บัญชามังกรเดือด - บทที่ 907 ถึงเวลาคุณออกโรงแล้ว
บัญชามังกรเดือด บทที่ 907 ถึงเวลาคุณออกโรงแล้ว
“คุณฉิน เป็นอะไรรึเปล่า?”
เมื่อเห็นแววตาของฉินเทียนเปลี่ยนไป เกาชาวก็อดที่จะถามไม่ได้
ฉินเทียนเก็บความคิดของตนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เปล่าครับ”
“คุณชายเกา ร่วมงานกันราบรื่นครับ”
เขาดื่มไวน์ในแก้วรวดเดียวจนหมด
“มา กินเนื้อ”
“ตอนนี้พวกคุณเป็นสิ่งล้ำค่า ผมจะต้องทำให้พวกคุณกินดีอยู่ดี” เกาชาวจัดการเรื่องความสัมพันธ์เก่ง ดูเผินๆเหมือนนับถือพวกฉินเทียนเป็นเหมือนพี่น้อง
ดูมีน้ำใจมาก ทั้งหั่นเนื้อ ทั้งชนแก้ว
สำหรับความคิดของเขา พวกของฉินเทียนทำไมจะไม่รู้ ตอนนี้เกาชาวสามารถใช้งานพวกเขาได้ดังนั้นจึงสอพลอ
รอจนจัดการเรื่องเสร็จหมดก็จะถึงเวลาเสร็จศึกฆ่าขุนพลแล้ว
เพียงแต่ฉินเทียนก็กำลังใช้ประโยชน์จากเกาชาวเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่เปิดโปง
“คุณฉินมีสิ่งหนึ่งที่ผมประหลาดใจมาก” เกาชาวกินเนื้อแล้วแสร้งถามอย่างไม่ได้ตั้งใจ “ทีมของพวกคุณ ดูเหมือนคุณจะเป็นลูกพี่”
“งั้นความสามารถของคุณคืออะไร?”
“ถ้าหาไม่มีน้องชายผู้นี้กับไก่ตัวผู้ของเขา คุณก็จะหาทางเข้าไม่เจอเหมือนกันใช่ไหม?”
ชายคนนี้เริ่มสืบค้นหาความจริงของฉินเทียนอีกครั้ง
แน่นอนว่าเมื่อกี้ตอนหาทางเข้าสุสาน ฉวนซานและไก่ตัวผู้ของเขานับได้ว่าปล่อยของออกมามาก ฉินเทียนที่เป็นถึงลูกพี่ ดูๆแล้วกลับไม่มีความสามารถอะไร
ฉวนซานพูดเสียงเคร่งโดยไม่รอให้ฉินเทียนพูด “อย่ามาดูถูกลูกพี่ของพวกเรา!”
“ทีมของพวกเราแบ่งงานกันอย่างชัดเจน”
“ฉันรับผิดชอบในการตามหาทางเข้า น้องสาวคนนี้ เห็นไหม กับลิงทิพย์ของเธอ รับผิดชอบหลังจากการเข้าไปในสุสานเพื่อยืนยันตำแหน่งของสมบัติ”
“พี่เทียนกับพี่ใหญ่คนนี้ คนหนึ่งรับผิดชอบเรื่องการจัดการระบบกลไกลับ คนหนึ่งรับผิดชอบเรื่องจัดการระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ”
“พวกเราขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้”
ขณะพูดเขาพูดรับรองอีกครั้งเพื่อที่จะทำให้ความสามารถของฉินเทียนโดดเด่นออกมาว่า “โดยเฉพาะพี่เทียน ถ้าไม่มีเขาที่ปลดระบบกลไกลับ จะไม่มีใครเข้าไปได้ หรือเข้าไปแล้วก็ออกไม่ได้”
เมื่อกี้เกาชาวได้เห็นความสามารถของฉวนซาน ตอนนี้จึงไม่กล้าสงสัย จึงรีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เทียนเทพมาก!”
“มา ผมชนให้พี่เทียน!”
ฉินเทียนคร้านที่จะพูดจึงแอบคำนวณเรื่องนี้ไว้ ทุกครั้งที่สายตาเขามองเห็นถ้ำที่มืดสนิท ในแววตาลึกๆก็จะปรากฏความไม่สบายใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะทำเพื่อซูซู เขาจะไม่มีทางที่จะรบกวนดวงวิญญาณของบรรพบุรุษแน่นอน
มักรู้สึกว่าการทำเช่นนี้ ในยมโลกจะต้องถูกคำสาปหรือโดนประณามยังไงยังงั้น
“แม่งเอ๊ย ไอ้พวกลูกหมา ให้พวกเราทำงานใช้แรงงาน พวกมันกลับกินเนื้อดื่มเหล้า แม่งอยากตายใช่ไหม!”
“เลิกพูดเถอะ ตอนนี้คุณชายเกาต้องพึ่งพวกมัน ให้พวกมันภูมิใจกันไปสักพัก”
“รอเรื่องนี้จบ คอยดูเถอะว่ากูจะเก็บพวกมึงยังไง!”
“อย่าว่างั้นงี้เลย น้องสาวคนนั้นแม่งดูน่าสนุกจริง! ถึงตอนนั้นให้เธอได้ลองว่าอะไรคือรสชาติของผู้ชายเต็มตัวอย่างเรา!”
“รีบทำงาน รีบขุดทางเดินสุสาน จบภารกิจ!”
เหล่าชายฉกรรจ์แอบคุยกัน น้ำเสียงที่ใช้เต็มไปด้วยความโกรธแค้นพวกฉินเทียน เพียงตอนนี้เกาชาวกำลังมองอยู่ไกลๆ พวกเขาไม่กล้าเกียจคร้าน
หินข้างนอกค่อนข้างขุดยาก แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนร่างกายกำยำ เครื่องมือครบครัน
เสียเวลาอีกสักหน่อย หลังจากสามารถขุดหินที่อุดปากถ้ำทางด้านนอกได้ ยิ่งขุดไปข้างใน ดินเหนียวที่ถูกฝังไว้ก็ยิ่งขุดง่าย
หินที่อุดปากถ้ำไว้ก็ยิ่งงัดออกมาง่าย
คน 50 คนที่แบ่งออกเป็น 5 ทีมผลัดกันทำงานตลอดทั้งวันคืนโดยไม่พัก
ผ่านไป 48 ชั่วโมงก็สามารถขุดหินถ้ำได้ทั้งหมด 20 เมตร ดูจากข้างนอกดูมืดสนิทไม่เห็นคนแล้ว
“แม่งเอ๊ย ทางสุสานนี้ยาวเท่าไรวะ! ยังต้องขุดถึงเมื่อไรวะ!”
เกาชาวบ่นอย่างไม่อดทน
จู่ๆก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจออกมาจากในถ้ำ คนที่ขุดหินข้างในวิ่งออกมากรีดร้องด้วยความตกใจ
“งู!”
“มีงู!”
ใบหน้าชิวอู่ซีดเผือด พูดอย่างขวัญเสียว่า “งูพิษเยอะมาก!”
“คุณชายเกา ทำยังไงดีครับ?”
งูพิษ? เกาชาวอึ้งไปสักพักแล้วรีบมองฉวนซาน
ฉวนซานไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าหากไม่ผิดพลาดอะไร ทางสุสานกำลังจะขุดถึงแล้ว”
“ให้คนของคุณถอยออกมา แล้วอีกอย่างหาหญ้าเปียกมาจุดไฟ เติมดินปืนอีกสักหน่อย ใช้กลิ่นควันขับไล่งู”
เกาชาวรีบโบกมือให้สมาชิกทีมเหล่านั้นหาหญ้าเปียกและกิ่งไม้สีเขียวจากบริเวณใกล้ๆมาให้เยอะๆ ชิวอู่โปรยผงดินปืนลงไปข้างบน
หลังจากจุดไฟ กลิ่นควันที่แสบจมูกก็ลอยคลุ้งไปทั้งถ้ำทันที
จนกระทั่งสองชั่วโมงต่อมา กลิ่นควันจางไปมาก็แล้ว ฝูงชนก็เปิดไฟฉายเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง
ถ้ำถูกขุดไป 20 เมตรแล้ว ที่สุดปลายทางมีหินก้อนใหญ่ซ้อนทับกันไว้ปิดบังทางเดิน
ระหว่างรอยแยกของหินกับหินมีร่องรอยอย่างชัดเจนว่าน่าจะเป็นเส้นทางของงู
ไก่ตัวผู้กับลิงขนทองต่างส่งเสียงอย่างไม่เป็นสุข
ฉวนซานพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เปิดหินสองสามก้อนนี้ ข้างหลังก็น่าจะเป็นทางเดินสุสานแล้ว”
“มา พวกเราช่วยกัน เอาเชือกดึงหินสองสามก้อนนี้ออกมา!”
ฝูงชนทั้งหลายตะขอของเชือกเส้นใหญ่ที่พกมาใส่เข้าไปในซอกหินแล้วออกแรงด้วยกัน
ปัง!
หินก้อนหนึ่งโดยดึงออกมาแล้ว กลิ่นอายความเย็นจากที่ร่มข้างในปะทะกับใบหน้าทันที ควันจากดินปืนเมื่อกี้ที่ทำให้อากาศร้อนอบอ้าวก็เปลี่ยนเป็นสดชื่นทันที
ทุกคนเงียบกริบ ไม่พูดอะไรกันชั่วขณะ
เพราะพึ่งแสงไฟบนหัวส่อง ข้างหน้ากลับเป็นถ้ำหินที่สูงเท่าหนึ่งคน กว้าง 1 เมตร มืดคดเคี้ยวยาวไม่มีที่สิ้นสุด ไม่รู้ว่ายาวเท่าไร
กลิ่นอายความเย็นราวกับมาจากนรก
ไป๋หลิงอดที่จะหนาวสั่นไม่ได้ พูดกระซิบ “นี่คือทางสุสานเหรอ? คิดไม่ถึงว่าพวกเขาขุดโล่งทั้งสันเขา ปาฏิหาริย์จริงๆ”
“ทางสุสาน!”
“ฉันเจอสุสานพระชายางูแล้ว!”
“ดีจัง! เร็ว เข้าไปหาสมบัติ!” เกาชาวรีบพุ่งเข้าไปก่อนด้วยความตื่นเต้น
“ระวังครับคุณชาย” เจ้าปลาหมึกยักษ์ขวางเกาชาว มองฉินเทียนพูดยิ้มเยาะ “คุณฉินคนนี้ถนัดเรื่องปลดระบบกลไกลับทุกชนิดไม่ใช่เหรอ?”
“ตอนนี้ถึงเวลาคุณออกโรงแล้ว”
เกาชาวได้สติก็ยิ้มเยาะพูดว่า “คุณฉิน พวกคุณเดินนำละกัน”
สีหน้าฉินเทียนเคร่งขรึม พยักหน้าเดินนำเข้าไปข้างในก่อน ฉวนซานเดินอยู่ข้างๆ ไป๋หลิงตามหลัง จินถังกลับตามหลังไป๋หลิง จะได้ปกป้องความปลอดภัยของไป๋หลิงและสามารถสกัดกั้นด้านหลัง
ทั้งสี่คนเข้าไปด้านในอยู่ระมัดระวัง
ยิ่งเดินเข้าไปข้างในก็ยิ่งได้กลิ่นเหม็นคาวเป็นพักๆ เห็นได้ว่าบนพื้นรวมถึงบนหินก็จะสามารถมองเห็นเศษขนที่เปื้อนเลือด ฉวนซานพูดเสียงเบาว่า “ทำไมงูเหล่านั้นถึงเอาอาหารเข้ามาข้างในนี้ แต่ไม่กินข้างนอก?”
“หรือว่าพวกมันรู้สึกว่าที่นี่ปลอดภัยกว่า?”
ฉินเทียนเคร่งขรึมไม่พูดอะไร เมื่อคิดว่าก่อนที่ถ้ำนี้จะเปิดออก ไม่รู้ว่างูตั้งเท่าไรที่กลืนเหยื่อ แอบย่อยในพื้นที่มืด เขารู้สึกกลัวจนตัวสั่น
ราวกับเปิดมิติต้องห้าม รบกวนวิญญาณอีกมิติหนึ่ง
ส่วนเหล่าวิญญาณถูกปลุกให้ตื่นเหล่านั้น ในตอนนี้กำลังใช้สายตาที่เย็นชามองมาที่พวกเขาพวกขุดสุสานอยู่ในที่มืดๆในถ้ำ