บัญชามังกรเดือด - บทที่ 908 กลไก
บัญชามังกรเดือด บทที่ 908 กลไก
“พี่เทียนระวัง ตั้งแต่ที่สุสานนี้สร้างเสร็จ พวกเราเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามา”
“เจ้าทองรู้สึกทั้งตื่นเต้นและตระหนกกับกลิ่นอายที่นี่ บ่งบอกว่าข้างในมีของดีจริงๆ แต่ก็อันตรายด้วย”
ไม่รู้ว่าไป๋หลิงหยิบดาบคู่ออกมาไว้ในมือตั้งแต่เมื่อไร ใบหน้าสวยเคร่งขรึมกว่าปกติ
ฉินเทียนพยักหน้าพูดว่า “พวกเขาเอาภูเขามาทำเป็นชั้นสุสาน ช่วยป้องกันโจรขุดสุสานได้เยอะจริงๆ ในสมัยโบราณเครื่องมือไม่ได้ทันสมัยอะไร การที่โจรขุดสุสานต้องการเปิดชั้นหินหนา สามารถทำได้ลำบาก”
“ข้างในยังลึกมาก พวกเราต้องระวังหน่อย”
“แม่งอย่าพูดมาก รีบเดิน!”
“กล้าเล่นลูกไม้อะไรล่ะก็ กูจะฆ่ามึง!” ในที่สุดเกาชาวที่ตามอยู่ด้านหลังก็เผยนิสัยที่แท้จริง
ตอนนี้ในสายตาของเขา พวกฉินเทียนเป็นแค่หนูขาวตัวเล็กๆที่สำรวจเส้นทาง
เพราะเขารู้สึกว่าในเมื่อเข้ามาในสุสานได้แล้ว ต่อให้ไม่มีพวกฉินเทียนเขาก็สามารถหาหลุมฝังศพและขนสมบัติไปได้
ที่ตอนนี้ใช้ให้พวกฉินเทียนสำรวจเส้นทาง ก็เพียงเพื่อลดความอันตรายให้กับคนของตัวเองเท่านั้น
ได้ฟังคำพูดของเกาชาว จินถังทำหน้าเคร่งด้วยความโมโห
“ไอ้หนู แหกตาดูให้ดีว่าในมือกูคืออะไร”
“รีบเดิน!”
สมาชิกทีมที่ตามอยู่ด้านหลังชูปืนในมือขึ้นพร้อมกัน ก่อนหน้านี้พวกเขาเหนื่อยแทบตายจากการขุดหิน จึงคาดโทษความผิดมาที่พวกฉินเทียนแล้ว
ในที่สุดตอนนี้ก็ถึงโอกาสในการระบายแล้ว
เจ้าปลาหมึกยักษ์ยิ้มเยาะพูดว่า “พวกเราต้องการจบวิธีการที่รวดเร็วฉับไว รีบเอาของแล้วออกจากที่นี่”
“ดังนั้นคุณฉิน ทางที่ดีพวกคุณควรจะเดินให้ไวๆหน่อย อย่าอืดอาด”
“ถ้าคิดจะเล่นลูกไม้อะไรล่ะก็ อย่าหาว่าพี่น้องเหล่านี้ไม่เกรงใจล่ะ”
ตอนนี้ดูจากสถานการณ์แล้ว พวกฉินเทียนทั้งสี่คนกลายเป็นปลาบนเขียงแล้ว ทำได้เพียงถูกกดขี่ได้อย่างตามอำเภอใจ
ฉินเทียนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ พูดอย่างเย็นชาว่า “โดยปกติแล้วในสุสานโบราณมักจะมีกลไกลับ พวกคุณก็ใช่ว่าจะไม่รู้”
“อยากมีชีวิตอยู่ก็ตามหลังมาช้าๆ!”
เขาไม่ได้เร่งความเร็ว ยังคงระมัดระวังเช่นเดิม เขาเดินไปด้วยพลางสังเกตสถานการณ์รอบๆไปด้วย
จากที่ได้สังเกตข้างนอกก่อนหน้านี้ สันเขาเส้นนี้ยาวราว 1,000 เมตร ถ้าหากข้างล่างถูกขุดจนกลวง งั้นตอนนี้พวกเขาก็ยังเดินไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนสิบ
ไม่นานเกาชาวก็แสดงความใจร้อนอีกครั้ง
“คุณชาย ผมว่าชายคนนี้แสร้งทำเป็นลึกลับซับซ้อน ทางเดินหินนี้ไม่เคยมีใครเข้ามา ไม่มีอันตรายอะไรเลยด้วยซ้ำ”
“ผมเต็มใจที่จะสำรวจเส้นทาง ขอให้คุณชายออกคำสั่ง!”
บอดี้การ์ดทั้งสองคน คนหนึ่งชื่อหม่าซาน อีกคนชื่อติงเปียว ทั้งสองมีนิสัยใจร้อน ไม่ชอบพวกฉินเทียนมาตั้งนานแล้ว
ตอนนี้พวกเขาอาสาสมัครแสดงความกล้าเดินเข้าไปสำรวจเส้นทางข้างหน้าแทนฉินเทียน
เกาชาวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วมองฉินเทียน พูดอย่างเย็นชาว่า “คุณฉิน คุณคิดว่าไง?”
“ถ้าคุณทำไม่ได้ก็เปลี่ยนเป็นคนของฉัน”
“สรุปคือฉันไม่พอใจกับความคืบหน้าของคุณ”
ฉินเทียนถอนหายใจ มองอุโมงค์ที่มืดสนิทจนมองไม่เห็นข้างหน้า พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกเราเพิ่งจะเดินเข้ามาในเขตแดน ถ้าเป็นไปอย่างที่คิดไว้ ต่อไปจะต้องมีกลไกกับดักแน่”
“ผมว่าให้ผมทำจะน่าเชื่อถือกว่า”
เขาไม่ได้โม้ ด้วยความสามารถระดับปรมาจารย์ในตอนนี้ของเขา เขามีความสามารถยอดเยี่ยมที่ซ่อนอยู่ไหลเวียนตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นถึงแม้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันก็จะสามารถรับมือได้อย่างทันเวลา
แต่สำหรับคนอื่นมันไม่เหมือนกัน
ไม่คิดเลยว่าความหวังดีของเขาจะกลับกลายมาเป็นข้ออ้าง
ฝูงชนหัวเราะเสียงดัง
หม่าซานและติงเปียวยิ่งเยาะเย้ยอย่างลำพอง
“คนนามสกุลฉิน ไอ้โง่ ถึงตอนนี้ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้อีก?”
“ไสหัวออกไปด้านข้าง กูจะสำรวจเส้นทางเอง!”
“คิดว่าไม่มีตัวเองแล้วจะไม่ได้เหรอ? ที่นี่มันไม่มีกลไกลับอะไรทั้งนั้น ต่อให้มี จะทำอะไรฉันได้!”
ทั้งสองเดินเข้ามาอย่างอาจหาญ ผลักฉินเทียนไปด้านหลังอย่างป่าเถื่อนมาก
“พวกแกจะทำอะไร? รนหาที่ตาย!”
เมื่อเห็นชายทั้งสองกล้าทำตัวหยาบคายไร้มารยาทกับฉินเทียน จินถังก็ตะคอกด้วยความโกรธแล้วชักดาบเหล็กออกจากฝักทันที
ฉวนซานและไป๋หลิงก็รีบเตรียมตัวพร้อมรบ
“อย่าขยับ!”
“ถ้ากล้าขยับจะตีพวกมึงเป็นตะแกรงทันที!”
บอดี้การ์ดหลายสิบคนเอาปืนจ่อไปที่พวกฉินเทียนพร้อมกัน
เจ้าปลาหมึกยักษ์พูดอย่างภูมิใจว่า “คุณชายครับ ผมไม่ชอบขี้หน้าไอ้พวกนี้มาตั้งนานแล้ว และไอ้คนนามสกุลฉินคนนี้กลับกล้าโอ้อวด แย่งผู้หญิงของท่าน แล้วยังกล้าประกาศจะแบ่งสี่หกส่วนกับท่านอีก”
“ขอให้ท่านออกคำสั่งให้ฝังพวกมันไว้ที่นี่เถอะ ไม่มีใครรู้พอดี”
แววตาเกาชาวเป็นประกาย ความต้องการฆ่าเผยอยู่ในดวงตา เห็นได้ชัดว่าเขามีความคิดที่จะฆ่า
ฉินเทียนมีสีหน้าเคร่ง เขากัดฟันพูดว่า “หมายความว่ายังไง?”
“คุณมั่นใจเหรอว่า ถ้าฆ่าเราตอนนี้จะสามารถไปเอาสมบัติของในสุสานพระชายางูได้สำเร็จ?”
“ผมจะบอกคุณให้–”
“หยุด!” เกาชาวยื่นมือห้ามฉินเทียนพูดต่อ แล้วพูดอย่างรำคาญว่า “เห็นแก่ที่พวกแกหาทางเข้า ฉันจะไว้ชีวิต”
“ส่วนเรื่องที่บอกว่ามีกลไกลับ ตอนนี้ฉันกลับไม่เชื่อ”
“ฉันสงสัยว่าพวกแกตั้งใจจะเดินนำหน้า เพื่อที่จะรีบแย่งชิงตัดหน้าไปก่อนหลังจากเจอสมบัติ”
“ชิวอู่ ให้เอาตัวพวกมันไปคุมไว้ข้างหลัง จับตาดูให้ดี!”
“ครับ!”
ชิวอู่นำชายฉกรรจ์สองสามคน พอโบกมือก็พุ่งเข้ามาผลักให้พวกฉินเทียนให้ถูกคุมตัวมาไว้ข้างหลังทหารปลดประจำการ
“หม่าซานติงเปียว นำทางข้างหน้า”
“เจอหลุมฝังศพจะให้รางวัล” เกาชาวพูดกำชับ
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเราครับ!”
“คุณชายตามพวกเรามา!”
หม่าซานและติงเปียวรับคำแล้วนำอยู่ข้างหน้า ในตอนแรกพวกเขาเดินยังไม่เร็วมากนัก แต่พอเดินไปๆกลับพบว่านอกจากอากาศที่หนาวขึ้นก็ไม่มีอันตรายใดๆ
พวกเขาจึงมีความกล้าขึ้น ส่งเสียงร้องแล้ววิ่งไปข้างหน้า
“ไม่ถูกสิ!”
“ข้างหน้ามีอันตราย บอกให้พวกเขาหยุด!” จู่ๆฉินเทียนก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าเขาเปลี่ยนทันที ส่งเสียงเข้มเตือน
เกาชาวพูดเยาะเย็นว่า “คุณฉิน เล่นลูกไม้อะไรอีก?”
สิ้นเสียงก็ได้ยินเสียงแกร๊กดังขึ้นอย่างชัดเจนในอากาศ ทุกคนตกใจ รีบเงยหน้าขึ้นดู
เห็นเพียงหม่าซานและติงเปียวที่อยู่ข้างหน้าไกลออกไปราว 5 เมตรหยุดพร้อมกัน
เหยียบหินหักแล้ว?
รู้สึกได้ว่าใต้เท้าผิดปกติ พวกเขาก้มหน้ามองดูอย่างสงสัย
ทั้งสองยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้องก็ถูกทุบกลายเป็นพายเนื้อ
“ระวัง!”
เกาชาวร้องเสียงแหลม กระโดดถอยหลังอัตโนมัติ
เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกะทันหันทำเอาทุกคนตกใจค้าง ผ่านไปครู่หนึ่งเมื่อไม่เห็นว่ามีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นต่อ เจ้าปลาหมึกยักษ์ถึงจะเดินเข้าไปตรวจดูอย่างระมัดระวัง
เขาพูดอย่างตกใจ “คุณชายครับ กลไกหินตกครับ!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะติดตั้งกลไกไว้ที่นี่ จงใจให้พวกเราคิดว่าไม่มีอันตรายจะได้คลายความระวัง”
“หม่าซานกับติงเปียวเหยียบชื่อหินที่เชื่อมกับกลไกหักทำให้หินข้างบนตกลงมา”
“คิดไม่ถึงเลยว่าผ่านไปหลายปีแล้ว กลไกนี้จะยังมีประสิทธิภาพอยู่”