บัญชามังกรเดือด - บทที่ 73 คุณฉิน ขอโทษ
“ท่านนี้ก็คือคุณซูเหรอ? สวยจริง ๆ !”
“หลี่เฟิน ฉันจำได้ที่เธอพูด คุณซูปีนี้อายุ24ปีใช่ไหม? อายุน้อยกว่าอะเฉินของฉันปีหนึ่ง”
“ดูผิวพรรณก็มีน้ำมีนวลเหมือนทำจากน้ำอย่างนั้น”
เหอซิ่วดึงมือของซูซูอยู่เหมือนแม่สามีดูลูกสะใภ้อย่างนั้นสังเกตุดูอย่างละเอียด
หลี่เฟินรีบยิ้มพูด“ที่เสียใจที่สุดในชีวิตของฉันนี้ก็คือไม่ได้มีลูกสาวเหมือนซูซูอย่างนี้คนหนึ่ง”
“แต่นี่ก็เหมือนกับลูกสาวแท้ ๆ ของฉันล่ะ”
“เหอซิ่ว อะเฉินของพวกเธอก็ไม่เลวนะพ่อหนุ่มหน้าตาหล่อ ฉันได้ยินว่ากลับมาจากเรียนต่อที่เคมบริดจ์?”
เหอซิ่วพูดอย่างภาคภูมิใจ“ใช่แล้ว พวกเราเป็นนักเรียนดีเด่นของเคมบริดจ์”
“ตอนนี้เป็นผู้จัดการที่ยี่ต๋าพลาซ่า เธอรู้ไหมยี่ต๋าพลาซ่านั่นเป็นบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงระหว่างประเทศ”
“ยังหนุ่มอย่างนี้ก็เป็นผู้จัดการของยี่ต๋าพลาซ่าแล้ว เยี่ยมยอดจริง ๆ ”
“ดูแล้ววันหลังพวกเราไปซื้อของที่ยี่ต๋าพลาซ่าต่างก็มีการดูแลแล้ว”
“เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว!”
“อีกทั้งฉันจะบอกเธอ อะเฉินของพวกเราเป็นผู้จัดการที่ยี่ต๋าพลาซ่าเพียงแค่ชั่วคราว”
“สำนักงานใหญ่นี่คือเพื่อฝึกฝนเขา ถึงให้เขาทำจากระดับพื้นฐานขึ้นมา”
“ไม่ถึงสองสามปีก็โยกย้ายไปที่สำนักงานใหญ่แล้วรับผิดชอบโครงการใหญ่ ยังไงเขาก็เป็นนักเรียนดีเด่นของเคมบริดจ์”
“ตำแหน่งผู้จัดการเล็ก ๆ จะคู่ควรกับเขาได้ยังไง”
ผู้หญิงสองคนพูดคุยอวดซึ่งกันและกัน พูดคุยเข้ากันได้ดี
คุณท่านหยางเต๋อกวงพูดชมเชยว่า“ที่เคมบริดจ์คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติเหล่านี้คือโดดเด่นที่สุด”
“คอมพิวเตอร์และการเงินก็ไม่เลว”
โกวเฉินรีบพูด“วิชาเอกของผมคือการเงิน วิชารองคือคอมพิวเตอร์”
“เข้าในยี่ต๋าพลาซ่าเป็นผู้จัดการแผนกหน้าร้านเพียงแค่เป็นเครื่องมือที่จะข้ามผ่าน ผมพูดคุยทั้งคืนกับท่านประธานใน อนาคตเขามีแผนการที่ยิ่งใหญ่อันหนึ่ง”
“ถึงเวลานั้นจะมอบให้ผมมาทำสถิติประมาณการ นั่นก็คือโครงการโมเดลหมื่นล้าน”
หลี่เฟินมีใบหน้าที่ตื่นเต้น“โอ๊ย นั่นก็สุดยอดมากแล้ว!”
“โกวเฉิน โครงการใหญ่อย่างนี้ถึงเวลานั้นสามารถให้ซูซูมาช่วยคุณได้นะ”
“ซูซูของพวกเราก็เป็นผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถที่เลืองชื่อ อีกทั้งตอนนี้ก็ทำบริษัทของตัวเอง”
โกวเฉินรีบพูด“สามารถทำงานร่วมกับคุณซูได้เป็นเกียรติอย่างยิ่ง!”
สายตาที่เขามองซูซูตรงดิ่ง
ตั้งแต่ต้นจนจบซูซูไม่ได้พูด โกวเฉินคนนี้มองไปแล้วยังไม่เลวแต่กลับให้ความรู้สึกแก่เธอว่าเสแสร้งเลื่อนลอยมากชนิดหนึ่ง
“คุณยาย หนูเหนื่อยแล้วอยากกลับไปพักผ่อนที่ห้อง” เธอพูดอย่างใจร้อน
เจิงหงซิ่วก็ไม่ได้พูดตลอด พูดจริง ๆ เธอเห็นคนมามากมาย แวบแรกที่เห็นก็ไม่ค่อยชอบโกวเฉิน
หนักแน่นไม่พอ
ภายใต้การเปรียบเทียบ แวบแรกที่มองเห็นฉินเทียนกลับให้ความรู้สึกที่น่าชมและน่าประหลาดใจมากแก่เธอ
เดิมทีพวกเขาต่างคิดว่าฉินเทียนจะต้องเป็นนักเลงที่ปลิ้นปล้อนหน้าตาน่าเกลียดคนหนึ่ง ดังนั้นแวบแรกที่มองเห็นก็ตกตะลึงมาก
แต่เวลานี้พวกเขาต่างก็ยืนยันแล้วนั่นก็คือฉินเทียนตั้งใจเสแสร้งทำออกมา
ไม่ได้รอนายหญิงใหญ่พูด หลี่เฟินรีบพูดว่า“ซูซู ให้คุณชายโกวไปเป็นเพื่อนเธอ”
“พอดีเลย พวกเธอคนหนุ่มสาวคุยให้ดี ๆ ”
เธอยังคงทำหน้าที่ของแม่สื่ออย่างเต็มที่จริง ๆ
โกวเฉินรีบพูดว่า“คุณซู คุณอยากไปที่ไหน? ผมไปเป็นเพื่อนคุณ”
“พอดีเลย ผมสามารถเล่าประวัติศาสตร์และเรื่องที่น่าสนใจบางอย่างของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ให้คุณฟังได้”
“เชื่อว่าตอนที่คุณเรียนมหาวิทยาลัยก็เคยใฝ่ฝันที่จะเข้าเคมบริดจ์สถาบันการศึกษาระดับสูงอย่างนี้ใช่ไหม”
ซูซูหน้าบึ้งอยู่ไม่ขยับแล้ว
เธออยากที่จะไปพักผ่อนเพียงแค่เพื่อที่จะหลบโกวเฉิน ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามต้องการติดตามงั้นเธอยังไม่สู้อยู่ที่นี่
เหอซิ่วมองไปทางหลี่เฟินอย่างขอความคิดเห็น
หลี่เฟินยิ้มพูด“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเราก็พูดเปิดอกแล้วกัน”
“วันนี้ฉันจะเป็นแม่สื่อให้หลานสาวคนนี้ สภาพการณ์บางอย่างของเธอก่อนหน้านี้ฉันก็เคยพูดกับแม่ของคุณแล้ว”
“ตอนนี้ก็ดูความคิดเห็นของคุณชายโกวแล้ว”
“คุณไม่รู้สึกว่าควรจะพูดอะไรหน่อยเหรอ?”
โกวเฉินรู้คือให้เขาแสดงออก การพูดของเขาไม่เลวพูดเอาฐานะที่เป็นนักเรียนเรียนต่อของตัวเองอีกทั้งแสดงถึงการวางแผนทำงานในอนาคตที่ยิ่งใหญ่ออกมาอย่างสวยงามน่าฟัง
ทันใดนั้นทุกคนทั้งหมดต่างก็ถูกดึงดูดความสนใจแล้ว
ดูเหมือนที่ยืนอยู่ข้างหน้าไม่ใช่ผู้จัดการเล็ก ๆ คนหนึ่งแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงยุคของผู้นำธุรกิจ
สุดท้ายแม้กระทั่งนายหญิงใหญ่ที่ยังมีความลังเลเล็กน้อยต่างก็ถูกทำให้หวั่นไหวแล้ว
โกวเฉินดึงดูดสายตาของทุกคนได้สำเร็จแล้ว เขากลืนน้ำลายอึกหนึ่งแล้วคุกเข่าข้างเดียวบนพื้น หยิบแหวนเพชรหนึ่งกะรัตออกมาหนึ่งวง
สายตามองซูซูอยู่อย่างร้อนผ่าว คิดไม่ถึงว่าจะขอแต่งงานในตอนนั้นเลย!
“โอ๊ย อะเฉินของพวกเธอเด็ดขาดมากแล้วจริง ๆ ”
“เด็กผู้ชายก็ควรจะอย่างนี้ ทำอย่างรวดเร็วเด็ดขาดให้เสร็จภายในเวลาอันสั้น” หลี่เฟินรีบชม
“อะเฉินรีบพูดสิ”
“ลูกอยากที่จะพูดอะไรกับคุณซู?” หลังเห็นลูกชายคุกเข่าลงก็ไม่พูดแล้ว เหอซิ่วอดไม่ได้ที่จะเร่ง
ที่จริงก่อนที่จะมาเธอได้ส่งคนตรวจสอบซูซูอย่างเร่งด่วนแล้ว รู้ว่าเธอใช้สิทธิบัตรอันหนึ่งเพิ่งได้รับเงินลงทุนจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่ง
นี่คือคลังทองหนึ่ง!
ถ้าไม่ใช่อย่างนี้เธอจะให้ลูกชายของตัวเองแต่งกับผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่งได้ยังไง
โกวเฉินยังคงอ้าปากอยู่ไม่พูด
เพราะหลังคุกเข่าแล้วจู่ ๆ เขามองเห็นบนนิ้วมือของซูซูสวมใส่ไข่นกพิราบเม็ดใหญ่อยู่วงหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เพียงห่วงแค่มองหน้าแล้วไม่ได้สังเกตุรายละเอียดอันนี้
ตอนนี้ ไข่นกพิราบนี้……ทำไมคุ้นตาอย่างนี้?
ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนมาก!
เพราะเขามองเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลัง
ใบหน้าที่เย็นชานั่นและดวงตาลึกเต็มไปด้วยแรงการฆ่า ทำให้วิญญาณของเขาออกจากร่าง
“คุณชายโกว คุณนี่คือต้องการขอแต่งงานกับภรรยาของผมเหรอ?” เสียงของฉินเทียนเย็นชา
โกวเฉินได้ยินก็เหมือนกับปีศาจกำลังกัดฟัน เสียงตึ้งหนึ่งสองขาของเขาต่างก็คุกเข่าแล้ว
หลี่เฟินรีบพูด“คุณชายโกว คุณอย่ากลัว!”
“ซูซูของพวกเราเดี๋ยวก็จะหย่ากับเขาแล้ว เดิมทีเขาก็ไม่คู่ควรกับซูซู!”
ใครจะรู้ โกวเฉินกลับพูดอย่างหวาดกลัวและใจที่ไม่สงบ“คุณฉิน ขอโทษด้วย!”
“ผมไม่รู้ว่าคุณซูก็คือภรรยาของคุณ!”
“คุณใจกว้างมีความเมตตาปล่อยผมไปอีกสักครั้งเถอะ!”
คิดถึงฐานะนั่นที่น่ากลัวของฉินเทียนแล้ว เขามีสีหน้าขาวซีดก้มหน้ากึก ๆ
เมื่อกี้ที่เขาพูดว่าตัวเองได้รับรางวัลชื่นชมจากเถ้าแก่ เอาโครงการใหญ่อันหนึ่งมอบให้เขาที่จริงแล้วก็คือคุยโม้
เขาในฐานะที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปเรียนต่อที่เคมบริดจ์ ที่จริงแล้วคือไปล้างจานสองสามปีที่เมืองนอกแล้ว ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้รับประกาศนียบัตรจบการศึกษา
อีกอย่างถึงแม้ว่าเหล่านี้ล้วนเป็นความจริงแล้วยังไงอีก?
เถ้าแก่ใหญ่ที่เขาต้องการประจบทั้งหมดก็เชื่อฟังคำสั่งของฉินเทียน!
นี่คือความแตกต่างอะไร?
คนที่เหลือทั้งหมดต่างก็มึนงงแล้ว เมื่อกี้คุณชายโกวที่ยังเลิศหรูทำไมเห็นฉินเทียนแล้วก็กลายเป็นคนที่อ่อนแอแล้วในพริบตา?
โกวเฉิน เพราะอะไรกลัวฉินเทียนอย่างนี้?
“อะเฉินลูกเป็นอะไรไปแล้ว?”
“ลูกอย่าทำให้แม่ตกใจสิ!”เหอซิ่วมีใบหน้าที่ตื่นตระหนกตกใจ
“แม่ กลับบ้านไปค่อยพูดกับคุณ!”
“วันนี้ก็คือความเข้าใจผิด!”
“ผมคนที่ล้มเหลวอย่างนี้จะคู่ควรกับคุณซูได้ยังไงล่ะ?”
“มีเพียงคุณฉินผู้ชายอย่างนี้ถึงจะคุ้มค่าที่จะครอบครองคุณซู!”
“แม่ พวกเรารีบไปเถอะ!” โกวเฉินคลานขึ้นมาดึงแม่ของเขาอยู่แล้วหนีไป
“คนแซ่ฉิน นี่สรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“สรุปแล้วนายทำอะไรกับคุณชายโกว นายพูดกับฉันให้ชัดเจน!” หลี่เฟินร้อนรนแล้ว
ฉินเทียนก็คิดไม่ถึงตระกูลหยางจัดเตรียมหาคู่ครองมาทำความรู้จักกับภรรยาของตัวเอง คิดไม่ถึงว่าเป็นโกวเฉินคนนี้
เขาเงียบอยู่กำลังคิดควรจะอธิบายยังไงดี พูดฐานะของตัวเองออกมาเลยตรง ๆ สำหรับพวกเขาแล้วเป็นเรื่องที่ไร้สาระและแปลกแน่นอน
“คนแซ่ฉิน ครั้งนี้เอาเปรียบนายแล้วให้นายได้รับข้อดีจากฉันแล้ว”
“คุณป้า ที่จริงแล้วโกวเฉินถูกผมทำให้ตกใจกลัวหนีไป มีครั้งหนึ่งผมเจอเขาอยู่กับนักเลงสองสามคน”
“ผมสั่งสอนนักเลงสองสามคนนั้นแล้ว น่าจะทำให้เขาตกใจแล้ว”
“เมื่อกี้เขาน่าจะคิดว่าผมเป็นคนของฉินเทียนทางนี้ ดังนั้นกระทั่งกลัวฉินเทียนไปด้วย”
ถงชวนพูดอยู่ก็ยิ้มพูดอย่างได้ใจอีกว่า“แต่ตกใจหนีไปก็ดีแล้ว เขาคนอย่างนั้นเดิมทีก็ไม่คู่ควรกับคุณซู”
“ตอนนี้ถือว่าเงียบสงบแล้ว”