บัญชามังกรเดือด - บทที่ 784 รอคอยให้ผลมาเองโดยไม่ลงมือขวนขวาย
บัญชามังกรเดือด บทที่ 784 รอคอยให้ผลมาเองโดยไม่ลงมือขวนขวาย
“พี่เทียน ทำไมยังหยุดยืนอยู่ตรงนี้อีกล่ะ? พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
“ครั้งนี้พวกเราจะต้องชนะอย่างแน่นอน!”
เหลิ่งหยุนกล่าวอย่างตื่นเต้น
ฉินเทียนมองไปยังทิศทางที่ฉินเปียวและคนอื่นหายลับไป แล้วกล่างอย่างเย้ยหยันว่า “เขาหวงลูกนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะเคยมาแล้วหลายครั้ง แต่ถ้าให้เทียบกับฉินเปียวแล้ว จำนวนครั้งนั้นยังน้อยกว่ามากเกินไป”
“ในช่วงเวลาที่ฉันออกจากบ้านไปหลายปี ที่นี่ก็ได้กลายไปเป็นสวนหลังบ้านของฉินเปียวไปแล้ว ต้นไม้และพุ่มไม้ทุกต้น แมลงและสัตว์ทุกตัวของที่นี่ต่างก็ต้องมีความคุ้นเคยกับเขาอย่างแน่นอน”
“หากเราแข่งขันกับพวกเขาด้วยความเร็วแล้วละก็ เราจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน”
“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”
“เราไม่สามารถที่จะยืนอยู่ที่นี่ได้ตลอด แล้วค่อยเฝ้ามองให้พวกเขาชนะอย่างนั้นเหรอ?”เถียหนิงซวงกล่าวอย่างไม่เข้าใจ
ผู้คนที่เหลือ ต่างก็มองไปยังฉินเทียนอย่างสงสัย
ฉินเทียนยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ไม่สู้พวกเรารอคอยให้ผลมาเองโดยไม่ลงมือขวนขวายอะไรไม่ดีกว่าหรือ”
“ไปกับฉัน!”
เขาสะบัดร่างกาย แล้วพุ่งตรงเข้าในพื้นที่ราบระหว่างภูเขา
ถึงแม้ว่าทุกคนจะมีความสงสัยอยู่เต็มไปหมด แต่ทว่าทั้งหมดต่างก็ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด
พื้นที่ราบระหว่างภูเขานี้ เรียกว่าหุบเขาฮุ่ยเฟิง มันถือว่าเป็นประตูไปสู่เขาต้าหวาง
คนที่อยู่ข้างในที่อยากจะออกมา ต่างก็ต้องผ่านทางนี้ด้วยกันทั้งนั้น
กลิ่นของคนแปลกหน้าโชยออกมาในอากาศ และบนพื้นที่มีวัชพืชก็ขึ้นระเกะระกะ พวกของฉินเปียว พึ่งจะผ่านตรงนี้ไปไม่นานเท่าไรนัก
“พวกเรามารอพวกเขาอยู่ที่นี่กันเถอะ” ฉินเทียนพูดแผนที่วางไว้ออกมาด้วยรอยยิ้ม
เขาส่งคนที่มีทักษะทางกายภาพดีที่สุดสามคนคือเหลิ่งหยุน ชิงเฉินและชุยหมิง ไปติดตามพวกของฉินเปียว และให้ทั้งสามคนหมุนเวียนสับเปลี่ยน ไปก่อกวนพวกเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
ทำให้พวกเขาไม่มีทางที่จะพักผ่อนได้
ส่วนฉินเทียนและคนอื่นที่เหลือ หาสถานที่หลีกภัยสักที่หนึ่ง แล้วเริ่มตั้งแคมป์กัน
เขาสั่งให้ถงชวนและเถียปี้ ไปล่าไก่ฟ้าและกระต่ายมาสองสามตัวจากบริเวณใกล้เคียง และจุดไฟเริ่มทำบาร์บีคิวกันอย่างสบายอกสบายใจ
เถียหนิงซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วกล่าวว่า “พี่เทียน นิสัยแย่เกินไปแล้ว!”
“ไม่คาดคิดเลยว่า พี่จะสามารถมีความคิดเรื่องไม่ดีแบบนี้ออกมาได้จริง ๆ”
ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เมื่อคิดถึงพวกของฉินเปียว วิ่งอยู่โดยรอบเป็นเวลาหลายสิบชั่วโมงแล้ว เพื่อต้องคอยตอบสนองต่อการก่อกวนของชิงเฉินได้ตลอดเวลา แล้วไหนยังต้องจัดการกับสัตว์ป่านานาชนิดอีก
กว่าจะเอาของที่ต้องการมาได้ไม่ง่ายเลย และเมื่อต้องกลับมาที่นี่ ก็คงจะต้องอ่อนระโหยโรยแรงที่สุดอย่างแน่นอน ทั้งกระหายน้ำทั้งหิว
แต่ทว่าพวกเขา ได้กินอิ่มนอนกลับ เมื่อถึงเวลานั้น ก็ลงมือแย่งชิงมาก็ได้แล้ว
นี่ก็คือรอคอยให้ผลมาเองโดยไม่ลงมือขวนขวาย!
กลุ่มคนที่นำโดยฉินเปียว แบ่งออกเป็นสามกลุ่มย่อย รวมลูกน้องและสัตว์ร้ายแล้วก็จะมีเจ็ดสิบสองชีวิต กลุ่มที่ติดอาวุธพรั่งพร้อมมากที่สุดคือกลุ่มที่หนึ่ง กลุ่มที่สองและกลุ่มที่สี่
เดิมทีแล้ว เขาได้เตรียมที่จะเอาหยางต้าวมาด้วย แต่เนื่องด้วยก่อนหน้านั้นหยางต้าวที่คฤหาสน์สกุลหู ได้ถูกหม่าหงเทาปราบปรามลงได้ มันทำให้ฉินเปียวรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
หลังจากที่กลับไปแล้ว เขาก็โมโหโทโสเป็นอย่างมาก
หยางต้าวที่น่าสงสาร พึ่งจะเป็นที่โปรดปราน และเตรียมที่จะไปแสดงความสามารถ พร้อมทั้งการแก้แค้นที่รุนแรง ผลก็คือเมื่อเตรียมตัวจะออกรบ แต่ก็ถูกเอาไปเก็บตัวเสียก่อน
ไม่เพียงแค่เท่านี้ เขายังกลายเป็นหนึ่งในตัวต่อรองของเกมล่าสัตว์ในครั้งนี้อีกด้วย หากว่าฉินเปียวพ่ายแพ้ เช่นนั้นเขาก็อาจจะต้องถูกทำให้กลายเป็นเหยื่อสังเวย และส่งมอบให้กับฉินเทียน
รวมไปถึงเรื่องที่เขามุ่งมั่น หลังจากที่ส่งมอบให่ฉินเทียนแล้ว เขาก็สามารถที่จะจินตนาการที่สิ่งที่เข้าต้องเผชิญได้ แม้แต่นิ้วมือนิ้วเท้ายังสามารถที่จะคิดออกมาได้
สามกลุ่มย่อย และหัวหน้าของกลุ่มที่หนึ่งก็คือ และหัวหน้ากลุ่มที่สี่ก็คือ หม่าเมี้ยน
ต่างก็เป็นคนที่คอยติดตามฉินเปียวมาหลายปีแล้ว และการฝึกฝนที่โหดร้ายนานาชนิด และช่องทางการฆ่าทุกวิถีทาง อาจกล่าวได้ว่า พวกเขามีจิตใจที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดี อีกทั้งความสามารถที่เหนือกว่า รวมไปถึงความโหดร้ายด้วย
เข้าในไปในป่าภูเขา ราวกับสัตว์ป่าที่ไม่มีกรงขัง แล้วกลับคืนไปสู่ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ ความดุร้ายของแต่ละคนถูกเปิดเผยออกมา แล้วพากันร้องอย่างโหยหวน
หลังจากที่รุดหน้าไปไม่กี่พันเมตร จนมาถึงทางแยกของถนนถึงสามทาง ฉินเปียวก็หยุดลง
“นายน้อย ทำไมไม่ไปต่อล่ะครับ?”
“พวกเราต้องฉวยโอกาสตอนที่ฉินเทียนยังไม่เข้ามา รีบหาสิ่งของนั้นกันนะครับ!”
“เอาของมาได้ ก็คงถูกฉินเทียนขโมยไป เมื่อถึงเวลานั้น มันก็ไม่ใช่ว่าจัดการลงโทษนายน้อยได้อย่างนั้นเหรอ!”
“ใช่แล้วนายน้อย พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
“ตามที่ฉันเข้าใจสำหรับผู้เฒ่าถงจิ่ง อิฐฉินก้อนนั้น เป็นไปได้มากว่าเขาจะซ้อนมันเอาไว้ในหุบเขาหมาป่า ซึ่งนั่นก็เป็นกองบัญชาการใหญ่ของพวกเรา”
“นายน้อยท่านสั่งการลงมาเถอะ ผมจะพาคนไปนำออกมาเอง”
หัวกน้ากลุ่มที่สองหลิวเหมิง และหัวหน้าของกลุ่มที่สี่อย่างหม่าเมี้ยน กระตุ้นอย่างตื่นเต้น
ฉินเปียวยิ้มเยาะ แล้วมองไปข้างหลังป่าเขาอันเงียบสงบ ดูเหมือนว่าฉินเทียนและคนอื่นจะไม่ได้ไล่ตามมาจริง ๆ
เขาอดที่จะสงสัยอยู่นิดหน่อยไม่ได้
“พี่ชายของฉันคนนี้ข่มอารมณ์ไว้ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”
“เพียงแต่ว่า ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะเล่นงานฉันได้หรอก”
“พวกนายฟังให้ดี!”
เขากดเสียงให้ต่ำลงและกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “กลุ่มสองและกลุ่มสี่อยู่ที่นี่ และแอบซุ่มโจมตีอยู่ตรงจุดนั้น”
“รอให้พวกฉินเทียนผ่านเล่นทางนี้ พวกนายก็เข้าไปต่อสู้ขัดขวางได้เลย”
“จำไว้ว่า หน้าที่ของพวกนายก็คือคอยรั้งพวกเขาเอาไว้ แต่หากมีโอกาส ก็ฆ่าพวกนั้นทีละคน!”
หลิวเหมิงและหม่าเมี้ยนตอบกลับอย่างเข้าใจ แล้วรีบขบฟันกล่าวว่า “นายน้อยโปรดวางใจ!”
“นายน้อยท่านสามารถเข้าไปค้นห้าสิ่งของได้เลย พวกของฉินเทียน ไม่สามารถผ่านแนวป้องกันของเราไปได้!”
ฉินเปียวพยักหน้ารับ แล้วจากนั้นจึงหันไปพูดกับหัวหน้ากลุ่มที่หนึ่งเลี่ยวเจี๋ยว่า “พาคนของนายมา แล้วตามไปกับฉัน!”
“เป้าหมายก็คือ หุบเขาหมาป่า!”
เขาพาคนกลุ่มเล็กกลุ่มหนึ่งไป แล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
เหลือไว้เพียงหลิวเหมิงและหม่าเมี้ยน
หลิวเหมิงแสยะยิ้มกล่าวกับหม่าเมี้ยนว่า “ตระกูลฉินเก่ามีนายน้อยเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น นั้นก็คือนายน้อยฉินเปียว”
“ส่วนฉินเทียน เขาเป็นขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น เดิมแล้วไม่เหมาะสมกับสกุลฉินด้วยซ้ำ อย่าพูดถึงคิดที่อยากจะมาแข่งขันกับนายน้อยเปียวของพวกเราเลย”
“เขาไม่ตาย สำหรับนายน้อยเปียวแล้ว ก็จะกลายเป็นภัยพิบัติที่แอบแฝงในไม่ช้า”
“หม่าเมี้ยน วันนี้พวกเรามาทำเรื่องใหญ่กันเถอะ มาทำให้ฉินเทียนอยู่ที่เขาหวงลูกนี้ตลอดไป เพื่อที่จะคลายความกังวลของนายน้อยเปียวได้ในภายหลัง”
“นายคิดว่าเป็นอย่างไร?”
หม่าเมี้ยนกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “มันถูกใจฉันพอดี!”
“ฉันว่าไอ้หมอนั่นมันดูไม่เจริญหูเจริญตาสักเท่าไร รอให้เขามาแล้ว ข้าจะต้องสั่งสอนให้เขาได้เป็นบทเรียนสักหน่อย และให้เขาได้รู้ว่า เพราะเหตุใดดอกไม้ถึงได้เป็นสีแดงขนาดนั้น!”
หลิวเหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา
“ถึงแม้ว่าไอเจ้าฉินเทียนคนนั้นจะดูไม่เจริญหูเจริญตา อย่างไรก็ตามเด็กสาวสองคนที่เป็นลูกน้องเขา กลับดูหน้าตาดี สวยมากจริง ๆ”
“พูดตามตรง ตอนที่ฉันได้เห็นครั้งแรก น้ำลายก็เกือบที่จะไหลออกมาแล้ว”
“เหล่าหม่า สาวสวยที่เปล่งประกายเช่นนี้ นายว่าพวกเราควรที่จะอ่อนโยนกันสักหน่อยไหม?”
หม่าเมี้ยนมีความเข้าใจอย่างชัดเจน แล้วหัวเราะออกมาดังสนั่น
“พี่น้องทั้งหลาย การซุ่มโจมตีของพวกเราพร้อมแล้ว!”
“ขอเพียงแค่พวกมันกล้ามา ฆ่าผู้ชายทิ้งซะ แล้วเอาผู้หญิงมาคลายความเบื่อหน่ายของทุกคน”
“ดีเลย!”
คนกลุ่มหนึ่งร้องตะโกนออกมา พวกเขาไม่ใช่คนดีอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว หลังจากถูกเครือข่ายของฉินเปียว ใช้วิธีการฝึกฝนที่โหดร้ายแล้ว ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเหมือนสัตว์ร้ายมากขนาดไหน
และเมื่อคิดไปถึงความงดงามของเหลิ่งหยุนและเถียหนิงซวง คิดว่าหลังจากที่พวกเขาได้ฆ่าฉินเทียนและพวกไปแล้ว ยังสามารถเอาสาวทั้งสองคนมาทำรื่นเริงได้ตามอำเภอใจ ก็ทำให้เลือกของสัตว์ร้ายเดือดพล่านในทันที
“อำพรางตัว!”
“เร็วเข้า!”
พวกเขาตะโกนเสียงดัง แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม และซุ่มอยู่ภายในป่าทั้งซ้ายและขวา
ของเพียงแค่ฉินเทียนนำคนเข้ามาที่นี่ พวกเขาก็พุ่งตัวออกฆ่าและจู่โจม และจะต้องฆ่าฉินเทียนและคนของเขาได้อย่างน่าประหลาดใจแน่นอน
เมื่อเวลาเลยผ่านไป ขณะที่พวกเขากำลังซุ่มอยู่ภายในป่า และเมื่อเฝ้ารออย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้น ในเส้นทางจากที่ไกล ๆ ก็ปรากฏร่างสีแดงร่างหนึ่ง
เหลิ่งหยุนบิดเอวไปมา แล้วค่อย ๆ เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
บางทีอาจเป็นเพราะดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือหัวเธอนั้นใหญ่เกินไป ใบหน้าของเธอจึงมีสีแดงระเรื่อ ในมือถือใบตองขนาดใหญ่ไว้ใบหนึ่งเพื่อทำเป็นพัด และจากนั้นก็ค่อย ๆ พักมันอย่างแผ่วเบา
เธอดูเกียจคร้าน ราวกับว่าอยู่ในเวลาเที่ยง ทำอาหารอยู่ในบ้านเรียบร้อย และเป็นภรรยาที่ออกมาเรียกชายคนนั้นกลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารเย็น
เสียงกลืนน้ำลายดังแว่วมาต่อเนื่องกันเป็นระลอก สัตว์ป่าอยู่อยู่ภายในป่ากลุ่มหนึ่ง ต่างก็พากันมองด้วยความตะลึงงัน
เมื่อเห็นว่าเหลิ่งหยุนเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่เห็นเหยื่อของมัน และดวงตาก็เป็นสีแดงก่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ