บัญชามังกรเดือด - บทที่ 723 สามปีที่แล้ว
บัญชามังกรเดือด บทที่ 723 สามปีที่แล้ว
“นายเห็นอะไร?”
ฟังหวังเหล่าหู่เล่า หูรั่วหลันยิ่งอดไม่ได้ที่จะรีบถาม
หวังเหล่าหู่สูดหายใจเข้า : “คุณหนูใหญ่ แม้ว่าฉันจะโกรธสุดสุด แต่ว่าพอถึงหน้าประตูบ้านของพวกคุณ จู่จู่ก็ขี้คลาด”
“ฉันดื่มเหล้าไปเยอะเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะพูดไม่ดีกับเจ้าบ้านหูหรือไม่?”
“ฉันรู้แค่ว่าฉันเป็นคนโง่เขลาคนหนึ่ง บวกกับดื่มไปเยอะมากขนาดนั้น ถ้าหากพูดไม่ดีกับเจ้าบ้านหู อย่างนั้นก็ต้องตายจริงๆ ”
พูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดเล่าสักพัก มองดูหูรั่วหลันแล้วพูด : “คุณหนูใหญ่ ถ้าหากว่าฉันได้ทำเรื่องสกปรก แต่ฉันสาบานว่ากับเจ้าบ้านหูและคุณหญิง ก็คือพ่อแม่ของคุณผมเคารพจากใจจริงๆ
“พวกท่านเป็นบุคคลต้นแบบน่าชื่นชม จิตใจอ่อนโยน ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา ฉันรู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นคนสารเลวคนหนึ่งที่ไม่อาจเทียบได้ ”
“ฉันยกย่องพวกท่านจริงๆนะ”
หูรั่วหลันพูดอย่างเจ็บปวด :“พอแล้ว นายไม่ต้องพูดแล้ว”
“พูดประเด็นสำคัญ!”
ได้ยินหวังเหล่าหู่พูดถึงพ่อและแม่ ก็คิดถึงวันวานความสุขในครอบครัว เธอแทบจะพังทลายลง
สีหน้าที่ซีดเซียว สายตาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองตรงไป
เหลิ่งหยุนจับมือของเธอไว้ ลูบๆส่งพลังและความห่วงใยให้
ฉินเทียนอยากที่จะพูดต่อแต่ก็ไม่พูด เขาอยากจะบอกรั่วหลันว่าพี่ชายของเขาหูเฟยยังมีชีวิตอยู่
แต่คิดถึงสภาพของหูเฟย เขาก็ต้องเก็บไว้ ยังต้องรอหูเฟยมาบอกด้วยตัวเอง
เขารู้ว่าในใจของหูเฟยก็มีความลำบากใจอยู่ นอกจากเขาจะเดินออกมาเอง กล้าที่จะเผชิญหน้า ไม่เช่นนั้นใครก็ช่วยเขาไม่ได้
จะให้พูดให้ถูก ในตอนนี้ยังไม่ถึงชัยชนะครั้งสุดท้าย มีเรื่องบางเรื่องช่วงเวลานี้เก็บเป็นความลับจะดีกว่า
“คุณบอกว่าคุณมาถึงประตูของตระกูลหู หลังจากที่เมาเหล้าจู่ๆก็กลัวขึ้นมา ”
“งั้นก็หมายความว่า คืนนั้นคุณไม่ได้เข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลหู ไม่ได้เจอกับเจ้าบ้านหู?”เขาถามหวังเหล่าหู่
หวังเหล่าหู่พยักหน้า : “ถึงแม้ฉันไม่กล้าเข้าไป แต่กลับไปแบบไร้ประโยชน์ ก็ไม่เต็มใจเล็กน้อย”
“ในคืนนั้นลมค่อนข้างแรงมาก กลิ่นเหล้าของฉันตีขึ้นมา เมาเมามึนมึน ไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว ไม่รู้ยังไงก็เดินมาถึงพุ่มดอกไม้ข้างทางแล้ว ”
“ฉันคิดว่ารอพรุ่งนี้เช้า เมื่อเจ้าบ้านหูตื่นมาฝึกตอนเช้า ฉันค่อยบอกกับเขา”
“ไม่รู้ว่าฉันนอนอยู่ตรงพุ่มดอกไม้ข้างทางนานเท่าไร ในอาการสะลืมสะลือ จู่ๆก็รู้สึกว่าอากาศรอบข้างเปลี่ยนเป็นร้อนระอุ เหมือนกับถูกเผาไหม้อย่างไงอย่าวนั้น หลังจากนั้นฉันก็ถูกกลิ่นควันที่รุนแรงปลุกให้ตื่นขึ้นแล้ว”
นึกย้อนกลับไปภาพนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ในแววตาแสดงให้เห็นถึงแววตาแห่งความกลัว
“ฉันมองเห็นเปลงไฟพุ่งขึ้นฟ้า”
“คฤหาสน์หูซื่อได้ติดอยู่ในทะเลเพลิง!”
“สติผมถึงตอนเกิดเรื่องแล้ว อยากที่จะรีบพุ่งเข้าไปดับไฟ ในตอนนั้น ฉันเห็นคนสองสามคนเดินมาทางฉัน———”
“คือใคร?”
“ใช่หยางต้าวพวกเขาไหม”หูรั่วหลันเจ็บปวดเจียนตาย กัดฟันโกรธ
หวังเหล่าหู่กัดฟันพูด : “ใช่ ก็คือพวกเขา!”
“ในตอนนั้นฉันคิดว่า พวกเขาจะรีบดับไฟ แต่ด้วยแสงของเปลวไฟ เห็นสีหน้าของพวกเขาผิดปกติ!”
“ด้วยสัญชาตญาณของฉัน หลบอยู่ในพุ่มดอกไม้ไม่ได้ออกมา”
“บังเอิญมากที่พวกเขาสามคนเดินมาที่พุ่มดอกไม้ข้างนอก มองดูไฟไหม้พร้อมพูดคุยด้วยเสียงเบาๆ”
ฉินเทียนและคนอื่นๆล้วนรู้ว่าคำสารภาพของหวังเหล่าหู่มาถึงช่วงประเด็นสำคัญแล้ว
เขาได้ยินเรื่องที่พวกหยางต้าวคุยกันทั้งหมด ก็คือความจริงที่อยู่เบื้องหลัง
โศกนาฏกรรมที่ถูกฝั่งกลบไว้มานาน 3 ปีจะได้ถูกเปิดเผย ทุกคนล้วนหยุดหายใจ
ขณะนั้นในห้องแห่งความลับ กลับมีบรรยากาศอึมขรึมและแปลกไป
จ้าวคงบอกว่า : “หยางต้าว ตอนคุณออกมาได้ตรวจดูว่าพวกเขาทั้งหมดหลับไปแล้วใช่ไหม?แน่ใจว่าไม่มีใครหนีออกมาได้นะ?”
หยางต้าวยิ้มอย่างเยือกเย็น : “พวกคุณทั้งสองใส่ยานอนหลับชนิดระงับประสาทในเหล้า ตัวเองไม่รู้เหรอ?”
เว่ยเทียนเหอ: “วางใจเถอะ ใครก็ไม่ตื่นขึ้นมาหรอก”
“หูเฟยล่ะ?หยางต้าว เขาเป็นยังไงบ้าง?”
หยางต้าว : “วางใจเถอะ ฉันให้เขาดื่มชาสงบจิต ไม่ตื่นหรอก”
จ้าวคงและเว่ยเทียนเหอก็ทั้งคู่ยิ้มอย่างเยือกเย็นขึ้นมา
หยางต้าวพูดอีกว่า : “พรุ่งนี้จะสู้หน้าทุกคนยังไง พวกนายคิดไว้แล้วรึยัง?”
จ้าวคงและเว่ยเทียนเหอรีบตบปากรับคำ
เมื่อได้ฟังคำที่พวกเขาพูด ฉันก็เพิ่งรู้ว่า พายุฝนที่เต็มไปด้วยความรุนแรงก่อนหน้านี้ มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหูเรื่องการลงทุนในต่างประเทศผิดพลาดจนต้องปิดกิจการ ล้วนเป็นฝีมือของพวกเขา
พวกเขาบอกว่า เช้าพรุ่งนี้พวกเขาจะประกาศการไว้ทุกข์ เจ้าบ้านหูเพราะว่าต้องเผชิญกับการปิดกิจการ อารมณ์หดหู่ หลังจากดื่มเมาแล้วไม่ทันได้ระวังทำให้เกิดเปลวไฟลุกขึ้น
หลังจากนั้น หยางต้าวหัวเราะอย่างเยือกเย็น : “ตระกูลหูเค้กก้อนนี้จะแบ่งกันยังไง พวกเราค่อยตัดสินใจกันอีกที”
เว่ยเทียนเหอและจ้าวคงล้วนรู้ดี หยางต้าวเป็นเทพวิชาบู๊ พวกเขารีบรับประกัน สามตระกูลแบ่งเป็นตระกูลหู เพื่อให้เกียรติหยางต้าว
นั้นก็เพราะ หยางต้าวแบ่งอุตสาหกรรมให้ตระกูลหูมากที่สุด
ฉันก็เพิ่งจะรู้ในตอนหลัง ดูภายนอกหยางต้าวคือนักต่อสู้ ที่จริงแล้วอยู่ข้างนอก เขาใช้คนมาจัดการบริษัทตั้งนานแล้ว และยังขนาดใหญ่อีกด้วย
เป็นแบบนี้ พวกเขาเข้ามาแทนที่ตระกูลหู กลายเป็นสามตระกูลยักษ์ใหญ่ที่รวมอำนาจฮั่นจงทั้งสามฝ่าย
เป็นครั้งแรกที่ได้รับรู้เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมตระกูล ก็นึกถึงพ่อแม่และพี่ชาย ยังมีอีกหลายชีวิตที่ถูกเผาทั้งเป็น หูรั่วหลันยากที่จะรับได้ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
สามปีแล้ว เธอยังคงเป็นที่สาวที่น่าเป็นห่วงและน่ากังวลได้รับผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจ
ในกลางดึก เธอได้ยินข่าวที่น่าตกใจ เธอยากที่จะเชื่อ
เตรียมตัวกลับประเทศรีบกลับมาจัดงานศพ ก็ได้เจอกับมือลอบสังหาร ที่ฝ่ายตรงข้ามคือหยางต้าวพวกนั้นได้ส่งนักฆ่าออกมา ตอนนี้ต้องการฆ่าทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเศร้าสลดอีกต่อไป
ในเวลาเดียวกันให้เธอตายบนแผ่นดินต่างประเทศ เพื่อป้องกันเรื่องวุ่นวายบางเรื่องได้พอดี
ในช่วงเวลาสุดท้ายนี้ เธอถูกครูคนหนึ่งช่วยไว้ ในตอนนั้นเพิ่งรู้ว่า ครูที่อ่อนโยนและใจดีคนนี้ แท้จริงแล้วเป็นผู้เชี่ยวชาญนินจา
ซากุราโกะปลอมแปลงการตายของหูรั่วหลัน หลอกนักฆ่า เธอชอบหูรั่วหลันมาโดยตลอด หลังจากที่ได้รู้สิ่งที่เธอต้องเผชิญหน้า จึงเกลี้ยกล่อมเธอถ้าต้องการแก้แค้นต้องเรียนพื้นฐานก่อน
ดูเหมือนว่า หูรั่วหลันหายออกไปจากมหาลัยโทยามะ ที่จริงแล้วคำนับซากุราโกะเพื่อขอเป็นลูกศิษย์ เรียนนินจาอย่างลับลับ
ระหว่างนั้นหูรั่วหลันเอ่ยปากต้องการแก้แค้นหลายครั้ง ทั้งหมดได้ถูกซากุราโกะปรามไว้
ซากุราโกะบอกว่ายังไม่ถึงเวลา
ช่วงก่อนหน้านี้ ความลับของซากุราโกะได้ถูกเปิดเผยให้กับเหลิ่งหยุน สั่งให้เหลิ่งหยุนไปสืบกรณีการตายอย่างทรมานในปีนั้น
กรณีนั้นก็ทำให้ ซากุราโกะเข้าความรู้สึกที่แท้จริง เดิมทีหลังจากเสร็จเรื่องนี้แล้วเธอเตรียมตัวที่จะผ่อนคลายไม่เป็นกังวล มาอาณาจักรมังกรเพื่อแก้แค้น
คิดไม่ถึงว่าหูรั่วหลันรอไม่ไหว ใช้ช่วงเวลาที่ซากุราโกะยุ่งอยู่กับการเตรียมงานชุมนุมอู้ไถ เธอแอบหนีกลับประเทศคนเดียว
หลังจากที่งานชุมนุมอู้ไถสร็จสิ้น ซากุราโกะรู้ความสามารถของฉินเทียนและเหลิ่งหยุน บวกกับที่เธอเป็นผู้รับผิดชอบกลุ่มต้นกล้า มีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ
ดูเหมือนว่าเธอล้มเลิกที่จจะมาอาณาจักรมังกรเอง แต่วานให้เหลิ่งหยุนดูแลหูรั่วหลัน
เหลิ่งหยุนอาศัยอยู่ที่บ้านไม้ไผ่ที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตสามวัน ก็มาที่เมืองฮั่น พวกเธอล้วนเป็นนินจา มีสัญลักษณ์พิเศษอยู่ ดังนั้นหาหูรั่วหลันได้อย่างง่ายดาย
ทั้งสองคนสืบอย่างลับๆ กับฉินเทียนและเถียโถว แนวทางการหาไม่เหมือนกัน แต่ข้อมูลไปทางเดียวกัน
ในขณะนี้ เหลิ่งหยุนกอดหูรั่วหลันไว้ในอ้อมกอด ตาแดงก่ำ เธอกัดฟันพูดกับฉินเทียน : “พวกสารเลวเยี่ยงสัตว์เดรฉานเหล่านี้ นายต้องไม่ปล่อยพวกมันไป!”
เธอทุกข์ทรมานเรื่องพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก ในวินาทีนี้ รู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารเหมือนกับหูรั่วหลัน