บัญชามังกรเดือด - บทที่ 656 รอรับโทษซะ
บัญชามังกรเดือด บทที่ 656 รอรับโทษซะ
หลังจากฟังจนจบ ฉินเทียนก็ถอนหายใจ เขาคิดไม่ถึงเลยว่ามังกรซ่อนรูปที่ดูรุ่งเรืองงดงามเช่นนี้ จะมีเรื่องราวสลับซับซ้อนวุ่นวายมากขนาดนี้
จูจูตอบอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ไป๋เลี่ยนผู้นี้ อาศัยท่านอาจารย์ของเขาที่เป็นท่านอาวุโสใหญ่แห่งสภาอาวุโส ช่างเสื่อมทรามเสียจริง!”
“พวกเราเข้าใจเรื่องราวมากมาย เขาอยู่ภาคตะวันตก และสมคบคิดกับตระกูลท้องถิ่นนั้น ทำตัวเป็นเกราะป้องกัน เรียกเก็บส่วยอย่างกำเริบเสิบสาน”
“แต่เพราะการขัดขวางของสภาอาวุโส เลยจัดการกับเขาไม่ได้มาโดยตลอด”
“ฉินเทียน ตอนนี้เธอคือแส้มังกร เธอนำมีดเกล็ดมังกร ไปฆ่าพวกมันซะ!”
ฉินเทียนตกใจ “เธอหมายความว่า ไป๋เลี่ยนสมคบคิดกับตระกูลท้องถิ่นนั้นอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ตระกูลฉินหรือเปล่า?”
เมื่อพูดถึงตระกูลฉิน เขาก็รู้สึกสับสนขึ้นมา
เฒ่าหัวมังกรพูดน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “เรื่องราวภายในมันซับซ้อนมาก ถึงต้องไปสืบสวนสอบสวนและได้หลักฐานมาก่อน ถึงจะฟันธงได้”
“เจ้าเด็กน้อย ฉันพอรู้เรื่องระหว่างเธอกับตระกูลของเธออยู่บ้าง”
“อภัยที่ฉันต้องพูดตรงๆ วิหารเทพของเธอแม้ว่าจะมีศักยภาพมากมาย แต่กำลังหลักๆ ก็อยู่ต่างประเทศ”
“คราวนี้ที่ให้เธอทำหน้าที่แส้มังกร เพื่อไปสะสางเรื่องบางอย่างที่ภาคตะวันตก สำหรับเรื่องที่เธอต่อต้านตระกูลฉินมันก็พอช่วยอยู่ได้บ้าง”
“เธอว่าไงหล่ะ?”
ฉินเทียนคาดไม่ถึงเลยว่า ต้องอาศัยกำลังของคนอื่นเพื่อมาต่อสู้กับตระกูลฉิน
แต่เขาเองก็อดนึกถึงโศกนาฏกรรมการสังหารยกครัวของหูเฟยและตระกูลหูไม่ได้
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมมังกรซ่อนรูปแห่งตะวันตกถึงไม่ได้ทำการตรวจสอบนะ? หรือว่าพวกเขาช่วยกันปกปิดตัวฆาตกรกันอยู่?
ถ้าเขาถือสถานะแส้มังกรแล้ว เขาก็จะสามารถกระตุ้นให้พวกเขาไปช่วยสืบสวนต่อได้
เมื่อคิดได้ดังนี้ ในที่สุดเขาก็พยักหน้า
“ตกลง”
“ในเมื่อท่านอาวุโสทั้งสองให้เกียรติฉันมากขนาดนี้ ถ้างั้นมีดเล่มนี้ ฉันจะรับมันไว้เอง”
“มันต้องอย่างนี้สิ!”
“รีบมารับไปซะ!”
“เธอไม่รู้หรอกว่ามีดเล่มนี้มันดีขนาดไหน มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการครอบครองมันด้วยซ้ำ!”
“ต่อไปนี้ห้ามซี้ซั้วโยนทิ้งอีกนะ!” จูจูแสร้งทำเป็นโกรธและยื่นมีดให้ฉินเทียนไป
ฉินเทียนถือมันไว้ในมือ อาวุธอันเป็นที่รัก เสียไปแล้วแต่ได้กลับคืนมา เขายิ้มอย่างไม่อายใคร
จากนั้น ฉินเทียนก็สอบถามเรื่องบางเรื่องกับ เฒ่าหัวมังกร
ตัวอย่างเช่น ถ้าฆาตกรคือ วิหารเทพสังหารจริงๆ แล้วเพราะเหตุใดพวกเขาถึงต้องจงใจวางกับดักสังหารจินหู่ด้วยหล่ะ?
จากที่ เฒ่าหัวมังกรเล่ามา มีความเป็นไปได้อย่างมาก ที่มันจะเกี่ยวข้องกับยาชนิดหนึ่ง
จินหู่รู้มาว่า มีตัวยาชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติสามารถทำให้คนเสียสติได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เขาเลยเสาะหาติดตามมาโดยตลอด
วิหารเทพสังหารรู้สึกถึงอันตรายนั้น ดังนั้นเขาเลยชิงลงมือจัดการจินหู่เสียก่อน
แต่น่าเสียดายที่ จินหู่เสียชีวิตเร็วเกินไป เขายังไม่ทันได้รายงานผลการสอบสวนเลย
แล้วผลการสอบสวนนั้นซ่อนอยู่ที่ไหนกันนะ มีความเป็นได้อย่างมากที่มันถูกซ่อนอยู่ในทางตะวันตกของมังกรซ่อนรูป
ฉินเทียนเดินทางไปภาคตะวันตก แค่หาเอกสารการสอบสวนนั้นเจอ ก็ควรจะเข้าใจเบาะแสอะไรบางอย่างได้มากขึ้น
……
ในที่สุดเรื่องราวทั้งหมดก็คลี่คลาย ทั้งยังดูเหมือนจะมีทิศทางสำหรับการลงมือจัดการในขั้นตอนต่อไปอีกด้วย
ฉินเทียนแทบอดทนรอต่อไปไม่ไหว อยากจะรีบกลับไปที่หลงเจียง
การไปภาคตะวันตกเพื่อทำการสืบสวนสอบสวน เขาเองก็ต้องวางแผนมองการณ์ไกล ไม่รีบร้อน ออกมานานขนาดนี้ เขาคิดถึงภรรยาของเขาแล้ว
ซูซูเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม่รู้ว่าช่วงนี้เขาจะกินอิ่มนอนหลับหรือเปล่า อารมณ์ดีไหม และได้คิดถึงเขาบ้างหรือเปล่า
ยังมีเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องของเขา จะว่านอนสอนง่ายหรือเปล่านะ
เมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่อยากจะสยายปีกและรีบบินกลับไปยังอุทยานมังกร
ยังดีที่ เฒ่าหัวมังกรต้องการแค่ให้ฉินเทียนตกลงรับหน้าที่แส้มังกร และหาโอกาสสืบสวนเท่านั้นก็พอ ไม่ได้เร่งให้เขาเคลื่อนไหวตลอดเวลา
และก็ไม่ได้สนใจด้วยว่า เขาจะใช้วิธีไหนในการสืบสวนสอบสวน
ขณะที่เขากำลังเตรียมตัวออกเดินทางอยู่นั้น ทันใดนั้น จู่ๆ บอดี้การ์ดท่าทางเคร่งขรึมก็เดินเข้ามา
หลังจากทำความเคารพเฒ่าหัวมังกรแล้ว ก็พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “เฒ่าหัวมังกร ท่านอาวุโสใหญ่และท่านอาวุโสที่สามมาถึงแล้ว!”
“พวกเขารอฟังรายงานไม่ไหว เลยบุกมาถึงที่นี่ ตอนนี้มาถึงหน้าประตูแล้วครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น จูจูก็พูดขึ้นมาด้วยความโกรธทันทีว่า “พวกเขามาที่นี่เพื่ออะไร?”
“ตาแก่สองคนนี้ยิ่งนับวันยิ่งไม่มีมารยาทเอาเสียเลย!”
“อาวุโสแล้วยังไง? ไม่ได้รับการแจ้งก็บุกมาที่นี่เลยอย่างนั้นหรือ? ยังเห็นเฒ่าหัวมังกรอยู่ในสายตาอยู่หรือเปล่า!”
เฒ่าหัวมังกรก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ทางนี้ฉันพึ่งจะแต่งตั้งแส้มังกร พวกเขาก็รีบร้อนมาที่นี่กันเลยทีเดียว”
“ดูแล้ว หูตาช่างกว้างไกลเสียเหลือเกิน!”
สีหน้าของจูจูเปลี่ยนไป “คุณปู่ หมายความว่า พวกเขาจะรีบมาขัดขวางอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ได้นะ!”
“ฉินเทียน เธอรีบไปซ่อนตัวเร็ว มันไม่ดีแน่ๆ ถ้าปล่อยให้พวกเขาเอามีดเกล็ดมังกรไป”
ฉินเทียนไม่ขยับตัว และใช้สายตาถามไปที่ เฒ่าหัวมังกร
เฒ่าหัวมังกรตอบอย่างเย้ยหยันว่า “ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแส้มังกร ก็ไม่ใช่เรื่องลับลมคำในอะไร จะว่าไป ไม่ช้าก็เร็วยังไงพวกเขาก็ต้องรู้อยู่ดี”
“พวกเธอไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
ฉินเทียนพยักหน้า นั่งไม่ขยับและจิบชาอย่างเงียบๆ
ไม่นาน ตาแก่เคราขาวทั้งสองคนก็เดินเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ
เมื่อเห็นมีดเกล็ดมังกรใกล้ๆ มือของฉินเทียน สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ท่านอาวุโสใหญ่พูดเสียงเคร่งขรึมว่า “เฒ่าหัวมังกร ได้ข่าวมาว่าเธอแต่งตั้งแส้มังกรคนใหม่ เป็นเรื่องจริงหรือ?”
เฒ่าหัวมังกรหัวเราะและตอบว่า “ท่านอาวุโสใหญ่ได้รับข่าวรวดเร็วเสียเหลือเกิน เดิมทีฉันกะว่าหลังจากจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้ว จะส่งหนังสือแจ้งให้สภาอาวุโสของพวกเธอทราบ”
“ในเมื่อท่านอาวุโสใหญ่รู้แล้ว งั้นก็ตัดความยุ่งยากไปได้แล้วสิ”
“ท่านอาวุโสทั้งสอง ตอนนี้ขอแนะนำให้พวกเธอรู้จักสักหน่อย ผู้นี้คือฉินเทียน เป็นเจ้าของมีดเกล็ดมังกรคนใหม่”
“และก็เป็นแส้มังกรมังกรซ่อนรูปของพวกเราอีกด้วย”
“รบกวนพวกเธอแจ้งไปยังองค์กรของพวกเธอด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ใครทำการคัดค้านได้อีกในอนาคต”
ท่านอาวุโสใหญ่โกรธจนหน้าดำและพูดด้วยความโมโหว่า “แม้ว่าเธอจะเป็น เฒ่าหัวมังกรแต่ตำแหน่งแส้มังกรนั้นมันสำคัญมาก ทำไมถึงแต่งตั้งกันตามอำเภอใจโดยไม่แจ้งกันก่อน!”
“ตอนนี้ฉันขอพูดอย่างชัดเจนว่า ฉันไม่ยอมรับ!”
“สภาผู้อาวุโสเองก็คงไม่ยอมรับเช่นกัน เฒ่าหัวมังกรโปรดถอนคำสั่งนั้นซะ แล้วเรื่องนี้ค่อยหารือกันอีกครั้ง!”
ท่านอาวุโสที่สามรีบพูดเสริมขึ้นว่า “ฉันเห็นด้วยกับคำแนะนำของท่านอาวุโสใหญ่”
“ตำแหน่งแส้มังกรนั้นสำคัญมากถึงเพียงนี้ จะแต่งตั้งส่งเดชให้กับคนนอกคนหนึ่งได้อย่างไร”
“ยังไงแล้วเฒ่าหัวมังกรกรุณาถอนคำสั่งนั้นด้วยเถอะ”
พูดพลาง เขาก็ตวาดใส่ฉินเทียนว่า “ชายหนุ่มที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี แกรู้ความหมายของแส้มังกรอะไรบ้างไหม?”
“แกช่างกล้ายิ่งนัก ถือดียังไงถึงมาแตะต้องมีดเกล็ดมังกรโดยพลการแบบนี้!”
“ยังไม่รีบคืนมีดออกมาอีก รอรับบทลงโทษนั้นซะ”
ฉินเทียนจิบน้ำชาอย่างเย้ยหยัน ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ตอนนี้ เขาแน่ใจแล้วว่า มีการแบ่งแยกเกิดขึ้นภายในของมังกรซ่อนรูปจริงๆ
เฒ่าหัวมังกรดูลำบากใจ
เขาอยากรู้ว่า เฒ่าหัวมังกรจะทำอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับคำแนะนำแกมบีบบังคับเช่นนี้
เฒ่าหัวมังกรกลับไม่โกรธและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านอาวุโสทั้งสอง เหตุใดต้องประหม่าขนาดนี้ด้วยเล่า”
“มา มา นั่งลงจิบชาก่อน พวกเราจิบชาไปพลางคุยกันไปพลางก็ได้”
ท่านอาวุโสใหญ่พูดด้วยความโกรธว่า “จูเซี่ยวเทียน นี่มันเวลาอะไร เธอยังมีอารมณ์จิบชาอยู่งั้นหรือ!”
“แต่งตั้งคนนอกเป็นแส้มังกร เธอจะทำลายมังกรซ่อนรูปทั้งหมดให้พินาศเลยหรือไง?”
“ถ้าวันนี้เธอไม่ถอดถอนเขาล่ะก็ อย่าหาว่าฉันปลุกระดมสภาอาวุโส เพื่อกล่าวโทษเธอนะ!”
“เธออย่าลืมว่า สภาอาวุโสของพวกฉันมีสิทธิ์ในเรื่องนี้!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สุดท้ายสีหน้าของ เฒ่าหัวมังกรก็เคร่งขรึมลง เขาพูดด้วยความไพเราะ ท่านอาวุโสใหญ่ผู้นี้ ช่างไม่เห็นคุณค่าของผู้อื่นมากเกินไปหน่อยแล้ว
จูจูที่อยู่ข้างๆ อดรนทนไม่ได้อยู่นานแล้ว เขาตำหนิอย่างเสียงดังว่า “พวกเธอมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาคุณปู่ของฉัน?”
“เขาไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยซ้ำ!”
“กลับเป็นพวกเธอต่างหากหล่ะ ทำไมถึงต้องกลัวฉินเทียนดำรงตำแหน่งแส้มังกรมากขนาดนี้ด้วย? หรือว่า มีเรื่องลับลมคมในที่กลัวจะโดนเขาค้นพบอย่างนั้นหรือ?”
“หรือเพราะว่าเขาไม่ใช่คนของพวกเธอ เลยกลัวว่าจะโดนเขาตัดหัว?”