บัญชามังกรเดือด - บทที่ 979 วิธีการกระหายเลือด
บัญชามังกรเดือด บทที่ 979 วิธีการกระหายเลือด
จนกระทั่งนักเต้นคนหนึ่งกดอีกฝ่ายลงกับพื้น
จากนั้นหล่อนกัดคอของคู่ต่อสู้เพียงครั้งเดียวและดูดเลือดอย่างบ้าคลั่ง!
นักเต้นที่ถูกกดลงกับพื้นนั้นขัดขืนอย่างสิ้นหวังและกัดเนื้อหลายชิ้นจากแขนของคู่ต่อสู้
ในท้ายที่สุด เมื่อถูกอีกฝ่ายดูดเลือด ขาเรียวยางทั้งสองข้างกระตุกเล็กน้อยสองครั้งและขาดอากาศหายใจ
ฉากนองเลือดและโหดร้ายเช่นนี้ กลับทำให้เซี่ยหมิงที่กำลังรับชมนั้นปรบมือและหัวเราะเสียงดังลั่น
“วิธีการของน้องเวยนั้นช่างยอดเยี่ยม! ฉันแทบจะรอไม่ไหว อยากเห็นฉินเทียนถูกหวังตัวยวี่สังหารแทบแย่แล้ว ฮ่าๆๆ!”
“พี่เซี่ยขอบคุณที่ชื่นชม เหล่านี้ยังเป็นเพียงวิธีการระดับต่ำที่สุด”
ขณะที่ฉีเวยกล่าว เขาดีดนิ้วอีกครั้งหนึ่ง
นักเต้นคนนั้นที่ยังมีชีวิตรอด ราวกับว่าหล่อนฟื้นคืนสติ นัยน์ตาไม่ได้เหม่อลอยอย่างเช่นก่อนหน้านี้ สายตานั้นชัดเจนเป็นอย่างมาก
เหมือนกับว่าหล่อนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น
จากนั้นราวกับว่าเห็นเพื่อนที่นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้าง เหมือนหล่อนพลันนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ หล่อนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
เสียงกรีดร้องนั้นแสบแก้วหูเป็นอย่างมาก
เซี่ยหมิงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ฉีเวยดีดนิ้วอีกครั้งหนึ่ง “เธอเสียงดังมาก”
ด้วยคำพูดที่แสนง่ายดาย ราวกับว่านักเต้นหญิงได้รับคำสั่งบางอย่าง ฉับพลันหล่อนยกมือขึ้นล้วงเข้าไปภายในลำคอของตนเอง
จากนั้นกระชากอย่างรุนแรง เลือดกระเซ็นไปทั่วพื้น!
นักเต้นหญิงคนนั้นหัวเราะอย่างโง่เขลาราวกับว่าได้สิ่งที่ต้องการ แต่หล่อนกลับไม่สามารถส่งเสียงได้!
ในมือของหล่อนนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังถือลิ้นที่กำลังขยับไปมา!
นั่นคือลิ้นของตัวหล่อนเอง!
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ภายในหัวใจของถงอานนั้นรู้สึกเย็นยะเยือก ลอบปลอบใจตนเองว่ายังโชคดีที่เขานั้นมีตระกูลเซี่ยเป็นที่พึ่งพิง ฉีเวยนั้นไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่อย่างไรก็ไม่มีทางกล้าทำร้ายเขา
ไม่อย่างนั้นเขาคงจะกังวลมาก เช้าของวันพรุ่งนี้ เหนือคอของเขานั้นยังมีศีรษะอยู่อีกหรือไม่
“ดีมาก ยอดเยี่ยมมาก!”
เซี่ยหมิงปรบมือของเขาด้วยความพึงพอใจ “น้องเวยช่างมีฝีมือยอดเยี่ยม! การที่ฉันเชิญนายมาในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องมากที่สุดแล้ว!”
“ฉันแทบรอไม่ไหวแล้ว อยากเห็นว่านายจะทำให้ฉินเทียนนั้นเข้าสู่สถานการณ์สิ้นหวังได้อย่างไร อยากเห็นภาพที่เขากำลังคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนจากฉัน!”
“แล้วก็ยังมีหวังตัวยวี่แห่งเกาะตงไห่ ด้วยการช่วยเหลือของน้องเวย ไม่ว่าเธอจะดื้อด้านและเอาแต่ใจเพียงใด อย่างไรก็จะต้องอยู่ในกำมือของฉัน!”
ฉีเวยพยักหน้าเล็กน้อย “เมื่อเป็นเช่นนี้ พี่เซี่ยเชิญวางแผน ฉันจะทำตามแผนการของคุณ”
“ไม่ต้องตื่นตระหนก แมวก็ต้องจับหนูอยู่แล้ว จะต้องแหย่ให้หมดกำลังเสียก่อนถึงจะจับกิน” เซี่ยหมิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “สิ่งเล็กน้อยรอบกายฉินเทียน ค่อยๆจัดการทำความสะอาดทีละคนเถอะ”
“เหมือนกับว่าช่วงนี้เขากำลังหลงใหลรักใคร่ภรรยาของเขา และในเร็วๆนี้กำลังจะคลอดลูกชาย”
“ฉันจะใช้โอกาสนี้จัดการคนรอบตัวของเขา กระทั่งเขาได้สติ ทุกอย่างก็ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้แล้ว!”
“ไม่เพียงแต่ต้องการให้เขาตายเท่านั้น ภรรยาของเขา ลูกชายของเขาที่กำลังจะคลอด แม่ยายและเหล่าพี่น้องของเขาจะต้องตายอย่างน่าอนาถ!”
ฉีเวยพยักหน้าทันทีอย่างเชื่อฟัง “ทุกอย่างจะเป็นไปตามความต้องการของพี่เซี่ย”
“อือ” เซี่ยหมิงหยุดส่งเสียงหัวเราะ ฉับพลันเขาจ้องมองฉีเวย “น้องเวยช่างมีฝีมือยอดเยี่ยม เมื่อสักครู่นี้ฉันไม่เห็นกู่ของนายเลยแม้แต่น้อย นายกลับทำให้พวกหล่อนนั้นเชื่อฟังคำพูดของนายได้อย่างง่ายดายเช่นนี้”
“หากว่าวันหนึ่ง น้องเวยคิดจะลงมือกับฉัน ไม่ใช่ว่าจะง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือหรอกหรือ?!”
เจตนาแห่งการสังหารนั้นแผ่กระจายไปทั่วทั้งห้องรับแขกขนาดใหญ่
ฉีเวยก้มศีรษะลงและโค้งคำนับเอาใจเซี่ยหมิง “พี่เซี่ยนั้นช่างรอบรู้ เมื่อฉันเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของนักเต้นสองคนนั้น กู่หนอนได้เข้าไปในร่างกายของพวกหล่อนแล้ว”
“ไม่ว่าฉันจะเก่งกาจเพียงใดก็ต้องมีโอกาสสัมผัสฝ่ายตรงข้าม เช่นนั้นถึงจะสามารถใช้กู่ได้”
“ต่อให้วิชากู่นั้นจะร้ายกาจเพียงใดก็ต้องการสื่อนำ ไม่ได้เกินจริงเหมือนในตำนานที่จะสามารถใช้ได้ภายในอากาศ”
เซี่ยหมิงแสดงท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน “ฮ่าๆๆ น้องเวย เมื่อสักครู่ฉันก็เพียงแค่พูดล้อเล่นก็เท่านั้น”
“ความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างฉันกับนายนั้นแสนจะลึกซึ้ง แม้ว่าพี่ชายจะทำอะไรผิดไป เชื่อว่าน้องเวยก็คงไม่มีทางทำร้ายฉันหรอก”
ฉีเวยรีบพยักหน้า “ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว หลังจากนี้ตระกูลฉียังคงต้องการแรงสนับสนุนจากพี่เซี่ย ไม่ว่าฉีเวยจะโง่เขลาเพียงใด อย่างไรก็ไม่มีทางทำลายรากฐานที่มั่นคงของตนเองหรอก”
“ฮ่าๆๆๆ น้องเวยกล่าวได้ถูกต้อง ในฐานะพี่ จู่ๆก็อยากจะเห็นกู่ที่นายเพิ่งใช้เมื่อสักครู่นี้ ไม่รู้…”
“พี่เซี่ยอยากเห็นงั้นหรือ น้องจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร?”
จากนั้นฉีเวยดีดนิ้วหนึ่งครั้ง ศพของหญิงสาวทั้งสองคนที่อยู่บนพื้นสั่นสะท้านราวกับฟ้าผ่า
ถงอานถอยหนีออกไปด้วยความตื่นตระหนก เกรงว่าศพของพวกหล่อนนั้นจะเกิดอาการกระตุก
สิบวินาทีต่อมา บริเวณศีรษะบนศพของหญิงสาวทั้งสอง ทันใดนั้นก็มีรูเลือดขนาดเท่านิ้วมือสองรูปรากฏขึ้น
จากนั้น หนวดสีดำและขาวสองเส้นก็โผล่ออกมาจากด้านในนั้น
หนวดสั่นสองสามครั้ง จากนั้นสัมผัสด้านนอกเล็กน้อย เผยให้เห็นหนอนประหลาดขนาดเท่าเล็บมือและเป็นสีทอง
ตัวของหนอนเป็นทองคำบริสุทธิ์ มีเพียงหนวดเท่านั้นที่แทรกซึมของเหลวสีดำ
บริเวณปากนั้นมีหนาม เปรอะเปื้อนไปด้วยสีของที่เป็นสีขาวและสีแดง เห็นได้ชัดว่าเป็นสมองผสมกับเลือด
“สิ่งนี้มีชื่อว่ากู่ด้วง ชอบกินสมอง เจาะเข้าไปในสมองของมนุษย์ผ่านรูหู อีกฝ่ายไม่รู้สึกเจ็บปวดใด อย่างมากที่สุดก็จะได้ยินเสียงหึ่ง”
“เมื่อกู่ด้วงไม่ได้ถูกกระตุ้น มันจะหลับใหลอยู่ภายในสมองของอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกกระหายน้ำ ไม่ว่าจะดื่มน้ำมากเท่าไรก็ไม่สามารถดับกระหายได้”
“แต่เมื่อถูกกระตุ้นก็จะเป็นเหมือนนักเต้นเมื่อครู่นี้ ถูกกัดกินสมองและจะรู้สึกเจ็บปวดราวกับกำลังคลั่ง ได้ยินเพียงคำสั่งของผู้ทำกู่เท่านั้น”
“ไม่ว่าคุณจะออกคำสั่งอะไร เขาก็จะถูกกู่ด้วงไล่ต้อนจนทำเรื่องนั้นสำเร็จและตายไปในท้ายที่สุด”
เซี่ยหมิงรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉับพลันรู้สึกคลื่นไส้เล็กน้อย
หากว่าหวังตัวยวี่ถูกพิษกู่ เมื่อหล่อนเข้าใกล้เขาแล้วจะไปมีประโยชน์อะไร!
เหมือนกับการเล่นสนุกกับตุ๊กตายาง ไร้ซึ่งความน่าตื่นเต้น!
“กู่ชนิดนี้สามารถใช้จัดการกับพวกใต้บัญชาการได้”
“สำหรับฉินเทียนและหวังตัวยวี่ ฉันต้องการให้นายเอาอาวุธสังหารชั้นยอดกว่านี้ออกมาใช้ ทำให้พวกเขามีชีวิตราวกับตายทั้งเป็น!”
ความต้องการของเซี่ยหมิง ฉีเวยนั้นคาดเดาไว้ล่วงหน้าแล้ว
เขายิ้มเล็กน้อย “พี่เซี่ยวางใจเถอะ คู่หมั้นที่มีตาแต่ไร้แววคนนั้นของคุณ ไม่เห็นคุณอยู่ในสายตา กู่ชนิดนี้ง่ายเกินไปสำหรับหล่อน”
“ฉันคิดไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว จะตามพี่เซี่ยไปยังเกาะตงไห่ ให้พี่เซี่ยใช้พิษกู่รักกับหล่อนด้วยตัวพี่เอง”
“พิษกู่รักเหรอ?” เซี่ยหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย มันคืออะไรกันงั้นเหรอ?
“พิษกู่รักเป็นวิชากู่ที่ทุกคนภายในภาคใต้ของพวกเราสามารถใช้ได้ มันคือกู่ดอกชนิดหนึ่ง”
“แม้ว่าทุกคนจะสามารถใช้ได้ แต่น้อยคนนักที่จะเข้าใจมัน”
“มันถูกหล่อเลี้ยงด้วยเลือดของคนที่เสียใจจำนวน99คน มีดอกแต่ไม่มีใบ เป็นสีทอง”
“ผู้ที่ถูกพิษกู่ชนิดนี้ คนผู้นั้นจะรักคนปล่อยพิษกู่อย่างลึกซึ้ง จะเชื่อฟังคำพูดของอีกฝ่ายและลุ่มหลงอย่างบ้าคลั่ง”
“ถ้าหากทำเรื่องอะไรที่เป็นการทรยศอีกฝ่าย จะรู้สึกเหมือนมีมีดมากรีดหัวใจและถูกกรีดแทงจนตาย”
เซี่ยหมิงปรบมือและหัวเราะเสียงดัง “เป็นเช่นนี้ก็ยอดเยี่ยม! นี่แหละที่ฉันต้องการ!”
“นังแพศยาหวังตัวยวี่ ฉันจะต้องเป็นฝ่ายเบื่อหน่ายหล่อนและให้หล่อยไปสังหารไอ้สารเลวฉินเทียนด้วยมือของหล่อนเอง!”
“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ!”
ฉีเวยเองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน วิชากู่ของตระกูลฉี เขามีความมั่นใจเป็นอย่างมาก
ตราบใดที่ลงมือทุกอย่างก็จะราบรื่น
ไม่ว่าฉินเทียนนั้นจะเป็นมนุษย์เช่นไร เขาจะต้องตายอย่างอนาถอย่างแน่นอน!
ฉินเทียนเอ๋ย ฉินเทียน อย่ากล่าวโทษว่าฉันเหยียบย่ำนายเลย
ในโลกนี้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตอย่างน่าอนาถมากมาย เป็นบันไดให้คุณชายคนนี้ก้าวไปสู่ความก้าวหน้า นั่นก็นับความเป็นโชคดีของนาย!
เซี่ยหมิงจัดงานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่ฉีเวย แผนการชั่วร้ายถูกกำหนดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพ่งเล็งไปยังซูยู่กรุ๊ป
เขาจะต้องตัดเรื่องที่ฉินเทียนเป็นกังวลมากที่สุดก่อน จากนั้นก็ลงมือกับคนที่เขาห่วงใยมากที่สุด
ทำให้ฉินเทียนตกลงสู่เหวลึกที่ไร้จุดสิ้นสุดทีละน้อย ตายจากไปด้วยความรู้สึกผิดและสิ้นหวัง!