บัญชามังกรเดือด - บทที่ 6 ไผ่หยกหอมรวยริน
บทที่ 6 ไผ่หยกหอมรวยริน
ฉินเทียนหน้าคล้ำในทันที
เขาเกลียดคนที่ทำตัวเหนือคนอื่น ไปเดินที่ไหนก็ต้องมีคนคอยเคลียร์ทางอย่าง “ผู้มีเกียรติ” พวกนี้ที่สุด
“หลีกไป !”เขาเมินร่างสูงใหญ่ราวกับหอคอยของชายคนนั้น และสะบัดมือ
ทันใดนั้นชายวัยกลางรับรู้ถึงพลังงานมืดสายหนึ่งที่พุ่งเข้า ก็ตกใจจนผงะ
เขาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว คำรามเสียงต่ำและถอยไปสามฟุต เมื่อรู้ว่าพลังงานนั้นหายไปแล้วจึงถอนหายใจ
ไม่ทันใด หน้าก็เปลี่ยนสี
พลังงานมืดเขาเห็นว่ามันหายไปแล้ว จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นทางด้านขวา
เสียงดังพลั่ก ราวกับเสียงฟ้าผ่าลงพื้น
ร่างที่สูงดั่งหอคอยถูกพลิกให้ล้มคว่ำ
ชายวัยกลางคนคนนั้นตะลึงจนดูโง่งม อ้าปากค้าง พูดไม่ออกชั่วขณะ
ฉินเทียนไม่แม้แต่จะเหลือบตาไปมอง ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเข็นซูซูเข้าไป
ในอากาศมีกลิ่นหอมหวานจางๆ
ฉินเทียนค้นพบว่าซูซูเหมือนจะถูกกลิ่นนี้ดึงดูด เลื่อนตามองไปยังห้องส่วนตัวที่อยู่ข้างหน้า
เขารีบเข็นซูซูไปยังห้องนั้น
“คุณเข้าไปไม่ได้นะ !”
ชายวัยกลางคนมีปฏิกิริยาตอบสนอง คำรามด้วยความโกรธพร้อมกับกระโดดเข้ามา
ร่างกายที่ดูแข็งแรงราวกับพยัคฆ์ เอื้อมมือที่เหมือนกับตะขอเหล็กไปทางฉินเทียน
ในห้องส่วนตัวนั้นมีผู้มีเกียรติที่เขาต้องปกป้องอยู่
ด้วยความแข็งแกร่งที่ฉินเทียนสำแดงออกมา นั่นทำให้เขาคิดว่าเป็นนักฆ่ามือฉมัง
ปกป้องผู้มีเกียรติคือหน้าที่ของเขา สำหรับเขาแล้ว ชีวิตของคนที่อยู่ในนั้นสำคัญกว่าชีวิตของตนเองมากนัก !
“คุณปู่ ปู่ว่าเดี๋ยวนี้สื่อไร้ยางอายพวกนั้นไม่ว่าข่าวอะไรก็ต่างกล้ารายงานสินะ”
”ปู่ดูคอลัมน์นี้สิ ยอดคนใช้วิชาฝังเข็ม เพียงไม่กี่นาทีก็รักษาเด็กสมองพิการที่ถูกโรงพยาบาลวินิจฉัยว่าไม่มีทางรอดได้อะไรนี่……”
“บนโลกนี้จะไปมีคนเทพแบบนั้นได้ยังไง อีกอย่างนะ ฝังเข็มอะไรนั่นน่ะ มันถูกพิสูจน์แล้วว่ามันรักษาไม่ได้จริง ถ้าจะหาหมอ ก็ต้องพึ่งแพทย์ตะวันตกสิ”
“บอกว่าที่หลงเจียงอะไรนั่นมีคนอัจฉริยะ นี่มันเรื่องหลอกตาประชาชนไม่ใช่รึไง ? ไร้สาระจริงๆ !”
ภายในห้องส่วนตัว หญิงสาวมีร่างสง่างามและใบหน้าหน้าหยื่งผยอง สวมชุดรัดรูปสีม่วง พูดกับชายชราที่สวมชุดกังฟูฝั่งตรงข้าม
ชายชราขมวดคิ้วพร้อมเอ่ย: “หนิงซวง ระวังคำพูดหน่อย !”
“ดังคำกล่าวที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือโลกหล้ายังมีคน ประวัติศาสตร์ห้าพันปีที่มีมาอย่างยาวนานนั้นได้สั่งสมสมบัติของจีนไว้มากมาย”
“ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเรา——”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคำรามของผู้ติดตามที่อยู่ข้างนอก และรับรู้ถึงไอสังหารในอากาศ เขารีบหันกายมองลอดผ่านม่านไม้ไผ่ดูสถานการณ์ภายนอก สีหน้าของชราก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน
“หยุด !”
“บูซาน ห้ามทำร้ายคนนะ !”
เคลื่อนร่างกายแล้วพุ่งออกไป
ในสายตาของเขา ฉินเทียนนั้นเป็นแค่คนธรรมดาที่เข็นรถเข็นอยู่ในมือ ปกป้องตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว
แต่บูซานกลับใช้กระบวนท่าสังหารที่ฆ่าคนได้ !
นี่มันฆ่าคนได้เลยนะ !
บูซานที่ได้ยินเสียงดุอย่างเข้มงวด อยากจะหยุดแต่ก็ไม่ทันการ
ในช่วงเวลาที่ฉุกละหุกเขาก็ได้ทำการเปลี่ยนทิศทาง
มือที่เหมือนตะขอเหล็กตวัดไปยังแจกันดอกไม้อันใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ
เขาต้องหาที่ที่ปลดปล่อยพลัง
เสียงดังเพล้ง แจกันดอกไม้อันนั้นแตกสลายเป็นผุยผง
เห็นได้ชัดเลยว่ากรงเล็บนี้แข็งแกร่งมากขนาดไหน
“ลุงซาน เกิดอะไรขึ้น ?”หญิงชุดม่วงรีบออกมาเช่นกัน
บูซานเอ่ยเสียงต่ำ: “ท่านผู้นำโปรดระวังด้วย คนคนนี้อาจจะเป็นมือสังหาร !”
พริบตาเดียว ร่างนั้นก็เข้ามาบังหน้าชายชราเอาไว้
จ้องเขม็งไปที่ฉินเทียน ทั้งร่างเกร็งแน่น ราวกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูผู้ยิ่งใหญ่
“ไร้สาระ !”
“ฉันเถียสงทั้งชีวิตไม่เคยก่อความเดือดร้อนให้ใคร จะมีคนต้องฆ่าฉันได้ยังไง ?”
“อีกอย่าง ตาเฒ่าอย่างฉันเป็นทหารมาทั้งชีวิต จะไปกลัวอะไรกับอีแค่มือสังหารคนเดียวหา ?”
ชายชราเอ่ยออกมาเสียงดัง แต่พอพูดจบ ก็อดไอออกมาไม่ได้
เมื่อกี้ตอนที่รีบออกมาจากห้องส่วนตัว เผลอใช้พลังปราณเสียเยอะ เลยทำให้กระทบกับแผลเก่า หน้าเลยขาวซีดไปขณะหนึ่ง
“คุณปู่ !”
“รีบกินยาเร็วเข้า !”
หญิงสาวชุดม่วงรีบหยิบขวดยาสีขาวออกมา พร้อมกับเทยาให้ชายชราหนึ่งเม็ด
ฉินเทียนเหลือบมอง ท่าทางเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถ้าเขาคิดไม่ผิด ชายชราคนนี้คงจะเป็น——
ชายชราหายใจให้เต็มปวด มองมายังฉินเทียนพร้อมเอ่ย: “เจ้าหนุ่ม ลูกน้องผมประมาท เกือบจะทำร้ายคุณเข้าให้แล้ว”
“คุณมาซื้อยาใช่ไหม ? เชิญตามสบายนะ”
ฉินเทียนพยักหน้าไม่พูดอะไร พร้อมกันเข็นซูซูเข้าไปในห้องส่วนตัว
ก็เห็นที่ข้างๆ บนขอบหน้าต่าง มีกระถางต้นไม้เขียวชอุ่มวางอยู่ มันคือสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง เรียกว่าไผ่หยก
กลิ่นหอมจางๆ นั่น ที่แท้ก็มาจากที่นี่นี่เอง
จู่ๆ ใบหน้าของซูซูก็ปรากฏรอยยิ้ม
ฉินเทียนดีใจมาก !
เขาเข้าใจแล้ว สมุนไพรจีนไผ่หยกนี้น่ะ มีส่วนช่วยให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ยาเวชสำอางที่ซูซูคิดค้นจะต้องมีสมุนไพรตัวนี้อยู่แน่นอน
มันคือความทรงจำที่สวยงามในชีวิตของเธอ ดังนั้นเธอจึงแสดงท่าทีที่มีความสุขออกมา
“คุณซู คุณนี่เป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาจริงๆ เลย”ฉินเทียนพูดพร้อมกับค่อยๆ นำไผ่หยกมาวางไว้ตรงหน้าซูซูอย่างระมัดระวัง
ซูซูใช้สองมือประคองไผ่หยกเอาไว้ บนหน้าปรากฏรอยยิ้มหลงใหล
เหมือนกันเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่หาของเล่นอันโปรดเจอ กอดไม่นอนไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ !”
“นายเป็นใคร คิดจะหนีงั้นเหรอ ?”
ฉินเทียนเข็นซูซูกลับไป แต่ก็ถูกหญิงสาวชุดม่วงขวางเอาไว้ เธอโกรธจนอกแทบระเบิด หน้าเต็มไปด้วยความโมโห
ฉินเทียนขมวดคิ้ว: “ผมทำให้คุณโกรธงั้นเหรอ ?”
“นาย——” เถียหนิงซวงโกรธจนพูดไม่ออก เธอไม่เคยเห็นคนหน้าด้านหน้าทนแบบนี้มาก่อน
เพราะฉินเทียน ปู่เธอถึงล้มป่วย นี่ยังไม่ใช่เรื่องผิดอีกเหรอ ?
ต้องรู้ว่าในเมืองหลงเจียงนี้น่ะ แค่นายท่านตระกูลเถียกระทืบเท้า เมืองทั้งเมืองก็สั่นสะเทือนไปสามครั้งแล้ว
แต่ผู้ชายน่าเกลียดคนนี้กลับทำหน้าไร้เดียงสา เขาไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าแกล้งโง่กันแน่ ?
แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ ดูเหมือนว่าฉินเทียนก็ไม่ได้ทำอะไรจริงๆ นะ
เมื่อเห็นซูซูที่ถือไผ่หยกเอาไว้ เถียหนิงซวงคิดอะไรดีๆ ออก: “ขอทั้งหมดในร้านขายยานี้ พวกฉันซื้อเอาไว้หมดแล้ว”
“รวมถึงต้นไม้ในกระถางนั่นด้วย”
“นายอยากจะเอาไปก็ได้นะ คุกเข่าสิ ก้มหัวขอโทษปู่ของฉันก่อน !”
ข้างๆ ยังมีบูซานที่ทำเหมือนกับเผชิญหน้ากับศัตรูคู่อาฆาตอยู่เช่มเดิม
เมื่อกี้เขาไม่ทันได้ระวังตัว เลยถูกฉินเทียนทำให้ล้มคว่ำ รู้สึกไม่พอใจ อยากจะเอาคืนให้ได้
ฉินเทียนไม่อยากจะสู้กันต่อหน้าซูซู ที่สำคัญก็คือ เขายังเดาตัวตนของเถียสงไม่ออก
หลานสาวกับลูกน้องไม่ได้เรื่อง แต่เถียสงคนนี้ ดูท่าจะเป็นคนมีเหตุผล
เถียถงในตอนนั้น หลังจากที่กินยาเข้าไป ใบหน้าก็ยังคงซีดขาวอยู่เล็กน้อย เขารู้สึกได้ว่าบรรยากาศเกิดความวุ่นวาย
ฉินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น: “ไผ่หยกต้นนี้ ผมไม่ได้จะหยิบไปฟรีๆ จะบอกอะไรคุณให้ก็แล้วกัน ถ้าไม่อยากตายเร็ว ก็อยากกินยาเมื่อกี้อีก”
“อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ แต่กลับใช้ยาฟื้นกำลัง เหลวไหล !”
“คุณว่าอะไรนะ ?!”เถียสงตกตะลึง
เถียหนิงซวงกล่าวอย่างโกรธเคือง: “ยาที่ปู่ฉันกิน แพทย์มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเป็นคนเตรียมให้เองกับมือ นายกล้าสาปแช่งปู่ฉัน ฉันจะฆ่านาย !”
บูซานก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับพูดเสียงต่ำ: “ไอ้หนู นายเป็นใครกันแน่ ? ถ้าวันนี้ไม่พูดให้กระจ่าง ก็อย่ามาโทษว่าฉันหยาบคายก็แล้วกัน !”
ฉินเทียนมองไปที่บูซานพร้อมยิ้มเย็น: “มังกรดำสิบแปดมือ เกรงว่าแม้แต่ในกองทัพก็ยังเป็นวิชาต้องห้าม หากไม่ได้รับอนุญาตก็ห้ามใช้”
“ถ้านายยังกล้าออกไม้ออกมือต่อหน้าฉันอีก ฉันจะกำจัดนายซะ”
เหมือนกับเป็นคำเตือน !
บูซานยืนงงอยู่กับที่ !
“นายรู้ได้ยังไงว่าลุงซานใช้มังกรดำสิบแปดมือ……”เถี่ยหนิงซวงไปมองไปใบหน้าเคร่งขรึมของฉินเทียน จู่ๆ ก็หมดความกล้าที่จะลงมือ
ฉินเทียนพ่นลมหายใจ ทันใดนั้นก็ยกหมัดต่อยไปยังหน้าอกของเถียสง เถียสงร้องเสียงดัง พร้อมหงายหลังล้มลง
“คุณปู่ !”
“ท่านผู้นำ !”เถียหนิงซวงและบูซานเข้าไปช่วยด้วยความตกใจ
“กลุ่มคนที่ฝึกหมัดเจ็ดพิการตามแบบเก่า ต่างก็เป็นคนที่มีคุณธรรมต่อประเทศ ทหารผ่านศึกเถียสง เมื่อมาให้ผมได้พบแล้ว จะมอบความโชคดีให้สักส่วนก็แล้วกัน”
“หลังจากนี้หกชั่วโมง มารับฉันที่ตระกูลซู”
เสียงก้องกังวานอยู่ในห้องโถง
เมื่อบูซานตามออกไป ก็ไม่เห็นแม้เงาของฉินเทียน