บัญชามังกรเดือด - บทที่ 61 น่าขยะแขยง
“เฮียหมู ผู้หญิงที่คุณเตรียมมาให้ที่ชื่อหลิวชิงน่ะ เชื่อใจได้หรือเปล่า”
บริเวณด้านนอก ฉินเทียนกำลังยืนพิงกำแพงและจุดบุหรี่ กดโทรศัพท์ต่อสายหาราชาหมู
สิบสองราชาในวิหารเทพ เขาเป็นราชาหมู
ในโลกนี้ เกรงว่าคงมีเพียงฉินเทียนเท่านั้นที่กล้าเรียกเขาว่า “เฮียหมู”
“พี่ใหญ่ พี่พูดแบบนี้เหมือนว่าฉันนั้นใช้การใช้งานอะไรไม่ได้เลย”
“เรื่องที่ฉันลงมือทำพี่ไม่วางใจเหรอ?”
“อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าวางแผนไว้อย่างดีแล้วหรอกเหรอ”
“ถึงแม้ว่าหลิวชิงจะไม่ได้ตอบตกลงในตอนท้าย แต่ว่ามันก็เป็นเพียงแค่ขั้นตอนหนึ่งเท่านั้น ด้วยเงินลงทุนหนึ่งพันล้าน หนีไปไม่ได้อย่างแน่นอน”
“พี่ใหญ่ หากว่าพี่ยังรู้สึกว่าไม่พอ ฉันสามารถเพิ่มให้ได้อีก อย่างไรเสียมันก็คือเงินของพี่ ต่อให้จ่ายอีกเท่าไรฉันเองก็ไม่ได้เสียดายอะไรหรอก”
“และชีวเวชสำอางนี้คือผลิตภัณฑ์ที่ดีจริงๆ ใช้เงินลงทุนไปกับมัน จะต้องเป็นธุรกิจที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วแน่นอน”
มีเสียงบลาบลาดังขึ้นจากปลายสาย
ฉินเทียนยิ้ม คาดไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่งตนเองนั้นจะคิดวุ่นวายโกลาหลแบบนี้
ในขณะที่คิดอยากจะวางสายโทรศัพท์ ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าไม่ถูกต้อง
“ภรรยาของฉันเพิ่งเริ่มลงชิงตำแหน่ง ทางด้านคุณได้ทำการตกลงตัดสินใจกันแล้ว?”
“ไม่ได้สิเฮียหมู นี่มันค่อนข้างชัดเจนเกินไป หากเธอรู้ว่าฉันเป็นผู้บงการเบื้องหลัง เธอจะต้องโกรธแน่!”
“ภรรยาของพี่?” เฮียหมูดูสับสนงุนงงเล็กน้อย “พี่ใหญ่ คนนั้นที่ด้านข้างของซูเหวินเฉิง เป็นภรรยาของพี่เหรอ?”
“เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมเธอไม่ขึ้นเวทีด้วยตัวเอง แต่กลับให้ซูเหวินเฉิงเป็นตัวแทน?”
“พี่สะใภ้และซูเหวินเฉิงมีความสัมพันธ์อย่างไรกัน? ดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกันมาก”
ซูเหวินเฉิง!
สีหน้าและน้ำเสียงของฉินเทียนเปลี่ยนไปทันใด
“คุณหมายความว่า ซูเหวินเฉิงใช้โปรเจกต์ชีวเวชสำอางเข้าร่วมลงชิงตำแหน่งและได้รับการยอมรับจากพวกคุณ?”
“มีอะไรที่ไม่ถูกต้องหรือเปล่า?”
“พี่ใหญ่ ฉันจะเอาไลฟ์สดเมื่อกี้นี้ให้คุณดู” เมื่อได้ยินเสียงของฉินเทียนเปลี่ยนไป เฮียหมูก็ตื่นตระหนก
เขารีบส่งคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับซูเหวินเฉิงให้แก่ฉินเทียน
เรื่องในครั้งนี้ แม้ว่าฉินเทียนกล่าวว่าจะไม่ยุ่งด้วย และไม่ให้เขามาเช่นกัน แต่อย่างไรเสียพี่ใหญ่ก็มอบหมายงานให้ เฮียหมูเองก็ไม่วางใจ อยู่ห่างไกลถึงต่างแดน มองผ่านการเชื่อมต่อแบบไลฟ์สด
หลังจากที่ซูเหวินเฉิงกล่าวจบ หลิวชิงคิดว่าภารกิจหน้าที่ของตนได้เสร็จสิ้นแล้ว จึงได้ปิดคลิปวิดีโอไป ดังนั้น เฮียหมูจึงไม่เห็นฉินเทียนและซูซูที่เข้าไปในภายหลัง
เมื่อได้ดูคลิปวิดีโอการแสดงที่น่าประทับใจของซูเหวินเฉิง นัยต์ตาของฉินเทียนก็แสดงความเกรี้ยวโกรธมากยิ่งขึ้น!
ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว!
เหตุใดตระกูลซูรับรู้ถึงการฟื้นฟูของซูซูและหยางยู่หลัน อีกทั้งยังขับไสไล่ส่งซูซูออกจากบ้านอย่างไร้ความปราณี
สิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับนิสัยของพวกเขาที่ชอบไล่ล่าตามหาชื่อเสียงและเงินทอง
ที่แท้ก็เพราะว่าพวกเขาขโมยผลงานของซูซู และก้าวเข้าสู่การลงชิงตำแหน่งก่อนหนึ่งก้าว!
พวกเขาบุกโจมตีก่อน ในตอนนี้ซูซูกลับกลายเป็นโจรขโมย!
วินาทีแรก เขาคิดอยากจะพุ่งตัวไปในทันที แต่เขารู้ เพียงคำพูดลอยๆ ไม่สามารถเชื่อถือได้ อีกฝ่ายก็คงยากจะเชื่อ นอกเสียจากเขาจะแสดงสถานะของเขาให้หลิวชิงได้รับรู้
เมื่อเป็นเช่นนี้ การลงชิงตำแหน่งในครานี้ก็จะหมดความหมาย และจะทำร้ายซูซู
หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็โทรหาเหลยเป้า
“ใช้พลังอำนาจของแก๊งของคุณสืบให้ฉันหน่อย การเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของซูเหวินเฉิง”
“โดยเฉพาะเรื่องที่มีการติดต่อลับๆกับใครหรือไม่ หากว่าตรวจสอบพบแล้วรายงานทันที!”
สูตรที่จดสิทธิบัตรของซูซู ซูเหวินเฉิงอยากได้มันมานานแล้ว แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จมาโดยตลอด แล้วตอนนี้ล่ะ เขาได้มันไปได้อย่างไร?
หนอนบ่อนไส้!
ข้างกายซูซูและหยางยู่หลันจะต้องมีหนอนบ่อนไส้แน่ๆ
หลังจากวางแผนเรื่องเหล่านั้นเสร็จสิ้น ฉินเทียนพ่นควันบุหรี่อีกสองสามครั้ง แต่ก็ยังไม่หายกังวลในเรื่องของซูซู เขาทิ้งก้นบุหรี่และก้าวเท้าไปยังสถานที่จัดงาน
ภายในสถานที่จัดงาน
“คุณเองก็ทำงานเกี่ยวกับชีวเวชสำอางเหรอ?” ทันทีที่ได้ยินซูซูกล่าว หลิวชิงขมวดคิ้วทันใด
“ใช่ค่ะ” ซูซูสัมผัสได้ทันใดว่ามีบางสิ่งผิดปกติ จากนั้นเธอเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ประธานหลิว ทำไมคุณถึงพูดว่า ‘ก็’ ล่ะคะ?”
“หรือว่า มีคนอื่นที่ทำงานเกี่ยวกับชีวเวชสำอางงั้นเหรอคะ?”
ซูเหวินเฉิงยืนอยู่ด้านข้างหลิวชิง เขากระซิบเสียงเบา “ประธานหลิว ตอนนี้ฉันสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้แอบลอบฟังความคิดที่สร้างสรรค์ของฉัน ตอนนี้เธอมาที่นี่เพื่อหลอกลวงแน่”
“เธอจงใจมาสาย นั่นคือเหตุผล”
หลิวชิงขมวดคิ้ว
ซูหนานเองก็รีบเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ประธานหลิว ผู้หญิงคนนี้น่ะแย่มาก”
“คุณรู้ไหม? ไม่กี่ปีก่อนตอนที่เธอยังเป็นคุณหนูใหญ่ เธอแอบไปโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง ไปมีความสัมพันธ์กับคนส่งของคนหนึ่ง”
“ใช่แล้ว ผู้ชายที่ไร้มารยาทเมื่อกี้นี้น่ะ นั่นแหละคือคนส่งของคนนั้น”
“เป็นคู่รักสุนัขชายหญิงที่ไร้ยางอายเสียจริง”
ใบหน้าของหลิวชิง ปรากฏสีหน้ารังเกียจขึ้น เธอเอ่ยอย่างไม่ชอบใจ “ผู้หญิงคนนี้กับพวกคุณมีความเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า?”
ซูเป่ยซานถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “แม้ว่าเรื่องอับอายของตระกูลไม่ควรเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ฉันไม่อาจทนดูเธอหลอกลวงประธานหลิวได้”
“พูดตามตรงไม่ปิดบัง เธอคือหลานสาวของฉัน แต่เป็นเพราะด้วยนิสัยที่ย่ำแย่ของเธอ เธอจึงถูกฉันไล่ออกจากตระกูล”
“ประธานหลิว ความร่วมมือของเรา อย่าให้ได้รับผลกระทบจากเธอเลยแม้แต่น้อย”
“คำพูดที่เธอต้องการจะพูดต่อไปนั้นเชื่อถือไม่ได้หรอก”
หลิวชิงรู้สึกโกรธเคืองจริงๆ คาดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่นิสัยคดโกงเช่นนี้จะกล้าแสดงละครต่อหน้าเธอ
เช่นนี้เท่ากับว่าเป็นการดูถูกและหยามเหยียดเธอ!
ในชีวิตของหลิวชิงเธอเกลียดผู้หญิงประเภทนี้มากที่สุด ตอนนี้เธอไม่รีบร้อนที่จะฉีกหน้าซูซู เธออยากจะเห็นว่าหล่อนจะสามารถแสดงละครต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
“คุณไม่ต้องไปสนใจคนอื่นหรอก พูดเพียงแค่เรื่องของคุณก็พอแล้ว”
ซูซูไม่เข้าใจซูเหวินเฉิงและคนอื่นๆ เหตุใดถึงดูคุ้นเคยกับหลิวชิงขนาดนั้น เธอได้ยินไม่ชัดว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกัน
เธอปรับท่าทีของเธอ จากนั้นยิ้มและเอ่ย “มีคนอื่นที่พัฒนาชีวเวชสำอางด้วยสินะคะ นั่นกล่าวได้ว่านี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีและควรค่าแก่การพัฒนา เช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ”
“ฉันยินดีที่จะลงแข่งขันด้วยความยุติธรรม”
เธอพูดเป็นน้ำไหลไฟดับ จากนั้นเธอเริ่มเอ่ยถึงผลิตภัณฑ์อันเป็นที่รักของตนเอง “ประธานหลิว ผลิตภัณฑ์ของฉันมีชื่อว่าครีมซูยู่”
“สกัดมาจากสมุนไพรจีนหลายร้อยชนิด โดยเฉพาะผิวของผู้หญิงเอเชียได้รับผลลัพธ์ที่ดีมาก”
“ครีมชนิดนี้…”
“……”
เธอกลับละทิ้งสิ่งที่รบกวนสมาธิ ยิ่งเธอพูดก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ท้ายที่สุดหลิวชิงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“พอได้แล้ว!”
“คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันเคยคบเจอผู้หญิงที่น่าไม่อายนะ แต่กลับไม่เคยพบเจอผู้หญิงที่ไร้ยางอายได้ขนาดนี้แบบคุณมาก่อนเลย!”
“ฉันยอมรับ คุณน่ะมีรูปร่างหน้าตาที่ดี นี่เป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานให้กับคุณ”
“คาดไม่ถึงเลยว่าคุณไม่เพียงแต่จะไม่ทนุถนอม คุณยังใช้รูปโฉมของคุณหลอกลวงคนอื่น อีกทั้งยังกระทำในเรื่องที่เสื่อมเสีย!”
“ช่างน่าขยะแขยงเสียจริง!”
ซูซูชะงักงัน เธอเอ่ยด้วยท่าทีตื่นตระหนก “ประธานหลิว เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้กับฉันล่ะคะ?”
“คุณทำเรื่องอะไรลงไป คุณเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอ?”
“เรื่องอื่นฉันจะไม่สนใจ แต่วันนี้ คุณกล้ามากที่ขโมยความคิดที่สร้างสรรค์ของผู้ร่วมแข่งขันคนอื่น และพยายามลวงหลอกให้ฉันเข้าร่วมลงทุน”
“ฉันจะบอกคุณให้นะ นี่น่ะเป็นอาชญากรรมประเภทการฉ้อโกง!”
“ยังไม่ออกไปให้พ้นหน้าฉันอีก เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะเรียกรปภ.มาลากตัวคุณออกไปเดี๋ยวนี้!”
ซูซูราวกับว่าถูกฟ้าผ่า เธออ้าปากค้างแต่กลับพูดไม่ออก
การโจมตีในครานี้นั้นรุนแรงเกินไปสำหรับเธอ น้ำตาเธอคลอเบ้า ร่างกายสั่นเทา
“รปภ. รีบเข้ามา!”
“ไม่ได้ยินที่ประธานหลิวพูดหรือไง? รีบนำตัวผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้ออกไป!”
รปภ.ในสถานที่จัดงานเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปหาซูซู
“ใครกล้าแตะต้องภรรยาของฉัน ฉันจะซัดให้มันเลือดตกยางออก!”
น้ำเสียงที่เย็นชาดังขึ้น
สีหน้าของฉินเทียนมืดมน จากประตูหลัก เขาก้าวเท้าเข้ามาราวกับว่าเป็นเทพนรก