บัญชามังกรเดือด - บทที่ 866 คือบทสอบทั้งหมด
บัญชามังกรเดือด บทที่ 866 คือบทสอบทั้งหมด
ด้านนอกประตูนั้น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มันกลายมาเป็นโรงเก็บของในครัวขนาดย่อมเสียได้
พร้อมทั้งกลิ่นหอมที่ฉุนจมูกขึ้นมา!
พ่อครัวทั้งหลายที่สวมใส่เสื้อคลุมสีขาวและหมวกทรงสูงกำลังทำอาหารอย่างระมัดระวัง
สาวใช้กำลังเป่าหม้อซุปบนเตาและเอ่ยขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “นายหญิงใหญ่กล่าวว่า ให้จัดทำซุปบำรุงร่างกายและคอยอุ่นตลอดเวลา เพื่อให้นายหญิงน้อยสามารถทานได้อย่างสะดวกในทุกเมื่อเจ้าค่ะ ”
“อีกทั้งสำรับอาหารเหล่านี้ ล้วนแต่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับนายน้อยและนายหญิงน้อยเจ้าค่ะ”
“นายท่านต้องการให้นำไปเสิร์ฟด้านในหรือไม่เจ้าคะ ”
พ่อครัวที่เหลืออยู่ก็มองดูเช่นกัน ในสายตาของพวกเขาหาได้มีความรู้สึกอื่นใดไม่ นอกจากความสงบอบอุ่นและความเคารพที่มีต่อพวกเขา
เมื่อประตูห้องถัดไปถูกเปิดออกนั้น ก็พลันเห็นปากของจี้ซิงเต็มไปด้วยอาหารมันเยิ้ม จี้ซิงพลันพูดออกมาด้วยท่าทีเขินอายว่า “พี่เทียนฉันต้องบอกว่าคนทำอาหารของตระกูลฉินสายเก่าของพี่เก่งจริงๆ”
“อร่อยมากเกินไปแล้ว”
“พี่กินข้าวกับพี่สะใภ้หรือยัง? พวกพี่นอนกันทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ ควรหาอะไรกินเถอะ”
พูดจบ เขายังไม่หยุดที่จะกลืนอาหารลงไปในท้องของตน
ฉินเทียนอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบนขึ้นมา เขาจะพูดว่าไม่อร่อยได้หรือ? ถ้าหากเขาเดาไม่ผิดละก็ กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้านั้น คือทีมเชฟของนายหญิงใหญ่
ที่เป็นกลุ่มรวบรวมเชฟชื่อดังจากทั่วประเทศ โดยปกติจะจัดอาหารเสิร์ฟให้กับหญิงชราเท่านั้น
ใบหน้าของเขาพลันอ่อนลงไปในทันที แต่ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าเขาจะหงุดหงิดแค่ไหน เขาก็ได้แต่นำอารมณ์โกรธไปลงกับคนเหล่านี้อยู่ดี
นอกจากนี้ซูซูกำลังหิวมาก นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขา!
ดังนั้นแม้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงกลอุบายที่นายหญิงใหญ่กำลังเล่นกล เพื่อให้เขาให้อภัยนางนั้น แต่เขาก็หาได้สนใจมากไม่
“เอาไปเสิร์ฟข้างใน!”
“เอาเข้าไปทั้งหมดเลย!”
ฉินเทียนพลันโบกมือไปมาอย่างไม่สบอารมณ์
คนรับใช้กลุ่มหนึ่งจึงค่อย ๆ ถืออาหารอันโอชะทุกประเภทเข้าแถวและเดินเข้าไปในห้องทีละคนเช่นกัน
ไม่นานนักโต๊ะภายในห้องก็เต็มไปด้วยอาหารมากมาย จนทำให้ซูซูตกตะลึงไปในทันที
นี่คือวิถีทานข้าวของตระกูลใหญ่ ๆงั้นเหรอ ?
เพียงแค่นางเพิ่งลืมตาขึ้นมาและบอกว่าหิวนั้นไม่ถึงนาที ก็มีอาหารมากมายมากองเป็นภูเขาเลากาเสียแล้ว?
ไม่เพียงแต่เท่านั้น เป็นเพราะพวกมันเป็นเพียงมื้ออาหารที่สามารถเก็บไว้ได้ หลังจากเสร็จแล้วนั้นก็สามารถนำไปเคี่ยวต่อบนเตา
เสียงหม้อและกระทะข้างนอกนั้น พลันดังออกมาด้วยความกระตือรือร้น บรรดาอาหารทะเลสดที่เก็บรักษาไม่ง่าย เช่นอาหารเย็น ขนมเมลอนและผลไม้ตามฤดูกาลจึงเพิ่งเริ่มจัดทำขึ้น
ในไม่ช้า พวกเขาก็นำของหวานมาวางไว้บนโต๊ะกาแฟข้าง ๆ ในทันที
ซูซูพลันเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีในตอนนี้
ประเด็นก็คือ มีสาวรับใช้จำนวนมากกำลังยืนมองอยู่รอบ ๆ เพื่อคอยรับใช้พวกเขา
จากนั้นไม่นาน ซูซูจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำและพูดว่า “ตระกูลของคุณต้องการเลี้ยงฉันให้เป็นหมูหรือเปล่า?”
ฉินเทียนพลันรีบโบกไม้โบกมือไปมาอย่างเร่งรีบ พลางพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “ทุกคนลงไปให้หมด”
“ถ้าไม่มีคำสั่งของฉัน อย่าเข้ามารบกวน”
“ค่ะ นายน้อย!”
สาวใช้รีบเดินออกไปและปิดประตูลงอย่างแผ่วเบาในทันที
ซูซูอดที่จะกรอกตามองบนให้กับฉินเทียน ก่อนที่จะแย้มยิ้มออกมาว่า “ฉันที่ใช้คุณเป็นเด็กส่งอาหารมาโดยตลอด ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า อำนาจของนายน้อยจะฝังอยู่ในกระดูกดำของคุณแบบนี้”
“นี่ไม่ใช่ว่าเปิดเผยตัวแล้วเหรอ?”
“ทว่า พวกเขาเองก็ชีวิตไม่ง่ายเลยต่อไปนี้ คุณควรปฏิบัติตัวต่อพวกเขาให้ดีกว่านี้และควรพูดจาอย่างสุภาพด้วย”
ฉินเทียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ว่า เธอยังมีกะจิตกะใจคิดถึงพวกเขาอีกมาเถอะ กินปลาทอดก่อน”
“ความร้อนของซุปทะเลนี่กำลังดีเลยคุณลองดูสิ”
“แล้วก็รังนกถ้วยนี้ น่าจะเป็นรังนกในวัง ช่วยบำรุงร่างกายและช่วยหมุนเวียนเลือดได้ดีอีกด้วย คุณกินเยอะ ๆ เลย”
นายหญิงใหญ่แห่งตระกูลฉินสายเก่านั้น นางมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากกว่าท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลมากนัก ทีมเชฟของเธอนั้น มักจะตระเตรียมอาหารที่ดีและมีประโยชน์ให้กับเธออยู่เสมอ
ซูซูเองก็หิวมากเช่นกันดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก โชคดีที่ไม่มีคนอยู่รอบๆ ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวเรื่องขายหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น
นางพลันเคี้ยวอาหารเต็มกระพุ้งแก้มก่อนจะกลืนมันลงไปในท้อง
ทานอาหารหนึ่งมื้อ ถึงกับใช้เวลาไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว อาหารที่อยู่บนโต๊ะนั้น พลันพร่องลงไปไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบของอาหารทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ
ฉินเทียนที่คอยดูแลเอาใจใส่ซูซูนั้น เขาไม่รู้เช่นกันว่า ตัวเองก็ทานอาหารมื้อนี้ไปไม่น้อยเลยทีเดียว
ต่อมาไม่นานนั้น ซูซูก็ไม่อาจทนกินได้อีกต่อไป
เธอถอนใจออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเช็ดปากและนั่งพิงพนักเก้าอี้ พลางเอ่ยออกมาว่า “นี่คือชีวิตของนายหญิงใหญ่หรือ?”
“พระเจ้า มันจะดูดีเกินไปหรือเปล่า”
ฉินเทียนแย้มยิ้มก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เธอชอบที่นี่งั้นเหรอ?”
“อยากจะเป็นนายหญิงอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ?”
ซูซูพลันขบเม้มริมฝีปากของตัวเองเอาไว้ “คุณอยากฟังความจริงหรือเรื่องโกหกกัน”
ฉินเทียนจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “ย่อมต้องเป็นความจริง”
ซูซูเอียงศีรษะลงเล็กน้อย ก่อนจะขบคิดอยู่นาน พลางเอ่ยขึ้นมาว่า “ที่นี่ดีมากจริงๆ… แต่ทว่า หากให้ฉันพูดความจริงละก็ ฉันไม่ค่อยชอบมันนัก ”
“อย่างน้อยฉันก็อยากกลับไปที่อุทยานมังกรของพวกเรามากกว่า”
เช่นนั้นก็ดีแล้ว
ฉินเทียนแอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขากังวลมากว่าหญิงชราจะใส่อะไรลงในน้ำซุปหรือเปล่า หากว่าซูซูต้องการที่จะอยู่เป็นนายหญิงที่นี่จริง ๆ
นั่นทำให้เขาได้พิสูจน์แล้วว่าสายตาของเขามองไม่ผิดแน่ ซูซูไม่ได้เป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงินทองและความมั่งคั่งแบบนั้น
“ไปกันเถอะ กลับไปที่อุทยานมังกรของเรากัน”
พูดจบ ฉินเทียนพลันลุกขึ้นยืนในทันที
“ไปกันเลยเหรอ?”
“ฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับที่นี่ แล้วเธอล่ะ?”
“เรื่องราวที่นี่ คุณจัดการเสร็จแล้วจริงๆ เหรอ?” ซูซูพูดออกมาด้วยท่าทีกังวลเล็กน้อย
ฉินเทียนพลันพยักหน้าลง พวกเราได้ตัดสินใจไปนานแล้ว ”
“แค่ว่าก่อนที่ฉันจะไปจากที่นี่ฉันอยากจะพาเธอไปกับฉันที่หนึ่ง หนทางมันอาจจะยากลำบากสักหน่อยนะ”
ซูซูตอบกลับในทันทีว่า “ไม่เป็นไร!”
“ตอนนี้ฉันกินอิ่มมากเกินไปแล้วถึงเวลาเดินย่อยอาหารแล้วเหมือนกัน”
“ดีแล้ว เช่นนั้นพวกเราไปกันเถอะ” ทั้งคู่ต่างก็ยิ้มให้กันและจูงมือกันเดินออกไปข้างนอกห้องในทันที
หลังจากเปิดประตูออกมานั้น ซูซูพลันอดที่จะร้องออกมาเบา ๆ ไม่ได้ เสมือนกับนางตกใจกลัว ก่อนจะไปหลบที่ข้างหลังของฉินเทียนในทันที
ใบหน้าของฉินเทียนพลันก็มืดครึ้มลงในทันที
ที่ด้านนอกห้องนั้น ห้องครัวชั่วคราวถูกรื้อออกไปในทันที พร้อมกับทั้งพ่อครัวและสาวใช้ก็ต่างก็หายไปกันหมด
เหลือแต่ผู้คนที่มารวมตัวกันอย่างหนาแน่นแทน
ทุกคนพลันมีสีหน้าเคร่งขรึมยิ่งนัก
“พวกนายคิดจะทำอะไร?” ฉินเทียนพลันมองไปที่จินตุนและเถียหยิง ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทั้งสองคนเป็นถึงคนเก่าแก่ของตระกูลฉินสายเก่า ด้านหลังของพวกเขานั้น เป็นถึงคนดูแลภายในตระกูลฉินสายเก่าบางคนทำหน้าที่ดูแลทางการเงินและทรัพย์สินมหาศาลของตระกูลฉิน บางคนเป็นถึงนายพลที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน
เรียกได้ว่า หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกปลดออกไป อีกฝ่ายถึงกลับต้องหวาดผวากันไปข้างหนึ่ง
ตอนนี้ ทุกสายตาพลันจับจ้องไปที่ฉินเทียนเพียงผู้เดียว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ราชาจินตูนพลันก้าวไปข้างหน้าก่อนจะพูดออกมาเสียงดังว่า “ยินดีต้อนรับนายน้อยและนายหญิงน้อยเข้าสู่วังตะวันออกขอรับ!”
” วันคืนที่ผ่านพ้นไป ยินดีต้อนรับนายน้อยเข้าสู่ตำแหน่งท่านผู้นำ เราทุกคนเต็มใจที่จะช่วยเหลือนายน้อยเพื่อทำให้ตระกูลฉินสายเก่ากลับมารุ่งเรืองอีกครั้งขอรับ!”
ข้างหลังของพวกเขา พลันเป็นคนชนชั้นสูงหลายร้อยคนจากตระกูลฉินสายเก่าพากันร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
“ยินดีต้อนรับนายน้อย และนายหญิงน้อยเข้าสู่วังตะวันออกขอรับ!”
“เราทุกคนเต็มใจช่วยนายน้อย!”
“ตระกูลฉินเก่าจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งได้อย่างแน่นอนขอรับ!”
เสียงกระเบื้องหลังคาพลันสั่นสะเทือนไปในทันที!
แม้แต่จี้ซิงที่มองดูภาพตรงหน้าในระยะไกล ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกมา
“พี่เทียน ยินดีด้วย!”
“ในที่สุดพี่ฉันก็จะได้กลายเป็นท่านผู้นำตระกูลฉินสายเก่าเสียที!”
“สุดยอด!”
เถียหยิงพลันก้าวขึ้นไปข้างหน้าและเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “นายน้อยขอรับ พวกเราเคยเข้าใจผิดกันมาก่อน ทว่า ท่านก็น่าจะรู้ดีว่านี่คือบทสอบทั้งหมด ”
“สายรุ้งที่ขึ้นมายามฟ้าหลังฝนย่อมต้องสวยงามเสมอ ขอแสดงความยินดีกับนายน้อยและต้อนรับการกลับมาของท่าน!”
“นายน้อยได้โปรดมาทางนี้ พวกเราทุกคนจะพาทั้งท่านและนายหญิงไปที่วังตะวันออกเอง !”
เขาผายมือทำท่าเชื้อเชิญออกมา
ทุกคนพลันมองไปที่ฉินเทียนด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ เพื่อรอที่จะส่งฉินเทียนเข้าไปที่วังตะวันออก
พวกเขารู้ดีว่า บุคคลที่พวกเขารอส่งคนนี้ แม้ในยามนี้จะเป็นเพียงผู้สืบทอดเท่านั้น ทว่า ในอนาคตข้างหน้า ฉินเทียนจักกลายเป็นวีรบุรุษอีกคนของตระกูลฉินสายเก่าอย่างแน่นอน!