บัญชามังกรเดือด - บทที่ 662 พันแก้วก็ไม่เมา
บัญชามังกรเดือด บทที่ 662 พันแก้วก็ไม่เมา
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ช่วยคนนี้ หลิวหรูยู่แสดงท่าทีของเด็กสาวเอาแต่ใจที่เห็นได้นาก
เธอทำหน้าบึ้งแล้วพูดว่า: “หายากนะที่ทุกคนจะชอบฉันมากขนาดนี้ ฉันตอบแทนไม่ได้ ก็แค่เต้นจะเป็นไรไป”
พวกเธอลงไปก่อน ฉันเต้นเสร็จก็จะไปแล้ว”
“จริงๆ ฉันไม่เหนื่อย สบายมาก”
พี่หรงและฟู่เจียงเต็มไปด้วยความสงสัย รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหลิวหรูยู่
จนกระทั่ง สายตาของพี่หยงไปเห็นฉินเทียนที่นั่งถัดจากซูซู เธอก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!”
“ที่แท้ก็เต้นให้คนในใจนี่เอง เอาที่เธอสบายก็พอ”
“ไปกันเถอะคุณฟู่ ไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว”
เธอดึงฟู่เจียงถอยกลับมา
“เธอกำลังจะรำจิงหงแล้ว!”
“พี่ เธอกำลังจะเต้นจิงหงแล้ว เยี่ยมมากเลย!” อีกด้านหนึ่งของซูซู หม่าเซวี่ยจับมือเธอ และพูดอย่างตื่นเต้น
ซูซูยิ้มและพูดว่า: “มีคนสำคัญมา ดังนั้นคุณหลิวเขาก็ย่อมทุ่มแสดงเป็นธรรมดา”
“เราก็อาศัยบารมีคนอื่น เปิดหูเปิดตากันเถอะ”
“คนสำคัญ?” หม่าเซวี่ยผู้ที่ชื่นชมหลิวหรูยู่มาตลอด และหมกมุ่นอยู่กับการดูก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเห็นฉินเทียนในอีกด้านหนึ่ง
“พี่ พี่มาเมื่อไหร่คะ!” แววตาที่ตื่นเต้นของเธอเต็มไปด้วยความสุขที่ไม่อาจปกปิดได้
ฉินเทียน พูดด้วยรอยยิ้ม: “เสี่ยวเซวี่ยก็ชอบเต้นด้วยใช่ไหม? ไว้คราวหลังให้หลิวหรูยู่สอนเธอ”
เสี่ยวเซวี่ยหน้าแดงและยิ้ม ไม่รู้จะพูดอะไร
ชอบเต้น ให้หลิวรูหยูสอน? คนที่เป็นถึงระดับดาราเบอร์ต้นๆ ต้องเป็นคนระดับไหนถึงจะให้นางสอนได้ประโยคนี้ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นพูด ก็คงพูดโม้ อวดดีอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม มันออกมาจากปากของฉินเทียน จึงเป็นเรื่องปกติอย่างมาก
ขณะที่ดนตรีดังขึ้น สนามกีฬาที่ใหญ่ก็เงียบลงในทันที
สายตานับพันคู่จับจ้องที่เวทีอย่างไม่กะพริบ
หลิวหรูยู่เตรียมตัวบางอย่าง และเมื่อไฟเปลี่ยนก็เต้นช้าๆตามจังหวะของเพลง
หุ่นเพรียวสวยในชุดขาวที่สวยงามสง่าไปอีกแบบ บวกกับใบหน้าที่ไร้ที่ติและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ
เหมือนหงส์ขาวเริงระบำริมทะเลสาบนางฟ้าที่เขาพูดกันในตำนานจริงๆ
ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึงหลงไปกับความงามที่เหมือนความฝัน
ในเวลาเดียวกัน ในห้องเล็กๆบนชั้นสอง ชายหนุ่มที่มีใบหน้าโหดเหี้ยมจ้องมองหลิวหรูยู่ที่งดงามราวกับนางฟ้าที่ลงมาสู่พื้นดินบนเวที ด้วยความชั่วร้ายในดวงตาของเขา
เป็นเธอนั่นแหละ!”
“หม่าเฟิง ตอนนี้ฉันต้องการให้นาย ไม่ว่านายจะใช้วิธีไหน พาเธอไปที่ห้องของฉันหลังจบคอนเสิร์ต”
“ได้ยินไหม?”
ถัดจากเขา ชายหนุ่มชื่อหม่าเฟิงลังเลเล็กน้อย
เขาพูดเสียงต่ำ : “พี่จิ้ง พี่ว่าเราเปลี่ยนคนดีไหม?”
“สาวสวยในเจ็ดเมืองภาคใต้มีเยอะแยะ ยกเว้นเธอ ไม่ว่าจะชอบใคร ผมจะเก็บเธอให้มาปรนนิบัติพี่อย่างเชื่อฟัง”
“แม้ว่าหลิวหรูยู่จะสวย แต่สถานะของเธอไม่ธรรมดา”
“นอกจากเป็นดาราแล้ว เท่าที่ผมรู้ เธอยังเป็นหลานสาวของอานกั๋ว และตอนนี้อานกั๋วก็เป็นสมาชิกสหพันธ์ธุรกิจเจ็ดเมืองภาคใต้”
“พี่ดู–”
“ไอ้สารเลว!” ชายหนุ่มหน้าโหดสะบัดมือออกไปทันที ตบหม่าเฟิงแล้วกัดฟันพูดว่า:“สิ่งที่ฉันกำลังเล่นก็คือความเป็นดาราของเธอ!”
“อานกั๋วเหี้ยอะไรนั่น สหพันธ์บ้าบออะไร มันใหญ่กว่าฉันอีกหรอ”
หม่าเฟิงพูดด้วยความกลัว “นั่นก็เป็นไปไม่ได้ครับ!”
“ตัวตนของพี่จิ้ง ไม่ใช่พวกคนทำธุรกิจเร่ร่อนพวกนี้จะสามารถเทียบได้!”
“พวกมันไม่เหมาะแม้แต่จะถือรองเท้าให้พี่!”
ชายหนุ่มตะคอกอย่างได้ใจ หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า: “ฉันรู้ว่านายอยากเป็นหัวหน้าทีมมาตลอด เพียงแค่ว่า ระดับยังไม่ถึง”
“ถ้าเรื่องนี้จบ ฉันรับประกันว่านายจะได้เลื่อนขั้นเป็นสามระดับติดต่อกัน!”
“นอกจากนี้ ภาคใต้มีอะไรดี ระงับไปให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่น้ำหรือน้ำมันสักหยดเดียว ”
“ตามฉันไปเป็นหัวหน้าทางภาคตะวันตก!”
“จริงเหรอครับ?” ดวงตาของหม่าเฟิงเป็นประกาย เขากัดฟันและพูดว่า: “พี่จิ้งจะเอาผมไว้ข้างกาย!”
“คุณรอเป็นเจ้าบ่าวได้เลยครับ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ผมจะเอาดาราดังคนนี้มาไว้บนเตียงคุณแน่นอน!”
“ค่อยว่าไปอย่าง!” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง
เมื่อเห็นใบหน้าและรูปร่างที่สวยงามบนเวที และคิดว่าอีกไม่นานก็จะสามารถสนุกกับมันได้เพียงคนเดียว และทำอย่างกำเริบเสิบสาน เกิดความปรารถนาที่ไม่ยับยั้งในดวงตาของเขา
ในที่สุด การเต้นรำก็จบลง
ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีของการร่ายรำ ดูเหมือนทุกคนจะได้สัมผัสกับความงามที่เหมือนความฝัน
เมื่อตื่นจากความฝัน เสียงปรบมือก็ดังสนั่น
หลิวหรูยู่โค้งขอบคุณ มองไปที่ผู้ชม แล้วหายไปในด้านหลังเวที
เมื่อจบลงแล้ว ผู้ชมที่ยังไม่หนำใจ อารมณ์ยังค้างอยู่นั้นก็จากไปอย่างเป็นระเบียบ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“ไปกันเถอะ เราไปแสดงความยินดีกับหรูยู่หลังเวทีกันเถอะ!”
“คอนเสิร์ตวันนี้สุดยอดมาก!”
หลิวหรูยู่ยืนขึ้นและพูดอย่างตื่นเต้น
ฉินเทียนรีบพูดว่า: “คุณระวัง เดี๋ยวผมพาคุณไป”
เมื่อพวกเขามาถึงหลังเวที ที่ตรงนั้นก็เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว โดยมีอานกั๋วที่อยู่ตรงกลาง เสียงหัวเราะที่ดังก้องไปทั่วห้องรับรอง
นอกจากอานกั๋วแล้ว ยังมีเหล่าผู้ใหญ่จากสามาคม เกือบทั้งหมดอยู่ที่นี่
การดูคอนเสิร์ตเป็นสิ่งรองลงมาของพวกเขา สิ่งสำคัญคือต้องให้เกียรติอานกั๋ว เพราะยังไง หลิวหรูยู่ก็เป็นหลานสาวของอานกั๋ว
“ผู้นำใหญ่!”
“ผู้นำใหญ่มาแล้ว!”
ฉินเทียนจับมือกับซูซูเดินเข้ามา เมื่อเห็นเขา อานกั๋วและคนอื่นๆ ทั้งหมดนั้นต่างตกตะลึง พวกเขารีบเร่งขึ้นอย่างตื่นเต้น
ทำให้หลิวหรูยู่รู้สึกน้อยใจเล็กน้อย
ตอนที่ฉินเทียนยังไม่มา เธอก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนหลายพันคน เมื่อฉินเทียนมา เหล่าผู้ใหญ่ก็ละทิ้งเธอทันที
ฉินเทียนมีความสุขมากที่ได้พบเพื่อนเก่า
“ทุกคนอยู่ที่นี่!”
“ไม่เจอกันตั้งนาน ทุกอย่างสบายดีไหม?”
“สบายดี!”
“ทุกอย่างปกติดี!”
“เพียงแค่ไม่เจอกันนาน คิดถึงผู้นำ!” เจี่ยงเส้ากล่าวอย่างตื่นเต้น
เฉินเถิง หยางหยวนชิ่งและคนอื่นๆก็หัวเราะและเห็นด้วย
นับตั้งแต่ ฉินเทียนร่วมเข้ากับเจ็ดเมืองทางใต้ และหลังจากกลายเป็นผู้นำของพันธมิตร ปลูกฝังห้าพญายมแห่งนรก อานุภาพสะเทือนไปเป็นวงกว้าง
นักธุรกิจเหล่านี้ในเจ็ดเมืองทางใต้ ไม่เคยดื้อรั้นในการทำธุรกิจ!
กล่าวได้ว่า ฉินเทียนเป็นกระดูกงูของเรือใหญ่ในเจ็ดเมืองทางตอนใต้
นอกจากนี้ยังเป็นกระดูกสันหลังของพวกผู้ใหญ่เหล่านี้!
แม้ว่าพวกเขาจะอายุมากแล้ว แต่ฉินเทียนพึ่งอยู่ในวัยยี่สิบ แต่เมื่อเห็นฉินเทียน พวกเขาก็รู้สึกว่าเจ้านายของพวกเขากลับมาแล้ว
หลิวหรูยู่เดินเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้ม: “พอแล้ว”
“คุณปู่ ผู้บริหารทุกคน เนื่องจากพวกคุณกระตือรือร้นขนาดนี้ ทำไมไม่ไปงานเลี้ยงโดยตรงเลยล่ะ ใช้เหล้ามาแสดงความรู้สึกต่อผู้นำ”
“อย่างไรก็ตาม เท่าที่ฉันรู้ หัวหน้าพันธมิตรพันแก้วก็ไม่เคยเมา ไม่รู้ว่าพวกคุณจะดื่มสู้เขาได้ไหม”
พูดแล้ว ก็ยิ้มมองไปที่ฉินเทียน
ฉินเทียนไม่กล้ามองเธอ เพราะเขารู้สึกว่าหลิวหรูยู่ดูเหมือนจะมีความหมายอื่น
พันแก้วยังไม่เมา? คืนนั้นที่หนานเจียง เขาเผลอดื่มไวน์สมุนไพร ถูกหลิวหรูยู่คลานขึ้นไปบนเตียงกลางดึก แล้วควบคุมตัวเองไม่ได้…
จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นความผิดพลาด
โชคดีที่มีเพียงเขา หลิวหรูยู่แล พี่หรงเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
ตราบใดที่เขาไม่พูด หลิวหรูยู่และพี่หรงก็จะไม่มีวันพูด