บัญชามังกรเดือด - บทที่ 817 ตัวตลกนั้นก็คือเขา
บัญชามังกรเดือด บทที่ 817 ตัวตลกนั้นก็คือเขา
“พวกนายไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เมื่อมองไปที่หวงพานและจี้ตูนั้นสองมือของพวกเขามีเลือดไหลอาบเต็มไปหมด ในสายตาของจี้ซิงนั้น พลางแสดงถึงท่าทีกังวลออกมาในทันที
“ ไม่เป็นไรครับ!”
“เป็นข้าน้อยที่ไร้ความสามารถ ทำให้นายน้อยได้รับความอับอาย นายน้อยได้โปรดลงโทษผู้น้อยด้วยครับ!”
ทั้งสองคนพลันคุกเข่าลงต่อหน้าจี้ซิงด้วยท่าทีรู้สึกผิด
ใบหน้าของจี้ซิงมืดมนเป็นอย่างมากบรรยากาศรอบด้านของเขา พลันมีแต่เสียงโห่ร้องเพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ชนะ ในสายตาของจี้ซิงนั้น จึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายฆ่าฟันอย่างไม่อาจปิดมิด
“นายน้อยหลงขอรับ!”
หยางซงพลางตัวสั่นเทาและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านคิดจะทำเช่นไรต่อไปดีครับ?”
“ท่านต้องการล้างเลือดด้วยเลือดที่นี่หรือไม่?”
“มิสู้ นายน้อยหลงรีบโทรเรียกนักสู้ฝีมือดีจากเมืองหลวงมาที่นี่ล่ะขอรับ!”
จี้ซิงเพียงชำเลืองมองไปที่หยางซงด้วยความเย็นชา พลางพูดตะคอกใส่ว่า “กลับไปค่อยว่ากัน!”
จี้ซิงพลางลุกขึ้นและก้าวเท้าออกไปในทันที
ด้านหลังพลันมีช่ายเสี่ยวซานผิวปากตามไปด้วยท่าทีเยาะเย้ย
หยางซงที่เดินตามหลังจี้ซิงไปด้วยใจที่เต้นตุ้ม ๆ ต่ำ ๆพลางคิดคร่ำครวญว่า การที่นายน้อยหลงโมโหเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องดี !
ช่ายเสี่ยวซานเองอย่าได้ใจไป!
หากแกรู้อำนาจที่แท้จริงของนายน้อยหลงแล้วละก็ ถึงเวลานั้นแกร้องไม่ออกแน่
เมื่อกลับถึงโรงแรมพร้อมกับปิดประตูห้องลงแล้วนั้น หยางซงพลางนำเสนอแผนการล้างแค้นออกมาด้วยท่าทีตื่นเต้นอีกครั้ง พลางคะยั้นคะยอให้จี้ซิงโทรหาเหล่านักสู้ฝีมือดีคนอื่น ๆ หรือหว่านล้อมให้ใช้พลังลึกลับเพื่อล้มล้างตระกูลช่ายเสีย
จี้ซิงพลางพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “แพ้ก็คือแพ้”
“เดิมพันแพ้แล้วก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา หรือแกอยากจะให้ฉันโดนคนทั้งโลกหัวเราะเย้ยงั้นเหรอ?”
“ว่าฉันแพ้ไม่ได้?”
หยางซงพลันตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจว่า “หรือว่า ท่านคิดจะพอแค่นี้?”
จี้ซิงพลางพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “นายน้อยเช่นฉัน ไม่เคยได้รับความอับอายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต แน่นอนว่าฉันจะไม่ยอมปล่อยมันไปแค่นี้แน่ ๆ ”
“เรื่องนี้จะต้องมีคนชดใช้”
หยางซงพลันเอ่ยออกมาด้วยท่าทีตื่นเต้นว่า “ใครหรือ?”
“ไม่ว่านายน้อยหลงต้องการจัดการใครก็ตาม ข้าจะยอมเป็นเบี้ยรับใช้ท่านเอง!”
“จริงหรือ?” จี้ซิงพลันยิ้มเยาะออกมา ทันใดนั้นจี้ซิงพลันคว้าคอเสื้อของหยางซงเอาไว้และยกตัวมันขึ้นมาในทันที
ผลัวะ!
ผลัวะ!
หลังจากตบติดต่อกันหลายครั้ง วิญญาณภายในร่างของหยางซงราวกับจะหลุดออกจากร่างในทันที
เมื่อมองไปเห็นดวงตาที่โกรธเกรี้ยวของจี้ซิงแล้วนั้น หยางซงพลันรับรู้ได้ถึงลิ่นอายฆ่าฟันที่แฝงออกมา พร้อมกับไม่คิดสนใจความเจ็บปวดบนใบหน้าของตัวเองอีก
“นายน้อยหลง ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะครับ!”
“ นายน้อยหลงได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย!”
“ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิดไป นายน้อยหลงได้โปรดให้ชี้แนะผมด้วยเถอะ!”
หยางซงพลันคุกเข่าลงบนพื้นและพูดออกมาด้วยความหวาดผวา
จี้ซิงจึงหันไปหยิบกริชเล่มเล็กติดมือมาในทันที ฉันไม่คิดที่จะเข้าร่วมการแข่งขันเลยแม้แต่น้อยแต่มันเป็นเพราะแก!”
“แกหว่านล้อมให้ฉันเข้าร่วมการเดิมพันการแข่งขันในครั้งนี้ ทั้งยังพูดด้วยว่า หลงซื่อกับหลงอู่สามารถเอาชนะจวี่หยวนได้แน่ สุดท้ายเล่า ?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันจะต้องอับอายแบบนี้ไหม?”
“ฉันจะต้องเสียร้อยล้านไปเปล่าประโยชน์อย่างนี้ไหม?”
” หยางซงใช่ไหม? ฉันได้ตรวจสอบทุกอย่างเกี่ยวกับแกและพ่อของแกหมดแล้ว”
“ เอาล่ะ หากแกไม่คิดจะชดใช้ให้กับฉันละก็ ฉันจะทำให้ตระกูลของแกหายไปจากโลกนี้ตลอดกาลเลย!”
หยางซงพลันตกตะลึงไปในทันที
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย ที่จี้ซิงบอกว่าจะต้องมีคนชดใช้ให้กับสำหรับเรื่องนี้ คนผู้นั้นก็คือเขา!
รอมาจนครึ่งค่อนวัน ตัวตลกที่แท้จริงก็คือเขางั้นเหรอ!
“ฉันให้เวลาแกครึ่งชั่วโมง ถ้าแกคิดหาทางแก้ปัญหาไม่ออกละก็ แกจบเห่แน่”
“อย่าทำให้มือของฉันต้องแปดเปื้อนด้วย!”
จี้ซิงพลางพูดออกมาอย่างเย็นชา เพียงชั่วพริบตาเดียว กริชในมือของจี้ซิงก็ถูกตอกลงบนโต๊ะตรงหน้าหยางซงในทันที
เมื่อมองไปเห็นแสงไฟบนกริชที่ส่องออกมาด้วยความเย็นชานั้น ทำเอาหยางซงถึงกับหน้าซีดเผือด
ตอนนี้เขารู้แล้วว่า จี้ซิงกลัวเสียหน้าตัวเองเป็นอย่างมากดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยอมเอาผู้มีฝีมือมากมายจากเมืองหลวงมาแก้แค้นด้วยเรื่องแค่นี้
ถ้าอย่างนั้น เขาควรจะทำอย่างไรดี?
ในตอนนี้มันไม่ได้มีแต่ชีวิตหรือความเป็นความตายของเขาเท่านั้นแต่มันคือความเป็นความตายของตระกูลของเขา
หางซงพลันขบคิดไปมาด้วยความร้อนรนเมื่ออยู่ต่อหน้าความเป็นความตายแบบนี้ ทันใดนั้น ก็มีแสงสว่างวาบเข้ามาในความคิดของเขาในทันที
“ผมมีทางออกแล้วครับ!”
“นายน้อยหลงครับ ผมมียาชนิดหนึ่ง เมื่อฉีดไปแล้วนั้น มันจะสามารถเพิ่มพลังเป็นสองเท่าหลังจากฉีดเข้าไป!”
“ขอเพียงนายน้อยให้พี่ซื่อและพี่อู่ฉีดเข้าไปนั้น ย่อมสามารถสังหารจวี่หยวนได้แน่ อีกทั้งยังใช้เวลาไม่นานด้วย !”
หยางซงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
จี้ซิงพลันหัวเราะเยาะออกมาในทันที พลางกล่าวว่า “แกคิดจะให้ฉันใช้ยากระตุ้นงั้นเหรอ?”
“วิธีการต่ำ ๆ แบบนี้ มันจะดูถูกฉันไปหน่อยกระมัง!”
“มันไม่ใช่สารกระตุ้นขอรับ!” ในที่สุด หยางซงพลันกัดฟันพูดความจริงออกมา
“มันเป็นของที่นำเข้ามาจากทางซีเป่ยที่พวกเขาเรียกกันว่าหมาป่าหอน”
“นายน้อยหลง ผมขอบอกเลยว่า ท่านจะต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ หากสิ่งนี้ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อใดแล้วละก็ นั่นหมายความว่าถึงชีวิต!”
จี้ซิงพลางกล่าวออกมาด้วยความเย้ยหยัน พร้อมพูดขึ้นมาว่า “เฮอะ โกหก แกสร้างเรื่องต่อไปเถอะ!”
“ถ้ามันมหัศจรรย์อย่างที่แกว่าจริง แกจะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างไรกัน?”
“ผมมีเส้นสายครับ!” หยางซงไม่มีทางเลือก นอกจากต้องพูดความจริงออกมา
ที่จริงแล้ว ในตอนที่เขายังเด็กนั้น ตระกูลของเขาทำธุรกิจขุดเหมืองมาก่อน ทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับเจ้าของเหมืองแห่งซีเป่ยด้วยเช่นกัน
เจ้าของเหมืองผู้นั้น เมื่อเลิกจากธุรกิจขุดเหมืองไปแล้ว พลันย้ายสายทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงงานยาผิดกฎหมายแทน นั่นก็คือหมาป่าหอน
เรื่องนี้ แม้แต่พ่อของเขาหยางจินซุ่ยก็ยังไม่รู้เรื่อง หากแต่เป็นหยางซงที่บังเอิญไปรู้เรื่องนี้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนอย่างหนัก ให้เจ้าของเหมืองคนนั้นตกลงที่จะขายยาบางส่วนให้กับเขา
หลังจากที่เขาลองเอาไปทดลองกับสัตว์แล้วนั้น ต่อมามันจึงได้เอามาแอบใช้กับบอดี้การ์ดตัวเองพร้อมกับสั่งให้พวกเขาเข้าไปที่สนามมวยเพื่อต่อสู้
ทว่า ปริมาณที่ใช้ในแต่ละครั้ง ต้องน้อยมาก ๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ไม่เคยมีใครจับเขาได้
แต่เดิมเขาคิดว่า การที่ตัวเองสามารถเอาชนะโดยครอบครองอาวุธวิเศษแบบนี้ได้นั้น เพียงแค่พึ่งตัวยาพวกนี้ ก็จะไม่มีใครเข้ามาระรานเขาได้อีกแล้ว
หยางซงไม่คิดเลยว่า การที่เขาได้พบกับเหลิ่งหยุนนั้น ทำให้เขาอยากที่จะสร้างความสัมพันธ์กับเธอ เมื่อเขาเข้าหาเหลิ่งหยุนหลายครั้งหลายครา แต่ก็พบเจอแต่ความล้มเหลวกลับมานั้น นั่นจึงทำให้เขาสั่งให้เหล่าบอดี้การ์ดพากันไปจับตัวเหลิ่งหยุน
เหล่าบอดี้การ์ดหลายคนที่เข้าไปแล้วถูกทุบตีกลับมานั้น เมื่อหยางซงทำการฉีดหมาป่าหอนเข้าไปเป็นจำนวนมาก ให้กับเหล่าบอดี้การ์ดพวกนั้นแล้ว แต่ผลสุดท้าย เหล่าบอดี้การ์ดทั้งหมดกลับถูกฆ่าตายกลับมา
หยางซงที่กลัวว่าเรื่องทุกอย่างจะถูกเปิดเผยขึ้นมา จึงได้ทำลายตัวยาที่เหลือทิ้งในทันทีพลางลอบตัดสินใจกับตัวเองเงียบ ๆ ว่าเขาจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเป็นอันขาด
ทว่า เมื่อเขาต้องมาเผชิญหน้ากับความเป็นความตายแบบนี้แล้วเขาจึงฉุกคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้
“มีของวิเศษแบบนี้อยู่จริง ๆ เหรอ?”
“ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลยล่ะ” จี้ซิงพลันหรี่ตามองมาที่หยางซง
หยางซงพลันกลืนน้ำลายลงคอและเอ่ยคำสาบานขึ้นมา
“ยาตัวนี้ มันถูกเผยแพร่กระจายไปในแวดวงที่เป็นความลับและในหมู่คนที่คุ้นเคยกันเท่านั้นครับ”
“เมืองหลวงจึงเป็นพื้นที่ต้องห้ามที่ไม่สามารถนำสิ่งนี้เข้าไปเผยแพร่ได้หากนายน้อยหลงจะไม่รู้เรื่องนี้ย่อมเป็นเรื่องปกติ”
จี้ซิงพลางเอ่ยเยาะเย้ยขึ้นมาว่า “ของอยู่ที่ไหนล่ะ? เอาออกมาให้ฉันดูหน่อย”
“ถ้ามันน่าอัศจรรย์อย่างที่แกพูดจริง ๆ ฉันอาจพิจารณาปล่อยตัวแกไปสักครั้ง”
หยางซงกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ขมขื่นว่า “ของที่อยู่ในมือผมหมดสต๊อกไปแล้วครับ”
“แกกล้ามาเล่นลิ้นกับฉันเหรอ?”
“ฉันจะฆ่าแก!”จี้ซิงพลันเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับหยิบกริชขึ้นมาในทันที
“อย่า!”
“นายน้อยหลง ฟังผมก่อนเถอะครับ!”
“ผมมีเส้นสาย แต่มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย”
“ผมสัญญา ว่าผมจะหามาให้ได้อย่างแน่นอน!” หยางซงพลันตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
อารมณ์ของจี้ซิงพลันสั่นไหวไปเล็กน้อย พร้อมกับเดินวนรอบห้องอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจออกมา
จี้ซิงพลันมองไปที่หยางซง ก่อนจะพูดเสียงเบาออกมาว่า “ของสิ่งนี้ ก็มีประโยชน์สำหรับฉันเหมือนกัน”
“และเท่าที่ฉันรู้คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวฉันเอง ก็คงจะอยากได้มันไม่น้อย ”
“เอาเช่นนี้ไหมล่ะ”
“แกพาฉันไปพบกับนายหน้าซะ แล้วฉันจะคุยกับเขาเอง”
“เรื่องเงินและราคาไม่ใช่ปัญหาของฉันฉันขอแค่เป็นตัวแทนเท่านั้น”
“หากว่าเรื่องนี้สามารถทำการเจรจาได้สำเร็จแล้วละก็ ฉันจะให้ค่าคอมมิชชั่นแกครั้งละยี่สิบเปอร์เซ็นต์ต่อการสั่งซื้อในแต่ละครั้ง”
“แกคิดยังไง?”
“นายน้อยหลง คุณจริงจังกับเรื่องนี้เหรอ?”
“ผมจะบอกความจริงกับคุณว่ายาเกรดต่ำที่ผมซื้อมาถือว่าเป็นราคาย่อมเยาที่สุดแล้ว ยาหนึ่งโดสพวกเราถึงกับซื้อขายกันหลายล้านเลยทีเดียว ”
“เกรดสูง ๆ ถึงกับซื้อขายกันในราคาสิบล้านต่อหนึ่งโดส”
“นายน้อยหลงอยากเป็นตัวแทนเหรอ? คุณจะให้ค่าคอมมิชชั่นยี่สิบเปอร์เซ็นต์กับผมจริง ๆใช่ไหม?”
เมื่อคิดถึงผลประโยชน์จำนวนมหาศาลแล้วละก็ ถึงแม้ว่าหยางซงจะไม่อยากเชื่อใจ ทว่า ดวงตาของเขาไม่อาจปกปิดประกายความโลภในดวงตาของตัวเองได้มิด