บัญชามังกรเดือด - บทที่ 743 ทูตชุดขาว
บัญชามังกรเดือด บทที่ 743 ทูตชุดขาว
กองกำลังของซีเตี้ยนดูเหมือนเป็นสิ่งของล่อตาล่อใจ แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ ย่อมเป็นสถานการณ์ที่รับมือได้ยาก
ถงจิ่งบำเพ็ญตนมาเนิ่นนานหลายทศวรรษ น้อยเหตุการณ์ที่จะทำให้เขาสูญเสียขอบเขตของคำพูดและการกระทำ
ตอนนี้ โดยไร้สัญญาณเตือนล่วงหน้าเหตุการณ์ที่ยากจะรับมือได้ก็ถูกนายหญิงใหญ่มอบให้แก่เขา ชั่วขณะหนึ่งเขารู้สึกสับสนและร้อนรนเล็กน้อย
นายหญิงใหญ่ไม่มีทางตัดสินใจอะไรโดยง่าย ยิ่งไปกว่านั้นโดยเฉพาะเรื่องสำคัญมากเช่นนี้
ดังนั้นแล้วจะต้องมีความหมายลึกซึ้งอย่างแน่นอน
ตอนนี้ถงจิ่งก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้เลย จุดประสงค์ของนายหญิงใหญ่คืออะไรกันแน่
“นายหญิงใหญ่!”
ท้ายที่สุดหยางหลิวก็ฟื้นคืนสติ เธอลุกขึ้นยืนด้วยความร้อนรนพร้อมกับเอ่ยด้วยเสียงดังลั่น “ฉันคิดว่าเรื่องนี้นั้นไม่เหมาะสม!”
“ซีเตี้ยนนั้นเพิ่งตายจากไป เรื่องแรกที่พวกเราจะต้องทำนั่นก็คือการแก้แค้นให้กับเขา!”
“ยอดฝีมือที่เป็นลูกน้องใต้บัญชาของเขามีมากมาย พวกเขาล้วนแต่จงรักภักดีต่อตระกูลฉินของพวกเรา ในวันนี้เขาตายอย่างน่าอนาถภายใต้น้ำมือของฉินเทียน หากพวกเราไม่แก้แค้นแล้วพวกเขาจะนอนตายตาหลับได้อย่างไร?”
“ตระกูลฉิน จะเผชิญหน้ากับคนเหล่านั้นที่จงรักภักดีต่อเราได้อย่างไร?”
“คุณไม่เอ่ยถึงการแก้แค้น ในวินาทีแรกกลับครอบครองธุรกิจของซีเตี้ยน ไม่กลัวว่าจะกระทบต่อจิตใจของทุกคนงั้นเหรอ?”
ภายในตระกูลฉิน แต่ไหนแต่ไรต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ไม่มีผู้ใดกล้าต่อต้านนายหญิงใหญ่
ชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าของทุกคนต่างตื่นตระหนก
ไม่รู้ว่านายหญิงใหญ่จะตอบโต้กลับเช่นไร
สีหน้าของต่งซวงจุนนั้นไร้ซึ่งการแสดงออกใด เอ่ยอย่างเย็นชา “มีใครที่คิดว่าฉันได้กระทำเรื่องไม่เหมาะสมอีกบ้าง?”
“หากใครเห็นด้วยกับหยางหลิว คนผู้นั้นจงยืนขึ้นให้ฉันได้เห็นหน่อย!”
ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา คนมากมายต่างก้มศีรษะลง
หยินจ๋ากัดฟันแน่น ก้าวออกไปท่ามกลางฝูงชนและเอ่ยเสียงดัง “การตายของซีเตี้ยน ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องของเขาแต่เพียงผู้เดียว แต่ยังเป็นหน้าเป็นตาของตระกูลฉินอีกด้วย”
“ฉินเทียนในฐานะคนของตระกูลฉิน กลับทำเรื่องโหดเหี้ยมและไร้ความปราณีแบบนี้ หากครั้งนี้ไม่ล้างแค้นให้กับพวกเขา เกรงว่าตระกูลฉินคงจะทำให้ผู้คนบนโลกนี้หัวเราะเยาะตระกูลเข้าให้แล้ว”
เมื่อมีหยินจ๋าเป็นผุ้นำ บุคคลสำคัญมากมายที่ได้รับการซื้อตัวจากหยางหลิวและฉินเปียวต่างก็ลุกขึ้นยืน
พวกเขานั้นมีสิทธิมีเสียง นี่เป็นครั้งแรกที่นายหญิงใหญ่ถูกบีบบังคับและไล่ต้อนเช่นนี้
ราวกับว่าต่งซวงจุนนั้นได้คาดเดาเหตุการณ์นี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว ใบหน้าของเธอดูนิ่งงันและไม่แสดงอาการใด
“ใครบอกกว่าฉันจะไม่แก้แค้นงั้นเหรอ?”
“มีคำกล่าวไว้ว่าศึกภายในต้องสงบก่อนจึงค่อยสู้ศึกภายนอก”
“ในวันนี้ฉินเทียนปีกกล้าขาแข็ง หากต้องการต่อกรกับเขาก็ต้องคิดแผนระยะยาว”
“หยินจ๋า ในเมื่อคุณมีความคิดริเริ่มและความกระตือรือร้นเช่นนี้ งั้นจากนี้ไปเรื่องการแก้แค้นให้ซีเตี้ยนก็มอบให้เป็นหน้าที่ของคุณก็แล้วกัน”
“ฉัน—-” หยินจ๋าตะลึงงัน
เขาคาดไม่ถึงเลย นายหญิงใหญ่จะพายเรือตามน้ำ[1]เช่นนี้ มอบเรื่องแก้แค้นให้เขาอย่างง่ายดาย
พลังอำนาจของซีเตี้ยน แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่รับมือได้ยาก แต่นั่นก็เป็นสิ่งของที่ล่อตาล่อใจ ตราบใดที่การส่งมอบธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น ถงจิ่งก็จะกลายเป็นราชาที่ทรงอำนาจมากที่สุดในทันใด
ส่วนการแก้แค้น…นั่นคือเรื่องที่ยากลำบากและมีแต่ความไม่พอใจ!
หากไม่ระวังก็สามารถคร่าชีวิตได้!
ฉินเทียนนั้นรับมือยากมาเพียงใด ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทุกคนนั้นรับรู้ แรกเริ่มเถียหยิงได้พบเจอกับอุปสรรค ต่อมาเจิ้นเทียนหนานได้ตายจากไปอย่างน่าอนาถ
หลังจากนั้นมือสายฟ้าถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว เขาอยู่ภายในโถงใหญ่และอาเจียนออกมาเป็นเลือดอย่างไม่หยุดหย่อนและตายจากไปในท้ายที่สุด
ศพของซีเตี้ยนถูกวางอยู่ตรงหน้า
ตอนนี้ให้เขาหยินจ๋าไปจัดการและต่อกรกับฉินเทียนผู้โหดเหี้ยมคนนั้น?
นายหญิงใหญ่เอ่ยถามด้วยเสียงราบเรียบ “ทำไมกัน? คุณไม่ยินยอมงั้นเหรอ?”
“ฉัน—-” ใบหน้าของหยินจ๋าแดงก่ำ เขากัดฟันแน่นและเอ่ย “ยินดีมากครับ!”
“นายหญิงใหญ่โปรดวางใจ ฉันจะจับกุมฉินเทียนให้ได้โดยเร็วและนำตัวเขามามอบให้แก่นายหญิงใหญ่!”
นายหญิงใหญ่พยักหน้า “นับว่าดี”
“ฉันจะให้เวลาคุณหนึ่งเดือน จับกุมฉินเทียนให้ได้ จำไว้จับเป็นเท่านั้น”
“คนกบฏเช่นนี้ เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะเปิดโถงบรรพบุรุษ ต่อหน้าเหล่าบรรพบุรุษ ฉันจะลงโทษเขาอย่างสาสาม!”
จับเป็น?
นั่นยิ่งยากมากขึ้นไปอีก
เขาขุดหลุมให้แก่ตัวเอง เช่นนั้นเขาทำได้เพียงแค่กระโดดเข้าไปด้วยตัวเขาเอง
“ครับ นายหญิงใหญ่” หยินจ๋ากัดฟันแน่นและตอบตกลง
สมแล้วที่เป็นนายหญิงใหญ่ เรื่องใหญ่ขนาดนี้สามารถจัดการให้เหมาะสมได้โดยคำพูดเพียงไม่กี่คำและใช้วเลาเพียงไม่กี่นาที
หยางหลิวรู้สึกไม่ยินยอม หล่อนต้องการจะกล่าวบางสิ่ง ในขณะนี้ลูกน้องใต้บัชญาคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงาน
“รายงานนายหญิงใหญ่ มีคนผู้หนึ่งมายังหน้าประตูและกล่าวว่าตนคือทูตของมังกรซ่อนรูป”
“ในมือถือหนังสือกฎหมายและหมายเรียก กล่าวว่ามาจับกุมคนผู้หนึ่ง”
อะไรนะ?
คนของมังกรซ่อนรูปมายังตระกูลฉินเพื่อจับกุมคนผู้หนึ่งงั้นเหรอ?
“ทูตของมังกรซ่อนรูปอะไรกัน อยากตายหรืออย่างไรถึงได้กล้ามากระตุกหางเสือ!”
“รีบไสหัวออกไป!”
หยินจ๋ารู้สึกโกรธเคืองมากและไร้ที่ระบาย เขาเอ่ยเสียงดังลั่น
หยางหลิวได้ยินว่าเป็นคนของมังกรซ่อนรูป หล่อนเองก็รีบออกหน้าเช่นกัน
“นายหญิงใหญ่ ฉินเทียนและคนของมังกรซ่อนรูปนั้นร่วมมือกัน เหตุการณ์นองเลือดเมื่อคืนนี้ที่จวนราชาซีเตี้ยนพวกเขานั่นแหละที่เป็นคนทำ!”
“อย่าได้ปล่อยพวกเขาไปเด็ดขาด!”
“ฉันขอแนะนำว่าให้กำจัดมังกรซ่อนรูปตะวันตก!”
“พูดพล่ามสิ่งใด!” นายหญิงใหญ่เอ่ยด้วยท่าทีองอาจ “มังกรซ่อนรูปคือฝ่ายทางการ พวกเรานั้นมีฐานะเพียงสามัญชน”
“สามัญชนทำร้ายฝ่ายทางการ เธอคิดก่อกบฏงั้นหรือ?”
“ตระกูลฉินนั้นมีความชอบธรรมอย่างชัดเจน คำครหานี้ไม่สามารถแบกรับเอาไว้ได้หรอก!”
“พวกนายไปเชิญทูตเข้ามา!”
หล่อนยืนขึ้นขณะกล่าว เดินลงจากแท่นสูงด้วยตัวของหล่อนเอง ในมือถือไม้เท้าหัวมังกรและยืนอยู่ด้านล่างแท่นเพื่อคอยต้อนรับ
นายหญิงใหญ่แสดงท่าทางเป็นมิตร แม้ว่าคนอื่นนั้นจะรู้สึกโกรธเคืองมาก แต่ทว่าก็ต้องแสดงสีหน้าทำความเคารพ
อย่างน้อยในซีเป่ย ในแง่ของความแข็งแกร่งและชื่อเสียง พวกเขาสามารถเพิกเฉยต่อมังกรซ่อนรูปตะวันตกได้
แต่ทว่า คนของทางการ
ในไม่ช้า ทูตชุดสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับหมายเรียกตัว ใบหน้าและท่าทีเคร่งขรึมจริงจัง
เผชิญหน้ากับยอดฝีมือมากมายแห่งตระกูลฉิน เขาไม่แม้แต่จะเกรงกลัว ลมหายใจและร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยความชอบธรรม
“ฉันต่งช่วงจุน บุคคลสำคัญแห่งตระกูลฉิน ยินดีต้อนรับท่านทูต”
นายหญิงใหญ่ที่ผมขาวเต็มไปทั่วทั้งศีรษะ ยกมือทั้งสองประสานกันแล้วยกขึ้นในระดับหน้าอกแสดงท่าทีทำความเคารพ
ท่านทูตรีบกล่าว “นายหญิงใหญ่ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้นหรอก”
นายหญิงใหญ่เอ่ยด้วยเสียงดังฟังชัด “ตระกูลฉินนั้นยุติธรรมและปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด มีความชอบธรรมอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ละเมิดกฎหมายนั้น ได้โปรดท่านทูตชี้แจงด้วย”
“ถ้าหากเป็นเรื่องจริง ฉันจะลงโทษอย่างสาสม!”
ทูตชุดขาวนั้นคือกู้หมิง
เขาแสดงตัวตนและฐานะของเขา อีกทั้งยังแสดงใบรับรองของมังกรซ่อนรูปเพื่อยืนยันตัวตนของเขา
ขณะที่จะกล่าวบางสิ่ง ฉับพลัน ภายในโถงใหญ่เกิดเสียงร้องตะโกนดังขึ้น คนผู้หนึ่งรีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก
“ฆาตกร!”
“เขาเป็นหนึ่งในฆาตกร!”
“ฉันเห็นเขาฆ่าคนด้วยตาของฉันเอง!”
“ได้โปรดนายหญิงใหญ่สังหารเขาในทันที!”
คนผู้นี้เป็นพ่อบ้านของราชาซีเตี้ยน เมื่อวานนี้ฉินเทียนเป็นผู้นำฝูงชนมายังลานกว้างของซีเตี้ยน และฆ่ากลุ่มคนที่เป็นแกนนำหลัก
คนที่อยู่ด้านนอกนั้นถูกควบคุมตัวไว้เพียงชั่วคราวและไม่ถูกสังหาร
ขณะที่พวกเขาจากไป พวกเขาต่างพูดคุยและหัวเราะกัน พ่อบ้านแสร้งทำเป็นตายและเห็นกู้หมิง
เมื่อสักครู่ที่กู้หมิงเดินเข้ามาด้านใน เขารู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้านี้ เนื่องจากเมื่อคืนนี้ไม่ค่อยมีแสงส่องสว่างมากเท่าไรนัก สถานการณ์วุ่นวาย อีกทั้งหลังจากที่กู้หมิงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ได้สวมใส่ เขาค่อนข้างแตกต่างไปจากตอนนั้น
ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถจำได้ในทันที
ในตอนนี้ท้ายที่สุดเขาก็มั่นใจ เช่นนั้นเขาจึงรีบพุ่งตัวเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก
อะไรนะ?
ท่านทูตที่อยู่ตรงหน้านี้คือหนึ่งในฆาตกรที่สังหารซีเตี้ยน?
“สังหารคนของพวกเขายังกล้ามาที่นี่เพียงลำพัง ช่างกล้าหาญอวดดีมากเกินไปแล้ว!”
“คิดว่าตระกูลฉินนั้นสามารถรังแกได้โดยง่ายงั้นหรือ?”
“ฆ่าเขา!”
“หั่นชิ้นส่วนบนร่างกายของเขาแล้วนำไปโยนให้สุนัขเสีย!”
เสียงร้องตะโกนนำโดยหยินจ๋า ยอดฝีมือมากมายของตระกูลฉินต่างก็ถูกปลุกเร้าอารมณ์ให้ฮึกเหิม พวกเขาต่างค่อยๆดึงดาบออกมาและพุ่งตัวไปห้อมล้อมกู้หมิง
อาจกล่าวได้ว่าด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา ไม่ว่าคนใดคนหนึ่งก็สามารถเอาชนะกู้หมิงได้
ขณะนี้กู้หมิงตกอยู่ภายในสถานการณ์อันตรายเพียงลำพัง เขามายังถ้ำของเสือเข้าเสียแล้ว
พายเรือตามน้ำ[1] หมายถึง ถือโอกาสทำตามสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยหรือสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย