บัญชามังกรเดือด - บทที่ 849 พระอาทิตย์ตก
บัญชามังกรเดือด บทที่ 849 พระอาทิตย์ตก
ฉินชวนอยากจะเอ่ยอะไร แต่ว่าด้านนอกนั้นได้มีเสียงดังเข้ามา ก่อนที่จะมีเสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน ของหูเฟย หานหลิงและหูรั่วหลัน วิ่งพุ่งเข้ามา
“พี่ชาย พี่ไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม?”
“นี่มันช่างดีจริงๆ!”
ส่วนหูเฟยนั้นที่ได้น้ำตาหลั่งนองตั้งแต่แรก
ส่วนด้านของ หานหลิงและหูรั่วหลันนั้นที่ได้กอดกันด้วยความดีใจทั้งน้ำตา
ฉินเทียนสลบไปไม่กี่วันมานี้ พวกเขานั้นมาได้เยี่ยมทุกวัน และเมื่อเส้นทางเดินที่ผ่านมาได้พบเจอกับเหลิ่งหยุน แล้วทราบว่าฉินเทียนนั้นฟื้นคืนสติแล้ว อีกทั้งร่างกายยังกลับมาแข็งแรงอีก ทั้งสามนั้นต่างก็ตื่นเต้นดีใจ และไม่เอ่ยก็พอจะทราบได้
“รั่วหลัน เจ้านั่งลงก่อน”
เมื่อมองเห็นหูรั่วหลัน ฉินชวนนั้นก็รีบไปยืนด้านข้าง ก่อนที่จะนั่งลงทั้งที่สีหน้าเป็นสีแดง
สีหน้าของหูรั่วหลันเป็นสีแดง ก่อนที่จะมองไปที่ฉินชวน ก่อนที่สายตานั้นจะรีบเปลี่ยนทิศหันไปแล้วเอ่ยเสียงเบา “ซีจุนนั่งลงเถอะ”
“ฉันนั้นไม่กล้าดีหรอกต่อหน้าท่านซีจุน”
“ข้าเอ่ยแล้วว่า อยากเรียกข้าว่าซีจุน……มันสูงส่งเกินไป”ฉินชวนนั้นเกาหัว ก่อนที่จะยิ้มๆ ซีจุนที่เก่งกาจนั้น ในตอนนี้นั้นก็เหมือนกับลูกชายคนโง่ของตระกูลนี้
ฉินเทียนเมื่อเห็นดังนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้นเล็กน้อย
เขามองไปที่หูเฟย ก่อนที่จะเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “พี่เฟย มองดูแล้ว ตระกูลหูนั้นจะต้องมีเรื่องดีๆในอนาคตอันใกล้แน่เลยนะ”
“เมื่อถึงเวลาแล้ว อย่าลืมมาชวนข้าไปดื่มเหล้าด้วยล่ะ”
หูเฟยนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“สุดยอดมาก!”
“พรรคพวก พี่สะใภ้ของเจ้าเพิ่งจะท้อง เจ้าก็รู้แล้วหรอ?”
“สายตาของพี่ช่างแหลมคมจริงๆเลยนะ!”
ฉินเทียนนั้นเอ่ยจนหัวเราะจนเกือบจะต้องร้องไห้“เจ้าเอ่ยว่า หานหลิงท้องแล้วหรอ?”
หูเฟย“พี่ไม่รู้หรอกหรอ?ถ้าอย่างงั้นที่พี่เอ่ยมาเรื่องที่น่ายินดี เป็นเรื่องยินดียังไงล่ะ?”
หานหลิงนั้นจ้องมองไปที่หูเฟย แล้วเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจ “ความคิดช่างดื้อรั้นจริงๆ!”
“ตระกูลหูนั้นเหลือแค่เจ้าคนเดียวแล้วหรอ?รั่วหลันนั้นไม่ใช่คนของตระกูลหูหรอกหรอ?งั้นก็ไม่สามารถที่จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีของรั่วหลันหอรอ?”
“ข้าพูดถูกไหมล่ะซีจุน?”
ในขณะนี้ หูเฟยนั้นยังไม่รู้สึกตัว ก่อนที่จะอดไม่ได้ที่จะเบิกตา
“ฉินชวน รั่วหลัน พวกเจ้า——”
ใบหน้าของรั่วหลันนั้นแดงราวกับมะเขือเทศ ก่อนที่จะรีบเอ่ย “พี่เทียนเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา น่าจะหิวแน่ๆเลย ฉันจะไปเตรียมอาหารมาให้นะ”
เมื่อเอ่ยแล้ว ก็ก้มหน้า ก่อนที่จะรีบกระโดดหนีไป
เอ่ยจนทำให้ฉินชวนนั้นไม่รู้จะทำตัวยังไง ทำให้สีหน้าของเขานั้นเหมือนไก่ตัวผู้ที่กำลังจะออกไข่สะงั้น
“เข้าใจผิด……หูเฟย อันนั้นข้า ……อือ จริงๆแล้ว……”
เขานั้นอ้ำๆอึ้งๆ เอ่ยไม่ออก
หูเฟยนั้นได้ตบเข้าไปที่หัวไหล่ของฉินชวน ก่อนที่จะกัดฟันเอ่ย “ฉินชวน กล้าดีนะ?”
“น้องสาวของข้านั้นเป็นคนยังไง?นางเหมือนนางฟ้าที่มาจากสวรรค์เลยนะ!”
“เป็นของล้ำค่าของพวกเราตระกูลหูเลยนะ!”
“อย่างอื่นไม่ต้องพูด เจ้านั้นอายุมากกว่าเธอเท่าไหร่กัน?อยากจะมาเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อนงั้นหรอ อยากให้เธอสนใจหรอ?”
“เอ่ยสิ เจ้านั้นทำอะไรกับเธอ?!”
ในอดีตนั้น ฉินชวนอยู่ที่ฮั่นจง ก่อนที่ลูกพี่ลูกน้องจินหู่ของเขาจะเกิด เขากับพ่อของหูเฟยนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดี
หลังจากที่จินหู่เสียชีวิตไป ตำแหน่งของฉินชวนนั้นก็น่าเห็นใจ กลายเป็นเด็กที่ไม่มีแม่ พ่อของหูเฟยนั้นก็ได้รับเขาเข้ามาในบ้าน และเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
ในตอนนั้นฉินชวนนั้นอายุสิบกว่าปี แต่ว่าในตอนนั้นหูรั่วหลันนั้น ยังเป็นแค่เด็กสาวที่ถักเปีย และไร้เดียงสาคนหนึ่ง
หลังจากที่ได้ยินคำดุของหูเฟยแล้ว ฉินชวนนั้นตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี และรู้สึกเหมือนกับได้ทำบาปกรรมอะไรกันไว้ อย่างไม่มีเหตุผล
“หูเฟย ท่านวางใจเถอะ ข้า——”เขานั้นกัดฟัน และอยากจะเอ่ยสาบาน
ทันใดนั้นหูเฟยก็หัวเราะเสียงดังออกมา
“มองดูสิทำเจ้าตกใจหมดแล้ว!”
“เป็นถึงซีจุนอยากจะมาเป็นสามีของน้องสาวข้า หากคู่ควรกับรั่วหลัน ก็เหมาะสมกับข้าเหมือนกัน!”
“แค่อายุมากกว่าสิบปีจะไปนับอะไรกัน?ในสมัยนี้แล้ว ความรักนั้นไม่แยกอายุหรอกนะ”
“ข้านั้นมีแค่คำขอเดียว เจ้านั้นจะต้องจริงใจกับน้องสาวของข้า หากข้าพบว่าเจ้านั้นรังแกเธอล่ะก็ ข้าพี่ชายคนนี้แหละ จะสู้กับเจ้าด้วยชีวิต!”
ฉินชวนเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “เอ่ยเช่นนี้ เจ้า ……ยอมรับหรอ?”
หูเฟยหัวเราเอ่ย“นอกจะจากว่าเจ้ากลัว หากชอบก็ไปตามจีบเถอะ”
“ข้าสนับสนุนเจ้า!”
หานหลิงนั้นเม้มปากพร้อมยิ้ม “รั่วหลันของพวกเรานั้นโตแล้ว แม้แต่ข้าผู้หญิงคนนี้ยังอิจฉาเลย”
“ซีจุนนั้นจะต้องดูแลรักษาดีๆนะ”
เมื่อเห็นว่าฉินชวนยังสับสนอยู่ จี้ชิงถอนหายใจ ก่อนที่จะเอ่ยอย่างสบายใจ “น่าเสียดายจริงๆ ที่ข้าแต่งงานเร็วไปหน่อย”
“หากไม่ใช่เพราะข้านั้นมีชิงเหยาแล้ว ฉินชวน ข้านั้นจะต้องแย่งกับเจ้าแน่ รั่วหลันอาจจะไม่ชอบเจ้าก็ได้นะ”
ฉินเทียนเมื่อเห็นว่าฉินชวนนั้นเอ่ยไม่ออก เหมือนกับเด็กที่ไม่รู้จะทำยังไง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วเอ่ย “พอได้แล้วล่ะ รับไปจัดการเถอะซีจุน พวกเจ้าก็พอได้แล้ว”
“เรื่องความรู้สึกนี้ ต้องดูโชคชะตาแล้วล่ะ ฉินชวน ข้าขอให้พวกเจ้าโชคดี”
“ไม่เอ่ย ข้านั้นเหมือนจะหิวจริงๆแล้วล่ะ พวกเราไปดูกันเถอะว่าน้องสาวรั่วหลันนั้นได้เตรียมของอร่อยอะไรไว้ พวกเรากินไปพูดคุยกันเถอะ”
ก่อนที่แต่ละคนนั้นก็ได้เดินมาถึงยังห้องอาหาร
ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารเช้า แต่ว่าเพื่อที่จะต้อนรับที่ฉินเทียนนั้นฟื้นขึ้นมา ทั้งอาหารทะเลต่างๆนั้น ต่างก็หลากหลายมากมาย
หูเฟยนั้นตื่นเต้นจนรีบไปหาเหล้าเก่าไม่กี่ขวดออกมา
หายหลิงและหูรั่วหลันที่ไม่รู้เรื่องราว อีกทั้งยังเป็นนายผู้หญิง ก่อนที่จะเชิญเหลิ่งหยุนมาด้วยความกระตือรือร้น
ไม่เอ่ยไม่ได้ว่า เจ้าเหลิ่งหยุนยัยบ้านี่นั้นก็ใจกล้ามาก ทั้งที่เพิ่งจะเจอฉากที่สะเทือนใจกับฉินเทียนนั้น ตอนนี้ทำตัวกลับไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น แล้วเอ่ยหัวเราะอย่างสบายใจ พร้อมทั้งชนหมดแก้วกัน
จนทำให้ฉินเทียนนั้นแทบจะไม่รู้ตัวว่าจะทำยังไง
ฉินเทียนเมื่อวางเหล้าลง ก่อนที่จะเปลี่ยนบทสนทนา
“ฉินชวน มีเรื่องที่เกี่ยวกับฉินเปียว ตอนนี้เจ้าเอ่ยมาได้แล้วล่ะ”
“หลังจากที่ข้าสลบไป เขานั้นได้เอ่ยอะไรบ้างไหม”
เมื่อมาถึงเรื่องหัวข้อบทสนทนานี้ บรรยากาศนั้นก็เคร่งขรึมลง ก่อนที่ทุกคนนั้นต่างก็วางแก้วเหล้าและตะเกียบลง
ฉินชวนนั้นนิ่งลงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยอย่างฝืนยิ้ม “แส้มังกร ท่านเพิ่งจะตื่นขึ้นมา ยังจะต้องพักผ่อนอีกสักวันหนึ่ง พวกเราจะคุยกันตอนไหนก็ได้ เป็นยังไงบ้างแบบนี้?”
พวกเขานั้นพยายามที่จะไม่อยากเอ่ยเรื่องหัวข้อนี้ เพราะกังวลเรื่องร่างกายของฉินเทียน ถึงแม้ว่ามองไปแล้วเขานั้นเหมือนกับจะกลับมาสมบูรณ์หายดีแล้ว แต่ว่าก็ยังทำให้คนรู้สึกแปลกไปอีก นั้นก็คือ เหมือนจะดูแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนอีก
แต่ว่า เขานั้นสลบไปตั้งสามวัน
หลายวันมานี้ ทุกคนนั้นต่างก็ตกใจจนแทบแย่
ดังนั้นเลยไม่ได้นัดมา และอยากที่จะพยายามหลีกเลี่ยงคำถามนี้ และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมหูเฟยนั้นถึงเรียกทุกคนนั้นมาทานอาหารเช้าด้วยกัน
ทุกคนนั้นชอบ หลังจากที่ฉินเทียนนั้นดื่มเหล้าแล้ว เพราะสามารถทำให้เขานั้นหลงลืมได้
แต่ว่า ฉินเทียนนั้นจะไปลืมลงได้ยังไงกัน?
เรื่องนี้นั้น ได้ฝังอยู่ในหัวใจของเขาและจะไม่มีวันลืมไปตลอดกาล
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินชวนแล้ว เขายิ้มเอ่ยตอบ “ไม่ต้องแล้วล่ะ”
“เพื่อหลีกเลี่ยงเวลาค่ำคืนนี้ที่จะยาวนานเกินไป พวกเรานั้นจะต้องรีบบุกรีบจัดการนะ”
เมื่อเห็นสีหน้าของทุกคนนั้นแปลกใจ เขานั้นเลยเอ่ยเรื่องที่น่าสนใจอื่นและหัวเราะออกมา “ข้านั้นก็คิดถึงภรรยาของข้าเหมือนกันนะ!”
“รับไปจัดการ แล้วกลับบ้านไปเจอภรรยาไงเล่า!”
“ใช่แล้ว รอให้ลูกชายของข้านั้นเกิด พวกเจ้านั้นจะต้องไปดื่มเหล้ายืนดีด้วยนะ แม้แต่คนเดียวก็ห้ามขาด!”
เมื่อมองเห็นเขานั้นที่ดูจะมีความสุข ก็ยังรู้ว่ายังไงก็หนีไม่พ้น ฉินชวนเลยเอ่ยอธิบายเสียงเบา เมื่อเมืองฉินนั้นได้แยกกันแล้ว และเรื่องที่ราชาถงจิ่งเอ่ยทิ้งเอาไว้
“พี่เทียน ฉินเปียวนั้นโกหกฉลามแกมโกง ไม่สามารถที่จะเชื่อเขาได้!”จี้ชิเอ่ยด้วยความเป็นกังวล
ฉินเทียนนั้นคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ย “ข้านั้นเป็นน้องชายที่พ่อเดียวกันแต่ต่างแม่ ข้านับวันนั้นยิ่งมองไม่ออกแล้วจริงๆ”
“รอบก่อนถึงแม้ว่าเขานั้นจะเอ่ยว่ารักษาสัญญา บอกพวกเราเกี่ยวกับเส้นทางของพวกหมาป่าหอน จริงๆแล้วแค่อยากที่จะใช้ยืมมือของพวกเรา เพื่อไปกำจัดลุงของเขาที่เป็นภัยต่อตัวเขาเองต่างหาก”
“เขานั้นโหดเหี้ยมร้ายอาจมาก”
“ในรอบนี้ ไม่รู้ว่าเขานั้นอยากที่จะเอ่ยหลอกลวงอะไรอีก”
“ไม่ว่ายังไง พวกเรานั้นจะต้องไม่ล้มเลิกแน่นอน!”
ถึงแม้จะรู้สึกเหมือนว่าถูกฉินเปียวนั้นคอยจูงจมูก แต่ว่าพวกเขานั้นก็ยังโทรหาไปยังฉินเปียว
“ข้าคือฉินเทียน”
เมื่อต้องเผชิญ เสียงหัวเราะเบาๆที่ส่งออกมา
ฉินเปียวเมื่อฟังแล้วก็มีความสุขเป็นอย่างมาก“ในที่สุดก็ฟื้นแล้วหรอ?”
“พระอาทิตย์ตกดิน ที่เขาอิงจุ่ย เจ้ามาที่นั่นคนเดียวพอ”
“ข้าจะรอเจ้า”
เมื่อเอ่ยจบแล้ว ก่อนที่จะกดวางสายโทรศัพท์ไป