บัญชามังกรเดือด - บทที่ 705 เปลี่ยนสถานที่นอน
บัญชามังกรเดือด บทที่ 705 เปลี่ยนสถานที่นอน
เมื่อต้องเผชิญกับความกดดันของ กัวข่าย ฉินชวนนั้นก็ค่อยๆส่ายหัว ก่อนที่จะเอ่ยอย่างแน่วแน่ “ยกโทษให้ข้าเถอะ”
“คุณอยากจะยิงปืนใส่เข้า ก็แล้วแต่เถอะ!”
“เจ้า——”กัวข่ายโกรธแค้นมาก ก่อนที่จะมองไปที่สีหน้าที่เขาเกลียดมาก หากกระตุ้นอีก จะต้องได้เหนี่ยวไกลจริงๆแน่
“นามสกุลกัว!”
ลู่ธงเอ่ยตะโกนออกมา“หากคุณนั้นยิ่งปืน งั้นวันนี้ผมอยู่คุณตาย จะดีจะเลวยังไงก็ไม่สน ต้องตายด้วยกันสะ !”
เขานั้นกับสมาชิกคนอื่นๆนั้น ในเวลาเดียวกัน ทุกคนนั้นก็ได้ชักปืนออกมา แล้วเล็งไปที่
“วางปืนลงสะ!”
ในขณะเดียวกัน ลูกน้องของ กัวข่ายนั้นต่างก็หวาดกลัว ก่อนที่จะหันปืนนั้นเล็งไปยังที่ลู่ธงและคนอื่น
สถานการณ์ตรงหน้านั้น กัวข่ายได้ใช้ปืนเล็งไปที่ฉินชวน ส่วนปืนของลู่ธงและคนอื่นๆนั้น ได้เล็งไปที่ กัวข่าย
ส่วนลูกน้องของกัวข่าย ได้เล็งเป้าเข้าไปลู่ธงและคนอื่นๆ
สถานการณ์ที่กระชั้นชิดนี้ หากมีใครคนหนึ่งเหนี่ยวไกล งั้นแน่นอนว่าจะต้องตายกันไปด้วยกันแน่
กัวข่ายเกรงกลัวกว่าใครๆ เพราะเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เขานั้นไม่กล้าที่จะเสี่ยง
ถึงแม้จะโกรธจนอยากจะร้องออกมา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไม่เก็บปืน ในขณะเดียวกัน ก็ได้ออกคำสั่งให้ลูกน้องของเขานั้นถอยออกไป
“เจ้านามสกุลฉิน นับว่าเจ้าเก่งนะ!”
“เอ่ยมาสิ เจ้านั้นที่จะทำยังไงกัน?”
เขานั้นกัดฟันเอ่ย
ฉินชวนยิ้มหัวเราะออกมา ก่อนที่จะออกคำสั่งให้ลู่ธงและคนอื่นๆนั้น เก็บปืนลง ก่อนที่จะเอ่ยจะโกนเสียงดัง “ฉินเทียนและเถียโถว ฆ่าคนนั้นไม่ได้ไม่จริง แต่ว่าเรื่องนั้นมันมีสาเหตุ”
“ตามที่ผมนั้นได้ตัดสินไป พวกเขานั้นก็แค่เพื่อป้องกันตัวนะ!”
“เมื่อต้องเผชิญกับอำนาจและความกดดัน ใครกล้าที่จะโจมตีกลับ ไม่เพียงแต่ไม่ผิด แต่กลับนับว่ากล้าหาญยิ่งนัก!”
“แต่ก็เป็นเพราะหวังเหล่าหู่นั้นเป็นฝ่ายที่เริ่มก่อน ไม่ยอมสอนลูกชายดีๆ รวบรวมคนขี้เกียจคร้าน มาก่อปัญหา ควรที่จะขอโทษอย่างสมเหตุสมผล!”
อีกทั้งยังได้ยินฉินชวนเอ่ยมาว่าอยากให้ขัน้นขอโทษหวังเหล่าหู่นั้นระเบิดออกมาทันที
ข้านั้นมาเพื่อที่จะมาล้างแค้นให้ลูกชายข้า ข้านั้นขมขื่นพอแล้วไหมล่ะ!
ส่วนเจ้านี่ คิดไม่ถึงอยากที่จะให้ตนเองเป็นฝ่ายขอโทษ?นี่มันรับไม่ได้จริงๆ!
เขานั้นพยายามระงับความโกรธแค้น แต่ว่านี่ไม่ใช้รอบแรก เขานั้นฉลาด เมื่อก่อนต้องเผชิญกับข้อกล่าวของ เถียโถว เขารู้สึกว่า ฉินชวนที่เป็นหัวหน้าในเมืองเล็กๆนั้น จะต้องไม่ทำให้เขานั้นอับอาย
ดังนั้น เดิมทีก็ขี้เกียจที่จะเข้าไปอธิบาย
ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขานั้นเอ่ยออกมาแต่ละคำว่า เป็นเพราะ เถียโถวกับฉินเทียน ที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ ฆ่าลูกชายของเขาไป
เขานั้นมาเพื่อล้างแค้น ตามธรรมชาติของมนุษย์นั่นเอง
กัวข่ายยิ้มเยาะเย้ย “ฉินชวน เจ้าได้ยินหรือเปล่า?”
“หวังเหล่าหู่เป็นคนที่ขมขื่นที่สุดนะ อีกทั้งลูกชายของเขานั้น แน่นอนว่าได้ตายในน้ำมือของคนอื่น”
“ตอนนี้ เจ้านั้นอยากที่จะปกป้องฆาตกรไหมล่ะ?”
ฉินชวนไม่คิดเลยว่าหวังเหล่าหู่จะหน้าหนาอะไรขนาดนี้ แค่พริบตาก็เปลี่ยนบทไปสะแล้ว เขากัดฟันเอ่ย:“ขดีข้อนี้นั้น มีความคิดเห็นของคนอื่นๆอีก”
“เรื่องนี้ เพียงแค่ตรวจสอบอย่างละเอียดเล็กน้อย แน่นอนว่าจะต้องเจอความจริงที่ขาวสะอาดแน่นอน!”
“ได้สิ!”กัวข่ายเอ่ยเสียงดัง“ข้านั้นก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นของหัวหน้าฉิน เรื่องต้อง ต้องไปตรวจสอบ !”
“แต่ว่า ก่อนที่จะพบความจริงนั้น ข้านั้นอยากที่จะจับทั้งสองฝั่งไว้เป็นตัวประกันควบคุมเอาไว้สะก่อน รอให้ผลลัพธ์ออกมา ควรจะปล่อยก็ปล่อย ควรจะฆ่าทิ้งก็ฆ่าทิ้งสะ”
“หัวหน้าฉิน คุณนั้นไม่คิดความคิดเห็นแล้วใช่ไหม?”
ฉินชวนกัดฟันเอ่ยไม่ออก เขานั้นคิดไม่ถึงเลยว่ากัวข่ายกลับจะเอ่ยความคิดเห็นนี้ในทันใด ความจริงนั้น ไม่ว่าจะควบคุมตัวฝั่งไหน ในตอนที่ยังไม่รู้ถึงความจริงนั้น ควบคุมตัวทั้งสองฝั่งไว้ นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมแล้ว
เขานั้นไม่ได้มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ
แจ่ว่าเขานั้นทราบดีว่า เพียงแค่กัวข่ายคุมตัวของฉินเทียนและ เถียโถวเอาไว้ พวกเขานั้นจะต้องถูกฆาตกรรมแน่
กัวข่ายที่ทำเช่นนี้นั้น แน่นอนว่าเหมือนแค่เลือกสถานที่ ที่จะฆ่าพวกเขาทิ้งเฉยๆ
ในตอนที่จัดการยังไม่ได้ คิดไม่ถึงเลยว่าทันใดนั้นฉินเทียนจะเอ่ยออกมา
“ข้าคิดว่า เรื่องนี้ยังไงสะก็ยังมีทางออกอยู่นะ”
“ในเมื่อเรื่องนี้จะต้องถูกตรวจสอบ งั้นพวกผมจะไปนกับหัวหน้ากัวรอให้ผลลัพธ์ออก”
ฉินชวนแอบสั่นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยอย่างตื่นเต้น“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่?”
“เจ้าไม่รู้ใช่ไหมว่า ควบคุมตัวของเจ้าไปนั้น หมายความว่ายังไงกัน?”
ฉินเทียนนั้นแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจแล้วเอ่ยยิ้มๆ “ก็แค่เปลี่ยนสถานที่นอนเท่านั้นเอง”
“ผมเชื่อในมังกรซ่อนรูปของพวกคุณนะ ว่าจะต้องให้ความยุติธรรมกับพวกผมได้อย่างแน่นอน”
ฉินชวนอยากจะเอ่ยอะไรต่อ แต่ว่ากัวข่ายเอ่ยตะโกนเสียงดังออกมา “ฉินชวน แม้แต่คนในเรื่องยังยินยอมแล้ว งั้นเจ้าจะเอ่ยอะไรอีกล่ะ?”
“หากจะมาเอ่ยให้เรื่องมันยุ่งเหยิงอีกล่ะก็ อย่าหาว่าข้านั้นตัดสินลงโทษเจ้าที่ตัดสินลำเอียงนะ”
“มาสิ รีบมาเอาฆาตกรมาล่ามโซ่ไว้!”
ฉินชวนอยากคิดที่จะห้าม ด้านข้างหวังเหล่าหู่ได้เอ่ยเสียงดังออกมา “ผมนั้นสนับสนุนมาตรการของหัวหน้ากัว!”
“หัวหน้ากัวนั้นฉลาด ตอนที่เรื่องนั้นยังไม่กระจ่างนั้น นี่คือวิธีจัดการที่ดีที่สุดแล้ว”
“มาสิ มาล่ามผมไว้ก่อนเลย!”
ภายใต้ลูกน้องของกัวข่าย ทันใดนั้นก็ได้มีคนหนึ่งเดินเข้ามา ก่อนที่จะเอาโซ่ที่ทำพิเศษนั้น มาคล้องหวังเหล่าหู่เอาไว้
กัวข่ายที่จ้องมองไปที่ฉินเทียนและเถียโถว ก่อนที่จะเอ่ยอย่างเย็นขา “ตอนนี้ พวกเจ้านั้นอยากที่จะเอ่ยอะไรอีกไหม?”
หากเป็นเช่นนี้ แม้แต่ฉินชวน ก็เอ่ยอะไรไม่ออกแล้ว
ทันใดนั้น ก็ได้มีลูกน้องของ ที่เหมือนกับหมาป่าเดินเข้ามา ก่อนที่จะเอาโซ่คล้องใส่ที่ฉินเทียนและเถียโถว
มองเห็นฉินเทียนที่ยิ้มกริ่ม ราวกับว่าไม่อยากที่จะไม่ไปเข้าคุก เหมือนกับจะไปงานเลี้ยงสะอย่างงั้น เถียโถวและหานหลิง ต่างก็สับสนไปหมด
ไอเจ้าบ้านี่ บ้าไปแล้วจริงๆ หรือว่าแกล้งบ้ากันนะ?
แม้แต่เขานั้นยังมองออกเลยว่ากัวข่ายนั้นแค่แสร้งใช้คำว่าตรวจสอบแล้วจับพวกเขาเอาไว้สะ จริงๆแล้วเพื่อที่จะหาวิธีฆ่าพวกเขาในคุกนั่นแหละ
เมื่อถึงเวลา พวกเขานั้นเป็นนักโทษกัวข่ายก็คือพระเจ้า อยากที่จะฆ่าพวกเขานั้น วิธีนั้นไม่ต้องมากมาย
เมื่อเห็นเถียโถวลังเล ฉินเทียนเอ่ยเสียงเบาๆ “จุดประสงค์ของพวกเขานั้นก็คือเราสองคน”
“เพียงแค่พวกเรานั้นไปกลับพวกเขา ถึงจะสามารถปกป้องคฤหาสน์สถานที่นี้ได้ รวมถึงหานหลิง เข้าใจไหม?”
เถียโถวจิตวิญญาณแอบสะดุ้ง ก่อนที่จิตวิญญาณของเขานั้นจะแสดงออกถึงเห็นความตายเป็นบ้าน
“นำตัวไป!”กัวข่ายเอ่ยสั่งออกมา ก่อนที่จะควบคุมฉินเทียนและ เถียโถวรวมถึงหวังเหล่าหู่ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกไป
ฉินชวนนั้นไม่วางใจ เขานั้นใบหน้าเงียบสงบ คิดไม่ถึงเลยว่า ฉินเทียนนั้นจะหันหน้ามาเอ่ยยิ้มใส่เขาว่า “คุณไม่ต้องตามมาหรอก”
“หากคุณไม่วางใจล่ะก็ ให้รออยู่ที่คฤหาสน์นี้ รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆนั้นให้ปลอดภัย”
“วางใจเถอะ เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้คุณ ผมจะแจ้งมาเอง”
อะไรนะ?
ฉินชวนตกตะลึง
เขามาที่นี่ เพราะมาตามคำเชิญของเถียโถว สำหรับฉินเทียนนั้น ถึงแม้อารมณ์จะโดนเด่นไปสักหน่อย แต่ว่าก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก
เขารู้สึกว่า ฉินเทียนนั้นน่าจะเป็นลูกน้องของเถียโถวสะ
ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเทียน แล้วมองไปในตาลึกๆของเขาแล้ว ฉินชวนกลับรู้สึกว่า ตนเองนั้นเป็นเหมือนหมากรุกตัวเล็กๆเลย
รวมถึงกัวข่ายและหวังเหล่าหู่ ทั้งหมดนั้นไม่ได้สำคัญ
ฉินเทียน เจ้านั้นต่างหากถึงจะเป็นคนที่คอยลงหมากรุกตัวจริงๆ
จะเป็นไปได้ยังไงกัน?
ทันใดนั้นเขาพบว่า ตนเองตั้งแต่ นั้นมองตำแหน่งของตนเองไม่ออก
เรื่องในสถานที่นี่ เถียโถวไม่ใช่ตัวหลักหวังเหล่าหู่ไม่ใช่ตัวหลัก เขาไม่ใช่ตัวหลัก ส่วนกัวข่ายก็ไม่ใช่ตัวหลัก
ตัวหลักเลยจริงๆนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ นั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยได้พูดเลยต่างหาก!
เดิมที เพื่อปกป้องจากลูกน้องของกัวข่าย เขานั้น อยากจะตามไปปกป้อง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเทียนแล้ว กลับทำให้เขานั้นยื่นนิ่งตกลึงอยู่กับที่
ดวงตาที่ต้องมองไปฉินเทียนและเถียโถวรวมถึงหวังเหล่าหู่ โดนควบคุมตัวไปบนเฮลิคอปเตอร์แล้ว
ในรอยยิ้มเสียงเยาะเย้ยของกัวข่าย เฮลิคอปเตอร์นั้นก็ได้ขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้บินออกไปไกล