บัญชามังกรเดือด - บทที่ 982 ฉากอกสั่นขวัญหาย
บัญชามังกรเดือด บทที่ 982 ฉากอกสั่นขวัญหาย
“โอ้ ถือว่าเป็นลูกผู้ชายจริงๆ”
กวงโถวปรายตามองไปยังลูกน้องหลายคนข้างหลังแล้วโบกมือ “ดูแลพ่อหนุ่มคนนี้สิ จะได้ไม่หาว่าพวกเราดูแลแขกไม่ทั่วถึง”
สิ้นเสียงพวกเขาก็เข้าไปล้อมซูเหวินเฉิงกับหลิวชิง
สีหน้าของซูเหวินเฉิงซีดเผือดทันที เขาก็แค่ปากเก่ง ถ้าหากจะลงไม้ลงมือจริง เขามีแรงแค่นิดเดียว
เงาดำในตอนนั้นที่ถูกฉินเทียนจับมัดห้อยแล้วเฆี่ยนตีแผ่ปกคลุมเข้ามาทันที
เหล่าชายฉกรรจ์ตรงหน้าจะต้องไม่เก่งเท่าฉินเทียนแน่นอน แต่ถ้ารวมพลังกันอัดเขา คงจะมีสภาพอนาถ!
ซูเหวินเฉิงเป็นผู้ที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ตามสถานการณ์ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที แล้วหัวเราะขอให้กวงโถวปล่อยเขาไป
“พี่กวง เข้าใจผิดแล้ว เราก็คนกันเอง เข้าใจผิดกันทั้งนั้น”
“เข้าใจผิดแม่มึงสิ! มึงเป็นใคร คู่ควรที่จะนับพี่น้องกับกูเหรอ?”
กวงโถวด่า “พี่น้องทั้งหลายสั่งสอนมันหน่อย ให้มันได้ดูแลปากเน่าๆของตัวเองดีๆ!”
พวกลูกน้องพยักหน้าทันที แกว่งหมัดพุ่งเข้าหาซูเหวินเฉิง
หลิวชิงรีบยื่นมือเข้าไปห้าม “มีอะไรก็พูดกันดีๆสิ ทุกคนอย่าลงไม้ลงมือกัน มีเรื่องอะไรก็สามารถคุยกันได้”
“คุยกัน? คนที่กวนตีนวันนี้ก็คือเขา! อย่าคิดว่าหน้าตาดีหน่อยจะสามารถอวดเก่งต่อหน้าพวกพี่น้องของเราได้”
“ไปให้พ้น พวกเราไม่ต่อยผู้หญิงง่ายๆ เดี๋ยวหมัดมันไม่มีตา ถ้าโดนใส่ก็อย่าร้องไห้โฮล่ะ”
ระหว่างที่พวกเขากำลังหัวเราะกันอย่างชอบใจจึงลากหลิวชิงไปอีกฝั่ง
เธอสวมรองเท้าส้นเข็มถูกผลักจนเซจนเกือบล้มลงกับพื้น
โชคดีที่วางเฉียงไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ขายหน้า
พวกนักเลงเหล่านั้นลงหมัดกระแทกเพียงหลายครั้ง ซูเหวินเฉิงก็ถูกต่อยล้มลงกับพื้น
โชคดีที่แม้ว่าพวกเขาจะบุ่มบ่าม แต่ก็แค่พุ่งเป้าไปที่ซูเหวินเฉิงเท่านั้น ไม่ได้ลงไม้ลงมือกับหลิวชิงเลย
แค่นี้ก็ทำเอาหลิวชิงผู้ซึ่งไม่เคยเห็นการต่อสู้เช่นนี้มาก่อนตกใจมากพอแล้ว จึงทำได้เพียงร้องขอความช่วยเหลือจากวางเฉียงเสียงดัง “เถ้าแก่วาง รีบไปช่วยเร็วเข้า จะปล่อยให้พวกเขาต่อยอีกไม่ได้แล้ว!”
“หากยังต่อยแบบนี้ต่อไป จะต้องตายแน่!”
วางเฉียงก็ตกใจอยู่ไม่น้อย เขาจึงรีบหยิบบุหรี่ออกมาแล้วส่งให้กวงโถว “พี่กวง ช่วยไว้หน้าผมหน่อยนะครับ บอกให้พี่น้องหยุดเถอะ”
“พวกเขาเป็นแขกจากแดนไกล ถ้ามาตายที่นี่จริงๆ ต่อให้ผมเสียทรัพย์สินทั้งหมดไปก็ไม่พอนะครับ!”
กวงโถวเหล่มองครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าซูเหวินเฉิงถูกต่อยจนใบหน้าฟกช้ำจมูกบวมแล้วจึงออกคำสั่งอย่างช้าๆ
“หยุดเถอะ สอนบทเรียนให้ไอ้เด็กนี่ ดูสิว่ามันยังจะกล้าวางอำนาจขนาดนี้อีกไหม!”
“จ่ายค่าน้ำใจของพวกมึงมา แล้วรีบไปให้พ้นจากหน้ากูซะ!”
“ไม่งั้นก็อย่าหวังว่าพรุ่งนี้จะได้เห็นพระอาทิตย์อีก!”
เมื่อกวงโถวออกคำสั่ง พวกนักเลงถึงจะยอมยั้งมือ
นักเลงที่ไว้ผมเปียหนึ่งในนั้น จู่ๆก็เดินกลับไปที่ด้านข้างซูเหวินเฉิงแล้วตบหูของเขา
“วิ้ง–”
ซูเหวินเฉิงรู้สึกเพียงเสียงวิ้ง หูของเขาก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ถึงจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อกี้เขาคิดว่าชายคนนี้จะตัดหูของเขาซะแล้ว!
“อาหนู!” จู่ๆสีหน้ากวงโถวก็เปลี่ยน ตะคอกถามว่า “มึงทำอะไรมัน!”
นักเลงที่ชื่ออาหนูที่ถูกเรียกผายมือแล้วยิ้มเย้ย “ไม่ได้ทำอะไรเลย พี่กวง อย่าตื่นตระหนกไป”
“งั้นก็ดี มึงไอ้หนู อย่ามาหาเรื่องใส่ตัวอีก!”
กวงโถวเตือนถึงจะมองไปที่วางเฉียง “ฉันมาที่นี่เพื่อหนึ่งเตือนนาย สองมาในนามตัวแทนสมาคม”
“ผมเข้าใจ ผมเข้าใจ” วางเฉียงรีบหยิบซองอีกซองออกมา “นี่คือของแสดงความเคารพในการเลี้ยงเหล้าพี่กวง”
“ส่วนเงินค่าน้ำใจในการฝากเนื้อฝากตัวของพวกเขา พรุ่งนี้ฉันจะส่งให้สมาคมแน่นอน!”
พี่กวงพอใจมาก “ฉลาด ฉันชอบคุยกับเถ้าแก่วาง!”
“ดึกแล้ว เหล่าพี่น้องไปดื่มชากับฉันสักแก้วเถอะ จำไว้ว่าเงินค่าชาเถ้าแก่วางเป็นคนเลี้ยง!”
“ขอบคุณเถ้าแก่วาง เถ้าแก่วางใจกว้างจริงๆ!”
พวกนักเลงหลายคนกล่าวขอบคุณลวกๆ เดินตามกวงโถวเข้าสู่แสงไฟยามค่ำคืน
หลังจากที่พวกเขาออกไป วางเฉียงก็รีบช่วยพยุงซูเหวินเฉิงให้ลุกขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความลำบากใจ
“ประธานหลิว ประธานซู ดูเหมือนว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะต้องจบลงเพียงเท่านี้แล้ว”
“จุดประสงค์ของพวกเขาชัดเจน คือต้องการไล่พวกคุณออกไป”
หลิวชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “เถ้าแก่วาง เพราะเราให้เงินน้อยไปรึเปล่า?”
“ต้องการอีกเท่าไร ให้คุณว่ามาได้ ในเมื่อเราเดินทางมาที่เมืองไพ่ เราจึงพกความจริงใจอย่างสุดซึ้ง ต้องการจะแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน”
“คุณคงจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของบริษัทซูยู่ดี ร่วมมือกับเรา จะรับรองได้ว่าคุณจะสามารถทำเงินได้มากมาย”
“หรือเป็นเพราะพวกเราพึ่งมาไม่รู้กฎของที่นี่ ไม่ทันได้ไปเคารพผู้ใหญ่ถึงทำให้พวกเขาเคือง?”
“พรุ่งนี้ฉันจะเตรียมของขวัญหนาๆไปสมาคมท้องถิ่นของพวกคุณกับเถ้าแก่วาง”
“ไม่ๆๆ คุณหลิวเรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด”
วางเฉียงโบกมือเป็นพัลวัน “ถึงแม้เมืองไพ่จะไม่ใหญ่ แต่เม็ดเงินที่ไหลจากกลุ่มนักธุรกิจที่มีอำนาจไม่น้อยเลย”
“และผมก็เคยร่วมมือกับนักธุรกิจอื่น เพียงแค่จ่ายเงินค่าน้ำใจไปก็ราบรื่นแล้ว ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างวันนี้เลย”
“พูดอีกขั้นได้ว่า พวกคุณพึ่งมาถึงเมืองไพ่ พวกเขาก็มาขวางได้พอดี จะต้องได้รับข่าวที่แม่นยำอย่างแน่นอน”
“ผมว่าพวกคุณน่าจะถูกพุ่งเป้าแล้ว คุณทั้งสองฟังคำพูดหวังดีจากผมเถอะ รีบไปจะดีที่สุด”
“แม้ทรัพย์สินเงินทองจะดี แต่ก็ต้องมีชีวิตใช้ถึงจะถูก ครั้งหนึ่งพวกเรามีโอกาสได้ร่วมมือความจริงผมทนไม่ไหวจริงๆที่จะต้องมาเห็นพวกคุณมานอนเป็นศพที่นี่”
ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง วางเฉียงมีความรู้สึกที่ไวมาก
เขามองคำพูดของกวงโถวออกว่าพวกเขาจงใจมาขัดขวางหลิวชิงกับซูเหวินเฉิงโดยเฉพาะ
ไม่ว่ามีเรื่องภายในอะไรระหว่างตรงกลางนี้ เขาหวังเพียงกอบโกยเงิน ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการฆ่าฟันเรื่องบุญคุณความแค้นอะไร
ดังนั้นจึงอยากจะเกลี้ยกล่อมหลิวชิงกับซูเหวินเฉิงให้ออกไปสำเร็จ จะได้ไม่โดนหางเลขไปด้วย
หลิวชิงย่อมเข้าใจความกังวลของวางเฉียงและเธอมองออกตั้งนานแล้วว่าพวกกวงโถวจงใจมุ่งเป้ามาที่พวกเธอโดยเฉพาะ
แต่ว่าในเมื่อตัวเธอรับผิดชอบบุกเบิกตลาดการค้าทางภาคเหนือของบริษัทซูยู่ ถ้าหากเรื่องแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ จะยังมีหน้ามาเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดได้อย่างไร
“เอาอย่างงี้ค่ะเถ้าแก่วาง คุณเอาช่องทางการติดต่อของผู้รับผิดชอบสมาคมท้องถิ่นให้ฉัน เรื่องที่เหลือฉันจะจัดการเอง”
“คิดว่าพวกเรากับสมาคมท้องถิ่นของพวกคุณคงจะมีอะไรเข้าใจผิดกัน เพียงแค่อธิบายให้ชัดเจนจะต้องยังสามารถร่วมมือแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันแน่นอน”
วางเฉียงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ยังไงซะบริษัทซูยู่ก็มีศักยภาพมากทางภาคใต้ ถ้าหากได้อาศัยเรือพาณิชย์ขนาดยักษ์ลำนี้ ผลกำไรจะหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดราวกับกระแสน้ำอย่างแน่นอน!
หากเขาไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะรับผลประโยชน์ที่ส่งมาถึงหน้าประตู เขาคงจะไร้ค่าเกินไปแล้ว!
เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสมาคมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วางเฉียงกัดฟันแน่น “ประธานหลิวเป็นสตรีที่ความสามารถทัดเทียมบุรุษจริงๆ ในเมื่อคุณไม่กลัว ผมจะยังมีอะไรต้องกลัวอีก!”
“พรุ่งนี้เช้า ผมจะไปหาเจ้าสมาคมหลี่ลี่ฉวนด้วยกันกับพวกคุณ เขาคือพี่เขยของกวงโถวคนเมื่อกี้ เป็นคนโลภชอบหญิงสาว แต่กลับชอบเก๊กทำตัวเป็นสุภาพบุรุษที่สง่างามดูดี”
คืนนั้นหลิวชิงและซูเหวินเฉิงอาศัยอยู่ในตึกเล็กสามชั้นของวางเฉียง
พวกเขานัดกันว่าพรุ่งนี้เช้าจะไปเข้าเยี่ยมคารวะหลี่ลี่ฉวนซึ่งเจ้าสมาคมของสมาคมท้องถิ่น
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าในคืนนั้นเองพวกเขาเจออันตรายที่เกือบต้องทิ้งชีวิตไว้ที่เมืองไพ่!