บัญชามังกรเดือด - บทที่ 792 ทางหนีทีไล่
บัญชามังกรเดือด บทที่ 792 ทางหนีทีไล่
ฉินเทียนรู้ว่า น้องชายต่างมารดาของตนผู้นี้ ภายนอกดูหยาบคาย แต่จริงๆ แล้วเป็นคนเจ้าเล่ห์และมีไหวพริบมากๆ
การล่าครั้งนี้ แม้เป็นเขาเองที่เอ่ยปากออกมา เขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่ต้องการจะเอาชนะ ดังนั้นคงไม่ยอมแพ้การแข่งขันง่ายๆ แน่นอน
เขาต้องเก็บทางหนีทีไล่ที่ร้ายกาจมากเอาไว้แน่ๆ
ทางหนีทีไล่นี้คืออะไรกันนะ เมื่อนึกโยงไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ฉินเทียนก็รู้สึกว่า เขาน่าจะเดาถูก
เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ต้องดูสถานการณ์ตรงหน้า ก็รู้ว่าห้าพญายมแห่งนรกของเขาล้วนเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบอยู่แล้ว แต่จู่ๆ เขากลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
ลมปราณภายในร่างของเขาไหลเวียนสูบฉีดขึ้นเป็นที่เรียบร้อย พร้อมที่ลงสนามด้วยตัวเองแล้ว
“คุณชาย ได้โปรดสั่งการเถอะ! พวกเราพร้อมต่อสู้กับพวกมัน”
“พินาศไปพร้อมกับพวกมัน!”
ทันใดนั้น ขาของหลิวเหมิงหัวหน้าทีมที่สอง ก็ถูกแทงด้วยกริชขว้างของชุยหมิง เขาจำได้ว่า ชุยหมิงคือคนที่อยู่ในป่าและเล่นซ่อนหากับพวกเขา และเป็นชายลึกลับคนนั้นที่หาโอกาสลอบสังหารสมาชิกในทีมของพวกเขาอย่างลับลับอีกด้วย
ภายใต้ความตื่นเต้น ตาของเขาก็แดงก่ำ และตะโกนออกมาเสียงดัง
“คุณชายได้โปรดสั่งการ!”
“ออกไปต่อสู้กับพวกมัน!”
เลี่ยวเจี๋ยหัวหน้าทีมที่หนึ่งหม่าเมี้ยนหัวหน้าทีมที่สี่ โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ร้องตะโกนขึ้นมาอย่างขมขื่น
จากนั้น บรรดาทาสสัตว์เจ็ดคนที่เหลือ ต่างก็ตะโกนร้องขึ้นมาอย่างดุเดือด
ก่อนหน้านี้ตอนที่เผชิญหน้ากับการห้อมล้อมโจมตีของฝูงหมาป่า พวกเขายังไม่เสียสติบ้าคลั่งถึงขนาดนี้ ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขายอมรับไม่ได้กับสถานการณ์ที่ฉินเทียนทำอยู่ในตอนนี้เลยสักนิด
ในช่วงเวลานี้ พวกเขาทั้งหมดล้วนพร้อมยอมตายกันแล้ว!
แต่ก่อนที่จะตาย ก็ต้องลากใครสักคนลงไปตายพร้อมๆ กัน!
ช่วงเวลาที่ฉินเปียวรอคอยก็มาถึงหมาป่าหอนของเขา ต้องฉีดในช่วงสถานการณ์แบบนี้เท่านั้น ถึงจะได้ผลลัพธ์อย่างดีเยี่ยมที่สุด
แววตาของเขามีความเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นพร้อมกับตะโกนว่า “ทุกคนฟังคำสั่ง!”
“คุมสัตว์ให้เป็นทาส พวกเราคือราชาแห่งสรรพสัตว์ทั้งปวง!”
“ตอนนี้ จงแปลงร่างเป็นสัตว์ร้าย และเอาศักดิ์ศรีของพวกเธอกลับมา!”
“จงต่อสู้อย่างโหดเหี้ยม!”
“จงสังหารอย่างโหดเหี้ยม!”
“รับทราบ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเปียวแล้ว ทุกคนก็ตอบสนองกันอย่างทันท่วงที พวกเขาทั้งหมดต่างยื่นมือล้วงเข้าไปในอกเสื้อทันที
“เร็ว รีบขัดขวางพวกเขาซะ!” ฉินเทียนตะโกนด้วยความตื่นเต้น
อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไปแล้ว
หม่าหงเทาและคนอื่นๆ ยังไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ เหล่าทาสสัตว์ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี หยิบกระบอกฉีดยาเล็กๆ ชนิดพิเศษที่อยู่ในอกเสื้อออกมา และทิ่มลงไปบนร่างของเขา
ของเหลวสีฟ้าในกระบอกฉีดยานั้น ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายทันที
“พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่?” เถียหนิงซวงถามขึ้นด้วยความสงสัย ส่วนคนที่เหลือ ต่างพากันตกตะลึงไปตามตามกัน
พวกเขายังไม่เคยแม้แต่จะเห็นยาหมาป่าหอนชนิดนี้เลย และยิ่งไม่เคยเห็นการฉีดยาเข้าร่างกายแบบนี้มาก่อนด้วย
พวกเขายังแอบคิดว่า คู่ต่อสู้เอาชนะพวกเขาไม่ได้ เลยคิดจะใช้ยาพิษปลิดชีพตัวเองซะ
กว่าพวกเขาจะรู้ มันก็สายไปแล้ว หลังจากที่พวกเขาฉีดยาเข้าไป ร่างกายและพละกำลังของเหล่าทาสสัตว์ ต่างเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
แววตาของพวกเขาเบิกกว้าง เส้นเลือดที่อยู่ในลูกตา ลุกลามขยายโยงใยไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเส้นใยของแมงมุม ไม่นานนัก ทั้งดวงตาของพวกเขา ก็กลายเป็นสีแดงเลือดทั้งหมด
ราวกับพระจันทร์สีเลือดสองดวงอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว เถียหนิงซวงและคนอื่นๆ ต่างพากันตกใจกลัว
แต่นี่มันยังไม่จบ
บรู๊วว!
บรู๊ววบรู๊วว!
เหล่าทาสสัตว์ร้องคำราม จากนั้น ก็ฉีกเสื้อผ้าท่อนบนออก ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังบ้าคลั่ง บนกล้ามเนื้อที่มีรอยแผลเป็นของพวกเขานั้น เส้นเลือดต่างปะทุตัวออกอย่างรวดเร็ว!
เลือดที่อยู่ภายในนั้น เห็นได้ด้วยตาเปล่าราวกับกำลังจะปะทุออกมา
การระเบิดอย่างน่าสยดสยองเช่นนี้ ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกคลับคล้ายกับว่า ในร่างกายของพวกเขารวมทั้งในเลือดของพวกเขา ถูกซ่อนด้วยม้าที่กำลังตกใจอย่างนับจำนวนไม่ถ้วน
บรรดาม้าป่าที่กำลังตกใจเหล่านั้น ต่างอยากจะรีบวิ่งฝ่าร่างของพวกเขาออกมา เพื่อที่จะควบตัวมันเองออกไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่ !
เปรียบเสมือนภูตผีอันดุร้ายที่ถูกกุมขังอยู่ในนรกเป็นเวลานาน พอถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา เลยอยากออกหาคนและกลืนกินเขาลงไปด้วยความกระหาย
พวกเขาบิดร่างกายของตัวเอง จนเกิดเสียงของข้อต่อกระดูกดังขึ้นอย่างชัดเจนท่ามกลางบรรยากาศนั้น ครู่หนึ่ง ร่างกายของพวกเขาก็ดูใหญ่โตมหึมาขึ้นมากจริงๆ
กลายพันธุ์?
ฉากแปลกประหลาดที่อยู่ตรงหน้านี้ ทำเอาห้าพญายมแห่งนรกต่างพากันตื่นตระหนกตกใจกันไปหมด
“ทุกคนระวังตัวด้วย!”
“พวกมันฉีดยาหมาป่าหอนเข้าไปในตัว เพื่อกระตุ้นประสาทและเส้นเลือด เป็นตัวยาชนิดเดียวกันกับที่ลิเหลียงใช้ก่อนหน้านี้ แต่ประสิทธิภาพของมันน่ากลัวมากกว่าเยอะเลย!”
“พยายามอย่าปะทะกับพวกมัน!” ฉินเทียนร้องตะโกนเตือนขึ้น
ยาที่ใช้ไม่ต่างจากที่ลิเหลียงใช้?เมื่อได้ยินดังนั้น ห้าพญายมแห่งนรก ต่างก็รู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เพราะว่าก่อนหน้านี้ที่เวทีเซวียนหยวนทางตอนใต้ พวกเขาเห็นด้วยตาตัวเองว่า ลิเหลียงที่กลายพันธุ์นั้นมันน่าสยดสยองมากขนาดไหน
ตอนนั้น แม้แต่ฉินเทียนเองยังเกือบจะถูกทำร้ายจนพิการเลย โชคดีที่นาทีสุดท้าย พระเจ้ายังเข้าข้างช่วยเหลือฉินเทียนเอาไว้ได้ ไม่รู้ว่าพละกำลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นถูกกระตุ้นมาจากไหน ถึงต่อสู้จนลิเหลียงพ่ายแพ้ยับเยินกลับไปได้
หากพลาดไปอีกนิดเดียว ฉินเทียนก็จะกลายเป็นวิญญาณภายใต้น้ำมือของลิเหลียงอย่างแน่นอน และหากเขาพ่ายแพ้ ทั้งเจ็ดมณฑลนั้น ก็จะตกอยู่ในความมืดมนไปตลอดกาล
ตอนนี้ ยาที่บรรดาทาสสัตว์ใช้อยู่ มันน่าสยดสยองไปกว่าที่ลิเหลียงใช้อีกหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนคนกลายพันธุ์พร้อมกันมากขนาดนี้?จะไม่ให้ตกใจยังไงไหว!
“กูจะฆ่าพวกมึง!” เสียงคำรามแผดร้องดังขึ้น ด้วยความโกรธของผีหวูฉาง พวกมันสะบัดโซ่เหล็กในมืออย่างเหี้ยมโหด
โซ่เหล็กที่มีน้ำหนักมากกว่าห้าสิบกิโลกรัม ราวกับไทแรนโนซอรัสที่บ้าคลั่ง มาพร้อมกับลมพายุกระโชกแรง รวมทั้งเสียงฟ้าร้องที่ดังกังวานอย่างไม่ทันได้ปิดหู โอบล้อมอยู่บนศีรษะของหลิวเหมิง
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีใครได้แตะต้องโซ่เหล็กนี้เลย จริงอยู่ที่ใครแตะเป็นต้องตาย ถ้าโดนเป็นไม่รอด
ตอนนี้ หลิวเหมิงกลับมีท่าทีไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขาหัวเราะแปลกๆ และจู่ๆ ก็ยื่นมือออกมาจับที่ปลายโซ่เหล็กด้านหนึ่ง
ผีหวูฉางมีพละกำลังมหาศาล และสิ่งที่พวกเขาไม่เคยกลัวเลย นั่นก็คือการต่อสู้ด้วยมือเปล่ากับมนุษย์
เขาคำรามออกมาและใช้แรงทั้งหมดที่มี เพื่อยืมแรงจากโซ่เหล็ก ลากตัว หลิวเหมิงเข้ามา
หลิวเหมิงร้องตะโกน และออกแรงในเวลาเดียวกันกับที่ผีหวูฉางลากตัวเขาเข้ามา พละกำลังทั้งสองเดือดดาลขึ้น ระหว่างที่กำลังให้ความสนใจกับโซ่เหล็กนั้น โซ่เหล็กก็ถูกดึงจนตึงขึ้นทันที วินาทีต่อมา เสียงแคร๊กก็ดังขึ้น ระหว่างตรงกลางของโซ่เหล็กนั้นก็หักออกจากกัน
“โฮ๊ก!”
“โฮ๊กโฮ๊ก!”
หลิวเหมิงร้องด้วยความประหลาดใจ ราวกับเสียสติ เขาสะบัดโซ่เหล็กอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในมือของเขา และเหวี่ยงไปทางผีหวูฉางพวกนั้น
ในเวลาเดียวกัน เลี่ยวเจี๋ยและหม่าเมี้ยนรวมทั้งทาสสัตว์ที่เหลืออีกสองสามคน ต่างเกิดอาการบ้าคลั่งกันไปหมด พวกมันไม่สนใจไยดีอะไรแล้วทั้งนั้น และพุ่งเข้าหาห้าพญายมแห่งนรกทันที
ฉากต่อมาของการแสดง ถึงจะเป็นคำอธิบายที่แท้จริงว่าอะไรที่เรียกว่า ความโหดเหี้ยมอย่างไร้ความปรานี!
การต่อสู้ของเมื่อครู่กับการต่อสู้ในตอนนี้ พูดตรงๆ คือ เพลงหมัดมวยที่ดูสวยแต่ใช้ไม่ได้กับชีวิตจริง มันดูเด็กๆ ไปเลย
บรรดาทาสสัตว์ไม่หลบเลี่ยงคมดาบ ต่างมุ่งหน้าท้าชน สมาชิกคนหนึ่งของทีมมีดม้งไม่ยอมแพ้ เขาใช้มีดม้งอันแหลมคมที่อยู่ในมือ ต้องการที่จะฆ่าทาสสัตว์ที่อยู่ตรงหน้า
เพลงยุทธของเขามีความเฉียบคมมากพอ มีดม้งด้ามยาวที่อยู่ในมือของเขา แทงเข้าสู่กลางหัวใจของทาสสัตว์ได้อย่างตรงเผง
แต่ทาสสัตว์ราวกับว่าไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ มันรีบวิ่งเข้ามากอดรัดเขาไว้อย่างแน่น จากนั้น ก็กัดลงตรงบริเวณคอของเขาจนขาดและดูดเลือดออกไปเฮือกใหญ่
ลมหายใจสุดท้ายที่เหลืออยู่ของพี่น้องทีมมีดม้งคนนั้น เขาพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อใช้มีดม้งนั้นแทงคว้านเข้าไปที่กลางหัวใจของทาสสัตว์
จนในที่สุด ร่างทั้งสองที่มีบาดแผลฉกรรจ์นั้น ต่างกอดกันล้มลงไปพร้อมๆ กัน
ท่ามกลางบรรยากาศนั้น ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอย่างคละคลุ้ง
ห้าพญายมแห่งนรก ล้วนเกิดมาจากสวนสัตว์ร้าย พวกเขาผ่านการฝึกซ้อมและเข่นฆ่ากับสัตว์ร้ายมาแล้วมากมายหลากหลายชนิด เรียกได้ว่า พวกเขารู้จักกับความโหดเหี้ยมอย่างไร้ความปรานีมานานแล้ว
แต่เมื่อเทียบกับทาสสัตว์ ที่อยู่ตรงหน้า ราวกับว่าสัตว์ร้ายทั้งหมดที่เคยผ่านมา กลายเป็นสัตว์ที่ว่านอนสอนง่ายไปเลย
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เด็กน้อยทั้งหลาย ทำได้ดีมาก!”
“ตอนนี้ พวกเขาคือเหยื่อของพวกเธอแล้ว! ถ้าฆ่าให้เกลี้ยงได้หมด ฉันจะยกผู้หญิงสองคนนั้นให้พวกเธอ!”
ฉินเปียวหัวเราะเสียงดังด้วยความภูมิใจ
ผู้หญิงสองคนที่ว่านั้น ก็คือเถียหนิงซวงกับเหลิ่งหยุนนั้นเอง เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว สติสุดท้ายของเหล่าทาสสัตว์ ที่เหลืออยู่ก็หลุดหายไปหมดสิ้น
พวกเขาใช้กำลังพลน้อยต่อสู้กับกำลังพลมาก ทำลายอำนาจการข่มเหงรังแกได้อย่างคาดไม่ถึง!
“พี่ชายคนดีของฉัน ตอนนี้ แกคิดยังไงบ้างหล่ะ?”
“แกจะลงสนามด้วยตัวเองเลยไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้นหล่ะก็ ฉันจะลงสนามเป็นเพื่อนแกเอง” ฉินเปียวมองฉินเทียนพร้อมกับแววตาที่ปรากฏถึงเจตนาการสู้รบอย่างโหดเหี้ยม