บัญชามังกรเดือด - บทที่ 62 คุณสร้างหายนะครั้งใหญ่แล้ว
เมื่อรู้สึกถึงรัศมีอาฆาตบนร่างกายของฉินเทียน เหล่ารปภ.ต่างถอยหนีด้วยความตื่นตระหนก
“ประธานหลิว คุณเห็นหรือยัง?”
“ชายชั่วหญิงเลวคู่นี้แหละ”
“ในตอนแรกพวกเขาจะอาศัยรูปโฉมของฝ่ายหญิงเพื่อล่อลวง หากว่าล่อลวงไม่สำเร็จ ฝ่ายชายก็จะทำตัวพาลและใช้กำลังขู่เข็ญ”
“เป็นการโจรกรรมที่สมรู้ร่วมคิด!” ซูเหวินเฉิงรีบเอ่ยปากเป็นคนชั่วที่แจ้งความก่อน
เดิมทีหลิวชิงเองก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจฉินเทียนเลยแม้แต่น้อย เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอยิ่งรู้สึกรังเกียจมากยิ่งขึ้น
เธอจ้องมองฉินเทียนและเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ฉันจะแนะให้คุณฉลาดขึ้นสักหน่อย มองดูให้ชัดเจนว่าที่นี่คือที่ไหน!”
“ในพื้นที่เทียนฟู่ แคปปิตอลของพวกเรา ไม่มีใครกล้าทำตัวพาล!”
“เชื่อหรือไม่ว่าเพียงแค่สายโทรศัพท์เดียวของฉัน ชีวิตของนายก็จะพังพินาศ?”
ในครานี้ แม้แต่เถียหลินเฟิงเองก็ตื่นตระหนก
เขารู้ว่าสถานะของฉินเทียนนั้นไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่น่าเป็นคู่ต่อสู้ของเทียนฟู่ แคปปิตอลได้
นั่นคือนายทุนที่ควบคุมทิศทางของตลาดที่ติดอันดับต้นๆของโลกเชียวนะ
หากคิดจะบดขยี้นักต่อสู้อย่างฉินเทียน เกรงว่าอาจจะไม่ต้องลงแรงอะไรเยอะเสียด้วยซ้ำ
“เข้าใจผิด เข้าใจผิดกันนะ!” เขารีบร้อบลุกขึ้นพยายามไกล่เกลี่ย
“งั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าคุณจะมั่นอกมั่นใจกับเทียนฟู่ แคปปิตอลมาก”
ฉินเทียนจ้องมองหลิวชิงพลางยิ้มเย็นเยียบและเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นเห็นแก่สถานะของเทียนฟู่ ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง”
“ตั้งใจฟังภรรยาของฉันพูดอีกครั้ง จากนั้น ใช้สมองของคุณคิดวิเคราะห์ดีๆ ท้ายที่สุดแล้วใครกันแน่ที่เป็นคนขโมย”
“ภรรยา อย่าได้กลัวไปเลย คุณพูดเถอะ”
ซูซูนั้นตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นของฉินเทียน เธอก็สงบลงอย่างน่าประหลาด
จากนั้นรู้สึกได้ว่าต่อให้ฟ้าจะถล่มลงมา ตราบใดที่มีผู้ชายคนนี้อยู่เคียงข้าง เธอเองก็จะรู้สึกปลอดภัย
หลิวชิงเองก็ตกตะลึงกับคำพูดของฉินเทียนด้วย
เมื่อฉินเทียนมองมาที่เธอ จากสายตาคู่นั้นของฉินเทียนทำให้เธอรู้สึกได้ความกดดันอย่างมาก
เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?
เถียหลินเฟิงพยายามไกล่เกลี่ยอีกครั้ง “ประธานหลิว คุณซูยังพูดไม่ทันจบเลย”
“พวกเรารอให้เธอนำเสนอให้เสร็จก่อน หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจกันอีกครั้งเถอะ”
หลิวชิงทำได้เพียงแค่พยักหน้า
ซูซูทอดถอนหายใจ เธอมองซูเหวินเฉิงจากนั้นกัดฟันและเอ่ย “ฉันอยากรู้นัก คุณได้สูตรมาจากไหน?”
ซูเหวินเฉิงยังคงยืนกรานว่าเขาพัฒนามาด้วยตัวเขาเอง เขายังคงยืนยันว่าสูตรของซูซูนั้นได้ขโมยไปจากเขา
ซูเป่ยซานที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างขุ่นเคือง “นังมารผจญ!”
“ดูเหมือนว่าที่ฉันขับไล่แกออกจากตระกูลคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว!”
“นึกไม่ถึงเลยว่าก่อนแกจะจากไป แกยังขโมยสมบัติที่ล้ำค่าของเราไปด้วย!”
“ผู้หญิงอย่างแก จะมีใบสั่งยาที่ดีแบบนี้ได้อย่างไร!”
ซูหนานกล่าว “ซูซู เธอยอมแพ้ซะเถอะ!”
“ออกไปตอนนี้ จะได้ไม่ต้องติดคุก”
ซูซูกัดฟันและพูด “ประธานหลิว ฉันขอให้คุณช่วยตรวจสอบใบสั่งยาทั้งสองแผ่นนี้ด้วย!”
“ตรวจสอบก็ตรวจไป ใครกลัว!” ซูเหวินเฉิงหยิบกระดาษสีเหลืองที่ดูเก่าขึ้นมาและมอบให้แก่หลิวชิง
เมื่อเห็นกระดาษสีเหลือง ซูซูก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
หลิวชิงพยักหน้าและเอ่ย “ใบสั่งยาของคุณชายซู อันที่จริงก็ดูเก่ามากแล้ว”
เธอมองซูซู “ของคุณล่ะ?”
ซูซูหยิบตำรายาใบสั่งยาออกมา มันถูกพิมพ์ลงบนกระดาษ A4 เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนในสถานที่แห่งนั้นต่างพากันหัวเราะคิกคัก
ใครเป็นคนขโมย เพียงเท่านี้ก็เห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว
มีคนเอ่ยเย้ยหยัน “สำเนาที่ไม่เหมือนสำเนาเลยสักนิด”
“คาดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ จะน่ารังเกียจแบบนี้!”
“มาทำให้สถานที่แห่งนี้ต้องด่างพร้อย รีบขับไล่เธอออกไปเถอะ!”
“ไปให้พ้น!”
หลิวชิงรู้สึกว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เธอสุดจะทนแล้วเอ่ยว่า “สิ่งใดถูกสิ่งใดผิด ตอนนี้ก็เข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรอีก!”
“ตอนนี้ฉันขอประกาศ——”
เธอยืนขึ้น ต้องการประกาศให้ซูเหวินเฉิงเป็นผู้ชนะอีกครั้งและตัดสินว่าซูซูเป็นผู้ที่ลอกเลียนแบบอย่างหน้าไม่อาย
ทันใดนั้น โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของเธอก็ส่งเสียงดังขึ้น
คนอย่างหลิวชิง แน่นอนว่ามีโทรศัพท์ไม่เพียงหนึ่งเครื่อง โดยปกติแล้วโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อธุรกิจ น้อยครั้งนักที่เธอจะรับด้วยตัวเอง
ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอได้ส่งมอบให้แก่เลขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่โทรศัพท์เครื่องนี้ เธอพกติดตัวไปด้วยเสมอ เป็นเครื่องที่เปิดไว้ตลอด24ชั่วโมง เพราะนี่คือสายพิเศษที่หัวหน้าจะติดต่อกับเธอ
ในเทียนฟู่ แคปปิตอล เคยมีนักวิเคราะห์การลงทุนท่านหนึ่งที่เหมือนกับเธอ เป็นเพราะว่าในยามวิกาลหัวหน้าไม่สามารถติดต่อกับเขาได้ เช้าวันถัดมาเขาก็ถูกไล่ออก
“มิเชล!” เธอมองเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาและรีบรับสายพลางเอ่ย “เรื่องที่หลงเจียงนั้นเสร็จสิ้นแล้ว”
“ฉันจะกลับไปรายงานคุณทันที”
ในสายโทรศัพท์ เป็นเสียงของชาวต่างชาติที่ดังขึ้น
เขาพูดด้วยภาษาจีนที่แข็งทื่อ “หลิวชิง คุณสร้างหายนะครั้งใหญ่แล้ว”
“ตอนนี้ ประกาศทันทีเลยว่าคุณซูเป็นผู้ชนะ แล้วก็ขอโทษคุณฉิน ขอให้เขาให้อภัยด้วย”
“คุณพูดอะไรนะ?” หลิวชิงชะงักงัน สีหน้าไม่เข้าใจ
“มิเชล คุณฟังฉัน!” เมื่อตอบสนอง เธอพยายามที่จะโต้เถียงด้วยความโกรธเคือง
“ไม่ต้องพูดแล้ว มองที่หน้าจอใหญ่”
หลิวชิงรีบเงยหน้ามอง จากนั้นหน้าจอใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเธอก็สว่างขึ้น
ในคลิปวิดีโอ ชายต่างชาติกำลังถือโทรศัพท์มือถือและวิ่งอยู่บนชายหาด
“มิเชล คุณอยู่ที่ไหน?”
“คุณต้องการจะทำอะไรกันแน่?” น้ำเสียงของหลิวชิงไม่สู้ดีนัก
แม้ว่ามิเชลจะเป็นหัวหน้าของเธอ แต่ก็ไม่สามารถยื่นมือเข้ามาแทรกแซงงานของเธออย่างอุกอาจเช่นนี้ได้
สร้างความรำคาญให้แก่เธอ เธอเองก็กล้าที่จะแตกหักกับมิเชล
ลมทะเลพัดมา ทุกคนในสถานที่ต่างจ้องมองชายต่างชาติที่กำลังวิ่งอยู่บนชายหาด
“มิเชล CEOของเทียนฟู่ แคปปิตอลใช่หรือเปล่า? คาดไม่ถึงเลย โปรเจกต์ของฉัน จะสามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้!” สีหน้าของซูเหวินเฉิงดูตื่นเต้น
“มิเชล! มิเชล!”
เมื่อรู้ถึงตัวตนของมิเชล ในสถานที่แห่งนี้ผู้ประกอบการที่คลั่งไคล้เหล่านี้ต่างก็โห่ร้องกับหน้าจอใหญ่
ในภาพนั้นมิเชลวิ่งไปอยู่แนวชายหาดและมาถึงยังแนวโขดหิน
และสามารถเห็นโขดหินแนวชายหาด มีชายอ้วนคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลา
“หลิวชิง ประธานจูจากสำนักงานใหญ่ต้องการพบคุณ!”
“ประธานจูครับ!” มิเชลยื่นโทรศัพท์ให้กับชายที่กำลังนั่งตกปลาอยู่บริเวณโขดหินริมชายหาดด้วยท่าทีเคารพยิ่ง
ผู้ชายคนนี้ทั้งขาวแล้วก็อ้วน มองไปคล้ายกับพระสังกัจจายน์อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเขายิ้ม ดวงตาทั้งสองข้างนั้นก็หยีจนเหลือเพียงแค่เส้นยาวเส้นหนึ่งเท่านั้น
แต่ทว่า ในเส้นยาวเส้นหนึ่งนี้กลับมีแสงแห่งความน่ากลัวอยู่
ผู้ที่มีอำนาจที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองลมหายใจเช่นนี้
“ประธานจู!” หลิวชิงสั่นสะท้าน ลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบ ก้มศีรษะด้วยความเคารพและกล่าวสวัสดี
ประธานจูกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลิวชิง ฉันเคยได้ยินมิเชลพูดถึงคุณ รู้ว่าคุณนั้นเก่งไม่น้อย”
“ครั้งนี้ที่ส่งคุณไปหลงเจียง สำหรับสำนักงานใหญ่แล้วถือว่าเป็นการทดสอบคุณ”
“คาดไม่ถึงเลย คุณทำให้สำนักงานใหญ่ต้องผิดหวังเสียแล้ว”
“ประธานจูคะ!” ศีรษะของหลิวชิงก้มต่ำลงไปอีก ใบหน้าของเธอแดงก่ำ
แต่อย่างไรก็ตาม เธอกัดฟันแน่นและเอ่ย “หลิวชิงไม่เข้าใจ ได้โปรดประธานจูช่วยอธิบายให้กระจ่าง!”
ประธานจูเอ่ยด้วยท่าทีเย้ยหยัน “สิ่งที่ซูเหวินเฉิงพูดนั้นเป็นเรื่องโกหก แม้ว่าใบสั่งยาของเขาจะเป็นของจริง แต่ว่านั่นคือการขโมยผลงานของคุณซู”
“หลิวชิง คุณได้ทำเรื่องผิดพลาดร้ายแรง ตอนนี้ทางสำนักงานใหญ่ได้ตัดสินใจส่งคุณไปยังหลงเจียง”
“คอยช่วยเหลือคุณซู วางแผนและจัดการบริหารครีมซูยู่ให้ดี เงินหนึ่งพันล้านจะถูกโอนเข้าบัญชีของบริษัทของคุณซู”
“ถ้าหากว่ายังไม่เพียงพอ สามารถแจ้งกับทางสำนักงานใหญ่ได้ทุกเมื่อ ฉันมีเพียงแค่หนึ่งประโยคที่อยากจะกล่าว สำหรับการลงทุนของคุณซู งบประมาณของพวกเรามีอย่างไม่จำกัด”
“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณ หากคุณทำได้ไม่ดี คุณไม่ต้องกลับมาอีก”
หลิวชิงเงยหน้าขึ้นด้วยความตื่นตระหนก เธอตกใจจนพูดไม่ออก
ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความอึดอัดคับข้องใจ คิดอยากจะแยกแยะด้วยตัวเอง เหมือนกับว่าประธานจูนั้นง่วงนอน ทันใดนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงในทันที
ราวกับว่าพระสังกัจจายน์กำลังนั่งอยู่ริมทะเล
จากนั้นวิดีโอก็ถูกตัดไป
ไม่มีใครสังเกตเห็น การที่ประธานจูก้มศีรษะ คือกำลังเผชิญหน้ากับชายคนหนึ่งในสถานที่จัดงาน ฉินเทียน
นี่คือการทักทายนายท่านด้วยความเคารพนับถือที่สุดจากเขาซึ่งอยู่ห่างกันหลายพันไมล์