนเอง”
“ตกลง” หลิวชิงเฟิงรู้ว่า ความสัมพันธ์ของเซียวโผหู่กับฉินเทียน รวมถึงฉินเทียนกับตาเฒ่าคนนั้น มันพิเศษอย่างมาก
คนนอกก็เข้ามาแทรกแซงไม่ได้
เขาโบกมือและตะโกนเล็กน้อย รถจี๊ปคันหนึ่งก็ขับเข้ามา
เซียวโผหู่เปิดประตูที่นั่งข้างคนขับด้วยตนเอง และเชิญฉินเทียนขึ้นรถ หลังจากนั้น เขาจึงกระโดดขึ้นไปที่นั่งคนขับ
“เดี๋ยวก่อน พาฉันไปด้วย!” เนี่ยชิงหลงรีบเปิดประตูด้านหลัง และกระโดดขึ้นไป
เซียวโผหู่สตาร์ตรถ รถจี๊ปราวกับม้าป่าที่หลุดบังเหียน เมื่อออกจากสนามบินที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ก็ขับไปยังทุ่งน้ำแข็งที่ไกลสุดลูกหูลูกตา
อย่างรวดเร็ว โดยรอบนั้นขาวโพลนไปหมดแล้ว
เนี่ยชิงหลงเหลือบมองอย่างสบายๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและกล่าวว่า : “ที่จริงแล้ว คุณดักซุ่มโจมตีอยู่ในทุ่งน้ำแข็งนี้ไปกี่แผนการแล้ว?”
“จากมุมมองของคนนอก ที่นี่ดูเวิ้งว้างกว้างใหญ่ไร้ผู้คน แต่ว่าในมุมมองของฉัน มันกลับเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยอันตรายแหล่งหนึ่ง”
สำหรับทุ่งน้ำแข็งนี้สามารถมองเห็นได้ไกลมาก ไม่มีแหล่งที่ซ่อนตัวเลยแม้แต่น้อย การป้องกันการรุกรานที่ดีที่สุด คือการไม่สร้างแหล่งปลูกสร้างใด
หากมีการสร้างแหล่งปลูกสร้าง จะทำให้ผู้บุกรุกมีโอกาสซ่อนตัวได้
ในทุ่งน้ำแข็งอันขาวโพลน มีกล้องวงจรปิดจำนวนนับไม่ถ้วนซ่อนอยู่ในความมืด
กล้องวงจรปิดเหล่านี้สีเดียวกันกับทุ่งน้ำแข็ง หากไม่ได้สังเกต จะไม่สามารถพบเห็นมันได้เลย
ไม่เพียงแค่กล้องวงจรปิดเท่านั้น ยังมีอาวุธเทคโนโลยีขั้นสูงอีกมากมาย
กล่าวได้ว่า ตราบใดที่พบผู้บุกรุก ภายใต้การกล่าวเตือนที่ไร้ประสิทธิผล แน่นอนว่าจำเป็นจะต้องสังหาร ทหารรักษาการณ์ที่นั่งอยู่ในห้องสังเกตการณ์ จะกดปุ่มไม่กี่ปุ่ม ใต้ทุ่งน้ำแข็ง อาวุธเทคโนโลยีขั้นสูงจะแตกออกมาจากน้ำแข็งทันที
เพียงไม่กี่นาที ผู้บุกรุกจะถูกกำจัดจนหายวับไปกับตาเลย
ไม่ต้องพูดถึงผู้บุกรุกหรอก แค่เพียงหนูตัวเดียว ก็ไม่สามารถข้ามผ่านมาได้แม้แต่ครึ่งก้าว
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ ก็เพื่อสถานที่ที่อยู่ลึกลงไปในทุ่งน้ำแข็ง “นักโทษ”คนนั้นที่อยู่ในคุก
อาศัยการจัดเตรียมเวลาและสถานที่ให้เหมาะสม จะช่วยประหยัดกำลังคนและทรัพยากรวัตถุ และยังทำได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ พูดได้ว่า เป็นผลงานชิ้นโบแดงของเซียวโผหู่เลยก็ว่าได้
ได้ฟังคำพูดของเนี่ยชิงหลง เขาก็แสยะยิ้ม ใบหน้าเต็มไปด้วยความลำพองใจ
“คุณไม่ใช่สายสืบขั้นสูงใช่ไหม? มีโอกาส อยากมีประการณ์สักหน่อยไหมล่ะ?”
“หากสามารถเดินทางจากที่นี่ไปยังคุกพญายมได้สำเร็จ ก็ถือว่าฉันแพ้ คุณอยากกินอะไร ฉันจะทำให้คุณหมดเลย?”
เนี่ยชิงหลงเบ้ปาก : “ฝีมือจิ๊บจ๊อย อย่าปล่อยไก่ต่อหน้าราชามังกรเลย”
“จู่ๆ ฉันก็มีความคิดเห็นว่า ฉันกับเอ้อร์กั่วจะขยายมิตรภาพในปีหน้า เช่นนั้นก็เลือกที่นี่เถอะ”
เขากับเอ้อร์กั่วมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ทุกๆ ปีพวกเขาจะหายไปด้วยกันหลายวัน ปีที่แล้วก็ไปยอดเขาเอเวอเรสต์ และเกือบจะไปตายอยู่บนยอดเขานั้น
ตอนนี้เกือบทุกสถานที่อันตรายบนโลก พวกเขาแทบจะไปชมมาทั่วทั้งหมดแล้ว และฉันพลันก็รู้สึกว่า ปีหน้ามาฝึกภาคสนามเพื่อตีฝ่าวงล้อมที่นี่ ก็ไม่เลวนะ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉินเทียนก็พูดไม่ออกเช่นกัน เจ้าพวกนี้ ไม่ยอมหยุดพักเลยจริงๆ ไม่ปล่อยให้เขาสบายใจได้เลย
เซียวโผหู่หัวเราะเสียงดัง : “มาเถอะ!”
“ขอเพียงแต่พวกคุณกล้ามา ฉันก็จะปล่อยให้พวกคุณตายอยู่ที่นี่!”
“ใช่สิ เอ้อร์กั่วคนนั้นช่วงนี้ยุ่งเหรอ? ทำไมไม่เห็นเขาแชร์รูปในกลุ่มเลย?”
“พรวด!” เนี่ยชิงหลงจับจุดอ่อนของเซียวโผหู่ได้ จึงรีบกล่าวว่า : “ยอมรับแล้วใช่ไหม?”
“ทุกครั้งที่เอ้อร์กั่วส่งรูปเซ็กซี่เหล่านั้น คุณจะประณามด้วยคำพูดที่มีเหตุผล และถ้อยคำหยาบคาย!”
“อันที่จริงแล้วตนเองก็แอบดูอย่างมีความสุข ใช่ไหมล่ะ?”
เซียวโผหู่หลุดปากไปชั่วขณะ เมื่อถูกเนี่ยชิงหลงเค้นความจริง ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร และใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นมา
เนี่ยชิงหลงโต้เถียงอย่างไม่ยอมแพ้ และบีบบังคับให้เซียวโผหู่มอบสิบเพลงรบให้แก่เขา มิเช่นนั้นแล้วจะประกาศข่าวนี้ลงในกลุ่มเดี๋ยวนี้
ฉับพลันเซียวโผหู่ก็กล่าวด้วยสีหน้าปกติว่า : “คุณเงียบๆ หน่อยเถอะ ฉันมีเรื่องที่จะต้องรายงานเจ้านาย!”
เนี่ยชิงหลงกล่าวอย่างไม่ยอม : “คุณอย่ามาเปลี่ยนเรื่องเลย……”
เพียงแต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเซียวโผหู่แล้ว ยังคิดว่ามีเรื่องอะไรที่สำคัญจริงๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากเงียบ
ฉินเทียนที่หลับตาพักผ่อนมาตลอด สำหรับพฤติกรรมน่าเอือมระอาของลูกน้องเขาเหล่านี้ เขาได้เห็นความแปลกประหลาดมาจนชินแล้ว
เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน และสัมผัสอากาศที่นี่อย่างเงียบๆ รวมทั้ง กลิ่นอายในอดีต
ได้ยินคำพูดของเซียวโผหู่ เขาหลับตา และกล่าวอย่างเย็นชาว่า : “เรื่องอะไรเหรอ?”