บัญชามังกรเดือด - บทที่ 846 การต่อสู้ที่ดุเดือดจริงๆ
บัญชามังกรเดือด บทที่ 846 การต่อสู้ที่ดุเดือดจริงๆ
“นายหญิงใหญ่!”
ก่อนที่จะมีคนหนึ่งในครอบครัวนั้นได้วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก ก่อนที่จะรีบเอ่ย “ทางด้านฝั่งประตูเมืองนั้นได้มีข่าวใหม่ส่งมาแล้วครับ!”
“ฉินชวนได้ประกาศออกมาว่า พวกเขาเผ่ามังกรซ่อนรูปนั้นสามารถที่จะเข้ามาตรวจค้นได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นเลยไม่จำเป็นที่จะต้องบุกรุกเข้าไป นั่นก็เพราะว่ายังเคารพต่อท่านนายหญิง และก็ไว้หน้าให้กับตระกูลฉินด้วย”
“เขาบอกว่า อีกสิบนาทีสุดท้าย ถ้าหากว่ายังไม่เอาแส้มังกรของพวกเขาส่งออกมาดีๆล่ะก็ พวกเขานั้นจะส่งทหารสามพันคนให้บุกรุกเข้ามาที่นี่ครับ”
“หากว่าใครหน้าไหนที่จะเข้ามาขัดขวาง จนทำให้มีผลกระทบต่อการดำเนินคดีของพวกเขา พวกเขานั้นจะอิงตามกฎของเผ่ามังกร คือฆ่าไม่ไว้หน้า!”
ฉินชวน ตอนนี้ที่รอไม่ไหวแล้ว หากพวกเขานั้นไม่ได้รับข่าวจากจี้ชิง เอ่ยว่าฉินเทียนนั้นถึงแม้จะอยู่ในอาการช่วงโคม่า แต่ว่าก็ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าวิกฤตจนเป็นอันตรายถึงชีวิต
มิฉะนั้นพวกเขานั้นคงจะบุกเข้าไปนานแล้ว
“ไร้สาระ!”
“พวกเจ้าเผ่ามังกรซ่อนรูปจะช่างกล้าอะไรเช่นนั้น ทั้งๆที่ทำอะไรไม่ได้นะหรอ?กลับกล้าที่จะบุกเข้ามาที่เมืองฉินของพวกเรา!”
“มานี่กันเร็ว มาคอยรักษาการที่หน้าประตูไว้ หากใครที่จะกล้าบุกรุกเข้ามา ให้ฆ่าอย่างไม่เว้นหน้าไหนทั้งนั้น!”
หยางหลิวที่นัยน์ตามีสีแดงก่ำ และไม่ได้สนใจในคำสั่งของนายหญิงใหญ่ เธอนั้นก็อยากที่จะตัดสินใจและเป็นใหญ่ด้วยตนเอง อีกทั้งอยากจะออกคำสั่งจัดการกองกำลังเองอีกด้วย
ทุกคนนั้นต่างก็ตื่นตระหนกตกใจ แล้วมองไปที่นายหญิงใหญ่
“บ้าบอไปแล้ว!”
สีหน้าของนายหญิงใหญ่นั้นมืดมน ก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ในนามของฉินฉีนั้น ที่ได้เป็นผู้นำตระกูลฉิน ตามความหมายของเขานั้น ให้ส่งฉินเทียนออกไปให้เขาส่ะ”
“เป็นไปไม่ได้!”
หยางหลิวที่มีนัยน์ตาสีแดงนั้น มองไปที่นายหญิงใหญ่พร้อมทั้งสายตาที่โกรธแค้นแล้วเอ่ย “ข้าไม่ยอมหรอกนะ!”
“เจ้านั้นคงไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าหลายชายไร้ประโยชน์นั่น แล้วยังจะแอบมีความรู้สึกให้เขาหรอกนะ?”
“นายหญิงใหญ่ ในตระกูลนี้ ฉินฉีนั้นไม่ได้เป็นผู้นำตระกูลใหญ่แล้วล่ะ”
เธอนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนายหญิงใหญ่ อีกทั้งยังนับว่าเป็นครั้งแรกของเธออีก และใบหน้าของผู้คนต่างๆนั้นก็เต็มไปด้วยสีหน้าที่ตกใจ
นายหญิงใหญ่จ้องมองไปที่หยางหลิว ก่อนที่จะเอ่ยเสียงเบาๆ “ถึงแม้ว่าฉินฉีนั้นไม่ได้เป็นผู้นำตระกูล แต่ยังไงสะผู้นำตระกูลก็จะไม่ตกไปถึงมือเจ้าอย่างแน่นอน!”
“หากเธอนั้นไม่ยอมล่ะก็ ก็ไปที่บนภูเขาเพื่อไปหาสามีของเธอสะสิ!”
“เถียหยิง เจ้านั้นไปช่วยจัดการเรื่องของถงจิ่งเถอะ”
“พวกเราตระกูลฉิน ไม่สามารถที่จะไปประจันหน้าเจอกับพวกทางการได้หรอกนะ”
“รับทราบ!”
เถียหยิงเมื่อได้รับคำสั่ง ก่อนที่จะหันหลังแล้วรีบเดินจากไป
ภายใต้สายตาของนายหญิงใหญ่ ที่เดินจากไปพร้อมทั้งได้รับการคุ้มครองจากราชาจินตูน ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วหลันหลังจากไป ส่วนหยางหลิวนั้นก็ได้มองพร้อมทั้งสายตาโกรธจนดวงตานั้นแทบจะแตกออกมา
เมื่อมาถึงตอนนี้นั้น ทันใดนั้นเธอนั้นก็รู้สึกถึงอารมณ์ที่หมดหนทางจะสู้
เมื่อก่อนนั้น เธอนั้นได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหยาง คนทุกคนของตระกูลฉินนั้น ต่างก็เกรงใจเธอ แต่ว่าตอนนี้ ตระกูลหยางนั้นได้ถูกกำจัดไปแล้ว เธอนั้นได้อาศัยอยู่ที่ตระกูลฉิน และก็ดูเหมือนจะยากที่จะยืนขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันไม่ยอมหรอก!”
“ฉันจะต้องฆ่าฉินเทียนจนทำให้เขานั้นไม่มีแม้แต่หลุมฝังศพ!”
“ฉินฉี ฉันยังไม่จบกับแกหรอกนะ!”เธอนั้นเหมือนผู้หญิงที่ไม่มีเหตุผล ก่อนที่จะร้องตะโกนแล้วพุ่งออกไป
……
เถียหยิงนั้นที่ได้นำกองทัพกองกำลังเงา รีบไปยังที่วังตะวันออก
ที่นี่นั้น กลับกลายเป็นสถานที่กบดาน
ฉินเทียนนั้นที่ยังสลบไม่ฟื้น สีหน้าที่เปลี่ยนไปซีดขาวราวกับกระดาษ เหลิ่งหยุนนั้นได้จับมือของเขาไว้แน่น ก่อนที่จะแบกแขนของเขานั้น มาพาดไว้บนไหล่ ส่วนอีกมือนั้น ก็ได้ถือมีดสั้นเอาไว้
ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีแดง ไม่ว่าจะเป็นใคร เพียงแค่กล้าที่จะมาพยายามทำร้ายฉินเทียน เธอนั้นจะต่อสู้กลับด้วยชีวิต
ที่ด้านข้างของเธอนั้นคือ จี้ชิง หวงพานและจี้ตู
ทั้งสามคนนั้นที่อยู่ด้านนอก ต่างก็คือปรมาจารย์ของพวกเขาและถงจิ่ง พวกเขานั้นต้องมาเผชิญหน้ากับคนคนนั้น นั่นก็คือยายแม่มดผู้ที่มีสีหน้ามืดหม่น
ในสถานที่นั้น จะเห็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ดูจะผ่อนคลายที่สุด กลับกลายเป็นฉินเปียว
เขานั้นได้นั่งอยู่บนก้อนหินอยู่ไกลๆ มองมาที่ กองกำลังที่อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ที่เหลือง สีหน้านั้นมิอาจคาดการณ์ได้ และไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“เถียหยิง เป็นยังไงบ้าง?”ถงจิ่งเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น
เถียหยิงพยักหน้า ก่อนที่จะเอ่ยเสียง“นายฉินนั้นได้ส่งพวกนักบวชมา นายหญิงใหญ่นั้นก็อนุญาตแล้ว ให้พวกเรานั้นไปส่งคุณชายทั้งสองออกจากเมือง!”
“ผู้อาวุโสถง ต้องรีบหาโอกาสจัดการสะนะ รีบๆไปเร็ว!”
“ได้!”ถงจิ่งถอนหายใจ ก่อนที่ภายใต้สายตานั้นจะปรากฏถึงความพอใจมีความสุข
แท้จริงแล้วเขานั้นก็นับว่าเป็นหนึ่งคนที่เป็นห่วงฉินเทียน แต่เมื่อต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้นั้น เขานั้นก็อดไม่ได้ที่จะแอบเช็ดเหงื่อ
อันตรายมาก!
ทั้งสองคนนั้นหนึ่งคนนำหน้า หนึ่งคนตามหลัง และตรงกลาง ส่วนพวกปรมาจารย์หลายสิบคนนั้น ก็ได้คอยปกป้องคุ้มครองเป็นอย่างดี
จี้ชิงและเหลิ่งหยุน ทั้งซ้ายและขวา และขับรถพาฉินเทียน มุ่งไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว
ยายแม่มดถึงแม้ว่าหลายครั้งที่อยากจะลงมือ แต่ว่าเมื่อต้องมาเจอการคุ้มกันที่รัดกุมขนาดนี้ ก็อยากที่จะลงมือ เธอนั้นจึงทำได้แค่ร้อนรน
“รอสักครู่!”
ฉินเปียวที่นั่งอยู่ด้านบนของก่อนหินนั้น ทันใดนั้นก็ได้เอ่ยจะโกนออกมา ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
ถงจิ่งตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยอย่างเกร็งๆออกมา “คุณชายรอง พ่อของท่านและนายหญิงใหญ่นั้น ต่างก็ได้ออกคำสั่งออกมาแล้ว”
เขานั้นยังคิดว่า ฉินเปียวนั้นจะไม่สนใจอะไรแล้วลงมือ และฉินเปียวเขานั้นคือคนที่ต้องสืบทอดตระกูลคนต่อไปของตระกูลฉิน และก็เป็นคนที่นายหญิงใหญ่นั้นรักมาก
ถ้าหากว่าฉินเปียวนั้นจะลงมือ งั้นพวกเขานั้นก็ยากที่จะมาขัดขวาง
“วางใจเถอะ”
ฉินเปียวเอ่ยพร้อมหัวเรา “ข้านั้นเต็มใจยินยอมที่จะลงเล่นเองนะ แล้วข้านั้นจะมาใช้โอกาสตอนที่เขานั้นยังลำบากได้ยังไงกัน”
“ราชาถงจิ่ง ยังไงก็รบกวนคุณช่วยบอกพี่ชายที่แสนดีของผมหน่อยนะ ว่าเรื่องที่ผมนั้นเคยสัญญาเอาไว้ ผมนั้นจะไม่ปฏิเสธ”
“เรื่องที่เขานั้นอยากจะรู้ รอหลังจากที่เขานั้นฟื้นขึ้นมาแล้ว ค่อยมาถามเถอะ”
เมื่อเอ่ยไป น้ำเสียงและสติของเขานั้น ต่างก็ค่อยๆเงียบสงบและมืดมนลง “เมื่อถึงเวลานั้น พวกเราสองพี่น้องนั้น หรือไม่ก็อาจที่จะต้องต่อสู้เพื่อแข่งขันกันเอง”
ถงจิ่งนั้นนิ่งสงบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “รับทราบครับคุณชายรอง ผมจำได้แล้ว”
“ผมนั้นจะบอกคุณชายทุกคำและไม่ตกคำพูดเลยสักคำเดียว”
ก่อนที่คนหนึ่งหนึ่งนี้จะค่อยๆจากไปจากวังตะวันออก
ที่ด้านนอกของจวนฉิน ตอนนี้ได้มีรถมาจอดไว้เป็นแถว พวกเขานั้นขึ้นรถ ก่อนที่เสียงคำรามจะออกมา แล้วก็ขับทะยานกันออกไป
ที่ด้านหน้าประตูเมืองนั้น ฉินชวน เฟ่ยเทียนอิงและคนอื่นๆนั้น ภายในใจต่างก็ร้อนรนจนแทบลุกเป็นไฟ
เรื่องของภายในตระกูลนั้น ฉินเทียนนั้นไม่อยากให้ฉินชวนนั้นยื่นมือเข้ามาแทรก อีกทั้ง เรื่องการประชุมของผู้อาวุโสสามนั้น ที่ได้มาส่งจดหมายโดยเฉพาะ ทางกองบัญชาการนั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่า เผ่ามังกรซ่อนรูปนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะยื่นมือเข้ามาแทรกเรื่องภายในของตระกูลฉินได้
ดังนั้นตั้งแต่ที่ได้ออกมาจากหมู่บ้านจินซา ฉินเทียนนั้นได้ให้ฉินชวนอยู่ต่อ และรับผิดชอบคอยตรวจสอบในพื้นที่ รวมถึงตระกูลหยาง
แต่ว่าในตอนที่ฉินเทียนนั้นอยู่ในแถบหุบเขา และได้มีการต่อสู้กับพวกทาสสัตว์ จากการที่จี้ชิงได้พิจารณาวิเคราะห์อา ก่อนที่เขานั้นจะส่งข่าวไปให้กับฉินชวน
พิจารณาเกี่ยวกับศัตรูที่อยู่ในแดนไกลของฉินเทียน ก่อนที่ฉินชวนนั้นจะตัดสินใจ ไม่เกรงกลัวที่จะขัดขืนคำสั่ง และได้รับการลงโทษและความเสี่ยงจากกองบัญชาการ เขานั้นก็จะต้องคอยปกป้องฉินเทียนให้ได้
ตระกูลฉินที่พลังอำนาจมากมาย ดังนั้นพวกเขานั้นได้เอาทั้งมังกรซ่อนรูปตะวันตก รวมถึงคนอื่นๆนั้น รวบรวมกันเข้ามา
ฉินเทียนนั้น ได้มีบุญคุณกับเผ่ามังกรซ่อนรูปตะวันตก ดังนั้นพี่น้องทุกคนนั้น ต่างก็มีสีหน้าที่จริงจัง
เพื่อที่จะช่วยแส้มังกร พวกเขานั้นได้ทำการเตรียมพร้อมที่จะละทิ้งอนาคต รวมถึงเตรียมตัวที่จะละทิ้งชีวิตของพวกเขา
แส้มังกรหากมีเรื่องเกิดขึ้น งั้นพวกเขานั้นสามพันทหาร วันนี้จะต้องใช้เลือดล้างเมืองฉินเป็นแน่!
“มาแล้ว!”
“เร็ว รีบเข้ามารับแส้มังกร!”
เมื่อมองเป็นประตูหน้าเมือง และได้มีรถขับเข้ามากันเป็นแถว ฉินชวนนั้นที่มองไปที่ด้านนอกอย่างมีความสุข ในช่วงเวลาแรก ก่อนที่จะเข้าไปต้อนรับ
ฉินเทียนในเวลานี้นั้น ถึงแม้จะยังไม่ได้ฟื้นคืนสติ แต่ว่าลมหายใจรวมถึงชีพจรนั้น ได้นิ่งและมั่นคงดีขึ้นเยอะแล้ว
สีหน้าของเขาตอนนี้ก็ไม่ได้ขาวซีดแล้ว
ไม่ทราบว่าเพราะอะไร ถงจิ่งนั้นได้มีความรู้สึกอยู่ตลอดว่า ถึงแม้ว่าคุณชายนั้นจะยังสลบไม่ได้คืนสติ แต่มองไปแล้วเหมือนกับสภาพที่เป็นทารก ที่ได้กำลังดูดซับพลังงานจากระหว่างบนโลกและสวรรค์
หากเมื่อไหร่ที่ฟื้นขึ้นมา เขานั้นจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างแน่
เขานั้นหันไปเอ่ยกับฉินชวน:“ข้าคารวะท่านซีจุน”
“คุณชายรองของพวกเรานั้นมีเรื่องจะคุยด้วย เรื่องการเดิมพันกับคุณชายใหญ่ในรอบนี้ ข้านั้นได้แพ้อีกแล้ว ข้านั้นยินยอมที่จะทำตามคำสัญญา รอให้คุณชายฟื้นขึ้นมาก่อน ค่อยไปนัดหาสถานที่ แล้วบอกเรื่องที่คุณชายใหญ่นั้นอยากจะรู้ทั้งหมด”
“เมื่อถึงเวลา ระหว่างพี่น้องนั้น น่าจะต้องมีการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอน”
“ในช่วงเวลานี้เอง ให้คอยดูแลคุณชายใหญ่ดีๆเถอะ รบกวนซีจุนแล้วล่ะ”
ก่อนที่จะยกมือคำนับ แล้วเถียหยิงและคนอื่นๆนั้น ต่างก็รีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว